At First Sight EP.4 : ปลายทางที่น่าขยะแขยง


หลังจากป่วยมาทั้งอาทิตย์
วันนี้ไม่ไหวครับ ถึงกับต้องของดเข้าไซต์กลางคัน
ผมยังเข้าออฟฟิศ ทำงานไป ว่างหน่อยก็แอบไปนอน
เลยขอกลับมาลงซีรีย์เดิมนะครับ





ความเดิมตอนที่แล้ว

.....ผมเหมือนถูกเพื่อนส่วนหนึ่งในสาขาโยนทิ้ง แม้แต่คนที่ผมคิดว่าสนิท
โคตรเจ็บปวด แต่ผมก็เลือกที่จะไม่แคร์และใช้ชีวิต ป.โท ในบรรยากาศแบบนั้น
ต่อไป ซึ่งผลการเรียนผมก็ยังคงดี และเริ่มออกอาการกวนบาทา หาแสง
เหมือนที่พวกนั้นถูกถึงผม....
และ EP.4 คือบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมด




อ่านย้อนหลังได้ที่ >>>   At First Sight EP.1
                             >>>   At First Sight EP.2
                              >>>   At First Sight  EP.3




 



 


At First Sight EP.4  :   ปลายทางที่น่าขยะแขยง


เหตุการณ์สุดท้ายที่ผมจำได้คือวันสุดท้ายในการสอบComprehensive
ลาดจอดปิดปรับปรุงทำให้คนสวนใหญ่ต้องจอดรถห่างออกไป
ผมก็เหมือนกัน....
พอสอบเสร็จผมก็ออกมายืนเล็งว่าจะไปเอารถยังไงดี
จังหวะนั้นผมเจอกับพี่น้ำพี่ในสาขาที่ดีกับผมเป็นปกติพอดี
"ปริ้นซ์ จอดรถไหน"
"โน้นเลยพี่ ฝั่งพหลฯ"
"ไปกับพี่ดิ เดี๋ยวพี่วนไปส่งที่รถ"
"ไม่เป็นไรพี่ เดี๋ยวหามอร์ไซด์ไปได้"
"พี่กลับฝั่งนั้นอยู่แล้ว ไปเถอะ เดินเป็นเพื่อนกัน"
พี่น้ำถามหลายครั้ง ผมเลยตกลงเดินไปลานจอดรถกับพี่น้ำ
ไปถึง อ้าว พี่น้ำขับรถกระบะวะ 55555 อย่างเท่เลย
"ปกติพี่ขับคันนี้หรอ ไม่คุ้นเลย"
"รถแฟนพี่น่ะ วันนี้รถพี่ซ้อม"
"อ้อ  เห็นแล้วตกใจ แต่พี่เก่งนะขับเกียร์กระบุกได้"
ก็คุยกันไปครับ บอกแล้วว่าผมคุยได้หมดอยู่แล้ว


พอวนลงมาที่ถนน พี่น้ำก็เห็นกลุ่มเพื่อนสาขา 4-5คน โดยมีเพื่อนเจ๊ปิ่น 1 คนอยู่ในนั้น
พี่น้ำเลยจอดรถเทียบแล้วเรียกให้ขึ้นกระบะ จะได้พาไปส่ง
แต่แน่นอน เปิดกระจกมา ก็ต้องเจอผมนั่งเจ๋ออยู่ข้างหน้า....
"จอดรถไหนกัน"
"ฝั่งพหลฯ น้ำผ่านไหม"
"นี่ไง ที่เดียวกับปริ้นป่ะเนี้ย ขึ้นเลยๆๆๆ"
เนื่องจากเพื่อนกลุ่มนั้นผู้หญิงเกือบหมด มีผู้ชาย 1 คน
ผมเลยจะเปิดประตูลงไปนั่งกระบะ แล้วให้ผู้หญิงมานั่งหน้าแทน
แต่พี่น้ำบอกว่า ไม่ต้องหรอก แค่นี้เอง จะลงไปลงมาทำไมให้วุ่นวาย



วันนี้สรุปผมถูกเม้าเรื่องพี่น้ำ
มันทำไมถึงไปอยู่ในรถกับพี่น้ำได้
แล้วเพื่อนก็ได้ยินพี่น้ำบอกผมว่า ไม่ต้องลงหรอก 
กลายเป็นว่า ผม Privillage อะไรรึป่าวไปอีก....







เหตุการณ์ทั้งหมดดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
จนมาถึงวันที่ต้องรับปริญญา
ตอนนั้นผมไม่เซ็งกับบรรยากาศในสาขาแล้วครับ
ในทางกลับกัน ผมรู้สึกอิสระมาก ที่ไม่ต้องนึกถึงเพื่อนที่สาขา
เพราะลำพังเพื่อนตัวเองที่มางานรับปริญญาก็คึกคักพอแล้ว
วันนี้ผมบังเอิญเดินเจอเพื่อนสาขาไม่กี่คน
ซึ่งแต่ละคนที่เจอผมทักทายแล้วมาถ่ายรูปด้วยกัน
ผมถ่ายด้วยครับ เพราะทุกคนที่เจอเป้นคนที่ยังดีกับผมเหมือนเดิม
หรือมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะรู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆ ได้



หนึ่งในนั้นคือหญิง  ผมเจอหญิงที่อาคารเรียนรวม 
ซึ่งผมแค่ไปถ่ายรูปเพราะช่องแสงมันสวย 
"ปริ้นซ์ๆ เจอพอดีเลย ถ่ายรูปด้วยกันได้ไหม เรียนจบกันแล้ว"
"ได้ๆ"


ตัดมาที่หญิงกับพี่ยุทธ ที่เดินถ่ายรูปกันอยู่ที่ตึกคณะ
อยู่ๆ หญิงก็เห็นพี่บี่ แอร์ ลงรูปถ่ายเซฟฟี่กับผมที่อาคารเรียนรวม
"พี่ยุทธ ไปตึกรวมกัน"
"อ้าว พี่บอกให้ตากล้องพี่มาเจอที่นี่นะ รอก่อนดิ"
"งั้นพี่ค่อยตามไปแล้วกัน น้องไปอาคารเรียนรวมนะ"
แล้วหญิงก็พาตากล้องตัวเอง แยกออกไปอาคารเรียนรวม
ทิ้งพี่ยุทธยืนงงอยู่ตรงนั้น
แต่พี่ยุทธมารู้ทีหลังว่า หญิงตามมาถ่ายรูปกับผมตอนที่เห็นภาพรับปริญญาทั้งหมดของหญิง
จึงรู้ว่า หญิงต้องการมาที่ตึกนั้นเพราะผม



ซึ่งทางฝั่งผม ผมก็อยู่ของผมดีๆ กับแฟนและตากล้องของผม
เจอเพื่อนคนไหน ถ้าไม่ใช่ในสาขาตัวเองก็ทักทาย ถ่ายรูปกัน
แต่ถ้าเป็นเพื่อนในสาขา ถ้าไม่เข้ามาขอถ่ายด้วย ผมก็ไม่เรียกครับ
และหญิงก็เหมือนคนอื่นๆ ครับ ที่เดินเข้ามาเรียก
"ปริ้นซ์ๆ เจอพอดีเลย ถ่ายรูปด้วยกันได้ไหม เรียนจบกันแล้ว"
"ได้ๆ...ตากล้องหญิงละ"
หลังจากที่ผมถามหาตากล้องของหญิง หญิงก็เลิกลั่กนิดหน่อย
ก่อนจะกวักเรียกตากล้องตัวเองมา เหมือนว่าทีแรกหญิงจะใช้ตากล้องผม
แต่....ผมจะไม่ใช้ตากล้องของผมถ่ายรูปกับเพื่อนในสาขาเลยครับ
ยกเว้นแก๊งที่สนิท ที่เหลือ ถ้าอยากถ่ายก็กล้องตัวเอง


หลังจากถ่ายรูปกันเส็ดหญิงคุยกับผมอีกนิดหน่อย 
แต่ผมจำไม่ได้เลยครับว่าคุยอะไรกัน เพราะเท่าที่จำได้คือผมอยากไปกินข้าว






