ศีล 5 รักษา(ยาก) ซักบ้าง


ขอขั้นจังหวะทริปเที่ยวเชียงใหม่นิดนึงครับ 
เนื่องจากทำรูปไม่เส็ด และยังเรียบเรียงเนื้อหาไม่เรียบร้อยครับ
แถมกลัวเพื่อนๆ จะเบื่อทริปเที่ยวใสๆ เลยของั้นด้วยหัวข้อร้ายๆ กันบ้าง




วันนี้เหมือนจะมาแนวธรรมะธัมโม
แต่แน่นอน คนเทาๆ ทำบุญ 3 ทำบาป 4 อย่างผม คงไม่ได้มาดีแน่นอน




เนื่องจากที่บ้านเพิ่งมีงานบุญ
จังหวะที่รับศีล 5  ก็ท่องมาเรื่อยๆ ไม่ได้ว่าอะไร
จนพอมาถึงข้อ
"มุสาวาทา"  ผมก็มีความคิดว่า
กุจะรับดีไหมวะ....รับวันนี้ พรุ่งนี้กุก็ผิดศีลแล้ว
เพราะอะไรน่ะหรอครับ เพราะเนี้ย...แค่คิดก็คิดเป็นคำหยาบแล้ว555
และด้วยงานการ ต้องมีจังหวะพูดเรื่องไม่จริง หรือพูดจริงไม่หมดบ่อยมาก
พูดสุภาพมันคือสกิลการเอาตัวรอดน่ะครับ พูดจริงๆ มันคือจังหวะกะล่อน
ซึ่งนายก็ต้องรับสภาพว่า แม้แต่กับนายพวกชั่วโมงบินสูงก็เชื่อไม่ค่อยได้


คิดเรื่องอทินนามาปั้บ ก็เจอโจทย์อย่าง
สุราเมระยะ......
ที่ถึงตรงนี้ผมพูดในใจเลยว่า "จะลองเอาซักเดือนนึงดีไหมครับ  สาธุ"
สาบานเลยว่าไม่เคยคิดว่า่จะพูดเรื่องแบบนี้ออกมาเลยครับ
เพราะรู้ว่า "ทำยาก"  ก็ด้วยงานด้วยนี่แหละครับ
ถึงจะไม่ได้เป็นเด็กเอ็นฯ ตัวท้อป แต่งานดื่มก็เข้าไม่ค่อยขาดเหมือนกัน 
และยิ่งเป็นผู้ชายก็แทบเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องดื่ม
แต่ด้วยอยู่ๆ ก็เกิดอะไรไม่ค่อยปกติกับร่างกายซักหน่อย
ตอนนี้เลยพยายามจะเลี่ยงครับ 
เอาวะ! อย่างน้อยๆ บอกพระบอกเจ้าไว้ก่อนก็ยังดี







แต่ไม่ทันขาดคำ.....เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา 
ผมที่ถูกสั่งงดออกนอกสถานที่ก็ต้องไปเจรจางานที่ไซต์ใกล้ๆ แทนพี่โฟล์ค
และต้องติดสอยห้อยตามไปกินข้าวด้วยตอนเย็น 
แต่ไม่ต้องห่วงครับ เพราะมีคนห่วงผมไว้ก่อนแล้ว 55555
ไนท์ไม่เอารถตัวเองไป แล้วมาขับรถผมให้แทน
พอไปถึงร้าน ก็เรียกน้ำเปล่ามาตั้งไว้ก่อนเลยครับ จะได้ไม่มีใครเทอะไรใส่แก้ว
2 ข้างของผมมีพัทกับไนท์ประกอบคนละข้าง
แต่ลูกค้าก็มือไว้ หาแก้วใหม่มาจนได้ ก่อนจะถามว่า "เอาเบียร์อะไรกันดี"
จังหวะนั้นไนท์หันไปมองหน้าพัท แล้วยกมือเหมือนห้ามว่า "เมิงไม่ต้องพูด"
"อะไรก็ได้ครับ แต่พวกผมขอ 3 คนขวดเดียวพอนะ"
"เฮ้ยยย จริงหรอ ไว้เอาเพิ่มก็สั่งเลยนะ"   ลูกค้าตอบไนท์พร้อมเส่งขวดเบียร์มาให้
ไนท์เทให้ตัวเองคนเดียว แล้วตั้งขวดเบียร์ไว้ข้างๆ 


ว่าแล้ว ผมยังไม่ทันได้ตัดอาหารซักอย่างเข้าปาก
ลูกค้าก็เริ่มบรรเลงยิงคำถามใส่ผมรัวๆ 
"คุณคิดว่าโฟล์คหัวหน้าใหม่ของคุณเป็นยังไง"
"โอเคครับ พี่เค้าดีเหมือนที่คิดไว้ครับ"
"แล้วมันมีไหมที่แนวทางก็เค้ากับของคุณจะไม่ตรงกัน เพราะคุณก็คุมทุกอย่าง"
"ผมว่ามันไม่มีแนวทางไหนที่ถูกหรือผิดหรอกครับ ทุกอย่างขึ้นกับสถานการณ์"
"คุณคิดว่าคุณจะทำงานกับโฟล์คยังไง"




