มิติใหม่ของการดูหนัง อย่างที่ผมเล่าไปในบล๊อกตะพาบว่าผมป่วยใช่ไหมครับ จริงๆ นี่ก็ยังไม่หาย แต่เป็นระดับที่ทำอะไรได้ปกติ เพียงแค่ยังปวดหัวบ้าง เสียงแหบซักหน่อย แค่นั้น  ซึ่งเมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมไม่มีแผนอะไรเลยในชีวิต นอกจากนอนฮีลร่างกาย ที่นอกจากปวดหัวแล้ว ยังเวียนหัวคลื่นไส้เป็นพักๆ ปรากฎว่า หลานแวะว่าเล่นที่บ้านตามปกติของเค้า รถน้ำต้นไม้อะไรเสร็จ ก็เดินมาหาผมแล้วบอกว่า "I want to go to cinema. I like this..." พร้อมชี้ไปที่ทีวีที่กำลังพูดถึงอะนิเมชั่น Inside Out 2 "Seriously?" "Yes....I want to go" "But you have to sit in place for 2hours, can you?" "Yes, I'll eat popcorn" พร้อมทำท่ากินป๊อปคอร์น "No popcorn ไปเอามาจากไหนเนี้ย" โคตรตลกครับ ไม่รู้ไปเอามาจากไหน "small one" พร้อมทำมือเล็กๆ "ไอไงคะ กินได้ที่ไหนก่อน" "กินชิ้นเดียวแล้วให้น้าปริ๊ซ์ก็ได้" "น้าปริ๊นซ์ก็ไอไงคะ แล้วใครจะกิน" "คุณแม่ก็ได้" "คุณแม่ไม่ให้กินหรอก ไปถามดิ" จบข่าวครับ เพราะนางก็ไม่ไปถาม คงรู้ว่าขอแม่นี่ไม่ได้กินนี่แน่เลยมาขอผมแทน สรุป......ผมจัดการเปิดแมคบุ๊คนั่งดูรอบหนังให้หลาน ส่วนตัวต้นเรื่องก็ยืนเกาะโต๊ะมองไม่ห่างว่าผมจองให้จริงไหม "น้าปริ๊นซ์ทำงานค่ะ อย่าเพิ่งยุ่งนะคะ" พี่สาวผมเดินมาสะกิด" "No! น้าปริ๊นซ์จอง movie ให้ข้าวหอม" "จริงดิ" พี่สาวหันมามองหน้าผมแล้วขำ "จริง....หารอบ Kid cinema ให้อยู่เนี้ย ไปอีสวิลล์แล้วกัน" อยู่ๆ ก็เสียตัง 1พัน แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยครับ แฟนนี่ยิ้มเลยบอกจะไปอีสวิลล์ นั่นจะไปช้อปปิ้ง บอกไม่ดูนะหนัง  เช้ามาวันอาทิตย์ ญาติผมแต่งตัวสวยเดินมานั่งรอที่โซฟาแต่เช้า..... แต่เช้านี่คือ 8 โมงเช้านะ ซึ่งผมยังไม่ตื่น 555555 ลงไปอีกที 9โมงครึ่ง กำลังเอาผ้าลงมาซักนั่นนี่ หลานก็กลับมาอีกรอบ "โรงหนังเปิดรึยัง....." 55555555 เอาจริงดิ! ทวงแต่เช้าเลย "ยังค่ะ น้าปริ๊นซ์จองไว้บ่ายโมงครึ่ง เรากินข้าวเที่ยงก่อนค่อยดูหนังนะ" "จะไปรึยัง" "ยังคะ....น้าปริ๊นซ์ซักผ้าก่อน แล้วนัดคุณป้ามาคุยงานที่บ้านตอน 10 โมง" "I wait here" No!!!!!!!!!!! กลับไปก๊อน!!!!!!!!! ว่าแล้วหลานก็นั่งลงที่โซฟา พร้อมหยิบ เกมส์ Jenga ที่ผมเอาไว้เล่นเวลากินเหล้าออกมาเล่น 10โมง ผมก็นั่งคุยงาน หลานก็วิ่งป่วนบ้านอยู่แบบนั้น ทั้งพี่สาว ทั้งแฟน ทั้งพี่เพ็ญแทบจะเอากันไม่อยู่ เพราะซักพัก ก็วิ่งหามาผมละ "น้าปริ๊นซ์....Who eat apple แล้วหงายท้องอ่ะคะ" หลานวิ่งมาสะกิด "ใครคะ???...." "Princess who eat apple and หงายท้อง" อ๋อ!... "อ๋อ....