“ปาฏิหาริย์ไม่ใช่การเดินบนน้ำ หรือบินอยู่บนอากาศ แต่ปาฏิหาริย์คือการเดินอยู่บนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว”

ติช นัท ฮันท์
358 .. เสียงอ่านเพชรพระอุมา-ภาคสมบูรณ์ # 28 (136 - 140)











เสียงอ่านเพชรพระอุมา–ภาคสมบูรณ์ # 28

ลำดับที่ 136 - 140










ที่มาของเสียงอ่านเพชรพระอุมา ขอเชิญเปิดอ่านที่นี่






ขอเชิญฟังเสียงอ่านนวนิยาย เพชรพระอุมา – ภาคสมบูรณ์

ลำดับที่ 136 – 140 ค่ะ





ลำดับที่ 136.1 – 136.2







ลำดับที่ 137.1 – 137.2







ลำดับที่ 138.1 – 138.2







ลำดับที่ 139.1 – 139.2







ลำดับที่ 140.1 – 140.2







ขอเชิญติดตามตอนต่อไปในลำดับที่ 29 ค่ะ












เ พ ช ร พ ร ะ อุ ม า
























บทสัมภาษณ์สุภาพบุรุษนักฝัน ราชันนักเขียน

จากนิตยสารขวัญเรือน ฉบับที่ 632 เดือนมีนาคม (ปักษ์หลัง)2541

ต อ น ที่ 2/6

* * * * * * * * * * * * * *


จากความสำเร็จของเพชรพระอุมาทำให้เกิดนิตยสารรายสัปดาห์ของคุณพนมเทียนเอง

เพชรพระอุมาในระยะแรกออกมาในรูปพ็อคเกตบุ๊คเล่มเล็ก ๆ เล่มละ 3 บาท คนเริ่มจะมาติดเมื่อเล่ม 8-9 ก็มาย้อนอ่านเล่มต้นทำให้ผมสร้างหนังสือรายสัปดาห์ขึ้นมาเล่มหนึ่ง คือจักรวาลรายสัปดาห์ ยุค 2513 เนื่องมาจากมีแฟนติดมาก จากพ็อคเกตบุ๊ค ก็ขยายเป็นรายสัปดาห์ แล้วดึงนักเขียนอื่นๆ มาร่วมเขียนด้วย แต่ว่าที่สำคัญที่สุดคือเพชรพระอุมาเป็นหลัก




นักเขียนในยุคนั้นมีใครบ้าง

ผมพยายามสร้างนักเขียนใหม่ ๆขึ้นมา ถ้าเป็นที่มีชื่อแล้วก็มี คุณสุวรรณี สุคนธา, ณรงค์ จันทร์เรือง, สยุมภู ทศพล มาเกิดที่นี่





ช่วงนั้นคุณทมยันตีไม่ได้เขียนด้วย

ไม่ได้เขียนด้วย เพราะผมมีความสามารถรู้สึกว่า ถ้าเป็นนักเขียนใหญ่จริง ๆ ผมไม่กล้าไปเชิญท่านมาเขียน อีกอย่างหนึ่งผมทำงานเป็นบรรณาธิการก็จริง แต่ยังมีนายทุน ค่าใช้จ่ายมันสำคัญ เราต้องหาทางประหยัดให้เขา เมื่อตัวเองเป็นตัวยืนอยู่แล้ว ไปดึงนักประพันธ์อื่นที่ราคาค่าเขียนสูง รายจ่ายมันสูงขึ้น ผมไม่กล้า





ทำจักรวาลรายสัปดาห์อยู่กี่ปีคะ

2513 เริ่มต้น ไปสิ้นสุด 2519 มันเป็นการหยุดสิ้นการทำที่น่าเกลียดมาก หมายความว่าผมถูกหักหลัง เมื่อถูกหักก็ออกมาเลยคือผมมีหุ้นส่วนอยู่ในนั้น แต่มาถึงจุดหนึ่งที่เขาคิดว่าเขาจะยืนอยู่ได้แล้ว เขาก็หักผม ก็ไม่ว่าอะไร เพราะผมถือว่าผมมีฝีมือ