......ยิงกุรัวเป็น M16 เลยนะเมิง.....
ผมที่สมองทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน นี่ถึงกับรู้สึก RAM ไม่พอ
จนผมต้องเอียงหน้าไปหาไนท์ ซึ่งไนท์ก็รีบเอียงหูมาให้
"พี่ว่าพี่ต้องได้ซักแก้วว่ะ ไม่งั้นพี่ไม่ลื่น"
"เอาไหม เอาจริงหรอ" 
"...เท..."  ไนท์รีบหันไปหยิบแก้วแล้วเทเบียร์ให้ผม 1 แก้ว ยัดใส่มือ


ผมก็กระดกไปก่อนเลยครึ่งแก้ว แบบท้องว่างๆ 
ส่วนไนท์ก็รินเบียร์ตามมาอีกให้เต็มแก้ว
"ไนท์...."  เสียงพัทเรียก แล้วส่ายหน้าใส่พัท เหมือนจะบอกว่าให้พอ
ส่วนไนท์ก็ยกนิ้วว่า แก้วเดียวไง ไม่เติมแล้ว 






แต่...
ให้ตายเถอะ....ครึ่งแก้วมันจะได้อะไร ผมยังไม่รู้สึกอะไรเลย
เลยคุยไปยกไป จนหมดไปอีกครึ่งแก้ว 
"โฟล์ครู้ไหม ปริ๊นซ์นี่เป็นดังอยู่นะ หลายคนรู้จักเค้า คุณรู้จังเค้ามาก่อนรึป่าว" ลูกค้าพูด
"เคยเจอครับ" พี่โฟล์คพูดหน้าเจื่อนๆ เพราะเค้าจำผมไม่ได้ 5555 ผมเลยตอบต่อ
"พี่โฟล์คเป็นคนดังครับ ผมรู้จักเค้ามาก่อน เพราะเราอยู่วงการเดียวกัน
เจนเนอร์เจชั่นผมมันจำเป็นครับที่ต้องรู้จักตัวท้อประดับบนครับ"

ส่วนลูกค้าก็พยักหน้า แล้วเริ่มถามต่อ


"แล้วโฟล์คจะช่วยอะไรงานคุณยังไงบ้าง"
ผมเห็นเลยว่าพี่โฟล์คหน้าเสียแปลกๆ ส่วนลูกค้าน่าจะเมา
"ผมอยู่บริษัทนี้มาเกือบ 10 ปีแล้ว vission ของผมกว้างที่สุดก็ในบริษัทนี้
และมันเป็นเรื่องที่ดีมากครับที่มีพี่โฟล์คมา เพราะผมจะได้มองใน Vission ของพี่โฟล์คด้วย"

พี่โฟล์คไม่ได้แค่ก้มหัวเบาๆ ส่วนลูกค้าก็กอดอกแล้วหยักหน้า



ไม่ได้แล้วกุมันยิงกูพรุนแน่นอน ผมเลยต้องลุกยืนละครับ

"Cheers for the business"
จับชนแม่งซะให้รอบวง!!! ไม่งั้นกุต๊าย!!!
ผมกระดกหมดแก้ว  แล้ววางลงบนโต๊ะ 
ส่วนลูกค้าก็ฮาเฮเทเบียร์ลงมาให้ผมอีกแก้วนึง 
จังหวะนี้คนที่นั่งทนจิบเบียร์เบา ๆ แบบแทบไม่พร่องอย่างพัท
ก็จับแก้วตัวเองกระดกหมดแก้ว ก่อนจะเอื้อมมาหยิบแก้วผมไปไว้ที่ตัวเอง
แล้วนั่งกอดอกเงียบๆ พร้อมเขย่าขาเบา ดูก็รู้ว่าไอ่พัทกำลังใช้ความคิดอยู่




ทำไมพัทถึงท่าทางแปลก ๆน่ะหรอครับ
และทำไมพวกผม 3 คนถึงบอกว่า 3 คน กินแค่ 1 ขวดพอนะ




ต้องเล่าย้อนไปตั้งแต่ก่อนคริสมาส
ทีมงานผมไปปาร์ตี้ ที่บ้านประธานบริษัทของลูกค้า
มีทีมงานของผม 5 คน ลูกค้าอีก 4-5 คน  วันนั้นดื่มกันหนักมาก
พองานเลิกซัก 4 ทุ่มผมกับพี่ ผจก ขอตัวกลับก่อน เพราะมีประชุมเช้า
ส่วนคนอื่นๆ ไปต่อกันที่ผับแถวๆ นั้น
ซักเที่ยงคืน ไนท์ก็แท็กสตอร์รี่ในเฟซบุ๊คผมมา เป็นรูปพัทหลับฟุบอยู่กับโต๊ะ
ผมตื่นมาเห็นตอนตี 3 ก็รับแท็กแล้วตอบไปขำ ๆ 
"ไหนบอกกุว่าเบาๆ เช้ามันจะไหวไหม"
นอกจากเฟซบุ๊ค ผมก็เห็นว่า อ้าว มีสายเข้าตอนตี 2 จากไนท์
แต่คิดว่ามันคงโทรมาบอกว่า กลับบ้านแล้ว เพราะเป็นเวลาร้านปิด


