“ปาฏิหาริย์ไม่ใช่การเดินบนน้ำ หรือบินอยู่บนอากาศ แต่ปาฏิหาริย์คือการเดินอยู่บนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว”

ติช นัท ฮันท์
380 .. เสียงอ่านเพชรพระอุมา-ภาคสมบูรณ์ # 39 (256 - 270)











เสียงอ่านเพชรพระอุมา–ภาคสมบูรณ์ # 39

ลำดับที่ 256 - 270









ที่มาของเสียงอ่านเพชรพระอุมา ขอเชิญเปิดอ่านที่นี่






ขอเชิญฟังเสียงอ่านนวนิยาย เพชรพระอุมา – ภาคสมบูรณ์

ลำดับที่ 256 – 270 ค่ะ






ลำดับที่ 256 -258






ลำดับที่ 259 - 261






ลำดับที่ 262 - 264






ลำดับที่ 265 - 267






ลำดับที่ 268 - 270






ขอเชิญติดตามตอนต่อไปในลำดับที่ 40 ค่ะ


















อิ น ไ ซ ด์ เ พ ช ร พ ร ะ อุ ม า

จากนิตยสาร จักรวาลปืน ฉบับที่ 292
ต อ น ที่ 3/3
โดย........ พนมเทียน

*********








เป็นอันว่า ท่านคงจะหายสงสัยแล้วนะครับ ว่าผมเอารายละเอียดเกี่ยวกับป่าดงที่ไหนมาใส่ไว้ในเพชรพระอุมาได้ นี่คือโครงเรื่องเสริมของพล็อตใหญ่คร่าวๆ ดังได้กล่าวมาแต่แรกแล้ว ชื่อสถานที่ก็ดี ชื่อตัวละครก็ดีเหตุการณ์ในการพบผจญกับสัตว์ป่าต่างๆ มาด้วยตนเอง และผู้ร่วมคณะร่วมเหตุการณ์ก็ดีคือ สิ่งที่ท่านอ่านและจินตนาการภาพออกมาได้ ในต้อนต้นๆ ของเรื่อง (คือตอนดงมรณะ และไพรมหากาฬ) ส่วนเรื่องลี้ลับพิสดาร หรืออาถรรพ์ต่างๆ ที่มีอยู่ในเรื่อง บางส่วนก็เป็นสิ่งที่พบมากับตนเองและพรรคพวก บางส่วนก็ได้รับการบอกเล่าให้ฟังจากเพื่อนพรานพื้นเมือง และพรานอาวุโส ที่เรามักจะมาเล่าสู่กันฟังข้างกองไฟในระหว่างพักแรมคืน หรือบางเหตุการณ์ที่มันพิสดารมากๆ ก็เป็นเหตุการณ์ที่ตาได้เคยเล่าให้ฟัง สมัยที่ท่านเดินป่าประสพมาหรือบิดาของท่านพบเห็นมาอีกทีหนึ่ง มันจะเท็จจริงหรืออย่างไรไม่ทราบ แต่มันก็เป็นเรื่องราวของป่า ที่เล่าสู่กันฟังมาโดยไม่จำเป็นจะต้องคิดขึ้นมาเองให้เสียเวลา



สรุปก็คือ นิทานในป่าของผมมีแยะ สิ่งเหล่านี้แหละ ที่เอาเข้ามาเป็นองค์ประกอบของเรื่อง อันเรียกได้ว่า วัตถุดิบในป่านั้น เต็มเพียบอยู่แล้ว ที่จะนำมาเขียนลงไว้ในพฤติการณ์ของเรื่องราวนวนิยาย เพราะฉะนั้น จึงไม่น่าแปลกใจอะไร ที่เรื่องราวมีตื่นเต้นลี้ลับพิสดารสารพัดชนิด



ทำไมเรื่องนี้ถึงยาวมากนัก ทั้งๆ ที่เหตุการณ์ในเรื่อง (ทั้งสองภาค) คิดแล้วน่าจะเป็นเวลาเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น แต่เขียนให้อ่านมาได้ตั้ง 25 ปีเศษ?