ในห้องประชุม หญิงนั่งแถวหน้าผมเยื้องขวาไป 1 คน
เนื่องจากในห้องยังปล่อยให้พูดคุยสบายๆ ไม่ได้เคร่งมาก
หญิงก็หันมาหาผม
"ปริ๊นซ์...กินไรอ่ะ"
"ลูกอม"
"มีด้วยหรอ อาจารย์บอกว่าห้ามเอาอะไรเข้ามาไม่ใช่หรอ"
"เอาไหมละ" ผมถามด้วยสีหน้าเฉยๆ  เพราะเบื่อ หิวน้ำ และง่วงมาก
ส่วนใหญ่จะใช้เวลาหลับบ้าง คุยกับเพื่อนผู้ชายแถวเดียวกันบ้าง
"มีอีกหรอ นี่เอาเข้ามายังไงเนี้ย"  ความประหลาดใจและสนุกสนามปรากฎขึ้นในดวงตา
"เออน่า...เอาไหม"  ผมไม่ตอบหรอกครับว่าเอาเข้ามาได้ยังไง
เดี๋ยวเผื่อใครปากโป้งผมจะโดนค้นตัว จริงๆ ผมโดนค้นมาแล้วตอนเดินเข้า
แต่คนตรวจไม่เขออะไรครับ 5555 ผมจบตรีจาก ม.ที่เคร่งมากมา
แน่นอนว่ามันต้องมีวิธีเอาตัวรอดติดมาด้วยเนียน ๆ อยู่แล้ว

หญิงส่ายหน้าว่าไม่เอา ผมเลยควักกระดาษสับมันให้ไป 1 แผ่นแทน
ซึ่งนั่นก็ประหลาดใจครับ พร้อมย้ำว่า ห้ามทิ้งไว้ที่เก้าอี้หรือทำตกพื้นเด็ดขาด


หลังจากนั้นเพอเข้าพิธีการ เราก็ไม่ได้คุยอะไรกันครับ
มีแค่ตอนเสร็จงานแล้วกำลังเริ่มปล่อยแถวทะยอยออก
หญิงหันมาหาผมอีกครับ พร้อมกับผมที่นั่งสั่นขาเหมือนเบื่อจนจะไม่ได้
"เบื่อแล้วหรอ เดี๋ยวก็ได้ออกแล้ว"
"ป่าว....ปวดฉี่"
เจ้าตัวหัวเราะ แล้วบอกว่า ปวดฉี่เหมือนกัน
ออกจากห้องประชุมมาได้ผมก็ไม่ได้สนใจใครและเดินไปหาแฟนที่จุดนัดพบ




เวลาผ่านไปจากวันรับปริญญาราวๆ 1 เดือน
ผมไม่ได้ติดต่อกับเพื่อน ป. โท เลย ด้วยความรู้สึกว่า พ้นทุกข์แล้วกุ
แต่ก็ไม่เชิงครับ เพราะผมยังมีคุยกับแก๊งสนิท พี่นัท พี่นน์ พี่บอย
และหันมาเริ่มสนิทกับแก๊งอุ้มที่มีทั้งหญิงทั้งชาย และแก๊งพี่บี แอร์โฮสเตท
อยู่ๆ วันนึง ไลน์เตือนว่ามีคนแอดไลน์ผมมาใหม่ 
และชื่อนั้นโชว์เป็นชื่อจริงของ
"หญิง"
ทีแรกผมก็ไม่รู้หรอกครับ จนหญิงทักมาในค่ำวันนั้น
"หวัดดี นี่หญิงเองนะ ที่เรียนโทด้วยกัน ปริ๊นซ์จำได้ไหม"
ไอ่ผมก็ทักกลับอย่างเฟรนลี่ "จำได้ดิ เป็นไงบ้าง"
"สบายดี ปริ๊นซ์ละสบายดีไหม ยังทำงานที่เดิมแถวxxx อยู่รึป่าว"
"สบายดี ยังทำอยู่ที่เดิม"
"ได้คุยกับเพื่อนๆ บ้างไหม นี่หญิงก็เพิ่งเอาลิสมาแอดทักเพื่อนดู"


เอาจริงๆ ทีแรกผมคิดว่ามาขายประกันหรือสินค้าลูกโซ่
"พรุ่งนี้หญิงแวะไปหาปริ๊นซ์ที่ทำงานได้ไหม พอดีมีธุระแถวนั้นพอดี แล้วกินข้าวกัน"
บอกตรงๆ ว่าพอมีอีเว้นกินข้าวกับมาด้วย ผมไม่สะดวกใจอย่างมากครับ
เพราะปกติแล้วผมจะไม่กินข้าว 2 ต่อ 2 กับคนที่มีแฟนแล้ว
ยกเว้นพราว น้องที่ทำงานนะ ที่มันชอบบังคับผมพาออกไปกินที่มันอยากกิน
แน่นอนว่า ผมปฏิเสธหญิงไป  "เรามีคิวออกไปทำงานข้างนอกน่ะ คงกินด้วยไม่ได้"
"ไม่เห็นไรๆ งั้นเราแวะไปหาเฉยๆ ก็ได้ ได้ไหม"
"อืม ได้ซัก 10 โมงนะ"
"ได้ๆ งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ"







ตอนนั้นผมรู้สึกไม่ชอบมาพากลแล้วครับ รู้สึกว่า หรือว่าเราจะซวยแล้วจริงๆ 
หรือมันมีเรื่องอะไรที่ผมคิดไม่ถึง แล้วมันอาจเกิดขึ้นมานานแล้ว
และวันรุ่งนี้ หญิงก็มาหาผมที่ทำงานจริงๆ  ซึ่งผมก็ออกไปเจอที่ลานจอดรถ
จำไม่ได้แล้วครับว่าเราทักทายกันว่ายังไง
แต่ที่จำได้คือ หญิงส่งกล่องของขวัญให้ผมกล่องนึง
"หญิงให้ปริ๊นซ์เป็นของขวัญรับปริญญาน่ะ ว่าจะให้ตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่ไม่มีโอกาส"
"อ้อ ขอบคุณมากนะ"
ว่าแล้วผมก็ยก ๆ มือทำท่าจะขอตัวลาจากตรงนั้น เพราะไม่สะดวกใจครับ
"เออปริ๊นซ์...ปริ๊นซ์ช่วยอย่าบอกเรื่องที่หญิงมาวันนี้ให้พี่ยุทธรู้นะ ไม่ได้เลยนะ"
"...." ผมยืนฟังเงียบๆ หรือแค่พยักหน้า ไม่ได้ตอบอะไร
"ปริ๊นซ์ไปเปิดดูที่บ้านนะ แล้วของข้างใน ปริ๊นซ์เก็บไว้แค่ของ อย่างอื่นดูแล้วทิ้งไปเลย"
"อืม....เค..."
เอาจริงๆ ตอนนั้นผมเริ่มรู้แล้วว่า แม่งเกิดเรื่องบางอย่างกับผมแน่ๆ แล้ว
แต่ก็ไม่อยากตัดสินอะไรโดยที่ยังไม่ได้เห็นด้วยตา เลยรับของมา
และจำไม่ได้ว่าลากันยังไง แต่ทีแน่ๆ ผมเดินแกว่งกล่องนั้นกลับเข้าออฟฟิศ
พอถึงโต๊ะผมก็เปิดกล่องนั้นออกดู และสิ่งที่ผมเจอก็คือ

พวงกุญแจรูปตัว P   1 อันที่ผมไม่ชอบมันเลย 
55555 สันดานเสียมาก แต่ผมไม่ชอบมันจริงๆ ครับ
แต่ไอ่ของที่เหลือในกล่องนี่สิ....มันคือรูปที่ผมเคยถ่ายกับหญิง น่าจะทั้งหมด
พร้อมมีรูปตัวผมทั้งตอนพรีเซ็นต์ ตอนโหวตดาวเดือน ตอนงานคณะ
และมีรูปใบนึงขนาดครึ่งนึงของ A4 เป็นรูปผมเองบนเวทีที่กาญจนบุรี
ด้านหลังมีเนื้อเพลงเขียนอยู่
เชี้ยเอ้ย! เหมือนสมัยมัธยมเลยวะ แต่ตอนนั้นผมอุทานในใจว่า เชี้ยเอ้ย จริงๆ 
แต่เป็นเพราะ...
กุมีปัญหาแล้วแน่ๆ และเป็นเรื่องที่ผมไม่รู้ตัว ไม่ได้สังเกต
และทำให้ไม่ได้ระวังตัวเลยตลอดเวลาที่ผ่านมา