เช้ามาผมไปอาบน้ำ แล้วด้วยอะไรไม่รู้ก็คิดว่า 'ไม่ใช่ไอ่พัทรถชนละ...'
สาบานเลยว่าอยู่ๆ ก็คิดแบบนั้น แล้วแป๊บเดียวครับ มือถือดัง
ผมที่อาบน้ำเส็ดพอดีก็รีบมารับ คนที่โทรมาคือไนท์
ผมถามมันคำแรกเลยว่า "มีอะไรป่ะเนี้ย"  ถามเสียงจริงจังเลยครับ
ไนท์มันก็เสียงแย่ๆ เหมือนแฮ้งแล้วเสียแหบ หรืออดนอน อะไรซักอย่าง
มันอึกๆอักๆ ซักพัก จนผมถามซ้ำ "เมิงมีอะไร" มันถึงได้บอกว่า
"เมื่อคืนพัทรถชนยับเลยนะพี่"   



 โอ้โห!!!  กุว่าแล้ว!!!
จากนั้นก็มีไลน์เข้าจากพัท โดนส่งรูปรถตัวเองที่พังยับเยินมาให้ดู
พร้อมข้อความว่า "ขอโทษนะครับพี่ วันนี้คงไม่ได้เข้าไปช่วยหน้างานนะ ถ้าไปได้จะไป"







เกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้น......
คืนนั้นพวกมันก็กลับกันตอนร้านปิดนั่นแหละครับ โดนพัทเมาแบบเพื่อนต้องหิ้ว
พอกลับมาเอารถ เจมส์แยกกลับไปอีกทาง ส่วนไนท์ขับนำพัทกลับมา
ขับมาซักพัก พัทขอจอดอ้วกข้างทาง ไนท์ก็ลงไปจับล้างหน้าจับยืนซักพักว่าไหวไหม
พัทบอกว่าไหวแล้วต่างคนต่างขึ้นรถ ซึ่งไนท์มันก็ขับนำทางออกมา
อยู่ ๆ มันก็ได้ยินเสียงดัง
ปัง!!!!!! ปัง!!!!!! สองครั้งติดๆ  
หันไปมองกระจกหลังไม่เห็นรถพัท เห็นแต่สิบล้อที่จอดอยู่กับเศษสีแดงกระจายเต็มถนน


ไนท์บอกว่าใจหายว้าบ เพราะรู้เลยว่าพัทโดนชน มันก็รีบวิ่งกลับไปดู
เห็นสิบล้อ 1 คัน  รถกระบะอีก 1 คัน และเอเวอร์เรสสีแดงของพัทที่พังยับ
ประตูพังเปิดไม่ได้ เครื่องยนต์ไหลออกมานอกห้องเครื่อง กระจกแตกทุกบาน
ท้ายฝั่งนึงขาด เสาเอยุบ เพลาขับหัก  และพัทติดอยู่ในรถ

พัทรู้สึกตัวไม่ได้สลบ แต่เบลอมาก บ่นว่าเจ็บแต่ไม่รู้ว่าตรงไหน
ไนท์มันก็โทรหาทุกคนที่จะโทรหาได้ ตามคนมาช่วยทุบกระจกให้พัทปีนออกมา
แล้วกู้ภัย แล้วตำรวจ ประกันอะไรก็มาครับ แต่แน่ๆ คือพัทเข้าห้องฉุกเฉิน



เรื่องใหญ่โตมากครับ ผมเล่าได้เท่านี้
โชคดีมากที่พัทไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าแผลถลอก เคล็ดๆ ตามตัวแค่นั้น
โชคดีมากที่เป็นฟอร์ดเอเวอร์เรส ที่ทั้งใหญ่ทั้งแข็ง
ถ้าเป็นผมคงเข้าไปบี้อยู่ใต้ท้องสิบล้อไปแล้ว



คืนนั้นพัทเมาจัดครับ พอจอดอ้วกขึ้นรถไปมันบอกว่ามันเบลอมาก
ออกตัวมาแบบเบลอ ๆ ไม่รู้ว่าเหยียบไปเท่าไหร่ แล้วมันก็วูบไป ก่อนบวกท้ายกระบะเต็มเบอร์
ก่อนสิบล้อที่ตามหลังมาจะเก็บสแปร์ทั้ง 2 คันซ้ำอีกที 

ดีเท่าไหร่ที่ไม่ตาย.....




