การถูก "Bully" ครั้งสุดท้าย

วันนั้นก็เป็นวันสุดท้ายในชีวิตผมที่ถูก Bully
 
======================
 
Bully หรือการกลั่นแกล้ง ทั้งการใช้กำลังกลั่นแกล้ง
หรือล้อเลียนรูปลักษณะ ปมด้อย

ตอนนี้กำลังฮิตเลยครับ ผมนั่งฟัง  “อย่าหาว่าน้าสอน” ของน้าเน็ก
แม่งยังมีเด็กมหาลัยผู้ชายที่เกือบจะร้องไห้กลางสายเพราะถูกเพื่อนที่ม. Bully
แว้บแรก ผมคิดว่า เฮ้ย แม่งจะหนักหนาอะไรวะ เพื่อนกันหยอกกันก็ปกติ
แต่ลืมไปว่า การหยอก กับการล้อแม่ง แค่เส้นบางๆ เท่านั้นเอง
 
จนค่อยๆ นึกได้ครับว่า...
ผมเองก็เคยโดน...
 
มันต้องเริ่มต้นตั้งแต่สมัย...ที่ผมเริ่มเข้าเรียนอนุบาล
ซึ่งเรื่องนี้ผมจำได้บ้าง พ่อแม่เล่าบ้าง
พ่อแม่ผมถูกเชิญไปพบที่โรงเรียน เพราะครูประจำชั้นเห็นสิ่งผิดปกติของผม
สิ่งผิดปกติที่ว่าเกิดขึ้นผ่านรูปภาพระบายสี ที่ครูให้ทำส่งในแต่ละวัน
โดยที่ไม่ว่าจะรูปสัตว์ ผลไม้  คน หรืออะไรก็ตาม ผมจะระบายด้วยสีดำ น้ำตาล
หรือสีบ้าอะไรก็ตามที่ไม่น่าจะใช้ และงานของผมคือการระบายมั่วๆ ไม่อยู่ในเส้นเลย
สิ่งที่คุณครูสงสัยคือผมอาจสมาธิสั้น หรือมีปัญหาทางพัฒนาการ
ไม่รวมกับที่ผมเริ่มใช้มือซ้ายจับช้อนกินข้าว และระบายสี
 
คนที่เก่งที่สุดของเรื่องนี้คือพ่อกับแม่ผมครับ
พวกเค้าไม่คิดว่าผมมีปัญหาทางพัฒนาการ แต่คิดว่าเป็นปัญหาเรื่องอื่น
เค้าให้ผมระบายสี เล่นดินน้ำมันที่บ้าน ผมก็ระบายไม่ดีหรอก 5555
แต่ก็ใช้สีที่ดูปกติเหมือนเด็กทั่วไป ส่วนแม่มาสอนให้ระบายตรงเส้นครับ 5555
พ่อกับแม่เลยมาแอบดู และคุยกับครูว่า ปัญหาจริงๆของผมตอนนั้น คือ
 

 “เพื่อนแย่ง”
 
ใช่ครับ เพื่อนแม่งแย่งสีที่ตัวเองจะใช้ไปถือไว้หมด ต้องรอมันเสร็จผมถึงจะได้ใช้
งานก็ต้องส่ง ผมก็รอไม่ได้ มีสีอะไรก็ต้องทำ ทำแบบรีบๆ เลยออกมาแบบที่เห็น
ด้วยนิสัยเงียบๆ เสียงเบา ไม่สู้คน ไม่สู้ใครเลย ไม่พูด ยอมคนอื่นทุกอย่าง  
แถมตัวเล็กและเด็กกว่าเพื่อน ทำให้เพื่อนรอบข้างได้ใจว่าข่มผมได้
สรุป คุณครูหาพี่เลี้ยงมาเฝ้าผม แบ่งของจากเพื่อนมาให้ตลอด
และ...เปลี่ยนให้ผมใช้มือขวา
 