------------------------------------------------

"เตือนตัวเองกลับมาทุกที เมื่อฉันรู้สึกดี ทุกครั้งที่อยู่ใกล้เธอ
บอกตัวเองให้คิดดี ๆ กับท่าทางที่พบเจอ เธอคงไม่ได้ตั้งใจ
แต่ละคำที่เธอพูดว่ามันคล้ายว่าห่วงใย เธอคงพูดไปอย่างงั้น แต่ว่าฉันจำขึ้นใจ
รู้บ้างไหมว่าใครบางคน สับสนและไม่แน่ใจ 
เธอทำให้ฉันต้องหวั่นไหว เธอทำให้ใครต้องคิดมากเพราะเธอ
รู้บ้างไหมที่เธอทำไปฉันหลงเอาไปละเมอ
ได้โปรดอย่าทำให้รักเธอ ถ้าเธอไม่เคยซักนิดที่คิดจะจริงจัง"







------------------------------------------------




ฟัคยูว์!!!! เกิดเรื่องแล้วกุ
ตอนนั้นถึงกับนั่งกุมหัว ถอนหายใจยาวๆ ว่าเรื่องเชี้ยอะไรเนี้ย
พี่ยุทธนะพี่ยุทธ แล้วผมจะทำยังไงกับพี่ยุทธ จะบอกหรือไม่บอกพี่เค้าดี
บริสุทธิ์ใจก็ควรบอกไปไหม 
แต่ขณะที่ผมกำลังกลุ้ม หญิงก็โทรเข้ามา 
"ครับ"   รับสายว่า   'ครับ' วะ 55555 คือตึงเลยครับรอบนี้
"ปริ๊นซ์ห้ามบอกพี่ยุทธเลยนะหญิงขอร้อง หญิงไม่อยากมีปัญหา
หญิงไม่มีอะไรแล้ว สิ่งนี้มันค้างอยู่ หญิงได้ให้ปริ๊นซ์คือไม่มีอะไรในใจแล้ว
ปริ๊นซ์ไม่ต้องห่วงนะ แค่อย่าบอกพี่ยุทธว่าเรามาเจอกันก็พอ"

"อืมๆ"  ผมตอบสั้นๆ  แล้ววางสายไปแบบนั้น



พอกลับไปที่คอนโด ผมก็เอากล่องนั้นส่งให้แฟนดู
ก็แสดงความบริสุทธิ์ใจครับ ว่ามันมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
แฟนก็ดูผ่านๆ แล้วแซวๆ ตามปกติ เพราะไม่สวยครับ แฟนไม่เครียด 5555
ผมหยิบรูปตัวเองออกมา 2 รูปแล้วบอกว่า ผมชอบ 2 รู้นี้ อยากเก็บไว้
"อ้าว รูปเทอเธอก็เก็บไว้สิ" 
"ชอบแค่ 2 รู้นี้ ที่เหลือเราจะทิ้ง"
"ทิ้ง! รูปตัว รูปเค้าด้วยเนี้ยนะ"
"อืม เราไม่ได้ชอบ"
"พวงกุญแจนี่ละ"
"ทิ้ง"
"เฮ้ย! น่ารักดีออก ตัว P ฉันเอาไปให้ก็ได้นะ"
"พลอย....เราไม่ชอบ เราไม่อยากเก็บเอาไว้เลย ถ้าชอบเราซื้อใหม่ให้"
ถึงตรงนี้พลอยยิ้มเจื่อนๆ  แล้วส่งมันคืนให้ผม เพราะรู้ว่าผมคงไม่ต้องการมันจริงๆ 
ผมก็ฉีดรูปทุกรูป รวมถึงใบที่มีเพลง โยนใส่กล่องคุ้กกี้เหล็กสีแดง
แล้วจุดไฟเผาที่ระเบียง พร้อมกับพวงกุญแจอันนั้น 






แฟนไม่มาช่วยครับ ปล่อยให้เป็นธุระของผม
แต่สีหน้าดูมองผมเป็นคนใจร้าย เพราะสมัยก่อนตอนช่วยกันย้ายของมาคอนโด
ผมเคยขน ตุ๊กตา หมอนรูปหัวใจ โหลใส่ดาว ใส่นก  ใส่ถุงบริจาก
"ไม่ชอบเค้าละสิ" แฟนถูกไปขำไป  ผมก็แค่พยักหน้า



คืนนั้น หญิงก็โทรมาอีกครั้ง
ผมหันไปให้แฟนดู ซึ่งแฟนก็ทำมือว่าให้รับเลย
แล้วเค้าก็เดินไปอาบน้ำ คือจะไม่ฟังสิ่งที่ผมจะคุยกับหญิงว่างั้น
"ปริ๊นซ์เปิดดูแล้วใช่ไหม"
"อืม เราดูแล้ว ขอบคุณนะ"
"หญิงไม่มีอะไรนะ แค่อยากเอามาให้แค่นั้น ปริ๊นซ์ไม่ต้องคิดเยอะนะ"
"อืมๆ"
"แล้วปริ๊นซ์ทิ้งยัง ทิ้งเลยนะ ไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องเก็บไว้เลย"
"เราเผาทิ้งหมดแล้ว"
"...."   ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง เหมือนอึ้งกับสิ่งที่ผมพูด
จากน้ำเสียงฟังดูแล้วเค้าถามซ้ำเหมือนหวังว่าผมจะมีจิตมีใจไม่ทิ้งมันตามที่บอก หรืออยากเก็บไว้
"อือ ดีแล้ว"
"...." ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ ไม่รู้จะพูดอะไร"
"เอ้ย! อย่าบอกนะว่าปริ๊นซ์คิดว่า เราแอบชอบปริ๊นซ์แล้วมาสารภาพรักน่ะ ละครไปนะ"
"เราไม่ได้คิดอะไร"
"ดีแล้ว ๆ อย่าลืมละอย่าบอกพี่ยุทธ เรื่องที่เราเจอกัน หรือเรื่องที่เราคุยกันนะ
เดี๋ยวปริ๊นซ์ลบไลน์ ลบเบอร์หญิงไปเลยนะ"

"ไลน์เราลบไปแล้ว"  ปลายสายอึ้งอีกครั้ง...ไอ่หมอนี่ใจร้ายจริงๆ ด้วย
"ถ้าไม่มีอะไร ทำไมเราบอกพี่ยุทธไม่ได้"
"หญิงไม่อยากมีปัญหาน่ะ ปริ๊นซ์ก็รู้ว่าพี่ยุทธเป็นยังไง"
"พี่ยุทธเป็นคนดีไงหญิง.....แล้วเค้ารักหญิงมาก" 
"เราคงไม่ได้คุยกันแล้วนะ"
"อืม"
"ปริ๊นซ์โกรธหญิงไหม"
"มันเกิดขึ้นไปแล้วหญิง ก็ให้มันจบแค่นี้นะครับ"
แล้วผมก็วางสายไปพร้อมลบเบอร์โทรทิ้ง ก่อนจะมานั่งลังเลว่าจะบอกพี่ยุทธดีไหม
แต่ผมก็ให้โอกาสหญิงครับ ให้โอกาสเค้าได้เริ่มต้นใหม่
ผมไม่บอกพี่ยุทธและปล่อยให้มันผ่านไป ถือว่าทุกอย่างได้จบลงแล้ว




แต่มันไม่ใช่แบบนั้น
เพราะหลังจากนั้นราวๆ  2 อาทิตย์ ในวันที่ผมยังไม่ทันตื่นในเช้าวันเสาร์
โทรศัพท์สายถึงโทรเข้ามา และเป็นเบอร์ที่ผมเมมไว้ว่า P' Yutt MK 
"ฮาโหล" แต่เสียงผมคงแย่มากจริงๆ พี่ยุทธถึงได้ทักผมแบบนี้
"ฮาโหลปริ๊นซ์ โทดที ตื่นรึยังน่ะ"
"ยัง....ตื่นมารับสายพี่นี่แหละ"
"โทดๆๆ เห็น 9 โมงกว่าแล้ว"
"เออ ปกติผมตื่น 10 โมง"
"เมิงสะดวกคุยไหม กุอยากคุยด้วยหน่อย"
"ได้พี่ ว่ามาเลย"  
ผมไหลลงจากเตียงออกไปนั่งพิงเตียงอยู่ที่พื้น พร้อมรอฟังพี่ยุทธ



"กุถามตรงๆ แล้วเมิงตอบพี่จริงๆ อย่าโกหกพี่นะ พี่ขอร้อง
......ปริ๊นซ์คุยกับหญิงไหม"

"ไม่ได้คุยครับ"
"ไม่ได้คุยไม่ได้เจอกัน หรือยังไงเลยหรอ"
"เอาจริงๆ นะพี่ หญิงเพิ่งมาหาผมที่ทำงานเมื่อ 2 วีคก่อน
เค้าเอาของมาให้แล้วกลับ"

"แล้วกินข้าวด้วยกันไหม"
"ไม่ได้กินครับ ยืนคุยกันไม่กิน 10 นาที"
"เมิงไม่โกหกกุนะ"
"ผมจะโกหกพี่ทำไม เค้าบอกด้วยซ้ำว่าไม่ให้ผมบอกพี่ ผมคิดว่ามันจะจบ
ผมก็ไม่โทรบอก แต่ถ้าพี่โทรมาถาม ผมก็บอกตามจริง"

"กลัวกุมีปัญหากับเค้าใช่ไหม"
"อืม"


จากตรงนี้ พี่ยุทธ เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะเริ่มพูดใหม่ด้วยเสียงสั่นๆ 
"คือเมิงรู้ไหมว่ากุเจออะไรที่ห้องเค้า....พี่เจอรูปปริ๊นซ์รูปนึง 
มีเพลงแอบรักแอบชอบเขียนอยู่ข้างหลัง...."