หลังจากวันนั้น พัทคือเข็ดครับ
บอกกับผมว่า "เราจะไม่บอกว่า ชีวิตนี้จะไม่กินเหล้า
แต่ถ้าเกิน 2 แก้ว เราก็จะไม่ขับรถแล้ว ไม่ว่าจะรู้สึกว่าเมาหรือไม่เมาก็ตาม"

วันนั้นที่มันต้องดื่มอีกครั้งเลยเครียด ๆ
แต่มันก็ไม่อยากให้ผมต้องดื่มเลยต้องดื่มมากกว่าที่มันรู้สึกปลอดภัย


ส่วนผม ผมก็มีเรื่องส่วนตัวที่อยากงดดื่มไปซักพัก
ถ้าจะต้องดื่มหนักก็คงเก็บไว้นานๆ ที


พวกผม 3 คนเลยคุยกันว่า เราจะไม่ดื่มเป็นเพื่อนกัน
หรือถ้าดื่มก็จะดื่มแค่เป็นมารยาท ไม่ได้จับชนจับชน จับยกจับยกเหมือนเมื่อก่อน



ทีมงานผมตัวท้อปเรื่องดื่มคงต้องยกให้
เจมส์ ครับ
ผู้ชายลุคอ่อนโยน สุภาพบุรุษ ตัวเล็กๆ ขาวๆ เสียงเบาๆ หน้าหวานๆ
แต่ไม่หวานนะฮะ ตัวจริงไอ่นี่ beyond Badboy ไปเป็นคำว่า
ถ่อย เลยครับ
ลุคเวลาทำงานก็อีกเรื่อง แต่ตัวจริงมันคือ ไม่เก๋าแต่เหงาตีน 
ในน้ำเสียงนุ่มๆ มีความกวนส้นทีนสูงมาก อารมณ์ร้อน แบบหลุดแล้วหลุดเลย
เตะบอลเก่ง และมีความ Bad มากกว่าคนลุค Bad อย่างไนท์มาก



ไอ่นี่ตัวอันตรายครับ วางตรงไหนเรียกว่าตายยกตี้
ถ้าดื่มกับลูกค้าแล้วอยากกลับเร็วๆ บอกเจมส์ได้เลย
เห็นเจมส์เดินออกไปดูดบุหรี่เมื่อไหร่ กลับเข้ามาคือด้านมืดทำงานแล้ว
เปิดไปไม่กี่ยก  ลูกค้าถึงกับต้องเช็คบิลส่งเลยครับ ไม่งั้นตาย
ส่วนไอ่เจมส์ยังนั่งไขว่ห้างยิ้มๆ แล้วเอาแก้วเคาะแก้วคนอื่นเบาๆ 
พวกผมก็ยอมแพ้ครับ เวลาไปดื่มกันใครนั่งใกล้เจมส์นี่เตรียมตัวเละได้เลย
ตอนนี้เจมส์เลยอาสาว่า ถ้ามีต้องดื่มจริงๆ จังๆ มันจะเก็บฝั่งตรงข้ามเอง





นี่แหละครับศีล 5 ที่ผมรักษายากจริงๆ 
ด้วยงานที่เราต้องเอ็นเตอร์เทนลูกค้า ด้วยความที่เราเป็นวิศวะ ด้วยความที่เป็นผู้ชาย
จะไม่ดื่มซักเดือนนึงนี่ถือเป็นเรื่องยากจริงๆ ครับ
แต่ผมจะพยายามครับ เพราะอยู่ๆก็พบว่าตัวเองเป็นอะไรก็ไม่รู้
เหนื่อยๆ หรือเบื่อๆ เซ็ง ๆ ก็อยากดื่ม
คือซักกระป๋องก็อยากดื่มครับ ซึ่งเมื่อก่อนผมไม่เป็นนะ 
อย่างวันนั้นที่ลูกค้ายิงคำถามเยอะ ๆ เข้า ผมก็รู้ตัวว่า ตัวเองต้องได้เบียร์หรือเหล้า
ไม่งั้นรู้สึกสมองไม่ลื่น ยิ่งต้องเอ็นเตอร์เทนเป็นอังกฤษผมนี่ยิ่งต้องได้แอลกอฮอล์เลย



ช่วงนี้ผมขอกลับมาออกไซต์
แต่ก็ดันป่วยครับ เป็นหวัดแล้วหอบมาหลายวันซะโทรม
วันจันทร์ผมลาป่วยครับ วันนี้เข้าไซต์นี่เพลียมากครับ 
บวกกับวันนี้อาการหอบจริงจังมากครับ เดินแล้วเหนื่อย พูดแล้วเหนื่อยมาก
แต่ไม่ต้องห่วงครับ มือซ้ายมือขวาผมมาครบ ทั้งไนท์ทั้งพัท
ผมแค่มาเป็นหัวหน้างานที่มีอำนาจตัดสินใจเท่านั้นเอง
เดี๋ยวนี่ว่าจะกลับบ้านแล้วครับ รอ Settle ซักหน่อย






สุระเมระยะ ปะทะโซดา กับแกล้มมา     เอ้ย!!!!! 
สุราเมระยะ มัชชะ ประมาทัฏฐานา








ขอถือศีล 5 ให้ได้ซักเดือนหน่อยนะครับ

 



Create Date : 17 มกราคม 2566
Last Update : 17 มกราคม 2566 16:21:26 น.
Counter : 635 Pageviews.

