|
ทุ่งเสน่หา ผู้เขียน : จุฬามณี สนพ.อรุณ/พิมพ์ (เม.ย.2558) 514 หน้า ราคา 365 บาท
โปรยปก :
...บทเพลง ความหลัง ความรัก ที่รอวันมาบรรจบกันอีกครั้ง....
"ที่รัก...เราคงรักกันไม่ได้..."
บทเพลงนี้คงทำให้หนุ่มสาวแห่งบ้านหนองน้ำผึ้งต้องจดจำไปอีกนาน เมื่อโชคชะตาทำให้คู่รักหลายคู่ต้องแยกจากกัน ไม่เว้นแม้แต่ ไพฑูรย์ กับ ยุพิณ คู่รักที่รักกันมายาวนาน จนใครๆ ต่างมองว่าอย่างไรเสียทั้งคู่ก็ต้องตบแต่งอยู่ด้วยกันแก่จนเฒ่าอยู่วันยังค่ำ แล้วฟ้าจะขีดเส้นทางให้พวกเขาเดินทางไปพบกับจุดจบแบบไหน อุปสรรคความรักของพวกเขาจะลงเอยแบบใด หากคำกล่าวที่ว่า "คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน" เป็นจริงดังว่า ความรักของหนุ่มสาวแห่งบ้านหนองน้ำผึ้งคงกลับมาผาสุกอีกครั้ง
'ทุ่งเสน่หา' เป็นนิยายชีวิตรักแนวมนต์รักลูกทุ่งที่มีเนื้อหาเข้มข้นสมจริงมาก โดยฝีไม้ลายมือของนักเขียนคนเดียวกันกับที่เขียน"สุดแค้นแสนรัก"อันลือลั่นนั่นเอง ทว่าหากจะเทียบกันแล้ว ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้อาจจะมีเนื้อหาที่เบาลงกว่าหน่อยนึง แต่ความสนุกสนานเร้าใจชวนให้น่าติดตามยังคงพอๆ กัน
เล่าเรื่องย่อเพิ่มเติมจากข้างบนอีกนิดนะคะ...
ยุพิณกับไพฑูรย์ สองหนุ่มสาวชาวบ้านหนองน้ำผึ้งผูกสมัครรักใคร่กันมานานหลายปี จนถึงขั้นวางแผนแต่งงานกัน แต่ต้องรอให้ฝ่ายชายบวชทดแทนคุณมารดาเสียก่อน แต่ความรักของทั้งคู่ก็มีอุปสรรค เพราะยุพิณนั้นมีฐานะยากจน แถมเป็นลูกสาวของนายบุญยืน นักเลงการพนันที่มักสร้างหนี้สร้างสินจนต้องเอาที่นาไปจำนำจำนองอยู่เรื่อย ทำให้นางสำเภา แม่ของไพฑูรย์ตั้งแง่รังเกียจยุพิณ ไม่อยากรับเป็นลูกสะใภ้คนเล็ก
เมื่อไพฑูรย์เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ นางสำเภาจึงวางแผนจับคู่ให้ยุพิณแต่งงานกับไพรวัลย์ ลูกชายคนโตของนางซึ่งขาพิการเพราะเป็นโปลิโอตั้งแต่ยังเด็ก ๆ ยุพิณจำเป็นต้องยอมเข้าพิธีแต่งงานกับไพรวัลย์ เพราะพ่อของเจ้าหล่อนไปก่อคดีลักควายของนางสำเภาเข้า ทำให้นางสำเภาใช้เรื่องนี้มาบังคับยุพิณ แลกกับการไม่เอาเรื่องกับนายบุญยืน
นางสำเภาคิดว่า ถึงยุพิณจะยอมเลิกกับไพฑูรย์แต่โดยดี แต่หากยุพิณยังเป็นอิสระ ไพฑูรย์คงไม่ยอมเลิกลากับยุพิณง่าย ๆ นางจึงต้องอาศัยฐานะ"พี่สะใภ้" มาบังคับทั้งคู่ ต่อให้วันหนึ่งข้างหน้าหากยุพิณจะต้องเลิกกับไพรวัลย์ ด้วยสถานะพี่สะใภ้-น้องสามี ทั้งคู่คงไม่มีวันหวนกลับมารักกันได้อย่างแน่นอน
นั่นเป็นเพียงบทเริ่มต้นของเรื่องราวแห่งความรักอันผันผวน ผิดคู่ผิดฝาของหนุ่มสาวชาวไร่ ที่ไม่ได้มีเพียงยุพิณกับไพฑูรย์อันเป็นตัวละครหลักเท่านั้น นอกจากทั้งคู่นี้แล้ว ยังมีตัวละครตัวอื่นๆ ที่ล้วนแต่มีความสัมพันธ์โยงใยซึ่งกันและกัน และต่างก็มีบทบาทสำคัญที่ร้อยเรียงให้เกิดเป็นเรื่องเป็นราวอันเข้มข้น ทั้งตื่นเต้นเร้าใจชวนให้ติดตามอย่างต่อเนื่อง