พี่ยุทธเริ่มร้องไห้ อันนั้นผมตกใจมาก ที่พี่เค้าร้องไห้จริงๆ 
"จะให้กุรู้สึกยังไงวะ เมิงรู้ไหม..." พี่ยุทธหยุดไป
"...หญิงบอกกุ....ตั้งแต่ตอนเรียนว่า...เค้าชอบเมิงตั้งแต่วันแรกที่เจอตอนปฐมนิเทศ
แต่เค้ารู้ว่าเมิงมีแฟนแล้ว เมิงเปิดเผยว่ามีแฟนแล้วมาตลอด 
แต่เค้าก็ไม่เคยหยุดเลย ตลอด 2 ปีที่คบกับกุ แม่งไม่มีวันไหนเลยที่มีแค่กุในใจเค้า
ตรงนั้นมันมีเมิงอยู่เสมอ เผลอๆ ที่ของเมิงในใจเค้ามีมากกว่ากุอีก"



ถึงตรงนี้ ผมอึ้งไปเลย....พูดอะไรไม่ออก บวกกับพี่ยุทธที่ร้องไห้จริงจัง
บอกไม่ถูกจริงๆ ว่าตอนนั้นผมควรรู้สึกยังไง และน่าแปลกที่ต้องรู้สึกผิดทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรเลย
"ผม...ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้พี่ ผมไม่รู้มาก่อน ผมขอโทษที่มันเป็นแบบนี้"
"ไม่ๆ เมิงไม่ได้ผิดเว่ยปริ๊นซ์ เมิงไม่ได้ทำอะไรเลย มีแต่คนของกุนี่แหละ
กุแค่ไม่รู้จะทำยังไงเลยเลือกที่จะมาเล่าให้เมิงฟังก็แค่นั้น"

พี่ยุทธหยุดไปครู่นึงก่อนพูดต่อ ด้วยเสียงที่ไม่สู้ดีนัก
"ตอนกุไปเจอรูปเมิง กุก็ถามเค้าว่าคือยังไง ทำไมจนถึงวันนี้ถึงไม่จบซักที
เราเลยทะเลาะกัน หญิงบอกพี่ว่า ทุกครั้งที่เราทะเลาะกัน แล้วเค้ากลับบ้านช้า
หรือวันไหนที่เค้าว่าง เค้าจะไปกินข้าวกับปริ๊นซ์ แล้วเมิงก็ดีกับเค้ามาก
เค้ากับเมิงคุยกันตลอด เนี้ย...กุเลยต้องโทรมาหาเมิง เพราะกุไม่รู้อะไรจริงอะไรไม่จริงแล้ว
กุอยากได้ยินจากปากเมิง เมิงจะไม่โกหกกุใช่ไหม"


จังหวะนี้ผมพูดส่วนไปทันทีว่า "เฮียแล้วไง...นี่ผมต้องเป็นแพะ โดยที่ข้าวก็ไม่ได้แดรกหรอ"
พูดอาจฟังดูตลก แต่ในใจผมคือโกรธมาก
"เมิงไม่ได้ไปใช่ไหมละ"
"ถ้าพี่ถามผมอีก เราก็ไม่ต้องคุยกันแล้วพี่ ทำไมหญิงเค้าเฮียจัง"
"เมิงใจเย็นๆ นะปริ๊นซ์ กุก็แค่มาถาม"
"คือแม่งไม่ต้องมาถามผมก็ได้ป่ะวะ"
หลังจากนั้นพี่ยุทธก็เหมือนระบายเรื่องราวที่อัดอั้นตันใจเกี่ยวกับหญิงให้ฟัง
ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ เรื่องเงิน ๆ ทองๆ ซึ่งผมจะไม่ขอเอ่ย
แต่เอาเป็นว่าผมฟังแล้วขึ้นมาก





"เจ๊ปิ่นเค้าไม่เตือนเพื่อนเค้าบ้างหรอ แล้วเค้าไม่เตือนพี่บ้างหรอ"
"ก็เตือน...เออ เรื่องเจ๊ปิ่นด้วย กุขอโทษจริงๆ คือเมิงก็รู้ว่าเจ๊ปิ่นเป็นคนรักเพื่อนมาก
เค้าเลยมองว่าเมิงก็ไม่ทำให้หญิงหวั่นไหว ว่าเมิงให้ความหวัง 
ทำให้หญิงยังคงชอบเมิงมาเรื่อยๆ เลิกไม่ได้แบบนี้ เจ๊ปิ่นเลยโกรธแทน
แล้วพาลพูดถึงเมิงเสียๆ หายๆ พยายามหาพวกให้เห็นดีเห็นงามด้วย
ทำให้...กุว่าเมิงก็รู้สึกว่ากลุ่มเจ๊ปิ่นดูตึงๆ กับเมิง แต่เดี๋ยวกุจะไปอธิบายให้
เจ๊ปิ่นกับคนอื่นๆ เข้าใจเอง พี่เชื่อว่าเจ๊เป็นผู้ใหญ่แล้ว เค้าจะให้อภัยเมิง"


ตรงนี้เป็นการมารู้ทีหลังที่ผมโกรธมาก แล้วน๊อตหลุดเริ่มใส่ยับไม่ไว้หน้าใคร

"แล้วเรื่องเวรนี่ก็มาทำลายชีวิต ป.โท ของผมไปเกือบปีน่ะนะ
พี่รู้ไหมว่าแม่งเกิดอะไรกับผมบ้าง ผมโคตรเกลียดคลาสนี้เลย
ผมไม่เคยมีปัญหาเรื่องเพื่อนมาก่อน ไม่เคยต้องเจอบรรยกาศเชี้ยแบบนี้มาก่อน
แล้วผมต้องมาเจอมันเพราะพี่กับเมียพี่งี้หรอ พี่เอามันคืนมาให้ผมได้ไหมละ
แต่ผมไม่ต้องการแล้วนะ ไม่ต้องการมีเพื่อนคลาสนี้อีกแล้ว
ผมยังมีเพื่อนภาคอื่นอีกเยอะ หรือคนในสาขาอื่นๆ ที่สนเรื่องBullshit นี่

แล้วไม่ต้องให้อิเชี้ยปิ่นมาให้อภัยอะไรกุ เพราะกุไม่ได้ผิดตั้งแต่ต้น!!!!"


เรียกว่าแฟนผมนี่นั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ต้องเปิดประตูเข้ามาดูเลยครับ
ว่าผมทะเลาะกับใครเสียงดังแต่เช้า....ก็ไม่เช้าแล้วละตอนนั้น
แต่พอเห็นผมคุยโทรศัพท์ พร้อมกับยกมือบอกว่าขอเวลาหน่อย เค้าก็ปิดประตูกลับไปเงียบๆ

"กุขอโทษจริงๆ กุก็ไม่สามารถเอาเวลาของเมิงคืนมาได้"
"อย่าหาว่าผมงั้นงี้เลยนะ ทำไมพี่ไม่เลิกกับหญิงไปวะ เจอมาขนาดนี้ทำไมต้องทน"
พี่ยุทธถอนหายใจเสียงสั่นอีกครั้ง ก่อนตอบผมเบาๆ 
"กุรักเค้าไปแล้ว แล้วกุก็คิดจะมีอนาคตกับเค้า กุจะ 30 แล้วนะ"

"อนาคตเมิงไม่ได้อยู่ที่อินี่แน่...เชื่อกุ...."