26 comments
Day..10 โฮมสเตย์ริมน้ำ
(11 เม.ย. 2567 08:25:45 น.)
ถนนสายนี้มีตะพาบ ประจำหลักกิโลเมตรที่ 349 : วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ ฯ The Kop Civil
(10 เม.ย. 2567 16:44:58 น.)
โจทย์ตะพาบ ... วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ เธอจะเห็นใครคนหนึ่งที่รอเธอ ... tanjira
(9 เม.ย. 2567 14:13:50 น.)
"วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ เธอจะเห็นใครคนหนึ่งที่รอเธอ" คนผ่านทางมาเจอ
(10 เม.ย. 2567 23:49:39 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณnonnoiGiwGiw, คุณเริงฤดีนะ, คุณtoor36, คุณhaiku, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณชีริว, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณกิ่งฟ้า, คุณสองแผ่นดิน, คุณอุ้มสี, คุณThe Kop Civil, คุณSweet_pills, คุณRain_sk, คุณกะว่าก๋า, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณหอมกร, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณtanjira, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณทนายอ้วน

  
อทินนาทาน ปริ้นไม่ลักทรัพย์ใครอยู่แล้วนี่
มุสาวาทนี่ถ้ารักษาหยาบก็แค่ไม่พูดโกหก
แต่ถ้ารักษาแบบละเอียดก็รวมคำหยาบกับส่อเสียดเพ้อเจ้อด้วยจ้า
ส่วนข้อ 5 นี่รักษาง่ายมากเลยเพื่อสุขภาพตัวเองไงปริ้น



โดย: หอมกร วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:16:01:56 น.
  
"ขอถือศีล 5 ให้ได้ซักเดือนหน่อยนะครับ"

สาธุ ขอให้ทำได้จริง ๆ นะคะ
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:17:42:21 น.
  
อ่านๆๆๆ บล็อกนี้อ่าน เดวมาอ่านนะ เลิกงานกลับบ้านก่อง
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:18:00:27 น.
  
ถือศีล 5 สักเดือน
ครบ 5 ข้อเชียวเหรอคะ
สุดยอด..

ปกติพี่อ้อ..จะรับศีล เว้นวรรคสำหรับข้อที่ทำมะได้ค่ะ
ในขณะนั้นๆ..เป็นต้นว่า

ปาณาติปาตา..รับ
อะทินนาทาน..รับ
สุราเมระยะ...ตะก่อน ไม่รับ
มุสาวาทา..รับบ้างไม่รับบ้าง
กาเมสุมิตฉาจารา..รับ



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:18:09:46 น.
  
เคยเห็นผู้ใหญ่หลายๆ คนไม่รับศีล 5 บางคนไม่รับข้อ 3!! ส่วนมากไม่รับข้อ 4, 5

เวลาคุยงานถ้าเหล้าเข้าปากมันทำให้คุยง่ายขึ้น จริงๆ นะ ไม่รู้ทำไม

ดีนะเนี่ยะที่มันตัวเก็บลูกค้า ด้วยหย้าที่การงานล่ะนะ บางครั้งมันก็รักษาศีลได้ยากจริงๆ
โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:18:40:34 น.
  
เดี๋ยวผมมาอีกที อ่านได้ครึ่งนึงแล้วไม่มีสมาธิ พอก่อนวันนี้
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:19:28:29 น.
  
เหมือนมีผู้คุมวิญญาณติดตามตัว
แต่ก็เซพลูกพี่ดีมาก ว่าแต่น้องกระต่ายน้อยของพี่
นี่ใช่น้องเจมส์มะ ทำไมพี่ลืมชื่อล่ะ..
ตกลงหนุ่นออฟฟิตร้อนรักนี่คือตั้งใจจะแบ๊ดกันหมดเลรึไง
ไม่เหลือใสๆให้ป้าเอ็นดูวมั่งล่ะ

ปล.ป่วยก้อพักอย่ามัวแต่อยู่ดึกอินดี้เล่นกงเล่นเกมล่ะ
ส่วนพี่เหมือนจะสบายดีมังนะ
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:21:08:44 น.
  
ค่อยๆลด ค่อยๆละ ค่อยๆเลิก
ขอให้ทำได้ในวันหนึ่งวันใดนะครับ

พี่ก๋าก็เคยบอกเพื่อนแบบนี้เหมือนกัน
แต่ไม่มีใครเชื่อ
สมัยเรียนลาดกระบัง เพื่อนร่วมบ้านเช่า 2 ใน 5 คน
จึงเมาและอ๊วกเป็นเลือด
จนหมอถามตรงๆเลยครับ
ว่าคุณอยากแต่งงาน อยากมีลูก
อยากเห็นลูกรับปริญญารึเปล่า
ถ้าอยากลด ละ เลิกเหล้าซะ 555

แต่สุดท้ายก็ยังดื่มกันอยู่จนถึงทุกวันนี้นะครับ
เพียงแต่ก็เพลาๆลงเยอะ
เพราะมีโรคประจำตัวตามมากันทุกคน

หวังว่าพัทจะคิดได้และค่อยๆ ลด ละ เลิกนะครับ

พี่ก๋าไม่โรแมนติกเลยนะ
รู้ตัวครับ จนมาดามบอกว่า
ถ้ามีอะไรหวานๆผิดปกติ ตัวปลอมแน่นอน 555
หวานที่สุดที่เคยทำก็น่าจะเป็นการแต่งเพลงให้มาดามนี่ล่ะครับ

ขอให้รักษาสุขภาพด้วยนะครับ
ด้วยความห่วงใยครับน้องปริ๊นซ์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:21:30:35 น.
  