คำตอบในเรื่องนี้ก็คือ ถ้าท่านอ่านโดยละเอียดและจับเหตุการณ์ไปให้ดี จะพบว่าเนื้อเรื่องได้ดำเนินไปชนิดนาทีต่อนาที ทีเดียว คือนาทีนี้เกิดอะไร มีเหตุการณ์อย่างไร และนาทีต่อไปมีอะไรบ้าง สรุปก็คือเขียนกันละเอียดยิบ เพื่อให้ท่านจินตนาการตามตัวอักษร และสร้างภาพพจน์ให้เกิดขึ้น โดยมีอารมณ์ร่วมติดตามไปด้วยทุกขณะเหมือนได้เข้าไปเดินป่าร่วมอยู่กับคณะในนวนิยายด้วย แต่ก็ต้องมีหลักอยู่ว่า จะต้องไม่ทำให้ท่านผู้อ่าน เกิดอาการเบื่อหน่ายขึ้น ท่านจะต้องอ่านตามเรื่อง ไปด้วยจิตใจที่จดจ่อ ครั้นจบตอนลงไปตอนหนึ่ง (ตามตอนที่เขียนในแต่ละครั้ง) ท่านก็อาจปิดหนังสือและสบถด่าว่า "ตุ๋ย! ไม่เห็นเรื่องคืบหน้าไปแค่ไหนเลย" ผมพอใจที่จะให้ท่านมีความรู้สึกสาปแช่งเช่นนั้น แต่ต้องทำให้ได้ในข้อที่ว่า พอหนังสืองวดใหม่ออกวางตลาด ท่านจะทิ้งเสียไม่ได้ จะต้องไปหาซื้อมาอ่านต่อ และพออ่านจบ ก็ด่าคนเขียนอีกในทำนองว่า เรื่องไม่เห็นคืบหน้าไปถึงไหน ซึ่งนี่มันเป็นกลเม็ดของผมครับ ที่เกิดมาหาเลี้ยงชีพด้วยการเขียนนวนิยายขายให้อภัยผมเถอะ รับสารภาพกันตามตรง



และถ้าท่านสังเกตให้ถี่ถ้วนต่อไปอีก ผมจะไม่เขียนถึงพฤติการณ์ตอนไหนที่ผ่านลวกๆ เลยไปเสียอย่างเด็ดขาด จะแจกแจงทุกอิริยาบถของตัวละครทีเดียว สัตว์ต่างๆ เมื่อถูกปืนมันมีอาการอย่างไรบ้าง ผมจะทำให้ท่านมองเห็นภาพอย่างชัดเจนที่สุด เหมือนท่านยิงด้วยมือเอง จะไม่บอกสั้นๆ แต่เพียงว่า "พอปืนลั่นโป้ง มันก็ล้มลงตาย" แบบนี้เลย เพราะนั่นไม่ใช่วิธีการเขียนของผม อีกประการหนึ่ง ท่านจะไม่พบคำแบบนิยายเรื่องจีนว่า "ครั้นแล้วอีกหนึ่งอาทิตย์ต่อมา" คือตัดภาพกันทีเดียว โดดข้ามกาลเวลาและเหตุการณ์ เป็นอาทิตย์เลย โดยไม่ให้คนอ่านเห็นเลยว่าก่อนจะถึงตั้งหนึ่งอาทิตย์ อะไรมันเกิดขึ้นอย่างไรบ้าง



ก็นี่แหละครับ มันจึงเป็นนิยายชุดยาวเฟื้อยฟ้าย พูดอย่างล้อๆ หรือหมิ่นๆ กันว่า 500 ตอนยังไม่จบ ก็ผมเกิดมาเป็นนักเขียน มีหน้าที่จะต้องเขียนหนังสือ ถ้าจบเรื่องนี้ไปแล้ว ก็ต้องเขียนเรื่องใหม่อื่นๆ ต่อไป แล้วจะมาบังคับกะเกณฑ์กันทำไมว่า ควรจะต้องเขียนเท่านั้น เท่านี้ตอนจบ และมันแตกต่างกันอย่างไร ระหว่างเรื่อง 2-3 ตอนจบกับ 500 หรือ 1,000 ตอนจบ ตราบใดที่เกิดมาเขียนและตราบใดที่เขียนแล้วยังมีคนอ่านอยู่ เพราะฉะนั้น อย่ากระแหนะกระแหนผมเลย ว่าเขียนเรื่องยาวเหลือเกิน เรื่องสั้นๆ ผมก็เขียนได้แต่เขียนแล้วมันทำเงินสู้เรื่องยาวไม่ได้ และเรื่องยาวก็เป็นหลักเป็นฐานดี ช่วยให้ยาไส้ไปได้นาน ซ้ำอาจเกิดมรรคผลติดตามมา อื่นๆอีกนานับประการ ธุระอะไรที่จะเขียนให้มันสั้นๆ อยากอ่านเรื่องสั้น ก็ไปอ่านคอลัมน์บรรณาธิการแถลง ของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ หรืออ่านคำขวัญ สุภาษิต ที่เขียนติดอยู่ท้ายรถบรรทุกไม่ดีกว่าหรือ อาทิเช่น "รักพี่จงหนีพ่อ" ได้ความหมายอยู่ในตัวของมันเองเป็นเรื่องๆ หนึ่ง จบสิ้นสมบูรณ์ลงเพียงถ้อยคำแค่ 5 คำเท่านั้น



