* + * + * + * + * รีวิวเซินเจิ้นตอนที่ 2 - Window of the World ภาคแรก * + * + * + * + *
สวัสดีค่ะ
หลังจากที่ รีวิวมาเก๊า (คลิกเพื่ออ่าน)จนจบไปแล้ว และตามด้วยการรีวิวที่พักที่เซินเจิ้นคือ Holiday Inn Express Louhu(คลิกเพื่ออ่าน) ไปแล้ว
บล็อกนี้จะเริ่มพาไปเที่ยวเซินเจิ้นกันบ้างนะคะ
เมืองเซินเจิ้นเป็น 1 ในเขตการปกครองพิเศษของจีนค่ะ ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับการส่งเสริมทางด้านเศรษฐกิจเป็นพิเศษ ซึ่งการเดินทางมายังเซินเจิ้น สามารถจะบินจากเมืองไทยมาลงโดยตรงก็ได้ แต่สำหรับไฟลท์ของแอร์เอเชีย ยังเป็นไฟลท์ดึกค่อนข้างมาก ซึ่งทำให้ไม่ค่อยสะดวกนักกับการเดินทางเข้าที่พักหลังบินมาถึง (นักเดินทางบางท่านจึงเลือกค้างอ้างแรมที่สนามบินแทน ) แต่อีกไม่นานรถไฟสายสนามบินก็จะสร้างเสร็จนะคะ ตอนนั้นก็น่าจะทำให้เดินทางเข้าเมืองได้สะดวกมากขึ้น (หรือหากคนไทยสนใจเส้นทางนี้กันมากๆ แอร์เอเชียอาจจะเปิดเที่ยวบินเพิ่มขึ้นเหมือนฮ่องกงก็เป็นได้ค่ะ หุๆ)
นอกจากนั้นเซินเจิ้นยังเป็นจุดที่สามารถเดินทางไปยังเมืองต่างๆ ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวหรือซื้อสินค้าได้ ไม่ว่าจะเป็น ฮ่องกง (ต่อจากเซินเจิ้นโดยรถไฟ) มาเก๊า (โดยเฟอร์รี่) และกวางเจา (รู้สึกจะมีทั้งรถบัส รถไฟนะคะ)
และในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวของเซินเจิ้นก็มีที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ (ที่มี * คือ the must นะคะ)
1. Window of the World*
2. หมู่บ้านวัฒนธรรม*
3. พิพิธภัณฑ์เซินเจิ้น (*หนังสือนำเที่ยวแนะนำ แต่เราไม่ได้เข้าค่ะ)
4. ตึกที่สูงที่สุดของเซินเจิ้น (ถ้าไม่ได้ต้องการไปดูวิว คนที่เคยขึ้นไปบอกว่าไม่เวิร์คค่ะ)
5. สวนสนุก Happy Valley
6. ห้างโลหวู่ (สำหรับช็อปปิ้งของก็อปปี้แบรนด์เนม แต่ระดับสี่เอนี่ต้องเลือกจากแคตตาล็อกแล้วให้เค้าไปเอามาให้นะคะ ตั้งแต่จีนเข้า WTO มา ไม่สามารถวางของพวกนี้โชว์ให้ลูกค้าเลือกได้ค่ะ ต้องวางแต่ของเกรดที่ไม่ค่อยเหมือนน่ะ)
7. ย่านตงเหมิน (เหมาะสำหรับคนที่จะช็อปปิ้งของที่ทำในจีนโดยตรง ราคาถูกค่ะ แต่ควรพูดจีีนได้นะคะ มีหลายอาคารที่ขายส่งด้วย เพราะงั้นอาจจะต้องซื้อจำนวนมากพอควร)
นอกจากนั้นก็ยังมีที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสวนสัตว์เปิด อควาเรียม ฯลฯ แต่เหล่านี้ไม่มีข้อมูลมากพอที่จะมาบอกเล่า เพราะงั้นขอผ่านไปนะคะ