บอกได้เลยค่ะว่าชอบมาก ชอบพล็อตที่สมจริงสุด ๆ... นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายพีเรียดค่ะ ย้อนยุคไปประมาณสี่ถึงห้าสิบปีที่แล้ว ฉากของเรื่องก็เป็นท้องไร่ปลายนา ที่ยังคงความเป็นชนบทไว้อย่างสมบูรณ์ เจือกลิ่นอายธรรมชาติอันไร้ซึ่งแสงสีจากเทคโนโลยีใด ๆ ในขณะที่อ่านก็เหมือนจะได้ยินเสียงเพลงลูกทุ่งลอยมาตามสายลมแผ่วพลิ้ว คลอคลองอยู่ตลอดเวลา
แต่กระนั้น ผู้เขียนก็ยังได้สอดแทรกเรื่องของการเปลี่ยนแปลง อันเนื่องมาจากสิ่งที่เรียกกันว่า"ความเจริญ" ที่เมื่อมันได้รุกคืบเข้าสู่พื้นที่ใด แน่นอนว่าธรรมชาติอันใสบริสุทธิ์ย่อมจะมีร่องรอยด่างพร้อยเข้าเจือปน มันจะค่อยๆ แทรกซึมเข้าสู่หัวจิตหัวใจของคนหนุ่มคนสาวให้เกิดความใฝ่ฝัน ความฟุ้งเฟ้อทะยานอยาก ชีวิตคนเมืองดูสูงส่งน่าปรารถนา ไม่อยากคลุกดินโคลนอยู่ในท้องไร่ท้องนาอีกต่อไป
เรื่องเยอะ ตัวละครแยะ มีดราม่า มีน้ำเน่า มีทุกมุกทุกเม็ดที่นิยายรักเล่มหนึ่งควรจะมี (เช่น ซีนรักวาบหวาม ฉากพ่อแง่แม่งอนมุ้งมิ้ง ฉากเศร้ารันทด ฉากตลกขบขัน...ฯลฯ) ผู้เขียนวางโครงเรื่องไว้ดีแล้วเล่าเรื่องเรียงลำดับเรื่องราวอย่างเป็นขั้นเป็นตอน หากก็กระชับฉับไวไม่ยืดยาด
ชอบตัวละครอย่างยุพิณนะ เธอใจคอเด็ดเดี่ยวดี แม้รักแสนรัก แต่เมื่อต้องเทียบกับความกตัญญู เธอก็เลือกอย่างหลัง แล้วก็ไม่ดึงดื้อถือดี ยอมรับคำแนะนำดีๆ จากคนอื่น แล้วก็มุ่งเดินหน้า หาสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง... ทั้งเปิดเผย จริงใจต่อความสัมพันธ์ใหม่ ๆ ที่เข้ามา
จริง ๆ แล้วโดยรวมก็ชอบตัวละครเกือบทั้งหมดนั่นแหละค่ะ ไม่ว่าจะไพฑูรย์ ไพรวัลย์ มิ่งขวัญ จันทร จินดา ฯลฯ ทุกตัวมีร้ายมีดี มีจุดด้อยจุดเด่นในตัว ไม่มีคนไหนร้ายบริสุทธิ์ หรือเลิศเลอไปเสียทั้งหมด เรียกได้ว่ามีชีวิตชีวาสมจริงไปหมด
กระทั่งตัวแม่...คนที่พลิกชะตาชีวิตรักของลูกชายตัวเองอย่างนางสำเภา... นางก็ทำทุกอย่างไปด้วยสายตาของผู้ใหญ่ที่ผ่านโลก ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน แล้วต้องเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก ๆ ของตัวเอง... เนื้อแท้ของนางก็ไม่ใช่คนใจร้ายใจดำอะไรเลย... เป็นตัวละครอีกตัวที่มีความเป็นธรรมชาติมาก...อ่านแล้วค่อนข้างชอบทีเดียว
ประเด็นที่ชัดเจนที่สุดที่(คิดว่า)ผู้เขียนต้องการนำเสนอในเรื่องนี้ก็คือ... สัจธรรมที่ว่า...โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน...นั่นเอง
|
แต่ท่าทางจะเล่มหนาไปหน่อย แถมยังมีภาคต่อ รุ่นลูกๆ อีกเล่มนึงด้วยนะคะ
รอเป็นละครก็แล้วกัน
เห็นข่าวว่าช่องสามซื้อไปแล้ว ถ้าได้คนทำชุดเดียวกับสุดแค้นแสนรักคงสนุก