473 .. เป็นสุขเมื่อมองสิ่งที่มี
เป็น สุข เมื่อ มอง สิ่ง ที่ มี
พระไพศาล วิสาโล จาก.....นิตยสารซีเครท : Vol.6 No.134 26 January 2014
หวาง เหม่ย เหลียน เป็นโรคสมองพิการแต่กำเนิด นอกจากมีปัญหาในการเคลื่อนไหวแล้ว เธอยังพูดไม่ได้ แต่เธอก็ไม่ย่อท้อ พากเพียรมุ่งมั่นจนเรียนจบปริญญาเอก สาขาศิลปศาสตร์ จาก UCLA มหาวิทยาลัยชื่อดังอันดับต้นๆ ของสหรัฐอเมริกา
ที่ไต้หวันอันเป็นบ้านเกิดของเธอ มีการจัดแสดงภาพเขียนของเธอบ่อยครั้ง ขณะเดียวกันเธอก็ได้รับเชิญให้ไปบรรยาย(ด้วยการเขียน)ตามสถานที่ต่างๆ เป็นประจำ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คน ซึ่งมีโชคดีกว่าเธอมากมาย คราวหนึ่งมีนักเรียนคนหนึ่งถามเธอหลังจากบรรยายเสร็จว่า คุณอยู่ในสภาพนี้มาตั้งแต่เกิด คุณไม่รู้สึกน้อยใจหรือ คุณมองตัวเองอย่างไร?
คำถามนี้สร้างความตกตะลึงแก่ที่ประชุม เพราะเป็นคำถามที่ตรงเกินไป และอาจกระทบจิตใจของเธอ แต่เธอกลับมีอาการปกติ แล้วเขียน ข้อความ ฉันมองตัวเองอย่างไรหรือ? แล้วเธอก็บรรยายเป็นข้อ ๆ ว่า
๑.ฉันน่ารักมาก
๒.ขาฉันเรียวยาวสวยดี
๓.พ่อแม่รักฉันมาก
๔.พระเจ้าประทานความรักแก่ฉัน
๕.ฉันวาดภาพได้ ฉันแต่งหนังสือได้
๖.ฉันมีแมวที่น่ารัก
แล้วเธอก็สรุปด้วยข้อความว่า ฉันมองแต่สิ่งที่ฉันมี ไม่มองสิ่งที่ฉันขาด
ทันทีที่เธอเขียนประโยคสุดท้ายจบ ผู้คนก็ปรบมือดังสนั่นทั้งห้องประชุม ด้วยความประทับใจอย่างมากในตัวเธอ
คนอย่างหวาง เหม่ย เหลียน น่าจะเป็นคนอมทุกข์ เพราะสูญเสียสมรรถนะสำคัญหลายอย่างที่มนุษย์ปุถุชนพึงมี แต่เธอไม่มัวจมจ่อมเสียใจกับสิ่งที่ขาดไป หากหันมาชื่นชมใส่ใจกับสิ่งที่เธอมี พอเปลี่ยนมุมมองเช่นนี้ เธอก็มีความสุขได้ไม่ยาก ใช่แต่เท่านั้นเธอยังนำสิ่งที่มีอยู่นั้นมาใช้ประโยชน์ให้เต็มที่ จนประสบความสำเร็จ อย่างที่คนธรรมดาจำนวนมากมายมิอาจทำได้
มุมมองของสาวไต้หวันผู้นี้ ไม่ต่างจากมุมมองของคนพิการหลายคนที่สามารถทำสิ่งยากให้สำเร็จได้ สว่าง ทองดี นักปั่นจักรยานข้ามประเทศ เล่าว่า เขาประหลาดใจมากที่พบว่ามีคนแขนขาดหรือป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายหลายคนจากหลายชาติ ขี่จักรยานไปถึงเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากแม้กระทั่งสำหรับคนที่มีอวัยวะครบ ๓๒ หลังจากสนทนากับคนเหล่านั้น เขาได้ข้อสรุปว่า
ผมเรียนรู้จากคนเหล่านี้ว่า หากคิดจะก้าวไปข้างหน้าแล้ว จงอย่าคิดถึงสิ่งที่เราไม่มีหรือข้อด้อยของตัวเอง แต่ให้มองว่าเรามีสิ่งใดอยู่กับตัวบ้าง การจะทำฝันให้สำเร็จได้นั้นขึ้นอยู่กับว่าเราใช้สิ่งที่เรามีอยู่ได้แค่ไหนต่างหาก
ผู้คนเป็นอันมากท้อแท้กับชีวิต ยอมแพ้ต่ออุปสรรค เพราะมองเห็นแต่สิ่งที่ตนเองไม่มี เช่น เงินทอง พรรคพวก เส้นสาย หรือสถานภาพ แต่กลับข้ามสิ่งที่ตนเองมีอยู่ หรือไม่รู้จักใช้สิ่งที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์เต็มที่ หลายคนมัวแต่ก่นด่าชะตากรรมว่า ทำไมฉันถึงไม่มีเหมือนคนอื่นเขา คนเหล่านี้ไม่ต่างจากนักเล่นไพ่ที่เอาแต่บ่นว่าโชคไม่ดีที่จั่วได้ไพ่แต้มต่ำๆ แทนที่จะคิดว่า ฉันจะเล่นไพ่ในมือให้ดีที่สุดได้อย่างไร