สโนวไวท์" "อ่า สโนวไวท์ I'm snowwhite....is she cold?" "ไม่หนาวคะ นั่นชื่อเค้า" ปวดหัว.....ปวดหัว!!!!!! ผมนี่กวักเรียกแฟนมาเอาหลานไปเอนเตอร์เทนเลยครับ ซักพัก........ "โรงหนังเปิดรึยางงงงงค่าาาาาา น้าปริ๊นซซซ์ ฮือออออ"  ไปคร้าบ ไปๆๆๆๆๆ ผมนี่เร่งคุยงานจนเสร็จ 11 โมงครึ่ง คุยเสร็จก็รีบตาลีตาเหลือกกวาดทุกคนขึ้นรถ เพื่อจะไปถึงเซนทรัล อีสวิลล์ ประมาณ เที่ยงกว่าๆ เพราะไหนจะหาที่จอดรถ ไหนจะกินข้าว และรอบหนังคือ 13.30 เรา 4 คนกินข้าวที่ฟู้ดคอร์ดนั่นแหละครับ ง่ายและไวดี  กินข้าวซอยที่กรุงเทพนี่ไม่สุนทรีย์เลย 55555 แต่ก็พอใช้ได้ครับ และไม่ต้องห่วงว่าจะไม่อิ่ม เพราะผมต้องกินข้าวหลานอีก เพราะอะไรน่ะหรอ....หลานกินไปได้ 5-6 คำบอกว่า อิ่มแล้ว "โรงหนังเปิดรึยัง อยากดูแล้ว อยากไปแล้ว" เอาอะไรให้กินก็บอกว่า อิ่มแล้วๆ ........ อ่ะโอเค อิ่มก็อิ่ม ไปก็ไป เราเดินไปเอาบัตรจากตู้อัตโนมัติ คือตั้งใจจะให้หลานเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก เพราะปกติถ้าเป็นผมผมไม่เอาบัตรแน่นอน แต่ใช้ QR code เข้าโรงเลย เค้าก็ชอบครับ ถือเองตลอดทาง  และผมเพิ่งรู้ว่า Kid cinema เนี้ย มันโคตรอลังการ 5555555 ถ้าโซฟาแนวนี้ปกติต้องซื้อ Enigma แล้ว นี่มีบ่อบอล มีสไลด์เดอร์ มีของเล่นหน้าโรงด้วย ผมจองโซฟาโซนด้านหน้าเอาไว้ แบบนอนดูได้มีหมอนมีผ้าห่ม แล้วนี่ก็เป็นมิติใหม่ของการดูหนังมากครับ...... เพราะโรงหนังอลเวงมาก.....เด็กเยอะมาก วิ่งเล่น กรี๊ด ตะโกน กระโดดลงบ่อบอล วิ่งไปเล่นสไลด์เดอร์ วิ่งไล่กัน ซักพักร้องไห้..... ผมนี่หันไปถามพี่สาวเลยว่า .... นี่มันจะดูรู้เรื่องจริงหรอวะ 55555   อ้อ โรงหนังสำหรับเด็ก มันไม่มืดมากครับ แสงแบบมองเห็นทุกอย่างได้สบายๆ แสงจากจอไม่สว่างมาก และเสียงในโรงไม่ดังครับ ดังแค่ได้ยิน ไม่ตึ้มตั้ม ตูมตาม มีเจ้าหน้าที่แต่งตัวน่ารักๆ เดินดูแลเด็กๆ ตามบ่อบอล ของเล่นต่างๆ แต่หลานผมเรียบร้อยครับ นั่งอยู่ที่โซฟาด้วยกันเงียบๆ ซักพักมีขอเป็นเล่นบ่อบอล แป็บเดียวก็กลับมานั่งใหม่ บอกว่าเค้าอยากดูหนัง ไม่ได้อยากเล่น เดี๋ยวดูไม่ทัน  พอหนังเริ่มฉาย ความวุ่นวายก็ลดลงไป 10% เพราะเด็กโตนิดนึงก็นั่งประจำที่ แต่เด็ก 3-5 ขวบก็ยังวิ่งกันทั่วโรง มีชวนหลานไปเล่นด้วย แต่หลานไม่ไป นั่งดูบ้าง เล่นลูกบอลบ้าง ทำท่าจะหลับบ้าง 5555 ที่สำคัญคือ อยู่ได้จนจบเรื่อง ออกจากโรงหนัง หลานชอบมากครับ คือเนื้อเรื่องเค้าดูไม่รู้เรื่องหรอก