เรื่องของอนุบาลนี่ยังไม่รวมการถูกรังแกจากเพื่อนร่วมชั้น
แกล้งผลัก แกล้งตี ขโมยของ
เพราะผมตัวเล็ก (ก็กูเด็กกว่าพวกมึงไงเพื่อน!) มีโรคประจำตัว ดูไม่ค่อยแข็งแรง
ดีที่ผมเรียนเก่ง และตัวเล็ก ๆ ขาวๆ สาวเอ็นดู 
คุณครูเลยรัก เอามาคอยดูแลต่างหาก (พูดไปก็ไม่น่าโตเลยกู5555)
 
ผ่านไปจนถึง ประถม...
 
ผมกลายเป็นเด็กเรียนเก่งชัดเจน  คะแนนสอบเข้าผมน่าจะ 1 ใน 5 ของทั้งหมด
สอบเทอมแรก ผมได้ที่ 1 ระดับชั้น  ใช่ครับ ผมไม่ได้มีปัญหาทางพัฒนาการไง
แต่ปัญหาเพื่อนแม่งยังอยู่ เพราะไอ้เพื่อนกลุ่มเดิมๆ แม่งก็เรียนต่อกันมาเยอะ
โดนแย่งของเหมือนเดิม โดนแกล้งเหมือนเดิม พอโตขึ้นมาหน่อยก็แกล้งกันหนักขึ้น
เอายางมาดีดบ้าง เอาไม้หนีบหนีบหูบ้าง ซึ่ง...ซึ่ง...ผมแม่งไม่สู้ครับ!!!
 
พ่อกับแม่สอนผมมาตลอดว่า ใครทำเราอย่าทำกลับ และเพื่อนแม่งก็ขู่ว่าอย่าฟ้องครู
อยากเป็นไอ้ตุ๊ดขี้ฟ้องหรอ ผมถูกล้อว่าตุ๊ดตลอด เพราะเล่นกับเพื่อนผู้ชายได้น้อย
ตอน ป.1 ป.2 วิ่งเยอะหน่อยผมจะเหนื่อยและไอมาก ไอจนอ้วกนี่โคตรบ่อย
ร้ายหน่อยก็อาการหอบกำเริบต้องพ่นยา แล้วเดินเข้าไปนั่งเงียบๆ ในห้องพักครู
ซึ่งนั่นแหละที่ทำให้ผมโดดล้อว่าไอ้ตุ๊ดขี้ฟ้อง
 
จนวันนึงตอน ป. 3
ผมจำได้ชัดเลยครับ ไอ้เพื่อนเวรกลุ่มเดิม กับเวลาบ่ายกว่าๆ ที่คุณครูแจกนมโรงเรียน
นมโรงเรียนแม่งจะเป็นถุงๆ ใช่ไหม  ไอ้ ย. เดินเข้ามาชาร์ตผมพร้อมเพื่อนมัน
แล้วอะไรซักอย่างผมจำไม่ได้ แต่จบที่มันเอาถุงนมยัดใส่เสื้อผม  2 อัน
ให้เหมือนนมผู้หญิงอะไรแบบนั้น แล้วเรียกเพื่อนมาดู ล้อผมว่าตุ๊ด
ผมจำไม่ได้หรอกครับว่าตอนนั้นคิดอะไรหรือรู้สึกยังไง เพราะแม่งเกิดขึ้นไวมาก
 

 “ผมต่อยแม่งร่วง”  ตรงนั้น
 
จริงครับ แม่งร่วงไปนั่งกับพื้นร้องไห้ตรงนั้น
ผมจำไม่ได้ว่าต่อยมันหมัดเดียวหรือไปซ้ำอีก จำได้แต่ว่า ผมพูดเป็นคำหยาบ
ประมาณว่าใครจะเอากับกุอีกไหม เลิกทำแบบนี้กับกูซักที (แต่หยาบกว่านี้เยอะครับ)
ซึ่งปกติผมพูดแค่ มึง กุ ไม่ค่อยพูดคำหยาบอื่นๆ (ตอนเด็กนะ)
จบที่ผมน่าจะบอกมันว่า ถ้าฟ้องครู ผมจะเตะมันให้ไข่แตก 
อาจไม่ใช่ประโยคนี้ แต่เตะไข่แตกแน่ๆ 55555
 