แม้มีมากเพียงใด แต่ตราบใดที่มองเห็นแต่สิ่งที่ตนขาด ก็จะไม่มีวันพบความสุขเลย เด็กจำนวนไม่น้อยเป็นทุกข์ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนใช้ ทั้ง ๆ ที่มีอะไรต่ออะไรมากมายอยู่แล้ว ส่วนผู้ใหญ่ก็ทุกข์ที่ไม่มีรถเบนซ์ขับ หรือไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง ทั้ง ๆ ที่มีชีวิตสะดวกสบาย มีการงานที่มั่นคง มีครอบครัวที่อบอุ่น ยังไม่ต้องเอ่ยถึงหญิงสาวที่มีพร้อมทุกอย่าง แต่ก็ยังทุกข์เพราะไม่มีผิวสวยงาม หรือทรวดทรงที่กระชับ
หากมองเห็นแต่สิ่งที่มี ไม่มองสิ่งที่ขาด นอกจากจะไม่ทุกข์เพราะยังไม่มีนั่นนี่แล้ว เมื่อถึงคราวที่ต้องสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไป ก็ไม่ทุกข์ง่าย ๆ เพราะดีใจที่ยังมีสิ่งต่าง ๆ อีกมากมาย หลายคนสูญเสียทรัพย์สมบัติมากมายจากอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี ๒๕๕๔ แต่เมื่อสำรวจรอบตัวก็พบว่า ยังมีข้าวของมากมายที่หลงเหลืออยู่ ที่สำคัญก็คือ ลูกและคนรัก ยังอยู่กันพร้อมหน้า จึงคลายทุกข์ ไม่จมอยู่กับความอาลัย พร้อมมองไปข้างหน้าและก้าวเดินต่อไป
โสภณ ฉิมจินดา เป็นคนมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือเด็กชนบทในถิ่นทุรกันดาร คราวหนึ่งได้ชวนนักศึกษาไปช่วยกันบำเพ็ญประโยชน์ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในแม่ฮองสอน ขากลับรถได้พลัดตกจากเขา ชั่วขณะนั้นเขาภาวนาขอให้นักศึกษาทุกคนปลอดภัย ปรากฏว่าทุกคนไม่ได้รับอันตราย ยกเว้นเขา หลังถูกกระทบอย่างรุนแรง จนพิการครึ่งตัว หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น มีหลายคนพูดกับเขาว่า นี่ขนาดไปทำบุญยังเกิดอุบัติเหตุ ราวกับจะตัดพ้อว่า ทำดีแล้วทำไมไม่ได้ดี แต่เขาเองกลับไม่รู้สึกเป็นทุกข์เลย เพราะเขามองว่า เพราะเราไปทำบุญ เราถึงเหลือตั้งเท่านี้
แทนที่จะเสียใจเพราะพิการไปครึ่งตัว เขากลับมองว่าตนเองโชคดีที่ร่างกายครึ่งหนึ่งยังเป็นปกติ
ไม่ว่าจะสูญเสียกี่มากน้อย ประสบการณ์ของบุคคลเหล่านี้ย้ำเตือนเราว่า พึงมองสิ่งที่มี อย่ามองสิ่งที่ขาด แล้วเราจะมีพลังในการดำเนินชีวิตอย่างผาสุก
ขอขอบคุณ
ภาพจาก....อินเตอร์เน็ต บทความโดย... พระไพศาล วิสาโล จาก.....นิตยสารซีเครท : Vol.6 No.134 26 January 2014 //www.visalo.org/article/secret255701.htm เครื่องแต่งบล็อกจาก.....บล็อกชมพร / บล็อกญามี่
ธรรมสวัสดี
ร่มไม้เย็น ค่ะ
Create Date : 19 กรกฎาคม 2557 |
Last Update : 28 มีนาคม 2558 6:03:11 น. |
|
27 comments
|
Counter : 3192 Pageviews. |
|
|
แล้วเธอก็สรุปด้วยข้อความว่า ฉันมองแต่สิ่งที่ฉันมี ไม่มองสิ่งที่ฉันขาด
อ่านแล้วน้ำตาซึมเลยครับ ใจความสั้น ๆ ความหมายใช้ได้ดีทั้งชีวิต