สำหรับการไปเซินเจิ้นของสาวไกด์ฯ รอบนี้ มีไปเที่ยววินโดว์ออฟเดอะเวิร์ลด์ หมู่บ้านวัฒนธรรม โลหวู่และตงเหมินค่ะ แต่ที่จะทำรีวิวก็จะมีวินโดว์ฯ หมู่บ้านฯ ส่วนโลหวู่และตงเหมินคงไม่ทำรีวิว แล้วก็จะเป็นรีวิวร้านอาหารแนะนำในห้างโลหวู่ กับการเดินทางด้วยแอร์พอร์ทบัสกับสนามบินเซินเจิ้นนะคะ
ซึ่งในส่วนของที่เที่ยวสองที่หลักที่สาวไกด์ไป ปกติถ้าเป็นบริษัททัวร์พาไปแล้ว มักจะไปแค่ที่ใดที่หนึ่ง หรือถ้าไปทั้งสองที่ ก็จะเป็นไปวินโดว์ครึ่งวันแล้วก็มาที่หมู่บ้านวัฒนธรรมจีนครึ่งบ่ายพร้อมกับดูโชว์ไปเลยนะคะ
แต่คราวนี้ไปเอง และสาวไกด์ฯ อยากเที่ยวแบบละเอียดๆ ก็เลยวางแผนเที่ยวที่ละหนึ่งวันเต็มค่ะ ซึ่งทัวร์อาจจะไม่เหมาะที่จะทำโปรแกรมแบบนี้เท่าไหร่ เพราะเท่ากับว่า ต้องให้ลูกทัวร์หาอาหารกลางวันและค่ำกินเอง แต่การเที่ยวแบบที่ละเต็มวันก็ทำให้เที่ยวแต่ละที่ได้เยอะขึ้นนะคะ
ในส่วนของการรีวิว เนื่องจากภาพประกอบค่อนข้างเยอะ ดังนั้นสาวไกด์ฯ จะขอแบ่งบล็อกในการรีวิวแต่ละที่ (สองที่) ออกเป็นที่ละบล็อกย่อยๆ อย่างวินโดว์จะมี 2 บล็อกย่อย ส่วนหมู่บ้านวัฒนธรรมจีนจะแบ่งเป็น 3 บล็อกนะคะ เนื่่องจากถ้าเอาลงแค่ที่ละบล็อก จะเกินจากความจุที่ทางบล็อกกำหนดไว้น่ะค่ะ
มาเริ่มกันที่การเดินทางละกันนะคะ จากคราวที่แล้วหาอะไรรองท้องเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงการเิดินทางไปยังวินโดว์ออฟเดอะเวิลด์กันบ้างค่ะ ซึ่งในหนังสือบอกว่า ให้ใช้รถไฟใต้ดินนะคะ เราก็ลงไปยังสถานีรถไฟใต้ดินหน้าตึกที่ติดกับตึกที่สูงที่สุดในเสินเจิ้น (หลังตึกก็มีค่ะ เป็นทางออก D แต่บ่ายนี้ขอลงทางนี้แล้วกัน)
ลงบันได้เลื่อนไปด้านล่างก็จะเจอร้านค้ารายทางอย่างนี้ (จะมีป้ายบอกไปยังห้าง Mix C ด้วยค่ะ แต่เราไม่ได้ไป แหะๆ)
เราก็เดินไปตามป้ายที่บอกชื่อสถานีนี้คือ Da Ju Yuan Station
จากนั้นเราก็เดินไปยังตู้ขายตั๋ว อัตโนมัติค่ะ คู่มือบอกว่าต้องไปลงที่สถานี Shi Jie Zhi Chuang ทางออก J จากสถานีนี้ก็เดินทางไปยังหมายเลขสี่ค่ะ (สถานีของโรงแรมเรานี้ห่างจากโลหวู่ 2 สถานีค่ะ)
ราคาจากสถานีนี้ก็เลยอยู่ที่คนละ 4 หยวน สองคนก็แปดหยวน (ต้องกดเลือกหมายเลข 2 สำหรับสองคนนะคะ)
เครื่องนี้รับเหรียญ 1 หยวน 0.5 หยวน สำหรับแบงก์รับ 5 หยวน 10 หยวน และ 20 หยวนค่ะ
เราก็ใส่แบงก์สิบหยวนไป สักพักก็จะมีข้อความบนจอแบบนี้ขึ้นมา พร้อมกับเสียงเหรียญ (เงินทอน) และเหรียญ (ตั๋วเหมือนรถไฟใต้ดินบ้านเรา) กลิ้งลงในช่องของเครื่องค่ะ