ผมยังดูไม่รู้เรื่องเลย 55555 ไม่ใช่เพราะหนังไม่ดี หรือดูยาก เพราะผมกับพี่สาวต้องสลับกันตอบคำถามหลานทั้งเรื่อง คือเราดูเป็นอังกฤษครับ ดูก็ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างตามประสา เพราะหนังพูดเร็วมาก บางทีเค้าก็งงว่า ทำไมคนนั้นต้องโกรธ ทำไมคนนั้นผมชี้ บางทีเดี๋ยวก็เดินไปบ่อบอล ก็ต้องคอยมองไว้ว่าไปไหนแล้ว แต่เค้าก็ชอบ จำได้ และสนุกกับประสบการณ์ใหม่ครับ เรียกว่า อ่ะ.....พันนึงก็คุ้มค่าละวะ   "I like this one. Can you order it?" "How do you feel?" "Good! it's soft. I want to sit here every day. I like yellow I like brown I like every color. Can you make it colorful?"  แต่ใครจะซื้อของ Muji ละครับ โคตรแพง! ถ้าชอบจริงๆ ค่อยไปซ้ำ Homepro หรือสั่งออนไลน์ให้นั่งเล่น เอ็นเตอร์เทนหลานแล้วก็ไม่ลืม เอ็นเตอร์เทนแฟนครับ ดูหนังเสร็จออกมาหาแฟน เค้าก็บอกให้ผมไปเจอที่ชั้นล่าง พร้อมของที่วางอยู่ที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน แล้วมีหรอผมจะตอบอย่างอื่นได้ นอกจากหยิบบัตรเครดิตมารูด พร้อมกับพูดว่า "ขอบคุณที่ใช้บริการครับ" 
สวัสดีค่ะน้องชาย อ่าวพอคิดจะเม้น เพลงชาติก็ดังมาเลย
เดี๋ยวมาเม้นต่อคืนนี้นะคะ มีนัดกินหมูทะกับเพื่อนสาว ต้องหกโมงเด้่ง โดย: nonnoiGiwGiw
  วันที่: 25 มิถุนายน 2567 เวลา:18:00:38 น.ไม่ได้เข้าโรงหนังมาชาติหนึ่งแล้วค่ะ 555
ความบันเทิงเดี๋ยวนี้พัฒนาไปไกลมากเลยนะคะ ทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่าย ยังไงก็ขอให้หายป่วยเป็นปกติไว ๆ นะคะ โดย: ฟ้าใสวันใหม่
 วันที่: 25 มิถุนายน 2567 เวลา:19:09:26 น.น้องปริ๊นซ์ดูแลทุกคนอย่างทั่วถึงเลย
ชุดน้องข้าวหอมน่ารักมากๆ พี่ก๋าเพิ่งรู้นะครับ ว่าโรงหนังพัฒนาไปไกลขนาดนี้แล้ว ไม่ได้เข้าโรงหนังมาหลายปีแล้ว ตอนนี้ให้ซื้อตั๋วเอง ทำไม่เป็นแล้ว 555 การให้อภัยตัวเอง อาจต้องเริ่มต้นมองเห็นสิ่งที่เราทำผิดพลาดก่อนครับ แล้วก็ต้องบอกตัวเองได้ว่า พลาดไปแล้ว ผิดไปแล้ว และเราอยากทำให้มันดีกว่าเดิม เพื่อแก้ไขสิ่งที่ทำพลาดไป คล้ายๆธรรมะครับ พี่ก๋าว่ามันไม่ได้ยากเลย แต่ต้องฝึกบ่อยๆ เตือนตัวเองบ่อยๆ จับเด็กไว้ข้างนอกหรือจับไว้ในห้อง ใช่การลงโทษแบบ time out รึเปล่าครับ สมัยหมิงเป็นเด็ก รร.ก็ใช้วิธีนี้นะครับ อย่างถ้าเด็ฏไม่อยากเรียน ก็ให้เดินออกนอกห้องไปเลย โดยไม่รบกวนเพื่อนน่ะครับ หมิงนี่เดินออกประจำ 555  โดย: กะว่าก๋า
 วันที่: 25 มิถุนายน 2567 เวลา:20:16:44 น.มาละๆ..
