S.E.A. Aquarium หรือชื่อเต็มๆ ว่า South East Asia Aquarium พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก (2012) ตั้งอยู่ในโซนของ Marine Life Park โครงการนี้ตั้งอยู่ภายใน Resort World หรือบางคนรู้จักในนามของ Universal Studios Singapore อควาเรี่ยมแห่งนี้มีฝูงปลา และสัตวทะเลประมาณ 100,000 ตัว มากกว่า 800 สายพันธุ์ ในแท้งก์ (ตู้ปลาขนาดใหญ่) ที่บรรจุน้ำมากถึง 45 ล้านลิตร
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 - 19:00
ในส่วนของ souk ก็จะจำลองตลาดนัดตามภาพเลยนะคะ รวมทั้งทำให้เราเห็นภาพของการค้าขายต่างๆ ในสมัยก่อนด้วยค่ะ
ก็ชมและถ่ายภาพกันไปเรื่อยๆ ค่ะ จากนั้นก็ลงบันไดเลื่อนไปชั้นล่างนะคะ
ลงมาชั้นล่างจะมีเคาน์เตอร์ S.E.A.A Express ด้วยค่ะ
สำหรับราคาค่าตั๋วที่หน้าเว็บไซต์ก็จะเป็นตามนี้เลยนะคะ
เดินไปตามทางนี้ค่ะ โดยทางซ้ายมือเราก็จะเห็นตัวเรือสำเภาจำลองตามภาพที่สองนี้ด้วยนะคะ
มีแบบจำลองน่านน้ำทะเลต่างๆ ให้ดูด้วยนะคะ
ต่อไปค่ะ ให้ดูภาพรวมคร่าวๆ ในช่วงต้นของที่นี่นะคะ
ตอนที่กำลังส่องตู้แรกอยู่ ก็งงว่าทำไมมีตะกร้าไข่ลอยลงมา สักพักก็เจอนักประดาน้ำใส่หูกระต่ายมาค่ะ คือ..แบบว่า..ช่วงนั้นมันอีสเตอร์น่ะนะคะ เค้าเลยทำเข้าบรรยากาศ...
ค่ะ...น่ารักก็ได้ ฮาา
ในช่วงที่เราไป นอกจากมุกอีสเตอร์แล้วก็มีนักประดาน้ำอยู่ในหลายส่วนด้วยกันนะคะ แต่อันนี้ไม่แน่ใจจริงๆ ค่ะว่า เค้าลงไปให้อาหารหรือไปทำความสะอาดหรือว่าอะไรค่ะ แต่เห็นในมือมีอุปกรณ์บางอย่าง (ตามภาพ) อยู่ด้วยนะคะ
นอกจากนั้นก็มีตู้ย่อยๆ ให้ดูสัตว์น้ำต่างๆ ด้วยนะคะ
แต่ละตู้ก็จะมีข้อมูลของปลาหรือสัตว์น้ำประเภทต่างๆ ให้ดูตามภาพเลยนะคะ แล้วก็มีช่วงหนึ่งทำเป็นอุโมงค์ใสที่พื้นด้วยหละ เก๋เชียว
เดินต่อไปค่ะ คือที่นี่จะมีในส่วนของการให้ความรู้ค่อนข้างเยอะนะคะ ซึ่งก่อนไปที่นี่ เราเองน่ะเพิ่งไปโอซาก้ามาแล้วก็เข้าไคยูคัง ซึ่งมันจะคนละอารมณ์กับที่นี่อ้ะ ไคยูคังให้ความรู้สึกตื่นตาตื่นใจกว่า แต่แน่นอนว่าถ้าเอาความรู้เนื้อหาสาระ ที่นี่ก็โอกว่าหละค่ะ อย่างน้อยก็มีภาษาอังกฤษให้ด้วยอะนะ
นอกจากการชมในอควาเรียมแล้วก็ยังมีกิจกรรมที่มีค่าใช้จ่ายต่างหากด้วยนะคะ
ราคาสูงอยู่เหมือนกันนะคะนี่ (แต่ก็ตามแบบสิงคโปร์ที่ค่าครองชีพสูงน่ะแหละ แหะๆ)
ระหว่างทางก็ยังคงมีสัตว์น้ำประเภทต่างๆ ให้เราได้ชมกันนะคะ
ที่เราชอบก็คงเป็นแมงกะพรุนหละค่ะ เวลาอยู่กับไฟแบล็คไลท์แล้วมันสวยแปลกตาดีนะเอ้า..ว่ามั้ยคะ