ได้มาสองตั๋ว พร้อมเงินทอน 2 หยวน
จากนั้นเราก็เดินไปรอยังชานชลาค่ะ Line 1 to Shen Da
รถขบวนนี้ จะมีสัญญาณไฟคอยบอกด้วยว่า ตอนนี้กำลังวิ่งอยู่ระหว่างสถานีอะไรกับสถานีอะไร ถึงไหนแล้วนะคะ
วันนั้นคนแน่นพอสมควรทีเดียวค่ะ
แล้วก็แปลกที่ระหว่างวิ่งๆ ไปจนถึงระหว่างสถานีนี้ เค้าก็ชะลอความเร็วค่ะ
เสียงประกาศบอกว่า เป็นเรื่องของทางเทคนิคน่ะค่ะ
ส่วนเวลาขาออกก็หยอดกระปุก (หยอดเหรียญลงช่องคล้ายๆ ออมสิน) ก่อนออกเพื่อให้ประตูเปิดนะคะ
จากนั้นเราก็ออกไปทางทางออก J ค่ะ
ก็จะไปโผล่ที่ปิระมิดหน้าวินโดว์ฯ เลย (ที่ทำเลียนแบบพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์อะนะคะ)
ออกไปก็เจอลานด้านหน้าตรงนี้เลยค่ะ เราก็ต้องเดินไปทางซ้ายมือนะคะ จะมีเคาน์เตอร์ขายตั๋วอยู่ค่ะ
ค่าเข้าที่นี่คนละ 120 หยวนค่ะ (ประมาณ 630 บาท) สำหรับคนอายุ 60-69 เสียครึ่งราคา 70 ขึ้นไปเข้าฟรี (แต่ต้องแสดงบัตรนะคะ) เด็กสูงน้อยกว่า 120 ซม.เข้าฟรี ถ้าสูงระหว่าง 120-150 ซม. เสียครึ่งราคา แต่ถ้าสูงกว่า 150 ซม. เสียเท่าผู้ใหญ่ค่ะ
ตั๋วก็หน้าตาเป็นอย่างนี้ค่ะ
ก่อนเดินเข้าก็ถ่ายย้อนกลับไปยังลานด้านหน้า และปิระมิดกระจกที่เป็นทางลงสถานีรถไฟใต้ดินนะคะ
จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดที่อยู่ใกล้ๆ กับเคาน์เตอร์ขายตั๋วไปยังทางเข้าค่ะ
ก็จะเจอเจ้าหน้าที่รอรับตั๋วเพื่อเอาเข้าเครื่องตรวจอยู่นะคะ
เข้าประตูไปปุ๊บ จะเจอกับลานแสดงและเวทีที่จะมีการแสดงในค่ำๆ นี้นะคะ
ที่เห็นเป็นรูปกลมๆ เหมือนโลกนั่นคือเวทีค่ะ จะมีไอเฟลจำลองอยู่ด้านหลังเวทีพอดี
เราก็เลี้ยวไปทางด้านซ้ายก่อนเลย
ถ่ายให้เห็นว่าที่นั่งคนดูจะล้อมเป็นครึ่งวงกลมนะคะ
ซึ่งการแสดงนี้ จะไม่มีการบุ๊คที่ค่ะ (ไม่เหมือนที่หมู่บ้านวัฒนธรรม) ใครมาจองก่อนก็ได้นั่งก่อน (ยกเว้นที่นั่งวีไอพี ซึ่งต้องเสียเงินเพิ่มเป็นพิเศษนะคะ)
จากลานการแสดงเมื่อกี๊ เลี้ยวซ้ายอีกที ผ่านเคาน์เตอร์ ซึ่งจะขายพาสปอร์ตกับตราประทับสัญลักษณ์ประเทศต่างๆ นะคะ แต่เราเดินผ่านไปก่อน เพื่อไปซื้อตั๋วนั่งรถค่ะ
รถที่นี่จะมีสองแบบคือ รถราง (เป็นรางอยู่สูง) กับรถลากวิ่งด้านล่าง จากประสบการณ์ การขึ้นทั้งสองอย่างแล้ว เราชอบแบบวิ่งข้างล่างมากกว่าค่ะ ก็เลยเลือกซื้อแบบรถลาก (จะเรียกรถลากก็ไม่เชิงหรอกค่ะ เรียกไม่ถูกเหมือนกัน แบบสีขาวๆ น่ะค่ะ) ราคาเท่ากันนะคะ คนละ 20 หยวนค่ะ
เคาน์เตอร์ขายตั๋วค่ะ จ่ายเงินไป 40 หยวน ก็ได้ตั๋วมาสองใบนะคะ