ประสบการณ์ ดูหนังแบบใหม่ นี่ดูท่าว่าจะสนุกสนานมากเลยนะ ร้านข้าวหอมนี่คือแฮปปี้มาก แต่พี่ดูแล้วยังไง ก็น่าจะดูหนัง ไม่รู้เรื่องจริงๆ นั่นแหละ 5555+ แล้วเราล่ะเป็นยังไง หายป่วยยัง พี่นี่สัปดาห์ที่แล้ว มีต้องกินยาขยายหลอดลมนิดหน่อย ตอนนี้โอเคแระ โดย: nonnoiGiwGiw
วันที่: 25 มิถุนายน 2567 เวลา:22:06:52 น.จากบล็อก
เออช่วงนี้แม่พี่รื้อป่าข้างบ้านมาก ตอนนี้ลามไปถึงเอา เบี้ยคะน้าไปเสียบ แย่งพื้นที่กระถางพลูด่างพี่แล้ว ตลกดี กรีกโยเกิร์ตทำง่ายมากนะ แค่เอานม กะโยเกิตไปผสมกันปิดทิ้งไว้หนึ่งคืน เช้ามาได้โยเกิต จากนั้นก้อเอาไปกรองทิ้งไว้ในตู้เยนสองวัน แค่นั้นเอง สลัดม่อนอร่อยมาก พี่กำลังบ้ากินม่อนเลย โดย: nonnoiGiwGiw
วันที่: 25 มิถุนายน 2567 เวลา:22:11:13 น.เดี๋ยวผมมาอีกที เรื่องโจทย์ผมเห็นแล้ว น่าสนใจมาก (จากเดิมที่เหลืออีกแค่ 1 ตอนนี้มีเพิ่มมาแล้ว) เดี๋ยวค่อยทยอยๆ นะครับ
โดย: คุณต่อ (toor36
 ) วันที่: 26 มิถุนายน 2567 เวลา:0:11:08 น.ใช่ครับ
บางทีก็ใจหายจริงๆนะครับ เหมือนเวลาพนักงานที่ร้านพี่ก๋าเหมือนกัน บางคนทำงานเก่งมาก นิสัยดีด้วย ไม่คิดว่าจะออก วันที่เค้าออกเราก็ใจหายเหมือนกัน แต่พี่ก๋าไม่เคยรั้งลูกน้องนะ ถ้าเค้าออกจากเราแล้วเจริญก้าวหน้า เราก็ยิ่งยินดีเลยครับ พัทก็เช่นกัน ถ้าเค้าออก แล้วการงานทุกอย่างก้าวหน้า ก็น่าดีใจด้วยครับ  โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 26 มิถุนายน 2567 เวลา:11:52:56 น.หมิงโตแล้ว
ชอบไปดูหนังกับเพื่อนครับ วัยนี้ไม่มีเดินกับพ่อแแม่แล้ว 555 มีอะไรบอกโรงเรียนได้ครับ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง เค้าฟังพ่อแม่อยู่แล้วล่ะครับ โดยเฉพาะโรงเรียนเอกชน หรือโรงเรียนทางเลือก ถ้าโรงเรียนรัฐบาลก็อาจจะเข้มงวดและมีกฏระเบียบมากหน่อย Time out นี่หมิงก็ไม่ค่อยโดนครับ สมัยก่อนพี่ก๋าดุมาก 5555 โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 26 มิถุนายน 2567 เวลา:12:07:54 น.สวัสดีค่ะน้องปรินซ์
ได้มาเปิดหูเปิดตากับโรงหนังวันนี้แหละ ถังขยะออโต้ เพิ่งเห็นวันก่อนนี้เอง คงใช้ดีนะคะ สั่งมาตั้ง 14 รอบ โดย: tuk-tuk@korat
 วันที่: 26 มิถุนายน 2567 เวลา:13:03:14 น.ฮ่าๆ ฮ่า สัญญาต้องเป็นสัญญานะครับ