ผมถูกเพื่อนฝูง หรือคนรู้จักล้อเลียนอยู่เสมอว่า เรื่องเพชรพระอุมา จะไม่มีวันจบ แต่ผมก็พิสูจน์ออกมาแล้ว ว่ามันต้องจบจนได้ ตราบใดที่ผมไม่ตายเสียก่อน แม้ภาคแรกก็จบไปแล้ว ในปฏิบัติการเดินป่าชุดที่หนึ่ง คือไปตามคนหายกลับคืนมาได้ ส่วนภาคสองและภาคสามนี้ ก็เป็นปฏิบัติการตอนไปตามเครื่องบินตก ซึ่งก็ไปพบเครื่องบินตกเรียบร้อย ตามสัญญาว่าจ้างแล้ว ต้องเดินทางกลับ เพราะเหตุการณ์ทำให้ไม่สามารถจะกู้ซากเครื่องบินได้



ในฉบับหน้า ผมจะได้เล่าถึงพฤติการณ์บางพฤติการณ์ในเรื่องพอเป็นตัวอย่าง ที่ผมได้เผชิญมาเอง หรือว่าได้รับฟังการบอกเล่ามาจากใครอย่างไร เพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบไว้ ซึ่งมันจะเป็นผลดีกับผู้ที่รักชอบในการเดินป่า เรื่องราวของป่า ซึ่งต่อไปนี้ จะไม่มีโอกาสได้พบเห็นป่าในสภาพที่แท้จริงอีกแล้ว อย่างเช่นตะขาบตัวขนาดต้นซุง เลื้อยมาทีเป็นเสียงคล้ายพายุ (ผมคิดเองหรือ ?) ต้นพริกขี้หนูที่ใหญ่ขนาดหลายคนโอบ เส้นเถาวัลย์ขนาดต้นขาอ่อน โขมดดูดเลือด นครร้างที่หลงเหลือซากอยู่ในป่า เสือสมิง หรือเสือที่ปีศาจเข้าสิงอะไรเหล่านี้ แต่ถ้าเบื่อ โทรศัพท์ หรือจดหมายมาบอกกันได้นะครับ ผมจะได้ยุติเสียเพราะนี่เป็นการคุยกัน ไม่ใช่เรื่องราวในนวนิยายซึ่งกำลังลงติดต่อสืบเนื่อง และผมก็ให้สัญญาแล้วว่า จะไม่เขียนยาว และสิ่งสำคัญอีกเรื่องที่ยังไม่ถึงตอนที่ผมจะเขียนถึงก็คือ ตัวละครแต่ละตัว ผมไปเอามาจากไหน ถ่ายทอดจำลองแบบของใครมา คิดขึ้นเอง หรือมีตัวจริงอย่างไร ?




ติดตามอ่านอินไซด์ เพชรพระอุมา ตอนต่อไปได้ในลำดับถัดไป

















ขอขอบคุณ "พนมเทียน" เจ้าของผลงาน "เพชรพระอุมา"

ขอขอบคุณ ณ บ้านวรรณกรรม ผู้จัดพิมพ์วรรณกรรมเรื่องนี้

ขอขอบคุณ ห้องสมุดคอลฟิลด์เพื่อคนตาบอด
มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
ผู้จัดทำเป็นหนังสือเสียง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ...เว็บแฟนแท้แท้เพชรพระอุมา และ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ขอขอบคุณภาพจากทุกเว็บที่เกี่ยวเนื่องกับเพชรพระอุมา

ขอขอบคุณไลน์และอีโม จากบล็อกชมพร / บล็อกญามี่

และขอขอบคุณ คุณ treetree6969 ผู้จัดทำวิดีโอนี้



สาขา Book Blog


ร่มไม้เย็น ค่ะ





Create Date : 28 กันยายน 2556
Last Update : 28 กันยายน 2556 10:18:10 น. 0 comments
Counter : 3340 Pageviews.

ร่มไม้เย็น
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 127 คน [?]







เริ่มเขียน Blog เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2551


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยม เมื่อเวลา 18.15 น.



Group Blog
 
<<
กันยายน 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
28 กันยายน 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ร่มไม้เย็น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.