สุดท้ายก็ถูกครูตีโทษฐานต่อยเพื่อน  ไอ้ ย. ก็ถูกตี โทษฐานแกล้งผม
แต่พวกมันแม่งก็แหยงผมไปเลย
 
วันนั้นเป็นวันสุดท้ายในชีวิตผมที่ถูกBully และไม่มีใครกล้ากับผมอีกเลย
 

ป.4  ผมก็มีเพื่อนเตะบอลกันน่ารักๆ แบบที่เล่นไหว มีเพื่อนตีปิงปอง
เริ่มอยู่กับเด็กผู้ชายได้จริงๆ บวกกับเริ่มโตทันเพื่อน
ทุกอย่างมันดีขึ้นมากครับ และไม่มีปัญหานั้นเลยเมื่อเข้ามัธยม
 
อาจจะคิดว่า ผมเป็นคนโชคดีที่ต่อยเพื่อนไปหมัดสองหมัด ก็เลิกถูก Bully ได้
ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ ผมก็โดนมาเยอะ และอยู่ๆ ก็คิดว่าต้องสู้
ทำให้ทุกอย่างไม่ได้แย่เหมือนบางคนที่ถูกแกลั่นแกล้งจนมีปัญหาการเข้าสังคม
 
เอาจริงๆ มันก็ขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัยครับ
ข้อแรก ผมมีครอบครัวที่ดี  ดูแล สนับสนุนผมทุกด้าน ให้ผมไม่รู้สึกว่าด้อยกว่าใคร
แต่ผมว่า การสอนให้ผมไม่ตอบโต้ใคร มันผิดไปหน่อยครับ หรือผมอาจตีความผิดเอง
แต่ก็คงถูกต้องในมุมของการสอนลูกชายไม่ให้ไปเที่ยวมีเรื่องกับใคร
 
ข้อสอง ผมมีเพื่อนดี คนที่ผมเรียกว่าเพื่อนจริงๆ ดีมากครับ ไม่มีใครทิ้งใคร
ทุกคนจะอยู่กับเพื่อนเมื่อมีปัญหาเสมอ
ตอนปีหนึ่ง เพื่อนคนนึงในกลุ่ม โดน room mate Random เป็นคณะอื่นกวนตีน
เก็บรีโมทแอร์ไว้คนเดียวบ้าง  เปิดไฟเล่นเกมส์ทั้งคืนบ้าง
ล๊อคห้องด้านโทรตามไม่รับบ้าง
เอาเพื่อนมานอนที่ห้องแล้วข่มขู่มันบ้าง ล้อเลียนมันบ้าง
ไอ้เพื่อนผมก็ตัวเล็กๆ ผอมๆ กลัวเขา ไม่กล้ากลับห้อง กลุ่มผม 6 คนไปห้องเพื่อนทันที
ไปเคลียร์กับเมท กับเพื่อนเมทให้มัน วันนั้นตั้งใจกันมาแล้วว่า ถ้ากวนตีน คือต่อยนะ
สรุป เพื่อนกับเมทอยู่กันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกันได้จนหมดปีครับ แล้วต่างคนต่างย้าย
พวกผมบอกมันคำเดียวครับว่า “เห็นไหม มึงน่ะโคตรเก่ง”
 
ข้อสาม ผมโชคดี...โชคดีที่มือหนัก 5555
โชคดีที่เรียนรู้ที่จะเข้มแข็ง และเรียนรู้ที่จะสู้เพื่อปกป้องตัวเอง
 