"ปริ๊นซ์ คือเมิงเป็นคนโปรไฟล์ดี หน้าตาดี เมิงเลือกได้ไง"
"แล้วทำไมพี่จะเลือกไม่ได้ ผู้หญิงที่ไม่เชี้ยมีอีกเยอะ"
"เออๆ เอาเป็นว่ากุเป็นคนโง่แล้วกัน จากนี้กุจะเคลียร์กับเค้าเอง ไม่ให้มายุ่งกับเมิงอีก"




หลังจากตรงนี้.....ผมไม่อยากพิมเล้ย...เพราะผมยอมรับว่า 
ผมก็เฮียมากเหมือนกันที่พูดออกไป แต่นั่นคือเรื่องจริงๆ ที่ผมต้องพูดให้พี่ยุทธเข้าใจ
ว่าในความคิดผมแล้ว หญิงไม่เคยเป็นไปได้เลย
ด่าผมเลวก็ได้ครับ อันนี้ยอมรับ....


"เชิญครับผม ควรจะเป็นแบบนั้นตั้งนานแล้ว ถ้าจะเอาให้ง่ายเลยเนี้ย 
พี่เอาคำพูดผมไปบอกมันด้วยนะ....ว่า อย่ามาหวังจะได้ขนาดมาแดกข้าวกับผม
อย่างแรกเลยคือเมิงไม่สวย โปรไฟล์ไม่ดี ผมไม่เอามาให้อายหรอก
ถ้าผมอยากจะกินข้าวกับใครซักคน ตัวเลือกผมมีเยอะแยะ
ใครอยากได้แอร์ไทม์ก็ต้องมีอะไรดี ต้องสวย การงานดี ดูแลผมดี
อย่างแฟนผม เค้าดูแลผมดีมาก เค้าสวย โปรไฟล์ดี ช่วยเหลือเกื้อหนุนกันได้
มือถือผมเครื่องละ 3-4 หมื่น แฟนก็ซื้อให้ แล้วคนคุยเล่นของผมทุกคน
ไม่มีใครให้ของขวัญรับปริญญาผมเป็นพวงกุญแจโง่ๆ อันละ 35 บาทหรอกนะ
ผมได้ปากกา ภาพผมที่เค้าวาดสีน้ำให้ เค้กก้อนละพัน ช่อดอกไม้
ผมเลือกได้เยอะมาก และเลือกยังไงก็ไปไม่ถึงหญิงของพี่แน่นอน..."




ผมยังพูดไม่จบหรอกครับ แต่พี่ยุทธเบรกผมไว้ก่อน
"เมิงๆ ปริ๊นซ์ กุเข้าใจแล้ว...คนเราก็มีแนวทางไม่เหมือนกัน
แต่คนที่เมิงกำลังด่า กำลังดูถูกอยู่ก็แฟนกุ กุไม่โกรธเมิงนะ กุรู้ว่าเมิงโกรธมาก
และเมิงก็แค่เปิดใจพูดตรงๆ กับกุ แต่กุว่าพอก่อนเถอะ กุไม่อยากรู้แล้ว"

"อืมๆ ขอโทดจริงๆ พี่"


"เอาเป็นว่าวันนี้กุดีใจมากๆ ที่ได้เคลียร์กับเมิงทุกอย่าง 
และมันก็เป็นอย่างที่กุเชื่อเสมอว่าเมิงเป็นคนดีจริงๆ 
กุชื่นชมเมิงมาตลอดเว่ย ในหลายๆ เรื่อง กุเลยไม่แปลกใจว่าทำไมหญิงถึงชอบเมิงขนาดนี้
กุกับเมิงเข้าใจกันแล้วนะ เมิงจะยังเป็นน้องของกุได้ไหม"

ผมถอนหายใจ ในหัวสับสนมาก เพราะเอาจริงๆ ผมก็โดนซะไม่ต้องการแม้แต่พี่อย่างพี่ยุทธแล้ว
"อืม"
"ขอบคุณนะปริ๊นซ์ ที่คุยกันวันนี้"
"พี่แม่งก็ทำผมหงุดหงิดแต่เช้า ไม่ต้องโทรมาหาผมแล้วนะ"
"อืมๆ กุขอโทษๆงั้น ไม่รบกวนแล้วนะ"
"ครับพี่"




สายมือถือวางไป พร้อมกับที่ผมโยนมือถือไปด้านหลังลงบนเตียง 
แล้วเอามือลูบหน้าตั้งสติกับเรื่องที่ได้ยินมาตั้งหมดในเช้านั้น
เมื่อเสียงผมเงียบไป แฟนก็ค่อยๆ แง้มประตูเข้ามาดู
และเห็นผมนั่งเท้าหัวอยู่ที่พื้น
เค้าไม่ได้เริ่มถามอะไร เพียงแค่ลงนั่งตรงหน้าแล้วเอามือผมไปจับไว้
ก่อนโน้มคอผมลงไปที่ไหล่ของเค้า ส่วนผมก็ซบหน้าอยู่ตรงนั้นครู่ใหญ่

"เรามีอะไรจะเล่าให้ฟัง....."




- The End -




Create Date : 08 กันยายน 2566
Last Update : 8 กันยายน 2566 17:29:36 น.
Counter : 1009 Pageviews.

30 comments
ดีกว่าไม่มีงานทำ? Alex on the rock
(5 ต.ค. 2567 09:09:36 น.)
โจทย์ตะพาบ ... บล็อกแรกที่เขียน ... tanjira
(5 ต.ค. 2567 14:56:52 น.)
ถ้าเธอจะวัดความประณีตในตัวเธอ "เธอต้องมาทำเวิรค์ช็อปขนมไทยที่ ชุมชนพูนบำเพ็ญ(บางแวก116)" peaceplay
(2 ต.ค. 2567 01:31:56 น.)
ถนนสายนี้มีตะพาบ ประจำหลักกิโลเมตรที่ 361 : บล็อกแรกที่เขียน The Kop Civil
(2 ต.ค. 2567 11:04:57 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณตะลีกีปัส, คุณnonnoiGiwGiw, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณกะว่าก๋า, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณThe Kop Civil, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณtoor36, คุณSweet_pills, คุณหอมกร, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณNENE77, คุณชีริว, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณเริงฤดีนะ, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณเนินน้ำ, คุณtanjira, คุณkae+aoe, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณkatoy

  
สวัสดีมีสุขค่ะ

ซับซ้อน แต่ไม่ซ๋อนเงื่อนค่ะ
เคลียร์ได้เจ็บปวดหัวใจ คนอ่านยังอึ้งเลยค่ะ
ถ้าหญิงได้ยิน จะเป็นอย่างไร นะคะ
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 8 กันยายน 2566 เวลา:19:08:13 น.
  
เรื่องนี้เอาไปทำละครได้เลย..
แต่ไม่มีพระเอกกับนางเอกนะ
มีแต่คู่หมาบ้ากับเดอะแก้งค์ลิ่วล้อ

อีพี่ยุทธนี่ก้อจะมาตกใจอะไร
กะอีแค่เมียบอกว่าชอบคนอื่น..
ไม่ใช่ว่ารู้ตั้งแต่แรกแล้วหรอ..

ส่วนเมียอีพี่ยุทธนี่ก็อาการหนักนะ
ยังไม่ได้โดนสกิลอ่อยขั้นเทพของชายปริ๊นซ์
ยังเป็นได้ถึงขนาดนี้ ถ้าโดนดีๆนี่
ไม่ฆ่าตัวตายไปเลยรึ..

สรุปคือคู่ผัวเมียผีบ้า
ทำชีวิตคนอื่นเขาวุ่นวายไปหมด

ว่าแต่สมัยเรียนมหาลัยพี่ก็มีนะ
พับดาวใส่โถให้ผู้หนึ่งคนถ้วน
สงสัยป่านนี้โดนเอาไปเผาแล้วมั๊งนะ555

ปล. วันหยุดก็พักผ่อนบ้าง
ป่วยก็ยังมีแรงเขียนบล็อกนะเราอ่ะ
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 8 กันยายน 2566 เวลา:19:48:09 น.
  
ปริ้นเป็นคนเล่าเรื่องสนุกมากจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 8 กันยายน 2566 เวลา:20:54:55 น.
  
