“ปาฏิหาริย์ไม่ใช่การเดินบนน้ำ หรือบินอยู่บนอากาศ แต่ปาฏิหาริย์คือการเดินอยู่บนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว”

ติช นัท ฮันท์
390 .. เสียงอ่านเพชรพระอุมา-ภาคสมบูรณ์ # 44 (331 - 345)










เสียงอ่านเพชรพระอุมา–ภาคสมบูรณ์ # 44

ลำดับที่ 331 - 345








ที่มาของเสียงอ่านเพชรพระอุมา ขอเชิญเปิดอ่านที่นี่





ขอเชิญฟังเสียงอ่านนวนิยาย เพชรพระอุมา – ภาคสมบูรณ์

ลำดับที่ 331 – 345 ค่ะ






ลำดับที่ 331 - 333






ลำดับที่ 334 - 336






ลำดับที่ 337 - 339






ลำดับที่ 340 - 342






ลำดับที่ 343 - 345








ขอเชิญติดตามตอนต่อไปในลำดับที่ 45 ค่ะ




















อิ น ไ ซ ด์ เ พ ช ร พ ร ะ อุ ม า

จากนิตยสาร จักรวาลปืน ฉบับที่ 294
ต อ น ที่ 3/3
โดย........ พนมเทียน








พรานจัน

รายนี้ชื่อจริงว่า "พรานมาก" แห่งเขาเขียว เมืองกาญจน์ แถบหลังน้ำตกเอราวัณ อยู่กันคนละแถบ คนละแห่งกับ "บุญคำ" แต่ผมดึงให้มาร่วมเป็นคณะเดียวกันในเรื่อง ตัวจำลองแบบ ที่อาศัยจากคนจริงนั้น ล้วนแยกย้ายกันอยู่คนละแห่งที่ทั้งนั้น ในชีวิตจริงๆ ของแต่ละคน ไม่ค่อยจะได้อยู่ร่วมกันเป็นคณะหรือกลุ่มเดียวกันนัก สุดแต่ว่าผมจะไปพบเข้าที่ไหนและกำหนดตัวเขาไว้เพื่อนำเอามาใส่ไว้ในเรื่อง




"พรานมาก" เฮี้ยนไม่เท่ากับพรานคำและหนุ่มกว่า แต่ก็อาวุโสแล้วเหมือนกัน ฝีมือยิงเป้าเลว (ตั้งเป้ายิง ไม่เคยยิงถูก) แต่ฝีมือยิงสัตว์ฉมัง (ทุกโป้งที่แกปล่อยออกไปสัตว์ล้มทุกครั้งเหมือนกัน) ก็เรียกว่าทำบาปขึ้นตามวิสัยพรานป่า และเป็นนักล่า นักแกะรอยชั้นหนึ่งเหมือนกัน แกโม้น้อยกว่าตาคำ แต่พูดถึงสิ่งแปลกๆ พิสดาร ประเภทผีสางแม่นางโก้งได้หน้าตาเฉยๆ เหมือนแกพูดถึงเพื่อนฝูงตามปกติของแก และเป็นผู้เอาทฤษฎีประหลาดในการยิงปืนมาแนะนำสั่งสอนผม




แกบอกว่ากระสุนที่ยิงออกไปนั้น ถ้าถูกสัตว์ มันจะมีอากาศดูดหนืดๆ ทำให้เขารู้ทันทีว่ายิงโดนเข้าแล้ว ในทางตรงข้าม ถ้าไม่ถูกสัตว์ แต่ไปกระทบกับของแข็งอะไรเข้า เป็นต้นว่าก้อนหิน แรงสะท้อน มันจะผลักกลับมาถึง กับทำให้ไหล่เคลื่อนยอกทีเดียว เพราะฉะนั้น จะให้แกยิงเข้าไปในก้อนหินหรือของแข็งๆ แกจะไม่กล้ายิงเป็นอันขาด วันหนึ่งแกเดินไหล่เอียงเท่เร่ ผิดสังเกตเข้ามา ผมก็ถามว่านั่นไปโดนอะไรเข้า แกก็บอกว่า แกยิงกวางผิด กระสุนเลยไปกระทบก้อนหินริมธารน้ำเข้าจังเบ้อเร่อ แกเลยไหล่ทรุด ผมก็อยากจะเชื่อแกอยู่เหมือนกัน เพราะแกแกะรอยสัตว์เก่งกว่าผม แต่ถ้าเชื่อเสียอย่างเดียว ผมก็คงไม่ต้องยิงปืนทดสอบ เพราะการยิงปืนทดสอบนั้น บางขณะ "แบ็คสต็อป" หรือที่กำบังหลังเป้ามันก็เป็นเหล็กกล้าทั้งแผ่น ถ้าเป็นไปตามที่แกว่า ป่านนี้ผมคงไหล่หักไปนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว… ผมเรียกแกว่า "น้ามาก" ซึ่งกลายมาเป็น "น้าจัน" พรานคู่หูของตาคำในเรื่อง