เจ็บปวดไหมคะ

ผมไม่เจ็บปวดกับนายทุนเท่าไหร่ เพราะนายทุนยังไงก็ตามเขาหวังผลประโยชน์ ผมเจ็บปวดกับคนที่ผมอุปการะมาด้วยมือ บุคคลที่ผมเอามาเป็นสตาฟฟ์ เขายื่นข้อเสนอที่ผมรับไม่ได้ ผมอยากจะหัวเราะ เขาบอกว่าทำต่อไปก็ได้ ให้ผมรับเฉพาะค่าเงินเดือนอย่างเดียว ไม่ให้รับค่าส่วนแบ่ง ผมบอกถ้าอย่างนั้นก็ผิดสัญญาสิ เขาบอกไม่รู้เขาจะเอาอย่างนี้ ผมบอกถ้าอย่างนั้นผมก็ออก อย่าให้เอ่ยชื่อเลยทุกคนเสียชีวิตหมดแล้ว ก็แปลกใจทำไม่เขาถึงเสียชีวิตไปง่าย ๆ ฝ่ายนายทุนเขาเองคือผ่านฟ้าพิทยา ก็หมดตัวล่มจมไป หลังจากที่ผมออกมาแล้วก็มีคนเทคโอเวอร์ต่ออีกที ทำไปไม่ไหว หนี้สินเกิดขึ้นมากมาย ในที่สุดถูกฟ้องล้มละลาย พลัดพรากจากกันไป บัดนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าเขาไปอยู่ไหนกันบ้าง





มองในแง่กรรมได้เลย

คิดว่าเป็นลักษณะนั้นมากว่า ผมไม่ได้ไปทำอะไรเขาเลย





เป็นนักเขียนคนแรกหรือเปล่าที่ต่อสู้เรื่องความไม่ยุติธรรมเหล่านี้

ผมคิดว่าก่อนหน้าผมนี้คงมีบ้างเหมือนกัน แต่ของผมนี่ผมว่าผมโนจังๆ มาหลายครั้ง เกี่ยวกับเรื่องการเขียนหนังสือ และฝ่ายผู้พิมพ์พยายามเอารัดเอาเปรียบ นักเขียนอื่นผมคิดว่าเขาอาจไม่โดนเท่าผมก็ได้ เพราะเขาอาจโชคดีกว่า โดยเฉพาะนักเขียนที่เป็นผู้หญิง ไม่ค่อยโดนเล่ห์เหลี่ยมอะไรแบบนี้





ทราบมาว่าพนมเทียนเริ่มเขียนหนังสือแต่เด็ก

ชีวิตการเขียนของผมมันเริ่มต้นตั้งแต่ผมอายุยังน้อยมาก คือเรียนหนังสือไปด้วยทำอย่างอื่นไปด้วย ขณะเดียวกันก็แอบเขียนหนังสือตั้งแต่อายุรุ่น 16-17 ปี เรื่องแรกจะเป็นความคิดฝันตามประสาเด็ก ๆ ซึ่งมันค่อนข้างอ่อนเหตุผล คือเรื่องเห่าดง เป็นเรื่องของผู้ร้ายใส่หน้ากาก แล้วไปเที่ยวปล้นจี้ผู้มีเงินทั้งหลาย แต่ว่าเป็นคนที่ยุติธรรมต่อสังคม เอามาแจกจ่ายให้คนจน แล้วไอ้ตัวผู้ร้ายนั้นแทนที่จะเป็นผู้ชายกลับเป็นผู้หญิง





ได้แรงบันดาลใจมาจากไหนคะ จึงได้เริ่มต้นเขียนหนังสือ

ผมเป็นคนช่างคิดช่างฝัน แล้วผมเป็นนักอ่านมาตั้งแต่เด็ก ชอบดูหนัง ชอบคิดโน่นคิดนี่ เพ้อเจ้อ มันก็ออกในรูปนวนิยายของเด็ก ๆ ก่อน ในระยะต้น พอนาน ๆเข้า โตขึ้น ประสบการณ์เริ่มมี ศึกษาหาความรู้มากขึ้น คราวนี้มันก็เป็นเรื่องที่กระชับแน่นเข้ามาทุกที มีหลักวิชาการที่อยู่ในนั้นเริ่มเป็นของจริงขึ้นมา ก็เขียนเรื่องที่มันเป็นกิจจะลักษณะ ได้รับการต้อนรับทำให้พอจะมีชื่อขึ้นมาคือเรื่องเล็บครุฑ แต่ก่อนหน้าเล็บครุฑคือเรื่องจุฬาตรีคูณ ผมเขียนเป็น นวนิยายรักสั้น ๆ ไม่มีใครเขาเอาไปลงหรอก พอดีครูแก้ว อัจฉริยะกุล ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ผมนับถือ ผมก็เอาต้นฉบับไปให้ดู ท่านเลยเอามาทำเป็นละครวิทยุ ช่วยกันกับครูเอื้อ สุนทรสนาน ช่วยแต่งเพลงให้ประกอบเรื่อง ทำเป็นละครวิทยุ คนก็ติด ก็เอามาทำเป็นละครเวทีอีกที ชื่อที่ปรากฏบนคัตเอาต์ ของโรงละครมันจะมีชื่อแก้วฟ้า พนมเทียน เพราะเหตุว่าแก้วฟ้า นำมาทำเป็นบทละคร ผมเป็นเจ้าของบทประพันธ์ พอหลังจากเป็นแก้วฟ้า พนมเทียน คนก็ยังไม่รู้จักครับ จนกระทั่งเรื่องปฐพีเพลิงของผมมีโอกาสได้พิมพ์ในค่ายเพลินจิต เรื่องเก่าๆ เช่น จุฬาตรีคูณ เรื่องเห่าดงก็ค่อยๆ ตามออกมา