เธอรักฉัน
ฉันไม่รักเธอ
เธอไม่รักเขา

รักแบบนี้เจ็บปวดนะครับ
มีอย่างน้อยสองคนที่เจ็บปวดมากๆ
ส่วนคนที่อยู่ตรงกลางแบบน้องปริ๊นซ์
ก็ต้องรับแรงผลักมหาศาลเลย

แถมกลายเป็นเรื่องราวที่ทำให้เพื่อนแยกเป็นกลุ่ม
เพราะความเข้าใจผิด

รักที่ไม่ใช่
ทำยังไงก็ไม่มีทางไปด้วยกันได้จริงๆครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กันยายน 2566 เวลา:21:25:26 น.
  
ปากร้ายนะเรานะ ผมไม่ได้เนื้อหอมแบบนี้เลยไม่เจอบแบบนี้ อีกอย่างผมมันสายชิ่งด้วย เจอแบบนี้พูดไม่ออกครับ เป็นผมก็อาจจะทำแบบเดียวกัน แต่ดูทรงแล้วที่โทรมากะว่าเราเต็มที่ แต่เจอสวนกลับก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน

แต่มันดูเน้นไปจริงๆ ประมาณว่า ทิ้งแล้วใช่มั้ย? เหมือนหวังคำตอบว่า ทิ้งไม่ลงอะไรประมาณนั้น เจอบอกเผาทิ้งไปแล้วก็อึ้งดิครับ โหดร้ายไปหน่อย เอาน่าเรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว จริงๆ แล้วอายุก็ 20 กว่าอัปกันทั้งนั้นรวมหัวกันแบนนี่พฤติกรรมเด็กจริงๆ แหละ
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 8 กันยายน 2566 เวลา:23:09:24 น.
  
สวัสดีครับน้องปริ๊นซ
ความรักเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก พูดยากจริง ๆ นี่ยังดีที่น้องปริ๊นซ์เคลียร์กันจบ ๆ ไปนะ พี่อ่านจนจบเอาไปสร้างเป็นละคร คลับฟรายเดย์ได้เลยนะนี่
จากบล็อก
แถวสงขลาพี่ชอบบรรยากาศนะ นี่ว่าจะกลับไปอีกครั้งนึง
โดย: The Kop Civil วันที่: 8 กันยายน 2566 เวลา:23:29:09 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กันยายน 2566 เวลา:5:35:23 น.
  
สวัสดียามสายค่ะ น้องปริ๊นซ์

อ่านจบพร้อมกับถอนหายใจยาววววว
แค่พี่ยุทธเข้าใจ พี่ถือว่าเรื่องจบด้วยดีแล้ว
ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ทำให้เราได้รู้จักคนอีกหลายแบบนะ
หลังจากนี้ ปริ๊นซ์จะได้รับมือกับคนแต่ละประเภทถูก
รู้ว่าใครมาแบบไหน แสดงออกให้ชัดเจนไปเลย

แต่สมัยนี้ผู้ชาย ผู้หญิง ร้ายๆมีเยอะค่ะ
รู้ว่าเค้ามีแฟนแล้ว กูก็จะเอา ไร้ยางอายค่ะ
โตกันมาแบบไหนน้อออออ


จากบล็อก

ตอนเห็น2ขีด ใจคิดเป็น นน.พี่ขึ้น2โลใช่ป่ะ 5555
พี่ยังว่า เออ..ตรูผ่านวันไหว้มาได้แบบสวยงามนะเนี่ย
โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 9 กันยายน 2566 เวลา:9:03:39 น.
  
คิดอยู่ตั้งแต่ตอนแรกๆ แล้วว่ามันต้องจบไม่สวยแบบนี้ จริงๆ รู้สึกว่ารุนแรงแต่น่าจะเป็นในด้านความรู้สึกมากกว่า ดีแล้วที่ไม่มีการชกกัน

โลกเรามันก็แบบนี้แหละ
โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 9 กันยายน 2566 เวลา:17:11:37 น.
  
นึกว่ากำลังอ่านนิยายอยู่
ความรู้สึกคนมันซับซ้อน ความรู้สึกบางทีมันห้ามยากนะน้อง

แต่อ่านแล้วมีนอยด์นิดนึงอ่ะ ไม่สวยโปรไฟล์ไม่ดีไม่มีสิทธ์ลยหรา ถามจริ๊ง
อันนี้พูดในกรณีที่ถ้าต่างไม่มีใครทั้งคู่ แล้วไม่สวยแต่ญนิสัยดี นิสัยน่ารักไรงี้

แต่ญที่เล่านี่ก็นะ หวั่นไหวง่ายเกิ๊น ทั้งที่ก็มีคนของตัวเองอยู่แท้ๆ
คนไม่สวยไม่ผิดนะ ใครก็อยากสวยอยากดูดีทั้งนั่นแหละน่า แหม่
เข้าใจว่าคนเราเลือกได้ถ้ามีมาให้เลือกน่ะนะ แต่ญผิดที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ
โดย: NENE77 วันที่: 9 กันยายน 2566 เวลา:21:48:58 น.
  
ต้นนี้มันขึ้นเองด้วยครับ
คล้ายๆจะเป็นดอกผักบุ้งเลย
พี่ก๋าก็เรียกไม่ถูก

สติ
เป็นสิ่งสำคัญจริงๆครับ
หลายวิกฤตในชีวิต
ที่พี่ก๋าต้องใช้สติในการตัดสินใจ
ถ้าตอนนั้นมัวแต่กลัว กังวล เสียใจ สัยสน
สติก็คงไม่มีแน่ๆครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กันยายน 2566 เวลา:14:44:01 น.
  
มาถึงตอน 4 แล้วนะครับเนี่ย ผมไม่ค่อยได้เข้าบล็อกเลย
ก่อนื่นขออวยพรให้หายป่วยไวๆ ครับ เอ๊ะ หรือว่าหายแล้ว?

พวงกุญแจตัว P = พีจัง เอ้ย! Prince เท่ดีออกครับ ดูมีความตั้งใจหาให้
แต่ของแถมอื่นนี่เป็นผมคงทิ้งไม่ลง ยังไงก็เป็นความทรงจำ ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งล้ำค่า
ฟีลฮาวทูทิ้งมาเลยครับ ชอบไม่ชอบกุเก็บหมด! งก 555

เมมเบอร์ว่าพี่ยุทธ MK นี่คือพี่ทำงาน MK หรือมีความหมายอื่น 555
โดย: ชีริว วันที่: 10 กันยายน 2566 เวลา:15:04:35 น.
  
สวัสดี จ้ะ น้องปริ๊นซ์

อ่านซีรี่ย์ 4 ตอนจบแล้ว ต้องถอนหายใจยาว ๆ คำหยาบ คำ
ไม่น่าใช้ เธอก็ใช้ชะหมดเลย ซึ่งครูเห็นว่า ไม่เหมาะสมนะ แต่มาคิด
อีกที ด้วยวัยเธอในขณะนั้น (ยี่สิบกว่า ๆ) ก็คงมีอารมณ์โกรธรุนแรง
อันเป็นเรื่องธรรมดา เธอเองบอกว่าหน้าตาดี โปรไฟล์ ดี รวย เรียก
ว่าเพอร์เฟคไปหมด ไม่มองหญิงที่ไม่สวย ฯลฯ ถือเป็นความหลงอย่างหนึ่งของเธอในวัยวัยนั้น คนไม่สวยก็มีหัวใจและเป็นคนดี ก็มีมากมาย ซึ่งเป็นถ้อยคำที่สุภาพบุรุษไม่ควรพูดโดยเฉพาะพูดกับสามีของเธอด้วย
อ่านเม้นท์ในบล็อกนี้ บางคนก็แสดงอาการดุเดือดจัง อ่านแล้ว
ควรมองคนในสองด้าน ที่จริงเธอเองก็มีส่วนทำให้ผู้หญิงเข้าใจผิด
คิดเข้าข้างตัวเอง นั่นก็คือ เธอไม่แสดงออกให้ชัดแจ้งตั้งแต่ต้นว่า
ฉันไม่ได้สนใจเธอนะ ด้วยความเฟรนลี่ของเธออีกส่วนหนึ่งด้วย นั่น
แหละ จ้ะ ครูพูดวิเคราะห์อย่างตรงไปตรงมานะ
ส่วนหญิง นั้น น่าสงสารนะ ที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ปล่อยให้
อำนาจความรัก ความหลงเข้าครอบงำ จนถูกมองว่าไร้ค่า ไร้ความ
เป็นกุลสตรี ไม่มีศักดิ์ศรี ด้วยวัยของเขา ด้วยกรรมของเขา เขาจึง
ถูกประนาม ที่จริง ความรักเป็นสิ่งสวยงาม มีคนมารักเรา ดีกว่ามี
คนเกลียดเรา เพียงแต่ผู้ถูกรักนั้น ต้องทำตัวให้ชัดเจน พูดตรง ๆ
ไปเลย แสดงออกให้ชัดเจนว่า ถึงอย่างไรก็ตามฉันก็ไม่มีวันรักเธอ
ปัญหาต่าง ๆ ก็จะทำให้เขาไม่มีหวัง
คุณพี่ยุทธเธอก็น่าสงสาร ความรักทำให้เขาอภัยได้ทุกอย่าง ความเข้มแข็งของเขามีน้อยเกินไป มันก็พูดยากนะ เรื่อง
ของความรัก มันเป็นอารมณ์ ถ้าไม่รู้จักควบคุม ไม่รู้จักตั้งสติ ก็จะ
ต้องตกอยู่ในลักษณะอย่างพี่ยุทธ จ้ะ
โหวดหมวด บันทึกประสบการณ์ชีวิต
โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 10 กันยายน 2566 เวลา:20:40:18 น.
  