จากนั้นก็จะเป็นส่วนที่เป็นตู้ที่ใหญ่ที่สุดที่เราจะเห็นกันได้แล้วค่ะ เรียกว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยก็ว่าได้นะคะ
จะเห็นว่ามีสี่เหลี่ยมๆ อยู่ข้างใน นั่นคือห้องพักที่หนึ่งของที่นี่นะคะ
สามารถเปิดกระจกห้องพักดูปลาได้ทั้งวันทั้งคืนกันเลยทีเดียว (และพยายามส่องแล้วค่ะ เราไม่เห็นคนในห้องนะคะ หรือว่าเพราะเค้ายังไม่เปิดไฟก็ไม่รู้ คือสารภาพว่าตอนอ่านรีวิวคนที่ไปพักที่นี่นี่สงสัยมากว่า แล้วคนอีกฝั่งจะไม่เห็นเรอะ ฮา)
หันหน้าเข้าตู้ปลา ทางซ้ายมือจะเป็นในส่วนของห้องน้ำ และมีอาหารแบบรีบๆ กินหน่อย (ฮา) ขาย (ก่อนถึงที่ขายอาหารนี่ก็จะเป็นทางที่เดินไปยังส่วนถัดๆ ไปนะคะ) รวมทั้งเป็นทางเข้าห้องอาหารด้วยนะคะ
ที่เราชอบที่นี่อย่างหนึ่งคือ ด้านหน้าตู้ปลายักษ์นี่ จะเห็นวงไฟกลมๆ มั้ยคะ
นั่นคือเค้าจะมีไฟส่องให้ถ่ายรูปให้เห็นทั้งหน้าและกระจกตู้ปลายักษ์ด้านหลังค่ะ
ถ้าใครเคยเที่ยวแนวๆ นี้ คงจะรู้ว่า ถ้าไม่มีไฟส่อง แล้วเราต้องถ่ายรูปในลักษณะนี้ หลังจะสว่าง หน้าจะมืด แต่ที่นี่เค้าทำไฟส่องไว้ให้ค่ะ ช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ให้ เก๋ปะหละ เราถือว่าให้คะแนนเรื่องความใส่ใจนะคะ
ถ้าหันหน้าเข้าหากระจกตู้ปลา ทางขวามือจะเป็นทางไป Ocean Dome นะคะ ก็จะสามารถดูเพิ่มได้ตามภาพเลยค่ะ
จากนั้นก็เดินไปในส่วนต่อไป (อย่างที่บอกว่าอยู่ข้างๆ ที่ขายอาหารนะคะ) ก็จะผ่านตู้เล็กย่อยต่างๆ (เก็บไว้ให้ไปเห็นของจริงกันบ้างนะคะ) ก็จะมีตู้ทรงกระบอกขนาดใหญ่อีกตู้หนึ่งค่ะ สวยดี
และสุดท้ายแน่นอนค่ะ ก็ต้องมาจบที่ร้านขายของที่ระลึกเนาะ
ราคาก็สูงตามาตรฐานสิงคโปร์หละค่าา
สุดท้ายก็จะเป็นบันไดเลื่อนขึ้นไป เหมือนตอนที่บอกในตอนต้นของรีวิวนี้นะคะ
สรุปสำหรับที่นี่นะคะ ถามว่าเป็นที่เที่ยวที่น่าสนใจมั้ย คือ มันก็โอเคค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบโลกใต้ทะเล มีกิจกรรม (แต่แพง) ต่างๆ ให้ซื้อเพิ่มเติม แต่มันไม่มีอะไรที่เป็นไฮไลท์ที่ต้องดูน่ะ (อารมณ์ประมาณเดียวกับอควาเรียมที่ดูไบมอลล์ค่ะ แต่อันนั้นยังมีแบบเจ้าหน้าที่บรรยาย มีให้อาหารปลาให้ดูบ้าง ไรงี้) หรืออย่างไคยูคังที่โอซาก้า เค้าก็มีจุดขายของเค้าคือ ฉลามวาฬสองตัว (โอกินาว่ามีสามตัว) ซึ่งถ้าเทียบสามอันนี้ เราก็ชอบที่โอซาก้าที่สุดอะค่ะ แหะๆ
แต่คิดว่าถ้าไปสิงคโปร์ แล้วมีเด็กๆ ไปด้วย ก็คงเป็นอีกที่ที่เด็กชอบหละค่ะ แต่สำหรับคนที่ไปที่อื่นมาแล้ว อลังการๆ กว่านี้มาแล้ว ที่นี่ก็อาจจะดูธรรมดาไปสักหน่อยนะคะ
เห็นแล้วอยากตามรอยขึ้นมาเลย