144 .. สองมือเล็กๆ ของเราแต่ละคน
สองมือเล็กๆ ของเราแต่ละคน
เขียนโดย วินทร์ เลียววาริณ เมื่อ 23 ตุลาคม 2553 จากคอลัมน์ หนอนในตะกร้า
เว็บ winbookclub.com
มันเดินทางมาถึง ตอนที่ผมหลับไปนานแล้ว ได้ยินเสียงร้องเอะอะโวยวายจากชั้นล่าง งัวเงียลุกขึ้น แลเห็นผู้ใหญ่กุลีกุจอขนข้าวของเป็นการใหญ่ ได้ยินว่าน้ำป่าไหลเข้าเมืองกลางดึก น้ำสีโคลนเย็นเฉียบแผ่ปกคลุมรอบตัว ไม่ทันฟ้าสาง ทั้งอำเภอก็กลายเป็นเมืองบาดาลไปชั่วข้ามคืน ขณะที่สายฝนโปรยปรายลงมาไม่หยุดยั้ง
ตลอดหลายวันนั้น ชีวิตดำเนินไปอย่างขลุกขลัก ไม่มีน้ำดื่ม ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีส้วม บ่อน้ำบาดาลซึ่งเป็นแหล่งน้ำเดียวของบ้าน ถูกครอบคลุมด้วยสายน้ำสีแดงที่ดื่มไม่ได้ การเดินลุยน้ำจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งยากลำบาก เพราะระดับน้ำสูงท่วมอก กว่าความช่วยเหลือของราชการเดินทางมาถึง บ้านก็สำลักน้ำตายไปแล้ว
นั่นคือน้ำท่วมครั้งหนึ่งเมื่อผมยังเป็นเด็ก แต่มันไม่ใช่น้ำท่วมครั้งเดียวที่เราเจอ ฝนตกหนักกับน้ำท่วมเป็นเรื่องปกติของที่นี่ไปแล้ว
ครั้งหนึ่งน้ำป่าหลากเข้ามาในตอนกลางวัน เป็นครั้งแรกที่ผมสัมผัสความรุนแรงของสายน้ำในเวลาเพียงชั่วโมงเดียว ระดับน้ำเอ่อท่วมทั้งเมือง รวดเร็วราวมายากล
สำหรับเด็กต่างจังหวัด ชีวิตช่วงน้ำท่วมก็มีสีสันแปลกใหม่อย่างหนึ่ง เล่นน้ำกันสนุกสนาน ไม่ต้องไปโรงเรียน ไม่ต้องรับรู้ความกลุ้มใจของผู้ใหญ่ ซึ่งรายได้จมหายไปกับสายน้ำ ทว่าเมื่อโตขึ้นจึงค่อยเข้าใจความทุกข์ยากที่เกิดจากอุทกภัย และเนื้อเพลง น้ำท่วม ของศรคีรี ศรีประจวบ ที่ว่า พี่ว่าน้ำแห้ง ให้ฝนแล้งเสียยังดีกว่า
สายน้ำไหลท่วมบ้านเรือนแผ่กว้างไปหลายจังหวัดในภาคอีสานช่วงสัปดาห์นี้ เป็นภาพที่น่าเห็นใจระคนเศร้าใจ แต่ภาพคนไทยทั้งแผ่นดิน ยื่นมือช่วยเหลือประชาชนซึ่งเดือดร้อนจากอุทกภัยเป็นสิ่งที่น่าตื้นตันใจ แต่มันก็คงเป็นเช่นภาพภัยธรรมชาติอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้งหรือภัยน้ำท่วม ซึ่งผ่านมาแล้วผ่านไป ไม่นานผู้คนก็ลืม
อุทกภัยร้ายแรงครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องที่เกินคาด เราเคยมีการศึกษาในเรื่องผลกระทบของ ความเจริญ ต่อสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ในกรณีนี้มีหลักฐานอย่างเป็นรูปธรรมว่า การสร้างโรงแรม รีสอร์ท สนามกอล์ฟ บ้านจัดสรร การตัดถนนใหม่ๆ ล้วนมีส่วนทำให้เกิดอุทกภัยครั้งนี้
รีสอร์ทและสนามกอล์ฟหลายแห่ง ซึ่งสร้างบนพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติ กีดขวางทางไหลของน้ำ การขยายถนนมิตรภาพจากสี่เลนเป็นสิบเลน ลดทางไหลของน้ำ คลองหลายสายซึ่งเดิมเป็นทางไหลของน้ำตามธรรมชาติ หลีกทางให้ความเจริญ ทั้งยังมีหมู่บ้านจัดสรรอีกจำนวนมาก ซึ่งวางผิดที่ ทำให้เหลือทางไหลน้อยนิด กอปรกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก ทำให้บางช่วงฝนแล้งจัด บางระยะฝนก็มากเกินไป เหล่านี้ทำให้น้ำท่วมพื้นที่ที่ไม่เคยท่วมมาก่อน