ขอบคุณน้องปริ๊นซ์ที่แวะชมเมนูบ้านพี่ต๋านะคะ
เดี๋ยวพี่ต๋ามาใหม่ค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 11 กันยายน 2566 เวลา:1:08:08 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 กันยายน 2566 เวลา:5:28:40 น.
  
โห มีคนแอบรักมาก ฮือ ๆ ทำไมเราไม่มีบ้าง 555
....

LC ในวงการค้าแบบสั่งผลิตสินค้าล่วงหน้าครั้งละหลายล้านบาท
คนจะสั่งผลิตติต่ต่อธนาคารที่เป็นลูกค้ามานาน ขอออก LC แบงค์
จะออกหนังสือรับรองที่ว่า โดยเขาได้รับค่า Fee ทำนองเงินกู้
เป็นวงเงิน OD... เขาส่งให้ผม ๆ ต้องการเงินไปซือวัตถุดิบมาผลิตครั้งละเยอะ ๆ ก็นำไป ขอกู้ชนิด แพคกิ้งเครดิต.

ก่อนจ่ายธนาคารในไทย กับ ญี่ปุ่นหรือที่อื่นเขาติดต่อกันเอง
ว่าลกค้าแต่ละฝ่ายเชื่อถือได้.. ธนาคารไทยจึงจะปล่อยเงิน
ให้ผมทีละก้อน แน่นอนเขาคิดค่าธรรมเนียมด้วย

เท่ากับธนาคารต่างเช็คกัน... เวลาผมชิปของลงเรือหรือ
ส่งได้ใบเอกสารมาก็นำไปเคลียที่ธนาคาร จนได้เงินหมดใช้
เวลาหลายเดือนในการผลิต

...
ถ้าจะส่งเงิน ไปจ่ายค่าสินค้าบางส่วนแหะ ๆ ก็ไปแถวถนน
การเงิน นำเงินสดไปหาที่แลกเปลี่ยนเขาเห็นหน้าก็ พยักหน้าเปิดประตูขึ้นไปติดต่อข้างบน บอกเบอร์บัญชีทางโน้นไป
เขาจิ้มเครื่องคิดเลข มีข้อความตัวเลขต่าง ๆ แต่ไม่มีเลขบัญชี
นะครับ เราก็รับแล้วเดินกลับ ไม่มีลายเซ็นใด ๆ เป็นเศษกระดาษเครื่องคิดเลข

ครึ่ง ชมหรือกว่านั้น คนขายของก็โทรหรือแจ้งจีเมลมา
ว่ารับแล้วนะ

ผมเห็นแบบนี้เรียกว่า โพยก๊วน.. เคยรู้เมื่อสิบกว่าปีมานี้แบบ
นี้เสี่ยงครับ

ทั้งสองอย่าง ตอนที่เป็นนักศึกษาไม่มีการสอนละเอียดแบบนี้
เป็นการเรียนรู้ "นอกตำรา" ครับ
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 11 กันยายน 2566 เวลา:8:17:33 น.
  
ต้องตั้งชื่อว่า ความทุกข์ของคนหน่้าตาดี 555

โดย: หอมกร วันที่: 11 กันยายน 2566 เวลา:12:23:28 น.
  
มาทักทายค่ะ
ช่วงนี้คนที่รู้จักป่วยกันหลายคนเลย ขอให้หายไว ๆ สุขภาพแข็งแรงนะคะ
พี่น้ำขับเกียร์กระปุกได้ พี่ก็ขับได้นะ งั้นขอเท่ด้วยคน อิอิ...
อ่านจนจบแล้วหญิงก็น่าสงสารนะ รักคนที่เขาไม่รักเรา ไม่สวยก็แย่แล้วแต่มันแย่กว่าตรงนิสัยไม่ดีนี่แหละ
แล้วก็ยินดีกับน้องปริ๊นซ์ด้วยนะคะ ได้แฟนดีมากค่ะ
โดย: เนินน้ำ วันที่: 11 กันยายน 2566 เวลา:20:53:42 น.
  
นิพพานไกลมั้ย ?
อันนี้ตอบยากมากครับ
บางคนก็ว่าใกล้ บางคนก็ว่าไกล

เหมือนถามว่าธรรมะยากมั้ย ?
บางคนก็ว่าง่าย บางคนก็ว่ายากนี่ล่ะครับ 555

กิเลสนี่ใครก็มี
พี่ก๋าก็มีครับ
เพียงแต่ก็อยากให้มันบางเบาลงเรื่อยๆ
กำลังฝึกอยู่ ฝึกต่อ และฝึกไปเรื่อยๆครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 กันยายน 2566 เวลา:21:36:42 น.
  
สวัสดี ยามดึก จ้ะ น้องปริ๊นซ์

วันนี้ไปประชุมกับชมรมครูเก่า เรื่องจัดงานสังสรรค์และรับน้องใหม่
เกษียณปีนี้ จ้ะ กลับถึงบ้านหิว กินบะจ่างไป 1 ลูก บ่าย ๆ เลยง่วง
เป็นพิเศษหลับซิจ๊ะ คนว่างงาน อิอิ

ตื่น เพราะมีลูกศิษย์โทรหา คุยเป็นชั่วโมง ต่อด้วยพี่อีกคนโทรหา โห ! วันนี้ขายดี จ้ะ กว่าจะได้กินมื้อเย็น สองทุ่ม จ้ะ แล้วก็มาอ่านบล็อกเธอที่ตอบครู ขอบใจนะ ที่ชอบคำวิเคราะห์ วิจารณ์เธอ และชอบที่ครูเขียนตรง ๆ เธอ ที่จริง ครูก็ไม่ใช่เที่ยวไป
วิเคราะห์วิจารณ์คนอื่นหรอกนะ ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้าไปแนะนำ จำได้
ว่า เธอเคยบอกครูว่า ครูพูดและแนะเธอได้ เธอชอบ อีกอย่างครู
ก็เชื่อว่า สิ่งที่ครูเขียนนั้น จะเป็นประโยชน์ต่อเธอ เป็นความหวังดี
ครูเห็นในคอมเม้นท์ของเพื่อน ๆ แทบทุกคนเห็นชอบเรื่องที่เธอทำ
บางคนก็เป็นผู้ใหญ่ที่พูดกลาง ๆ แหย่ ๆ รูปหล่อเลือกได้ ไม่เห็น
มีคนบอกเธอเลยว่า บางอย่างที่เธอเขียน เธอสบถออกมา มันไม่
เหมาะนะ อะไรประมาณนั้น คงมีครูคนเดียวแหละที่เขียนตรง ๆ ถูก
ก็ว่าถูก ผิดก็ว่าผิด แต่ผิดเพราะเรื่องวัยในขณะนั้น แต่ตอนนี้เธอ
เป็นผู้ใหญ่แล้ว ขึ้นเลข 3 มีครอบครัว มีงานที่ต้องรับผิดชอบสูง
จึงต้องระวัง วางตัว เนาะ
ขอบใจนะ ที่ชอบครูแนะนำไป จ้ะ
โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 11 กันยายน 2566 เวลา:21:53:05 น.
  