คนที่เบี้ยวไม่ได้ นอกจากเมีย กิ๊ก แล้วก็ เด็กๆ นี่แหละนะครับ โดยมากผู้หญิง จะมีท่าไม้ตายเหมือนกัน คือน้ำตา จบทุกปัญหา เจอไม้นี้ ยังไงก็ใจอ่อนต้องยอมครับ โรงหนังเด็ก อาจารย์เต๊ะ พึ่งจะเคยเห็นนี่แหละนะครับ เครื่องเล่นบ่อบอล มาเต็ม ดีนะเป็น indoorถ้าโรงหนังกลางแจ้ง เผลอๆต้องมี สระเล่นน้ำด้วยแหงๆ555 ตั๋วเด็กพัน ก็ไม่แพงนะครับ ราคาพอๆกับของผู้ใหญ่ โรงแบบที่มีloveseat หรือที่นั่งเป็นแบบเตียงนอนได้ แถมผ้าห่มก็ประมาณนี้ อิอิ ส่วนการ เอ็นเทอเทนแฟน ลืมไม่ได้เด็ดขาด งวดนี้โดน รองเท้า คราวหน้าน่าจะเป็นกระเป๋า ละครับ ยังไงก็พยายามฟิตร่างกาย อย่าให้ป่วยบ่อย ไม่งั้นเดี๋ยว เอ็นเทอเทน สาวๆ ทั้งแฟนทั้งหลานไม่ไหวนะครับ555 ไม่อยากจะบอกว่า เมื่อวานยังโดนผีผลัก กดสั่งของไปอีกหลายชิ้นเลยครับ ตอนนี้ก็นั่ง ว้าวุ่น รอของมาส่งอยู่ เมื่อไหร่จะมาซักทีน้อ555  โดย: multiple
วันที่: 26 มิถุนายน 2567 เวลา:13:21:13 น.มีหลานนี่เหนื่อยนะครับ 555
คงเหมือน อ.เต๊ะ เพิ่งรู้ว่ามีโรงหนังเด็กดู อลังการแปลกตา ทีแรกคิดว่า มีเฉพาะเน็ตฟลิกซ์ โดย: ไวน์กับสายน้ำ
 วันที่: 26 มิถุนายน 2567 เวลา:19:21:16 น.พี่ก๋าไม่ค่อยอยากเข้าโรงหนังแล้วครับ
มาดามนี่อาจจะอยากดูอยู่ 555 โรงเรียนเอกชน ยังไงก็ดูแลเด็กดีอยู่ครับ มีอะไรก็อยากคุยกับผู้ปกครองอยู่  โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 26 มิถุนายน 2567 เวลา:19:49:13 น.ไม่เคยเข้าไปดุแบบนี้เหมือนกันครับ อย่างที่บอกไปเมื่อบล็อกก่อนหน้า ผมพึ่งเข้าโรงหนังครั้งแรกในรอบ 18 ปี เมื่อบล็อกก่อนหน้านี้เองครับ เห็นลักษณะรูปแบบของเขาแล้วจะแพงก็ไม่แปลกใจ
ผมก็คิดว่าเด็กมันจะดูรู้เรื่องมั้ย แต่อาจไม่ได้เน้นให้เด็กดูก็ได้ ให้เข้าไปเล่นมากกว่า เล่นๆ ดูๆ ประมาณนั้น ที่คุยกัน ใช่ครับ ไวรัส G จาก resident evil โดย: คุณต่อ (toor36
) วันที่: 26 มิถุนายน 2567 เวลา:22:15:05 น. Kid cinema เปิดโลกดูหนังของมี้เหมือนกันค่ะ 555555 คือ สุดๆ
โดย: kae+aoe
 วันที่: 27 มิถุนายน 2567 เวลา:8:11:08 น.สวัสดีครับน้องปริ๊นซ์
เรียกว่าน้องปริ๊นซ์ดูแลทั่วถึงเลยนะครับ พี่เคยเข้าไปดูโรง Kid Cinema เหมือนกันครับ บันเทิงมาก ๆ ยังกะสนามเด็กเล่นเลยแต่สนุกมาก ๆ พอได้ยินเสียงเด็กขำพี่ว่าดีเลย ที่สำคัญเก้าอี้ใหญ่มาก โดย: The Kop Civil
 วันที่: 27 มิถุนายน 2567 เวลา:15:22:01 น. |
บทความทั้งหมด
|
|||||||||||||||||||||
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [
คนเชื้อจีนนี่เขารักกันดีนะปริ้น