532 .. จะสอนใจตนต้องมองทุกมิติ
จ ะ ส อ น ใ จ ต น ต้ อ ง ม อ ง ทุ ก มิ ติ
ข้อคิดจาก facebook พศิน อินทรวงค์ 12 มกราคม 2557
เมื่อเราเรียนไม่จบ เรามักอ้างว่า สตีฟ จอบส์ ก็เรียนไม่จบ แต่ก็สามารถร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี และพลิกโลกด้วยไอเดียบรรเจิดของเขาได้ เมื่อเรามาปฏิบัติธรรม แต่ยังสนุกกับการแต่งหน้าทาปาก นวดหน้า ขัดตัว เราก็อ้างว่า แม้แต่นางวิสาขาผู้บรรลุโสดาบันตั้งแต่ 7 ขวบ ก็ยังเป็นผู้รักสวยรักงาม หรือถ้าเราทำไม่ดีมามาก เราก็มักอ้างว่า แม้แต่องคุลีมาล เคยเป็นโจรฆ่าคนเกือบพันศพ ก็ยังสามารถบรรลุอรหันต์ได้
ที่จริงการให้กำลังใจตนเองเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องผิด แต่มองอีกมุม การอ้างเหตุผลเช่นนี้บ่อยๆ ก็นำไปสู่ความประมาทที่จะทำให้เรากลายเป็นคนไม่รู้จักตนเอง จริงอยู่สตีฟ จอบส์ ไม่ได้จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย แต่เราต้องไม่ลืมว่า เขายังมีข้อดีอีกหลายอย่างที่มาทดแทนข้อด้อยของตน เขาทำงานหนัก ทุ่มเท พัฒนาตนเองตลอดเวลา หายใจเข้า หายใจออกเป็นงาน เป็นคนที่ทำงานด้วยชีวิตอย่างแท้จริง
ส่วนนางวิสาขานั้น แม้นางจะเป็นผู้ปฏิบัติธรรมที่เป็นผู้รักสวยรักงาม แต่เราต้องไม่ลืมว่า นางก็รักในคุณธรรมความดีชนิดยอมตายดีกว่ายอมศีลขาด เป็นผู้อุทิศชีวิตให้ศาสนาทั้งแรงกาย แรงใจ และกำลังทรัพย์ เวลาจะคิด จะพูด จะทำสิ่งใด นางก็กระทำบนพื้นฐานของประโยชน์แห่งพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น
ส่วนองคุลีมาล นั้น แม้จะเคยฆ่าคนมามาก แต่ท่านก็เป็นผู้เลิศด้วยปัญญา มีความเป็นยอดคนมาตั้งแต่วัยเยาว์ สมัยที่ท่านยังศึกษาอยู่ในสำนักพราหมณ์ ท่านก็เล่าเรียนได้ที่หนึ่งมาโดยตลอด ท่านเป็นผู้ที่มีความเพียรมาก ปัญญามาก ทุ่มเทมาก นอกจากนี้ท่านยังเป็นผู้มีบารมีมากมาตั้งแต่อดีตชาติ ไม่อย่างนั้นแล้วท่านคงไม่ได้พบกับบรมครูสูงสุดเช่นพระพุทธเจ้า ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาท่านจึงรอดพ้นจากขุมนรก และสามารถบรรลุเป็นพระอรหันต์ได้ในชาติดังกล่าว
สิ่งที่พูดมาทั้งหมด เพียงต้องการจะแสดงให้เห็นอีกมุมหนึ่ง ซึ่งเป็นความจริง บุคคลที่ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ได้มีชีวิตที่สมบูรณ์พร้อมก็จริงอยู่ แต่พวกเขาก็สามารถทดแทนจุดบกพร่องของตนเองด้วยคุณธรรมในด้านอื่นๆ
ดังนั้นถ้าเราจะอ้างว่า เรียนไม่จบก็สามารถเป็นบุคคลสำคัญของโลกได้ เราก็ต้องถามตนเองด้วยว่า เราทุ่มเทชีวิตของเราให้การงานที่ทำอยู่เท่ากับสตีฟ จอบส์หรือเปล่า หรือถ้าเราอยากบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน แต่ยังชอบแต่งหน้าทาปากเช่นนางวิสาขา เราก็ต้องไม่ลืมที่จะยกระดับคุณธรรมข้ออื่นๆ ของเราให้เทียบเท่ากับนางวิสาขาด้วย หรือถ้าเราเคยเป็นคนมีภูมิหลังที่ไม่ดีมาก่อน แล้วต้องการพลิกชีวิตไปสู่ทางสว่างจากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างท่านองคุลีมาล เราก็ต้องไม่ลืมที่จะพัฒนาปัญญา เร่งสร้างบารมี เร่งความเพียรในการปฏิบัติของเราให้เทียบเท่ากับท่านองคุลีมาล อย่างนี้เป็นต้น
ย้ำกันอีกครั้งว่า ไม่ผิดที่เราจะยกข้อบกพร่องของผู้ที่ประสบความสำเร็จมาอ้าง เพื่อให้ตนเองเกิดกำลังใจ ไม่ผิดที่เราจะพูดว่า ใครๆก็เคยทำผิด ใครๆก็มีจุดบกพร่อง แต่เมื่อเราพูดถึงข้อด้อย พูดถึงข้อเสียของบุคคลเหล่านั้นแล้ว เราต้องไม่ลืมที่จะพูดถึงข้อดี ข้อเด่นของบุคคลเหล่านั้นด้วย ต้องไม่ลืมที่จะพูดถึงความเพียรของเขา ไม่ลืมที่จะพูดถึงความอดทน เข้มแข็ง ความเสียสละของเขา ไม่ลืมที่จะพูดถึงความมุ่งมั่น และปัญญาของเขา ถ้าเราทำได้อย่างนี้ เราก็จะไม่เป็นผู้ประมาทต่อชีวิต เราจะกลายเป็นผู้ที่มองอะไรรอบด้าน มองอะไรตรงตามความเป็นจริง สิ่งที่ยกมาสอนใจ ก็จะเป็นไปในทางสร้างสรรค์ ไม่ใช่เป็นไปเพื่อการหลอกลวงตนเองจนทำให้เกิดความเสียหายต่อความเจริญรุ่งเรืองของชีวิต
ขอขอบคุณ
ภาพจาก....อินเตอร์เน็ต ข้อคิดจาก facebook พศิน อินทรวงค์ 12 มกราคม 2557 https://www.facebook.com/talktopasin2013 เครื่องแต่งบล็อกจาก.....บล็อกชมพร / บล็อกญามี่
ธรรมสวัสดี
ร่มไม้เย็นค่ะ
Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2558 |
Last Update : 28 มีนาคม 2558 5:34:59 น. |
|
60 comments
|
Counter : 3017 Pageviews. |
|
|
แวะมาเสพข้อคิดดีๆก่อนนอนครับ ขอโหวตให้ด้วยเลยครับ