ต้องตัวดังมาก่อนใช่ไหมคะ เรื่องถึงจะได้ตีพิมพ์

ถึงแม้จะเป็นละครที่ดังมาแล้ว ชื่อพนมเทียนจะไม่มีใครรู้จัก และไม่มีใครรับรอง ผมก็พยายามไปส่งต้นฉบับอีกหลายที่ เขาไม่รับเพราะเห็นเด็กไป เขามีข้อแนะนำว่าผมน่าจะเขียนเรื่องสั้น แต่ผมไม่ชอบเรื่องสั้น ผมก็เขียนเรื่องปฐพีเพลิงขึ้นมาแล้วไปเสนอที่คุณเวช กระตุกฤกษ์ ผ่านทางคุณสมุทร ศิริขัย เป็นพ่อเพื่อนผม เป็นบรรณาธิการอยู่เพลินจิต คุณสมุทรก็รับเรื่องเอาแล้ว แต่ว่าเสนอไปที่คุณเวช คุณเวชยังไม่สนใจอะไร ใส่ลิ้นชักไว้เฉย ๆ วันหนึ่งคุณอุบล กระตุกฤกษ์ ซึ่งเป็นภรรยาคุณเวช ไปนั่งที่โต๊ะ รื้อลิ้นชักเห็นต้นฉบับเรื่องนี้ ก็เอาขึ้นมาอ่าน คุณอุบลอ่านก็บอกสนุกดี เลยบอกให้คุณสมุทรไปตามตัวผมมา จากเรื่องปฐพีเพลิงที่ได้รับการตีพิมพ์ ทำให้ผมเริ่มจะมีชื่อในวงการเขียนขึ้นมาบ้าง





คนรุ่นใหม่จะไม่รู้ถึงที่มาของนามปากกาพนมเทียน ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยค่ะ

มันเป็นคำศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ของสมัยก่อน เปลวไฟที่ติดอยู่ปลายเทียน ถ้าคุณสังเกตให้ดี ถ้ามันนิ่งโดยไม่มีลมพัดจะเป็นรูปกรวยแหลม ส่วนร้อนที่สุดอยู่ตรงยอด แล้วตัวเทียนเองให้แสงสว่างถ้าเราพิจารณาที่เปลวเทียนจะเห็นว่าเป็นชั้น ๆ เขาจะบอกเสร็จว่าชั้นไหนสีอะไร มีอยู่หลายสี มีความสวยงาม มีความสว่าง เปลวไฟที่ติดอยู่บนปลายเทียนนี่ล่ะครับเป็นรูปพุ่ม คล้ายการพนมมือ อันศัพท์เทคนิคเขาเรียกพนมเทียน ไม่ได้หมายความว่าเอาเทียนมาใส่มือแล้วพนม คำนี้ฝังอยู่ในจิตสำนึกผมเป็นเวลานาน หลังจากผมเรียนผ่านมาแล้ว ผมก็คิดว่าผมชอบคำว่าพนมเทียนเหลือเกิน เคยคิดแม้กระทั่งจะแต่งเรื่องชื่อว่าพนมเทียน แต่ว่านึกพล็อตไม่ออกว่าจะเขียนยังไง พอมาเขียนเรื่องจริง ๆ ผมก็เอาชื่อนี้มาเป็นนามปากกา