ผมเชื่อว่าไม่มีใครมีปมด้อยมาตั้งแต่เกิดหรอกครับ
มีแต่ปมที่คนอื่นมันมาทำให้ “เรา” ผูกขึ้นมาในชีวิตตัวเองเท่านั้น

 
“นั่นก็เรื่องของกุ แล้วไปหนักหัวมึงเมื่อไหร่”
 
แค่ต้องเลือกหันด้านที่เข้มแข็งเข้ามาพวกมัน
และเลือกที่จะหันด้านที่แข็งแกร่งเข้าหาโลก
ผมไม่สนับสนุนให้ลุกขึ้นไปต่อยใครครับ แต่ผมอยากให้เข้มแข็งและผ่านมันให้ได้
 
May the force be with you
 
เจอกันครับ
 



Create Date : 01 กรกฎาคม 2562
Last Update : 2 กรกฎาคม 2562 14:05:11 น.
Counter : 1158 Pageviews.

3 comments
เลี้ยงรุ่น 15/ 04 / 2024 tanjira
(19 เม.ย. 2567 17:52:18 น.)
เติมให้ความมี เติมให้ความไม่มี ปัญญา Dh
(14 เม.ย. 2567 20:54:29 น.)
หาอะไรดับร้อนกับน้องถั่วแดงที่ร้านเย็น เย็น หวานเย็น สาขาMRTท่าพระ นายแว่นขยันเที่ยว
(12 เม.ย. 2567 00:32:31 น.)
โจทย์ตะพาบ ... วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ เธอจะเห็นใครคนหนึ่งที่รอเธอ ... tanjira
(9 เม.ย. 2567 14:13:50 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร

  
เขียนดีจัง...อ่านง่าย...

อ่านลงมา เล่นกับเพื่อนผู้หญิงประจำ ทำให้นึกถึงหนัง ไทยที่
ดญ.แสดงโดย ออกัสใช่เปล่า...555 ชักลืม.. กว่าเพื่อน
ชายจะเข้ากับเพื่อนชายคนอื่นก็นานมาก ต้องเล่นฟุตบอล..

แต่คุณเล่นต่อย 555 มันก็ต้องทำบ้างแหละ แต่ไม่ทำบ่อย
ทำให้คนรู้จัก และไม่รังแก เหยียดหยาม

เรื่องถูกรังแกก็เจอกันหลายคน ผมยอมถูกตีหน้าเสาธง จนครู
พละสงสาร เลยให้เข้าโรงยิมฝึกซ้อมมวย..คนที่เรียนห้องอื่น
และรังแก ภายหลังไม่กล้ารังแก เพราะผมถ้าต่อยที่โรงพละ
ครูเขาถือว่า ไม่ผิดระเบียบ..

วันหลังจะมาเยี่ยมอีกครับ
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 1 กรกฎาคม 2562 เวลา:21:49:48 น.
  
อ่านแล้ว.. จำได้ว่า.. เคยโดนเหมือนกันค่ะ
เรียกว่าหนักหนาสาหัสมากกกกก

โดนอยู่ปีนึง ตอนนั้นมีเรียนถ่ายรูปด้วย แบบที่เราเดินเข้าห้องมืด
แล้วเพื่อนเดินออกหมดเลย แล้วห้องมืดก็โคตรน่ากลัวหลอนมว๊าก
มานึกถึงตอนนี้ ก็จะขำดีนะคะ แต่ตอนโน้นนี่ขำไม่ออก ร้องไห้หมอนเปียกทุกวัน 55+
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 2 กรกฎาคม 2562 เวลา:11:33:34 น.
  
จันทราน็อคเทิร์น Literature Blog ดู Blog
ความทรงจำดีจัง แต่คำสบถก็เยอะจังด้วยเนอะ

โดย: หอมกร วันที่: 3 กรกฎาคม 2562 เวลา:8:09:03 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Threepopstory.BlogGang.com

จันทราน็อคเทิร์น
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]

บทความทั้งหมด