เหตุการ์ณที่น้องปริ๊นซ์เจอขณะเรียน ป.โท
ต้องอยู่ในบรรยากาศของกลุ่มคนที่ปฏิบัติต่อเราแบบนั้น
เป็นช่วงเวลาที่ไม่มีอะไรมาทดแทนได้เลย
เมื่อรู้ความจริงแล้วน้องปริ๊นซ์โกรธมากเข้าใจเลยค่ะ

แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปแล้วนะคะ
ที่สำคัญน้องพลอยเข้าใจและอยู่เคียงข้างน้องปรินซ์ในทุกช่วงเวลา
มีความสุขในปัจจุบัน
รักษาสุขภาพมากๆค่ะน้องปริ๊นซ์

โดย: Sweet_pills วันที่: 11 กันยายน 2566 เวลา:23:16:25 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 กันยายน 2566 เวลา:4:45:09 น.
  
วัยรุ่นว้าวุ่นเป็นเรื่องเข้าใจได้ค่ะ
มองย้อนกลับไปก็จะเห็นว่าเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง
มีอะไรพูดกันตรง ๆ ก็รู้เรื่องไปนานแล้วเนอะ
ดีที่ไม่มีอะไรรุนแรงถึงขั้นเลือดตกยางออก

-----------------

L-Carnitine นี่เป็นของคนไหมครับ >> ใช่ค่ะ
แต่หมอแมวแนะนำให้แมวกินตัวนี้เลยค่ะ

เรื่องหมาแมวกับคนเลี้ยงนี่บางทีก็มีอะไรแปลก ๆ เหมือนกันนะคะ
เคยสังเกตไหมว่า คนเลี้ยงกับหมาแมวที่เลี้ยงมักมีอะไรคล้าย ๆ กัน
บางคนคล้ายทั้งหน้าตาและนิสัยใจคอด้วยนะ 555

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 12 กันยายน 2566 เวลา:11:51:19 น.
  

ที่หญิงมาหา และ เอาของมาให้
ไม่ให้บอกแฟน..
อันนั้นเป็นหายนะ..ทีเดียวเชียว
สำหรับความสัมพันธ์ฟากกะโน้น..


แต่พี่ยุทธ กับหญิงก็ประมาณคู่เวรคู่กรรม
ตัดใจเสียแต่แรกก็จบ
อย่างที่N' Prince ว่า..
ไม่เอา .หาใหม่น่าจะดีกว่า

ตกนรกไปชั่วกลัปชั่วกัล..
คือถึงไม่มี N'Prince..ต่อไปหญิงก็คงไปได้ปลื่มหนุ่มคนอื่น
ที่ผ่านมาในชีวิตเธอ..ต่อไปและต่อไป

ด้วยพี่ยุทธเป็นของที่เธอรู่สึกว่าเหนือกว่า
เป็นของตาย

กรรมของทั้ง 2 ที่ชีวิตจะไม่เป็นสุข

ถึงไม่มี



ตอนนี้พี่อ้อเหลือตาข้างเดียว
คืออีกตามัวๆอยู่
หลับตาขวาจิ้มมือถือด้ววตาซ้ายไปก่อน
ผลัดมาแต่เมื่อวาน..ที่ทิ้งVoteไว้
โดยไม่ได้เมนท์

โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 13 กันยายน 2566 เวลา:4:48:23 น.
  
สวัสดีค่ะน้องปริ๊น

น้องป่วยบ่อยเป็นพี่สมัยก่อนเลยค่ะ ป่วยบ่อยมากแบบน้องปริ๊นเลย
ป่วยจนเบื่อ แต่ก็ต้องอยู่กับความป่วยไข้ของเราไปให้ได้
แบบป่วยไปทำงานไปแบบนี้เลยค่ะ ยังน้องก็ดูแลตัวเองเยอะๆ
พักผ่อนให้มากๆถ้ามีเวลานะคะ ...

ส่วนพี่ช่วงนี้รู้สึกขี้เกียจมากเลยค่ะ เลื่อนนัดการพบหมอของแม่ที่ศิริราช
เมื่อวานเลื่อนนัดหมอของตัวพี่เอง ขี้เกียจขับรถ ขี้เกียจออกจากบ้านค่ะ
ฝนฟ้าก็ตกด้วย แต่ว่ายาที่ต้องกินคือยังมีอยู่ค่ะ เลยขอเลื่อนได้
มันคงเหนื่อยต่อเนื่องมาจากที่แม่ล้ม แม่ป่วย นั่นแหละค่ะ

อ่าน EP สุดท้ายแล้วของขึ้นนะคะ
คนอะไรจะขนาดนี้ อิห่านเอ๋ยยยย คงคิดว่าน้องจะใจดีมั้ง
ทำเป็นพูดนั่นนี่โน่น น่ารำคาญเนาะ แล้วผช ก็จะรักอะไรขนาดนั้น
แต่สุดท้ายนะน้อง เขาสองคนคงทำเวรกรรมร่วมกันมาเลยต้องมาเป็นแบบนี้
รักกันทั้งๆที่มีความทุกข์ ไม่มีใครสามารถก้าวผ่านกรรมที่ร่วมก่อกันมาได้ทั้งคู่
จนกว่าเขาทั้งคู่จะหมดเวรหมดกรรมต่อกันนั่นแหละค่ะ ....

อ่านจบหมดเวลา คุยได้แป๊ปเดียวเอง ไว้พี่มาคุยใหม่นะคะ
เรื่องพี่ป่านกะหนูดาริญ

ดูแลตัวเองดีดีด้วยนะครับ
โดย: tanjira วันที่: 13 กันยายน 2566 เวลา:7:33:27 น.
  
สวัสดียามบ่ายค่ะ น้องปริ๊นซ์


จริงเนอะ เด็กๆไม่มีอีโก้เหมือนคนโต
เจอกัน คุยกัน ก็เล่นกันได้เลย

ทุกวันนี้เค้า2คนยังอยู่ด้วยกันเหรอคะ
พี่นึกว่าเลิกกันไปแล้ว งั้นก็คู่เวรคู่กรรมกันที่แท้ทรู
ถูกแล้วค่ะน้อง เลี่ยงได้เลี่ยง อย่าไปพบปะกันดีที่สุดค่ะ

อาการป่วยเป็นยังไงบ้างคะ
นี่ฝนตกชวนป่วยทุกวันเลยค่ะ
พี่ก็ลุ้นตัวเองอยู่จะเกมวันไหน 55555

โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 13 กันยายน 2566 เวลา:13:05:25 น.
  
ทหารยุ่งการเมืองมันดเลยพังไปกันหมด ตอนนี้ภาพลักษณ์ทหารก็แย่ไปด้วย
โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 14 กันยายน 2566 เวลา:21:41:10 น.
  
สวัสดีคะคุณน้องปริ๊นซ์..

เขียนสนุกดี อ่านเพลินเลย..

โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 15 กันยายน 2566 เวลา:8:55:23 น.
  
สวัสดีค่ะน้องปริ๊น

อาการเป็นยังไงบ้างคะ ?

ช่วงนี้ฝนฟ้าตกแทบทุกวันเลยนะคะ ต้องดูแลอย่าให้โดนละอองฝนค่ะ
อาการหอบมันจะถามหานะคะ ส่วนพี่ฝนมาก็ไม่ออกจากบ้านค่ะ

ช่วงนี้ที่จังหวัดจัดงานส้มโอ พอเต็นท์มาตั้ง ฝนก็เทลงมาทุกวันเลยค่ะ
สงสารแม่ค้าค่ะ ค่าที่แพง ขายไม่ได้มาก แต่พี่เองก็ไม่เคยไปเดินงานเลยนะคะ
ไม่ว่าจังหวัดจะจัดงานอะไร เพราะมันก็จะเหมือนๆกันแหละค่ะ คาราวานสินค้าเดิมๆ
เราก็ไม่เคยซื้อมาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ เลยไม่รู้จะไปเดินทำไม

แล้วจะมาพูดว่าสงสารแม่ค้า 555 ทั้งๆที่ตัวเองไม่เคยจะไปอุดหนุนเนาะ


ดูแลสุขภาพนะคะน้องปริ๊นนน แข็งแรงๆครับ
โดย: tanjira วันที่: 18 กันยายน 2566 เวลา:7:26:55 น.
  
สวัสดียามสายค่ะ น้องปริ๊นซ์

ฮาโหลลลลล ก๊อกก๊อก
โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 19 กันยายน 2566 เวลา:10:05:11 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Threepopstory.BlogGang.com

BlogGang Popular Award#20



จันทราน็อคเทิร์น
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]

บทความทั้งหมด