มีนามปากกาอื่นอีกไหม

ผมไม่ได้เขียนเฉพาะนวนิยาย อย่างเดียว ผมเขียนสารคดีวิชาการ โดยเฉพาะเกี่ยวกับอาวุธศึกษา เรื่องปืน การต่อสู้ป้องกันตัว พวกนี้ผมจะใช้ชื่อจริง ส่วนถ้าหากตอบปัญหาต่างที่เกี่ยวกับเรื่องทางอาวุธปืนที่เขาถามมา ผมก็จะใช้นามปากกาว่า ก้อง สุรกานต์ ถ้าหากเขียนศาสตร์ลี้ลับของฮินดู จะใช้ว่า รพินทร์ รพินทร์นี้มีที่มาคือติดใจในกวีของอินเดีย คือ รพินทรนาถ ฐากูร เลยเอาชื่อเขามาเป็นนามปากกา และเป็นพระเอกของเรื่องเพชรพระอุมา แต่ส่วนใหญ่จะใช้นามปากกาพนมเทียนทั้งนั้น ที่ใช้พนมเทียนเพราะผมเป็นคนเขียนหนังสือช้า และได้ไม่มาก ไม่รวดเร็วเท่าคนอื่น เฉพาะนามปากกาพนมเทียนก็ป้อนส่งโรงพิมพ์ไม่ทันแล้ว จุดบังคับอีกประการหนึ่งให้ใช้พนมเทียนอย่างเดียว คือบรรณาธิการแต่ละแห่งจะถามผมว่าจะใช้นามปากกาไหน ถ้าพนมเทียนจะให้แผ่นละแค่นี้ ถ้านามปากกาอื่นก็ลดลงไปตามลำดับ เคยใช้รุตม์เขียนไปได้สิบกว่าตอน คุณเวชสั่งให้ผมเปลี่ยนมาเป็นพนมเทียนเถอะ





จำความรู้สึกครั้งแรกที่ปฐพีเพลิง เป็นที่รู้จักในหมู่นักอ่านได้ไหมคะ


รู้สึกยินดีครับ เพราะแต่ไหนแต่ไรมาแล้วในส่วนลึก ๆ ของผม ผมอยากจะเป็นนักเขียนนานมาแล้ว แต่ไม่กล้าจะไปบอกใคร เพราะผมถือว่าอาชีพนักเขียนอยู่เหนือความใฝ่ฝันความคิดของเรา ไปเป็นอย่างอื่น เป็นข้าราชการยังง่ายกว่าเป็นนักเขียน และมีคำอีกคำซึ่งเขาพูดล้อ ๆ กันในสมัยก่อน จนกระทั่งสมัยนี้เขาก็ยังล้อ ๆ กันอยู่ มันทำให้เรารู้สึกกระดากคือ คนมักพูดว่า ริมาเป็นนักเขียนจะไส้แห้ง หรือทำนองนี้ เพราะเหตุว่าคนที่จะประสบความสำเร็จกับงานเขียนมันน้อยมากครับ ขมขื่นเหลือเกิน แต่ผมก็มุ่งมั่นจะมาทางนี้โดยที่ไม่กลัว





ทราบว่าที่บ้านคุณพนมเทียนสะสมหนังสือไว้มาก ความรักการอ่านเกิดจากตรงนั้นด้วย

บ้านเกิดผมจริง ๆ อยู่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี มันเป็นบ้านเก่าแก่ บ้านของตระกูลผมอยู่ที่นั่น เขาสะสมหนังสือไว้มาก มีเป็นห้องสมุด พอผมเบื่อไม่รู้จะไปเล่นกับใครแล้ว ผมก็เข้าไปในห้องอ่านหนังสือ อ่านหนังสือสมัยโบราณที่เขาเขียนก่อนผมเกิดมาหลายสมัย มาจนกระทั่งพวกวรรณคดี





เหตุที่ไปพบคลังหนังสือเข้า จริง ๆ ก็เพราะสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้น ผมอพยพหนีภัยสงครามไปอยู่ที่บ้านเดิม แล้วไปเรียนหนังสืออยู่ที่ชนบทอันห่างไกล รอจนกระทั่งสงครามสงบแล้วถึงกลับกรุงเทพมาอีกครั้ง




ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ ตอนที่ 3/6 ได้ในลำดับถัดไป




















ขอขอบคุณ "พนมเทียน" เจ้าของผลงาน "เพชรพระอุมา"

ขอขอบคุณ ณ บ้านวรรณกรรม ผู้จัดพิมพ์วรรณกรรมเรื่องนี้

ขอขอบคุณ ห้องสมุดคอลฟิลด์เพื่อคนตาบอด

มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
ผู้จัดทำเป็นหนังสือเสียง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ...เว็บแฟนแท้แท้เพชรพระอุมา และ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ขอขอบคุณภาพจากทุกเว็บที่เกี่ยวเนื่องกับเพชรพระอุมา

ขอขอบคุณไลน์และอีโม จากบล็อกชมพร / บล็อกญามี่

และขอขอบคุณ คุณ treetree6969 ผู้จัดทำวิดีโอนี้




สาขา Book Blog


ร่มไม้เย็น ค่ะ




Create Date : 22 กรกฎาคม 2556
Last Update : 22 กรกฎาคม 2556 11:42:33 น. 0 comments
Counter : 2605 Pageviews.

ร่มไม้เย็น
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 127 คน [?]







เริ่มเขียน Blog เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2551


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยม เมื่อเวลา 18.15 น.



Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
22 กรกฏาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ร่มไม้เย็น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.