ส่วนห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ ตรงนี้ ก็ต้องเดินไปหลังตึกใกล้ๆ กันนี่แหละค่ะ ตามภาพเลยค่ะ
อ้อๆ ใกล้ๆ ที่ขายตั๋วจะมีรูปให้ดูเรื่องเส้นทางการวิ่งของรถทั้งสองแบบด้วยนะคะ
สีแดงคือโมโนเรลลอยฟ้า (จะเห็นว่ามีออกไปด้านนอก ตรงด้านหน้าด้วย) ส่วนสีเขียวคือรถรางด้านล่างน่ะค่ะ จะครอบคลุมพื้นที่แนวกว้างมากกว่า
แต่...ถ้าท่านคิดว่าจะมั่วขึ้นหละก็ ไม่ได้ฮ่ะ จะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจตั๋วก่อนรถออกนะคะ
จากนั้นรถก็เริ่มวิ่ง ผ่านเจดีย์ชะเวดากองก่อนนะคะ จากนั้นก็จะเป็นนครวัดนครธม (หรือเปล่าหว่า)ตามด้วยวัดพระแก้วของไทยค่ะ
จากนั้นก็จะผ่านบุโรพุทโธค่ะ แล้วก็ผ่านเมืองจำลองของญี่ปุ่น (มีประตูของเมือง..อะไรหว่าของญี่ปุ่น) ด้วยอะค่ะ
จากนั้นจะเป็นทัชมาฮาลกับ..ปราสาทนี้ Alcazar Castle, Spain หรือเปล่า ไม่แน่ใจนะคะ
จะเริ่มเข้าสู่ยุโรปแล้วนะคะ จะเห็นด้านหลังของวิหารที่เวนิส อิตาีลี แล้วก็ปราสาทนี้ น่าจะเป็น Cologne Cathedral, Germany ค่ะ แต่ไม่แน่ใจนะคะ (รถยังไม่จอดค่ะ ยังวิ่งต่อ)
จากนั้นรถจะจอดให้ลงที่จุดแรกค่ะ เป็นเสา..เอิ่ม..ที่อียิปต์มั้งนะ (ครือ..ดองไว้นาน ลืมอีกแล้วง่า เหอๆ)
ซึ่งใกล้ๆ ก็จะมีหอเอนเมืองปิซ่าให้ถ่ายรูปด้วยค่ะ
มองไปไกลๆ ก็จะเห็นกังหันเนเธอร์แลนด์แล้วค่ะ แต่ว่า..เวลาไม่พอ (เค้าจอดให้ประมาณ 5 นาทีได้เอง ไม่เกิน 10 นาทีอะค่ะ) ก็เลยเดี๋ยวค่อยมาเดินถ่ายรูปอีกทีอะค่ะ
จากนั้นก็โดนเรียกขึ้นรถ (สั่นกระดิ่งกริ๊งๆๆๆ ค่ะ) ซึ่งเจ้าหน้าที่จะคอยดูว่า มีใคร "มั่ว" ขึ้นหรือเปล่านะคะ ตอนของเรามีสองคน ก็โดนอัญเชิญลงจากรถตามระเบียบ
รถก็วิ่งผ่านปราสาทอีกแห่ง ซึ่งน่าจะเป็น Notre Dame, France ตามด้วยของดีของฝรั่งเศสสามอย่างล้วนๆ นะคะ (ทางขวามือ) เรียงกันเป็นแนวเดียวกันเป๊ะเลยทีเีดียว ไล่ตั้งแต่ The Fountain of the Observatory, France / Triumphal Arch, France และ Eiffel Tower ค่ะ
ส่วนทางซ้ายมือก็เห็นกังหันฮอลแลนด์อยู่ไกลๆ ค่ะ
ตามต่อด้วยโคลอสเซียม โรม อิตาลี ก่อนจะหยุดจอดในจุดที่สองค่ะ
จุดจอดที่สอง จะเป็นจุดตรงอียิปต์นะคะ
เป็นการจำลอง Piramids of Giza, Egypt ค่ะ
จะมีการถ่ายรูปกับอูฐด้วย คนละ 20 หยวน แต่ถ้าถ่ายคู่กันสองคนกับอูฐคิด 30 หยวนค่ะ แต่ถ้าไม่ถ่ายกับอูฐ แต่จะแต่งชุดที่เค้ามีให้เช่า ก็ราคาเดียวกันค่ะ ตรงนี้เป็นอีกจุดที่ถ่ายรูปสวย แต่..จะถ่ายไม่ให้ติดคนนี่ ยากโคตร