พรานเกิด และพรานเส่ย

สองรายนี้เป็นพรานเด็กหนุ่มรุ่นเดียวกับผมในครั้งนั้น อยู่ในแถบเหมืองห้วยสุดเมืองกาญจน์เหมือนกัน แต่คนละแห่งกับพรานมาก ทั้งตัวจริงและทั้งตัวละครในเรื่องไม่มีบทบาทอะไรมากนัก เป็นพรานรุ่นเด็กประกอบเรื่อง ผมเคยคุยกับสองคนนี่บ่อยๆ ซึ่งก็ไม่สู้จะได้ความอะไรนัก เพราะความที่ยังอาวุโสน้อย ชื่อของเขาทั้งสองเป็นชื่อจริงที่ถอดเอามา ทั้งดุ้นเลย ที่ผมจำได้แม่น ก็เพราะความมีชื่อแปลกคิดแต่งเองได้ยากของพรานเส่ย ผมนึกไม่ออกว่า ชื่อของเขาควรแปลว่าอะไร และต่อมาเมื่ออยู่ในป่าคอนกรีตไปนานๆ ผมก็มองเห็นชื่อคนในข่าวสังคมว่าชื่อ "เส่ย" มีเหมือนกัน เป็นบุคคลมีหน้ามีตาในสังคมด้วย ทั้งๆที่พบเส่ยครั้งแรก ผมคิดว่าอาจจะเป็นคนเดียวในโลกที่ชื่อแบบนี้ และเขาเป็นคู่หูกัน เมื่อผมจำเส่ยได้ ผมก็จำชื่อของพรานเกิดได้พร้อมๆ กันไปด้วย




พรานเด็กคู่นี้ ท่านจะสังเกตเห็นว่ากล่าวถึงแบบรวมๆ ไม่มีบทบาทเฉพาะตัวอะไรมากนัก มีเอาไว้สำหรับ "แซว" บุญคำเล่นเท่านั้น แต่ก็มีตัวจริง รวมทั้งชื่อจริงด้วย





หนานอิน

มาจากตัวจริง ที่ชื่อเรียกขานกันว่า "หนานไพร" แห่งเหมืองห้วยสุด ซึ่งเป็นหัวหน้าบ้านของพรานเกิด และพรานเส่ย บุคคลผู้นี้ก็คือ "ครูพราน" ของผมคนหนึ่ง ชื่อ "หนานไพร" นั้น ในเรื่องเป็นครูพรานของรพินทร์ และไม่มีบทบาทอะไรเลย เพียงแต่กล่าวอ้างถึงเท่านั้น ผมได้จำลองบุคลิกลักษณะท่าทีและอุปนิสัยใจคอของแก มาเป็นตัว "หนานอิน" แทน (เพราะหนานไพรไม่มีบทบาทอะไรเลยในเรื่อง)




บุคคลผู้นี้ เป็นพรานมือหนึ่งจริงๆ ผมได้เคยทราบว่า ครั้งหนึ่งแกเคยเป็นพรานนำทางของพรานใหญ่บรรดาศักดิ์ คุณพระศัลยเวทย์ฯ มาก่อน เป็นเกลอคู่หูกับ โต๊ะถะ พรานประจำตัวของ เจ้าเพชรราชฯ แต่อยู่กันคนละแถบ ชื่อจริงของแก จะชื่อว่าอย่างไร ไม่อาจทราบได้ แต่ขณะที่พบนั้น มีสมญานามเรียกรู้กันว่า "หนานไพร" หลบหนีคดีฆ่าคนเหมือนกับตาคำเหมือนกัน แต่หลบซ่อนตัวอยู่ในหุบของป่าใหญ่ อันจะเป็นหนทางนำไปเหมืองห้วยสุด ซึ่งทึบและทุรกันดารมาก (ในยุคนั้น)