สวัสดีค่ะคุณน้องปริ๊นซ์..

ตามอ่านสนุกดีนะคะ..



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:21:32:52 น.
  
ผิดกันตลอดอะครับข้อมุสา ยากสุดแล้วจริงๆ
ส่วนสุรานี่สบายๆ ไม่เชี่ยวชาญเรื่องเมาเท่าไหร่ กินข้าวหมากไม่นับใช่มั้ย
ฟังประสบการณ์คอหล้าบอกว่าเมาแล้วเหมือนภาพตัดเลย รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นมีมบนอินเตอร์เน็ต
เพิ่นๆ คุณปริ๊นซ์ก็ดีนะครับ ไม่เกิดเหตุถึงแก่ชีวิต แค่เสียทรัพย์สิน
โดย: ชีริว วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:21:38:22 น.
  
สวัสดีค่ะน้องปริ๊นซ์ ขอบคุณมากนะคะที่ไปให้กำลังใจที่บล็อกค่ะ
พี่กิ่งตามมาอ่านเรื่องราวของน้องปริ๊นซ์แล้วเข้าใจในการทำงานนะคะ แวดวงของหัวหน้างานและการทำงานของวิศวะต้องมีการดื่มกันทุกครั้งจริงๆ ยากที่จะหลีกเลี่ยงขอเป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้ได้หยุดสักเดือนสมประสงค์ค่ะ

เขียนได้เห็นภาพเลยค่ะ พี่กิ่งอ่านเพลินเลย ขอให้สุขภาพ
น้องปริ๊นซ์แข็งแรงหายจากอาการแพ้โดยเร็วนะคะ

Diarist

โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:22:12:03 น.
  
สุดท้ายก็ไม่รอด คริคริ
ไม่งั้นไม่ลื่น...
ปรบมือจ้า
โดย: อุ้มสี วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:23:30:39 น.
  
สวัสดีครับน้องปริ๊นซ์
พี่เคยงดเหล้าเข้าพรรษาไป 3 เดือน พอครบกำหนดมันก็ไม่ค่อยอยากกินเหมือนเก่าแล้วครับ แล้วพี่เปลี่ยนมาออกกำลังกายอย่างหนักแทน พอกินเหล้าไปครึ้งนึง เหมือนเราต้องรีเฟรชร่างกายใหม่ พี่ก็เลยดื่มน้อยลงกว่าแต่ก่อนมาก จะดื่มเฉพาะตอนสังสรรกับเพื่อน ๆ แต่นาน ๆ ทีนึง อาจจะเป็นเพราะอายุเริ่มจะเยอะขึ้นด้วยครับ
น้องปริ๊นซ์ยังหนุ่มอยู่ ร่างกายยังไหวอยู่ครับ พอมาอ่านเรื่องน้องพัชนี่โชคดีมาก ๆ เลย ที่ไม่เจ็บหนักนะครับ
โดย: The Kop Civil วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:23:52:59 น.
  
โอ้...วันนี้แนวไหนแนวใหม่หรือครับเดี๋ยวๆขอผมตั้งหลักแป๊บนึงนะ
โดย: =[]=!!! (Rain_sk ) วันที่: 18 มกราคม 2566 เวลา:2:00:34 น.
  
หลังจากไปทำโอ๊ตมิลค์ หั่นกลัวหอมใส่ลงไปก็ยกมาทานที่หน้าคอมฮ่า
พร้อมกับอ่านบล็อกธรรมะ ของคุณปริ๊นซ์... ผมว่าข้อมุสาศิลข้อนี้ยากมากๆครับ สำหรับผมเพราะว่า
มุสา เป็นศิลละเอียด จะไปรวมถึงการพูดแบบไร้สาระหรือพูดเล่น เพ้อเจ้อทำนองนั้น มันก็จัดอยู่ในข้อมุสาเช่นกันซึ่งมันโดนเต็มเลยต่อตัวผม แต่ก็พยายาม...เพราะตั้งปณิธาน ไว้ว่าจะไปนิพพาน มันต้องสู้ต่อไปฮ่า

วันนี้ไม่สำเร็จ พรุ่งเอาใหม่ ชาตินี้ไม่สำเร็จ เอาใหม่ในชาติหน้า
และอีกข้อก็คือกาเม... ที่ยากรอลงมา เห็นผู้หญิงสวยๆ มองแล้วมองอีก
เห็นข้าวของสวยๆก็อยากได้ (ตย) ไอโฟน14 เป็นข้าวของที่สวยงามอยากได้แทบตายต้องดิ้นรนเอามันมาจนได้ฮ่า
แต่ด้วยตั้งใจว่าชาติหนึ่งต้องเข้านิพพาน ก็พยายามฝึกตัวเองไปเรื่อยๆ มันจะต้องสำเร็จเอาสักชาติหนึ่งครับ
แต่ผมดีที่ไม่ดื่ม 100% ไม่สูบ 100% ครับ ส่วนอีกข้อหนึ่งสัตว์ใหญ่ไม่ฆ่า แต่พวกมด ยุง หากมันเดินมา ตอนเราไม่เห็น..อันนั้นคือซวย ครับ
....
ผมขออนุโมทนาบุญ ล่วงหน้า สำหรับคุณปรี๊นซ์ ที่ตั้งใจจะรักษาศิลห้า... ขอเป็นกำลังใจนะครับ ขอให้สำเร็จๆๆๆๆๆๆ
โดย: =[]=!!! (Rain_sk ) วันที่: 18 มกราคม 2566 เวลา:3:05:40 น.
  

อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์

รุ่นพี่ก๋าตอนเรียนถาปัตย์
มีไม่ดื่มเลยอยู่คนเดียวคือพี่ก๋านี่ล่ะครับ 555
ขนาดเพื่อนผู้หญิงบางคนยังดื่มเก่งมากๆ

ตอนไปอยู่บ้านเช่าด้วยกันใหม่ๆ
เพื่อนดื่มกันทุกวันยันสว่าง
พอกินกันหลายวันเข้า
เช้ามาพี่ก๋าไม่มีอะไร
ก็ลุกขึ้นมาเอาขวดเบียร์
ขวดเหล้ามาวางเรียงรอบกำแพงบ้าน
พอเพื่อนตื่น ก็บอกให้เพื่อนไปดูกัน
เพราะขวดมันล้อมรั้วบ้านได้เลย
เพื่อนบอกพี่ก๋ากวน teen มาก 555



มาดามชอบเพลงนั้นนะ
ตอนแต่งงานก็เปิดเพลงนี้ในงานด้วย

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kawaka&month=02-2008&date=26&group=54&gblog=24

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 มกราคม 2566 เวลา:5:14:01 น.
  
เกือบโหวต ธรรมมะให้แล้วนะ 555

....
ผมเวลาจะรับศิล 5 ส่วนใหญ่จะอยู่ขณะปฏิบัติธรรมที่วัด แต่ถ้า
อยู่ตามผับบาร์ที่ทำงาน ยิ่งกำลังค้าขาย ไม่กล้ารับศิล 5 หรอก
ก็แหม... มีสิ่งเย้ายวนเยอะ

ถ้าแบบที่คุณปริ๊นซ์เจอ เข้าใจเลยว่า ทำยากมากได้แค่ มุสา
สุรากินเป็นระยะนี่ก็ยากแล้ว 555
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 18 มกราคม 2566 เวลา:8:16:10 น.
  
วันนี้ มาไวนะเราน่ะ เมื่อวานเม้นไร
ทำไมเม้นเหมือนคนเมามากกว่า คนเป็นหวัดล่ะ 555+
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 18 มกราคม 2566 เวลา:11:08:56 น.
  
หวัดดีขึ้นยัง..
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 18 มกราคม 2566 เวลา:11:14:23 น.
  
อ่านเม้นเก่าสะดุดอยู่ที่นึงคือ..

ปริ๊นซ์นี่ไงครับใสๆ...

ใสหรอ ใสจริงอ่ะ แน่ใจนะ 5555+
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 18 มกราคม 2566 เวลา:12:16:38 น.
  
เคยครับโดยเฉพาะกับคนจีน เจอเหล้าเน้นๆ เลยครับ ผมต่อลองเป็นเบียร์ บอกเหล้าดื่มไม่ค่อยได้ แต่ถ้าเบียร์ไม่มีปัญหา เขาก็โอเค พอดื่มแล้วคุยมันคุยคล่อง แต่ต้องประคองสติอย่างมาก

เคยเจอเหมือนกันครับ ไม่รับศีลพอถึงข้อที่เขาไม่รับ เขาเอามือลงเลย ที่เห็นบ่อยๆ คือ ข้อ 3 4 5 ข้อ 4 ผมว่ายากสุดละโดยเฉพาะพวก CS ที่ไม่เคยเจอผู้ชายหรอก ค่ะๆ ตลอด หารู้ไม่แต่ละคนหนวดเฟิ้มเลย

ศีล = ปกติ (100%) มนุษย์ที่รักษาศีล 5 ไม่ได้ก็ค่อยๆ หักแต้มกันไป เชื่อเถอะแต่ละวันเราเป็นคนไม่ถึง 100% หรอก
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 มกราคม 2566 เวลา:14:50:33 น.
  
แกรเงียบตรงไหน.. แกรโคตรแรดดด!!!!
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 18 มกราคม 2566 เวลา:16:18:58 น.
  
คนเราต้องประคองสติรักษาศีลห้าให้ดี ๆ ครับ
ถ้าสติหลุดเมื่อไหร่ มันจะกลายเป็นศีลหก!

เชื่อผม! ผมรินหกมาหลายแก้วแล้ว เสียด๊าย~เสียดาย
โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 18 มกราคม 2566 เวลา:19:32:21 น.
  
พี่มาอ่านก่อนนะน้องปริ๊น
พรุ่งนี้พี่มาคุยด้วยครับ

เริ่มไอตอนอ่านจะจบล่ะเนี่ย

ฝันดีน๊า
โดย: tanjira วันที่: 18 มกราคม 2566 เวลา:20:10:20 น.
  