จากนั้นก็นั่งรถผ่านอาคารหนึ่ง ซึ่ง...ท้ายที่สุดแล้วเราก็ไม่ได้เข้าไปดูว่ามีอะไรค่ะ (แบบว่า ตอนเข้าไปก็จะบ่ายสามแล้ว ซึ่ง..ช้าเกินไปค่ะ เที่ยวได้ไม่ครบเลยน่ะนะ)
อ้อๆ แล้วก็นอกจากนั้น ยังมีให้เช่ารถม้าแบบนี้ด้วยนะคะ แต่ไม่ทราบราคาค่ะ แหะๆ
จากนั้นรถก็จะวิ่งผ่านจุดแสดง Volcano ค่ะ ซึ่งถ้าใครจะดู แนะนำให้มาดูรอบมืด (หลังโชว์ใหญ่ที่เวที) ถึงจะเห็นแสงสีครบค่ะ เพราะถ้าดูรอบเย็นแล้ว สู้รอบมืดไม่ได้นะคะ
จากนั้นจะเป็นจุดที่สามของการแวะจอดให้ ลงถ่ายรูปค่ะ
นั่นคือไนแองการ่าจำลองนั่นเองงงงงงงง (ถ้ามาถึงหลัง 16.00 น. น้ำตกจะปิดนะคะ ซึ่ง...จะเซ็งมาก เพราะงั้นกะเวลาให้ดีค่ะ)
จากนั้นรถก็วิ่งต่อไปค่ะ จะผ่านจุดที่ให้ขึ้นล่องแก่ง (ซื้อต่างหากนะคะ) แล้วก็ผ่านแกรนด์แคนยอน (โซนนี้จะเป็นอเมริกาค่ะ)
แล้วก็ผ่านตรงนี้ (ซึ่งจำไม่ได้อีกแล้วว่าคือประเทศอาไร แหะๆ)
แล้วก็ผ่านไดโนเสาร์ตัวใหญ่ (เด็กๆ ชอบกันจั๊งงงง)
และผ่านอาคาร Alps ซึ่งดูเหมือนจะมีโชว์ด้วยนะคะ แต่ไม่ได้เข้า เวลาไม่พอ (อีกแล้ว)
จากนั้นรถก็จะจอดส่งเราตรงนี้ค่ะ ให้เราลงตรงนี้ให้หมด แหะๆ
แต่ตรงนี้เป็นอีกจุดที่ถ่ายรูปสวยเลยหละค่ะ อิอิ
ซึ่งตรงนี้หันไปทางขวาก็จะเป็นอีกจุดที่ถ่ายรูปตัวเองกับไอเฟลได้สวยค่ะ
แต่ต้องถ่ายรูปมุมต่ำมากๆ นะคะ ถ้ามีขาตั้งกล้องแบบอันเล็กๆ เตี้ยๆ ไปด้วยจะช่วยได้เยอะค่ะ
หลังจากถ่ายรูปกับไอเฟลเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินไปอีกหน่อยก็จะเจอสถานีปล่อยรถนะคะ
แต่เรากลับไปซื้อพาสปอร์ตค่ะ เล่มละ 20 หยวน (ประมาณ 106 บาท) แล้วก็จะมีตราประทับเป็นการ์ตูนน่ารักๆ สัญลักษณ์แต่ละประเทศให้ประทัีบ ซึ่งในนี้ก็จะมีข้อมูลคร่าวๆ ของแต่ละประเทศ ประกอบกับรูปให้เก็บไ้ว้อ่านได้ด้วย
จากนั้นเราก็เดินไปขอแม็พจากเคาน์เตอร์ ขายตั๋วรถรางน่ะค่ะ
เพื่อเตรียมตัว "เดิน" เหอๆ (ปาดเหงื่อล่วงหน้า)
เนื่องจากบล็อกนี้ยาวมากๆ แ้ล้วนะคะ เพราะงั้นจะขอยกยอดในส่วนของการเที่ยวที่นี้ด้วยการเดินเท้า รวมทั้งโชว์ตอนกลางคืนไปไว้ในบล็อกหน้าแล้วกันค่ะ จะได้ไม่เกินจากที่ทางบล็อกแกงค์กำหนดไว้นะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ
686813/4908/469
Create Date : 19 กรกฎาคม 2553 |
|
39 comments |
Last Update : 19 กรกฎาคม 2553 8:28:39 น. |
Counter : 14950 Pageviews. |
|
|
|
ขวัญตามพี่มาเที่ยวอีกค่ะ เพราะคิดว่า ความสุขที่ดีที่สุด
คือการเที่ยวค่ะ
เสาร์นี้ จะไป หัวหิน กะที่บ้านค่ะ