ตลอดเวลาที่หลบหนีคดีอยู่ ทำให้แกชำนาญในป่าภาคพื้นนั้น ยังชีพอยู่ด้วยการส่งเนื้อช้างเค็มออกมาขายในหมู่บ้าน "หนานไพร" อายุร่วม 60 แล้ว ในขณะที่ผมพบนั้น ลักษณะเป็นคนอารมณ์เย็น มักจะหัวเราะ "หึๆ" อยู่เป็นนิสัย เวลาแกเดินป่านั้น เราจะเห็นว่าแกมองอยู่สี่ทิศทาง คือ สูง-ต่ำ-ซ้าย และขวา จากนั้นก็พยักหน้าโบกมือให้เราตามแกเข้าไป รับรองว่าป่าทึบรกสักขนาดไหน แกจะต้องนำทางตัดตรงเข้าหาจุดหมายที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ ชนิดไม่มีการคลาดเคลื่อนไปเลยแม้แต่องศาเดียว




"หนานไพร" เป็นพรานป่าคนเดียวที่ผมพบ ที่พูดอะไรเป็นหลักตรรกศาสตร์ไปหมด หรืออีกนัยหนึ่งจะพูดอย่างคนมีการศึกษาดีมาแล้ว ทั้งๆ ที่แกก็ไม่ได้เรียนหนังสือเลย เวลานอน ชอบนอนดักเส้นทางด่านของสัตว์ เสียงของพวกเราที่คุยกันเอะอะเฮฮา ในขณะที่พักอยู่ในป่า ใกล้ๆ ที่นอนของแก หูของแกปิดสนิท จะไม่ได้ยินเลย แต่ถ้าเสียงฝีเท้าสัตว์ แม้จะเป็นสัตว์เล็กที่สุดขนาดเม่นเดินมา แกจะได้ยินทันที และลุกขึ้นยิงได้ตัวทันทีเหมือนกัน ซึ่งเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์มาก ประสาทสัมผัสของแกเทียบเท่ากับสัตว์ป่าตัวหนึ่ง และยิงได้เฉียบขาดนัก ในสัตว์มีชีวิตทุกชนิด จากสัตว์เล็กสุด จนถึงสัตว์ใหญ่สุด การนอนของตัวแกเอง (ซึ่งนอนนอกเขตแค้มป์) ไม่เคยก่อไฟเลย แต่แกจะสั่งให้พวกเราก่อกองไฟไว้เสมอ ไม่มีลักษณะใดๆ ที่จะเป็นการคุยโวโอ้อวดเลย มีแต่ถ่อมตน และมักจะพูดอะไรเป็นการกลบเกลื่อนปลอบใจพวกเราอยู่เสมอว่า "ไม่มีอะไร"




เที่ยวป่ามาก็มาก ผมยังไม่เคยเห็นใครจะ "ยิ่งใหญ่" ในป่าเท่ากับหนานไพร ไม่ใช่ยิ่งใหญ่เพราะอิทธิพลความกว้างขวาง แต่ยิ่งใหญ่ในด้านฝีมือการเดินป่า และยิงสัตว์ ซึ่งเฉียบคมที่สุด ทั้งๆ ที่ขณะพบนั้น แกก็แก่มากแล้ว ความสามารถพิเศษของแกนี้แหละ ที่ผมจำลองแบบให้มาเป็นคุณสมบัติของรพินทร์ (ผมเองมีไม่ถึงครึ่งของแก) นอกเหนือจากสีหน้าท่าทาง ที่จำลองแบบมาจาก เชิด วรชาติ ได้ยินชื่อแกครั้งแรก ผมก็ทึ่งแล้ว คนอะไรหว่า อยู่ในป่าแล้วดันชื่อว่า "หนานไพร" ใครเป็นคนตั้งชื่อให้ ผมไม่ได้สืบค้นลงไป ทั้งค้นไม่ได้อีกด้วยว่าชื่อจริงๆ ของแกชื่อว่าอะไร ใครที่เคยพบปะกับหนานไพรมาบ้างแล้ว และรู้ดีกว่าผม ถ้าจะให้ข่าวอะไรที่มากขึ้นไปกว่าที่ผมรู้นี้มาให้ทราบเป็นการเพิ่มเติมบ้าง ก็จะดีไม่น้อย แต่ขณะนี้ได้ทราบข่าวว่า แกถึงแก่กรรมไปนานแล้ว