ข้อดีของชาวไทยคือ เราไม่ทิ้งกันยามยาก ข้อเสียคือ เราเกือบทั้งประเทศเป็นโรคอัลไซเมอร์อ่อนๆ เราไม่ชอบจำอะไรเป็นบทเรียน เรามีนิสัยแก้ปัญหาเป็นครั้งๆไป เรายินดีทุ่มเงิน กำลังคน กำลังทรัพย์ กำลังใจ เพื่อแก้วิกฤติไม่ว่าจะร้ายแรงเพียงไร แต่ไม่ค่อยยอมใช้ทรัพยากรในการวิเคราะห์ปัญหา และป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก
ยี่สิบสองปีก่อนหน้านี้ ปลายเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2531 ฝนเทลงมาเหนืออำเภอนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี อย่างหนัก ไม่นานน้ำป่าก็ไหลทะลักเข้าหมู่บ้านหลายแห่งในแถบนั้น สิ่งที่น้ำป่าพัดพามาด้วย คือหายนะอย่างแท้จริง ซุงนับหมื่นท่อน ลอยตามน้ำถาโถมถล่มบ้านเรือนพินาศ สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินมหาศาล มันคือผลจากการตัดไม้เถื่อน และธรรมชาติก็ลงโทษมนุษย์อย่างทันตาเห็น
ในช่วงปี สองปีนั้น เสียงร้องของฟ้าและป่า ดังจนรัฐต้องยุติสัมปทานป่าห้วยขาแข้ง ภาพความพินาศของการทำลายป่า จุดประกายความรู้สึกของผู้คนในสังคม ควบคู่กับการต่อต้านการให้สัมปทานป่า นำโดยคนผู้หนึ่งซึ่งมีนามว่า สืบ นาคะเสถียร
ในที่สุดพื้นที่ 260,000 ไร่ ซึ่งถูกกันไว้เป็นพื้นที่สัมปทาน ก็รอดพ้นจากการทำลายล้างอย่างหวุดหวิด แต่เสียงร้องของฟ้าและป่า ดังเพียงไม่นาน การทำลายป่าก็ดำเนินต่อไปเช่นเดิม สองปีต่อมา สืบ นาคะเสถียร ก็ฆ่าตัวตาย
เราชอบพูดกันว่า ธรรมชาติมันแปรปรวน หรือ เดี๋ยวนี้ธรรมชาติมันวิปริต ธรรมชาติมีความเปลี่ยนแปลง แต่ความจริงคือ ธรรมชาติไม่เคยวิปริต ที่วิปริตคือ มนุษย์
ในชั่วหนึ่งชั่วชีวิตคน ป่าหลายสิบเปอร์เซ็นต์ หดหายไปต่อหน้าต่อตา ยังไม่รู้ว่าอีกร้อยปี ลูกหลานของเราจะรู้จักป่าหรือไม่
หกสิบห้าล้านปีก่อน สรรพชีวิตส่วนใหญ่หายไปจากโลก เพราะอุกกาบาตตกที่อ่าวเม็กซิโก นั่นไม่ใช่หายนะแรกของโลก ในรอบ 4,600 ล้านปีที่ผ่านมา โลกเผชิญภัยพิบัติมานับครั้งไม่ถ้วน
99 เปอร์เซ็นต์ของสิ่งมีชีวิตที่เคยปรากฏในโลก สูญพันธุ์ไปแล้วเพราะภัยธรรมชาติ แต่ในรอบไม่กี่สิบปีนี้ มนุษย์เราทำลายโลกด้วยความเร็วเร่งทวีขึ้นเรื่อยๆ เราเป็นตัวอันตราย ยิ่งกว่าอุกกาบาตใดๆ เพราะเราถูกขับเคลื่อนด้วยตัณหาใหม่ๆ ไม่เคยหยุด
โลกเรายังกำลังเผชิญปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเกิดจากการละเลยหรือแกล้งไม่มองภาพกว้าง เช่น การใช้น้ำมันอย่างเกินพอดี ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน การใช้พลาสติกมากเกินจำเป็น สร้างขยะสังเคราะห์มหาศาลบนโลก การดื่มน้ำไม่กี่อึก จากขวดพลาสติก แล้วปล่อยให้มันเป็นภาระแก่โลกอีกนานแสนนานหลังจากผู้ดื่มจากโลกไป รวมไปถึงปัญหาอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน
สังคมคือการเปลี่ยนแปลงของหน่วยย่อย ก็คือปัจเจกทั้งหลาย ความไร้ระเบียบที่แต่ละคนก่อ ส่งผลกระทบคนอื่น และส่งผลไปสู่ความไร้ระเบียบอื่นๆ
หลายความไร้ระเบียบ ก่อให้เกิดความโกลาหลในสังคม ยกตัวอย่างเช่น นาย ก. ขับรถฝ่าไฟแดง นาย ข. ขับรถผิดเลน นาย ค. ไม่เดินข้ามถนนตรงทางม้าลาย ผลที่ตามมาจากการกระทำของสามคนนี้ อาจก่อให้ประเทศสูญเสียน้ำมันไปในวันนั้น ไปเปล่าๆ ถึงหลายหมื่นลิตร
สายน้ำที่โถมท่วม ไม่ว่าหนักแค่ไหน ก็ไม่ร้ายแรงเท่าสายน้ำแห่งความไม่รู้ ความขี้ลืม ความไม่แยแส
ความไม่รู้เป็นอันตราย หากรวมความขี้ลืมเข้าไปด้วย อาการก็ยิ่งหนัก ความไม่แยแสต่อเรื่องหนึ่งๆ กระทบสู่คนอื่น และกระทบต่อไป จนบานปลายเป็นปัญหาใหญ่ ระดับชาติและระดับโลก
คำถามที่หลายคนตั้งขึ้นคือ แล้วเราในฐานะปัจเจก ช่วยอะไรได้หรือไม่ เป็นคำถามที่ผู้ถามก็ไม่แน่ใจ เพราะดูเหมือนว่าต้นตอของแต่ละปัญหา ใหญ่เกินกว่าคนไม่กี่คนจะแก้ไขได้
ทว่าเราไม่มีทางเลือก เราต้องลองแก้ไข ลงมือทำอะไรสักอย่าง เราคงไม่อยากเห็นข่าวหายนะภัย อีกยี่สิบปีข้างหน้าเป็นข่าวเดิมๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้
เราไม่อาจปล่อยให้ปัญหาหายไปโดยตัวมันเอง เราต้องลงมือคนละนิดคนละน้อย เปลี่ยนแปลงทั้งวิธีการแก้ปัญหา และทัศนคติต่อส่วนรวม
การลดการใช้กระดาษคนละไม่กี่แผ่นต่อวัน ช่วยประหยัดกระดาษได้มหาศาล การลดการใช้เครื่องเรือนไม้ ก็อาจรักษาชีวิตต้นไม้ได้อีกหลายๆต้น การลดการใช้ถุงพลาสติกคนละถุงสองถุง ลดการใช้น้ำขวดพลาสติกวันละขวด ก็อาจรักษาสภาพแวดล้อมได้อีกนิด รวมกันทั้งโลกก็เป็นปริมาณมาก
เรายังสามารถปฏิเสธสินค้า ที่มีกระบวนการผลิตซึ่งทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าในรูปของการทำลายป่า การใช้สารเคมีอันตราย หรืออื่นๆ เราสามารถช่วยกันปลูกต้นไม้เพื่อปรับสภาพอากาศให้ดีขึ้น เราสามารถใช้พลังงานอย่างประหยัด เพื่อลดมลพิษที่เกิดจากการผลิตพลังงานเหล่านั้น ฯลฯ คนละนิดคนละหน่อย วันละนิดวันละหน่อย
เราไม่ต้องรอนโยบายยิ่งใหญ่ ของพวกที่ชอบเอ่ยวลี พ่อแม่พี่น้องที่รักทั้งหลาย เราไม่ต้องพึ่งพิงคนที่ใช้การเมืองเป็นของเล่น สองมือเล็กๆ ของเราแต่ละคนนี่แหละ ที่จะแก้ไขปัญหาเอง
โดยไม่ต้องสนใจว่า ในวันพรุ่งนี้ ใครๆ จะลืมเรื่องนี้แล้วหรือไม่
ธรรมสวัสดี
ร่มไม้เย็น ค่ะ
Create Date : 12 เมษายน 2554 |
|
89 comments |
Last Update : 29 มีนาคม 2558 17:40:26 น. |
Counter : 5177 Pageviews. |
|
|
|
ด้วยใจที่ร่าเริงนะคะ