สวัสดีครับคุณปริ๊นซ์
แวะมาทักทายก่อน
.
เชียร์ให้เปิด section drink drank drunk กันไปเลยครับ อิอิ
โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 18 มกราคม 2566 เวลา:21:53:06 น.
  
สวัสดีค่ะน้องปริ๊น

ศิลอยู่ที่ใจ 555 จะข้อไหนก็เถอะ
บางทีเราก็ทำไม่ได้จริงๆแหละค่ะน้อง
คนที่รับศิลมา ทำได้จริงรึเปล่าก็ไม่รู้
มุสาเอย ปานาเอย สุราเอย 555
แต่ที่รู้ๆเราทำไม่ได้เราก็ไม่รับเนาะ

โห!!!! ดีนะคะที่พัทไม่เป็นอะไรมาก
นี่ถ้านักข่าวรู้ คงต้องถามว่าคล้องพระอะไร
หรือมีพระอะไรอยู่ในรถกันทีเดียวค่ะ

เมาไม่ขับดีที่สุด จะให้ดีคืออย่าเมานั่นแหละดีสุดๆ

น้องปริ๊นต้องพักเยอะๆค่ะ ป่วยลากยาวแบบนี้ไม่ดีแน่ๆ
ไม่ต้องออกไซด์งานก็ดีแล้วค่ะ หยุดดื่มด้วยดีที่สุด

บ่ายนี้พี่จะไปหาหมอค่ะ พอดีคลีนิกหอบหืดเปิดวันนี้
พบหมอสักนิดน่าจะดี เดี๊ยวเป็นยาวๆไม่ดีแน่ๆค่ะ
ยังไม่มีอาการหอบ ก็ถือว่าดีมากแล้วค่ะ
แต่ไอมากกมายเบื่อสุดๆค่ะ ระบมไปทั้งตัวล่ะพี่เนี่ย
พัดลมนี่อย่าได้ผ่านมานะคะ ไอตายเลย

ดาริญถือเป็นเด็กแข็งแรงเลยค่ะ แม้ผนังหน้าท้องยังปิดไม่หมด
ความจำนี่เป็นเลิศค่ะ จำแม่นมากๆ เค้าถามย่าว่าหายรึยัง
เค้าจำได้พี่บอกเค้าไม่สบายเมื่อวันก่อนค่ะ
พ่อดาริญนี่รักลูกมากค่ะ เค้าเลี้ยงลูกได้ค่ะ ช่วงที่แม่ดาริญต้องไปทำงาน
พี่ก็อยู่กับพ่อเค้าค่ะ เค้าทำได้หมดทุกอย่างเลยค่ะ พี่ภูมิใจในหลานชายมาก 555

ตอนคลอดพี่สงสารหลานชายจับใจเลยค่ะ แฝดพี่ดาริญเค้าต้องเข้าห้องnicu
พี่กับหลานชายเดินตามไปส่ง ทั้งๆที่เขาไม่ให้เห็น แต่เราเห็น พี่นี่แอบร้องไห้เลยนะคะ
โทรหาพี่ป่าน พี่ป่านก็ห่วงน้องชาย ถามพี่ว่า แม่ร้องไห้น้องเห็นรึเปล่า
อย่าให้น้องเห็นนะ เดี๊ยวน้องใจเสีย คือตอนนั้นคิดว่าไม่เป็นไร ถ้าเค้ารอดเราก็เลี้ยงแหละ
แต่แฝดพี่ก็อยู่ได้ไม่ถึงเดือนค่ะ ค่อยๆจากไปอย่างสงบ แล้วก็มอบร่างให้โรงพยาบาลศิริราชค่ะ
กว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้ ก็ต้องคนในครอบครัวนี่แหละค่ะ เป็นกำลังใจ
กว่าจะมีเค้าได้ก็ยากแล้ว จะให้ใครมาเลี้ยงก็ไม่ใช่เนาะ ช่วยได้ไม่เดือดร้อนก็ช่วยกันไปค่ะ


พี่ว่าชีวิตคนเรามีอะไรให้ได้เรียนรู้เยอะนะคะ
จากคนในครอบครัว จากคนรอบข้าง มองให้เห็น และมองให้เป็น
เราจะรู้ถึงคุณค่าของทุกๆชีวิตเนาะ

สำหรับพี่ พี่ให้ความสำคัญกับคนในครอบครัวมากๆค่ะ
ใครไม่ให้ความสำคัญกับพี่ไม่เป็นไร วันหนึ่งเขาอาจเหล่านั้นต้องคิดได้สักวัน
ถ้าคิดไม่ได้ก็ปล่อยเขาเลยค่ะ เอาที่เราทำแล้วเราสบายใจก็พอนะคะ
อ้าววว เล่ายืดยาวอีกแล้วพี่ ไปดีกว่า

รักษาสุขภาพเยอะๆนะคะน้องปริ๊น หายดีเป็นปกติไวๆนะคะ


โดย: tanjira วันที่: 19 มกราคม 2566 เวลา:12:09:14 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Threepopstory.BlogGang.com

จันทราน็อคเทิร์น
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]

บทความทั้งหมด