สรุปในหัวข้อนี้ก็คือว่า ในเรื่องนั้น มีชื่อทั้งหนานไพร และหนานอิน แต่ในเมื่อบทบาทของหนานไพร ไม่ได้มีปรากฏอยู่ในเรื่อง นอกจากการกล่าวถึงบางครั้งบางคราว ผมก็เลยลอกแบบของหนานไพร ให้มาเป็นตัวหนานอินเสียเลย รู้แล้วรู้รอด ไม่ต้องไปแสวงหาตัวเทียบเคียงที่ไหน หรือคิดสมมติขึ้นมาเองให้เปลืองสมอง หนานไพรให้หลักการอะไรดีๆ แก่ผมไว้หลายอย่างในการดำรงชีพอยู่ในป่า ต้องยอมรับว่าแกคือครูพรานคนหนึ่ง แต่แกก็ไม่ได้ให้คาถาอาคมอะไรที่เกี่ยวกับไสยศาสตร์แก่ผมเลย ทั้งๆ ที่ผมเชื่อว่าแกจะต้องมี และมากด้วย หนานไพรมีลูกชายโทนอยู่คนหนึ่ง ชื่อเจ้า "ทอง" และ "เจ้าทอง" นี่แหละ ที่ทำเอาผมกับหมอบุญเสริม เจียมปรีชา หลงป่ากันเกือบตายตลอดทั้งคืน ดังที่ได้เคยเขียนไว้แล้วในสารคดีท่องไพร ตอน "เมื่อคุณหมอหลงป่า"




ตายละวา! ต้นฉบับของฉบับนี้ เข้ามาตั้ง 9 หน้ากระดาษพิมพ์แล้ว ยังแจกที่มาของตัวละครในเรื่องชุดแรก ขาดไปคนหนึ่งเสียด้วยซ้ำ คือ "มาเรีย" แล้วยังจะตัวละครชุดสองอีกล่ะ ถ้าขืนเอากันให้จบเสียในฉบับนี้ หน้ากระดาษก็คงไม่พอพิมพ์แน่ เพราะโควต้าของผมตายตัวอยู่แล้ว…. กราบละครับ ขอผลัดไปฉบับหน้าอีกเล่มเดียวเท่านั้น เล่มเดียวจริงๆ สำหรับที่มาของ มาเรีย, อิสซาเบล, คริสติน่า, สแตนลีย์, คีธ และ เชิดวุธ อีก 6 ตัวละคร จะตัดตอนทิ้งไปเสียเลย มันก็จะไม่เป็นที่กระจ่างสมบูรณ์ และท่านผู้อ่านนั่นแหละ จะสวดมา จึงขอทัณฑ์บนไว้ ฉบับหน้าเรียบร้อยหมดสิ้นกระแสความจริงๆ ว่าเขียนอย่างรวบรัดตัดความแล้วทีเดียวนะนี่





ติดตามอ่านอินไซด์ เพชรพระอุมา ตอนต่อไปได้ในลำดับถัดไป


















ขอขอบคุณ "พนมเทียน" เจ้าของผลงาน "เพชรพระอุมา"

ขอขอบคุณ ณ บ้านวรรณกรรม ผู้จัดพิมพ์วรรณกรรมเรื่องนี้

ขอขอบคุณ ห้องสมุดคอลฟิลด์เพื่อคนตาบอด
มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
ผู้จัดทำเป็นหนังสือเสียง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ...เว็บแฟนแท้แท้เพชรพระอุมา และ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ขอขอบคุณภาพจากทุกเว็บที่เกี่ยวเนื่องกับเพชรพระอุมา

ขอขอบคุณเครื่องแต่งบล็อก จากบล็อกชมพร / บล็อกญามี่

และขอขอบคุณ คุณ treetree6969 ผู้จัดทำวิดีโอนี้


สาขา Book Blog


ร่มไม้เย็น ค่ะ




Create Date : 27 ตุลาคม 2556
Last Update : 27 ตุลาคม 2556 11:34:25 น. 0 comments
Counter : 2649 Pageviews.

ร่มไม้เย็น
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 127 คน [?]







เริ่มเขียน Blog เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2551


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยม เมื่อเวลา 18.15 น.



Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
27 ตุลาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ร่มไม้เย็น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.