★ 4 วันแรกกับหนัง 14 เรื่อง จากงานเทศกาลบางกอกฟิล์ม





จบลงไปแล้ว สำหรับงานบางกอกฟิล์มที่จัดขึ้นที่ SFW เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ เป็นเวลารวม 8 วัน รวมหนังทั้งหมดที่ได้ดูเป็น 30 เรื่อง

มีความคิดเห็นสั้นๆจากการดูหนังแต่ละเรื่องตามนี้ค่ะ

PART I




Day 1 :: Tuesday Sep.23, 2008

Vicky Cristina Barcelona (Woody Allen, 2008)
Country :: USA

++ เป็นหนังที่มีเสน่ห์ได้อย่างออกนอกหน้า นับตั้งแต่ฉากที่ ฮวน อันโตนิโอ (ฆาร์เบีย บาร์เดม) มาชวน วิคกี้ (รีเบคก้า ฮอลล์)และ คริสติน่า (สการ์เล็ต โจฮันสัน) ไปเที่ยวพักผ่อนที่บ้านเขาในช่วงต้นเรื่องจวบจนท้ายเรื่องนั้นเลย และในฉากที่ว่านี้ต้องขอชมว่าเป็นฉากที่แนะนำตัวละครหลักได้เยี่ยมมากๆ ทำให้ตั้งแต่ต้นเรื่องมาเสียง voice over ที่พรรณาสรรพคุณและทัศนคติของสองสาวยาวเหยียดจนแทบจะหมดเปลือกนั้นกลายเป็นเรื่องไม่จำเป็นไปเลย

“มีรักเหมือนมีทุกข์” เป็นประโยคที่แทนความวุ่นวายยุ่งเหยิงจากความสัมพันธ์คนคู่ทั้งแบบไม่คิดจริงจังและแบบผูกมัดของตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้ แล้วหยอดท้ายด้วยการใบ้ทางออกให้ว่า “แต่อย่าให้มันทำหน้าที่เป็นคุกขังดักเราได้...นะ

สนุกดี ชอบความเป็นไม้หลักปักเลนของ ฆาเบีย บาร์เดม แกแสดงได้มีเสน่ห์

คะแนนความชอบส่วนตัว :: 8.5/10


My Winnipeg (Guy Maddin, 2007)
Country :: Canada

++ ไม่ค่อยเก็ต เลยออกแนวชวนง่วง

คะแนนความชอบส่วนตัว :: 5/10


Ironeaters (Shaheen Dill-Riaz, 2007)
Country :: Bangladesh

++ ตื่นตาดีกับธุรกิจแยกชิ้นส่วนเรือเพื่อเอาเหล็กไปขาย หนังถ่ายทำและบันทึกจากสถานที่จริง เป็นแนวสารคดี แยกมุมมองของนายทุนและชนชั้นแรงงานชัดเจน แต่น้ำหนักทั้งหลายเทไปที่การเป็นคนขายแรงงาน

ป.ล. ไม่คิดว่าบังคลาเทศจะยากจนกันขนาดนี้ รายได้ของคนงานลากสายเคเบิ้ล ได้วันละ 1 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐกับอีก 50 เซนต์ !

คะแนนความชอบส่วนตัว :: 7.25/10


Money No Enough 2 (Jack Neo, 2008)
Country :: Singapore

++ ดูได้เพลินๆ แม้จะออกลูกล้งเล้งไปหน่อย ครึ่งแรกหนังประชดประชันรัฐบาลเรื่องการเก็บเงินค่าผ่านทาง และเป็นเรื่องระหว่างเงินกับตำแหน่งทางสังคม ครึ่งหลังประชดเรื่องระหว่างเงินกับชีวิต ดราม่าน้ำเน่า แต่ถ้ามันเคยมีอย่างนั้นจริง คนบางคนก็น่าถูกสมเพช

คะแนนความชอบส่วนตัว :: 6.75/10







Day 2 :: Wednesday 24, 2008

Kantata Takwa (Eros Djarot, Gotot Prakosa and Slamet Rahardjo Djarot, 2007)
Country :: Indonesia

++ เป็นการผสมผสานระหว่างบทกวี ละคร ดนตรี และภาพยนตร์ ที่น่าประทับใจ บางฉากก็เหมือนกำลังแสดงละครเวทีเพียงแต่มีฉากหลังเป็นหมู่บ้าน ป่าเขาและทะเลจริงๆ การร่ายคำที่ต้องถอดความหมายอีกที เพลงในรูปแบบคอนเสิร์ตมีท่วงทำนองที่ฮึกเหิม เมโลดี้ที่แตกต่างจากที่คุ้นชินกระทั่งเพลงจากเปียโนยังแปลกและเศร้าสร้อย ทั้งหมดทั้งมวลนั้นพูดถึงการเมือง ความหมายของการมีชีวิต เสรีภาพและความเป็นอิสระ

คะแนนความชอบส่วนตัว :: 8.5/10


Autumn (Ozcan Alper, 2008)
Country :: Turkey

++ ชอบบรรยากาศของหนังที่เย็นๆหม่นๆ ประทับใจความรู้สึกดีดีของทั้งพระเอกและนางเอกที่มีให้กัน แต่เพียงแต่แตะหรือสัมผัสผ่านๆเท่านั้น มันทำให้เห็นว่ายังมีสิ่งอื่นหรืออย่างอื่นที่สำคัญกว่าการอยู่ด้วยกัน

ฉากกินใจคือตอนที่นางเอกมาบอกพระเอกว่าเธอยินดีจะทิ้งทุกอย่างเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน ฝ่ายพระเอก..ไม่ตอบ...และเมื่อเขาตัดสินใจได้และมารอเธอ...เธอไม่มา... จะหดหู่ไปถึงไหนกัน ชีวิต

คะแนนความชอบส่วนตัว :: 8.5/10


Alice in the Land (Esteban Larrain, 2008)
Country :: Chile
++ ความเวิ้งว้าง แห้งแล้งของทิวทัศน์ ความโล่งเปล่าของท้องฟ้าที่หาที่สุดไม่ได้ แต่ความมุ่งมั่นและใจที่คุกรุ่นไปด้วยความคิดถึงเรื่องต่างๆที่ผ่านมา บวกกับสองเท้าที่ก้าวเดิน เดิน เดิน อย่างรู้จักเหน็ดเหนื่อยแต่ถอยหลังกลับไม่ได้ของเธอ ก็ทำให้หนังมีชีวิตชีวา เดินกันทั้งเรื่องก็ไม่หลับอ่ะว่าง่ายๆ

คะแนนความชอบส่วนตัว :: 7.5/10


You, the Living (Roy Andersson, 2007)
Country :: Sweden | Germany | France | Denmark | Norway
++ หนังดูเหมือนจะหดหู่และจืดไร้อารมณ์ เพราะเอาแค่ว่าตัวละครทั้งหลายส่วนใหญ่ก็อายุมาก เชื่องช้า ไร้สุข แถมเสื้อผ้าหน้าผมและฉากหลังก็ไร้สีสัน

แต่ในความชืดนั้นจริงๆแล้วก็ยังแฝงไปด้วยอารมณ์ขัน หยิกหยอกส่งยิ้มกับให้การดำเนินชีวิตของแต่ละผู้แต่ละคน คล้ายจะบอกว่า ไม่มีใครที่สุขได้นานหรือทุกข์ได้ตลอดหรอก ชีวิตที่แท้มันต้องคละเคล้าไปด้วยทุกอย่างอย่างที่เห็นนี้แหละ

คะแนนความชอบส่วนตัว :: 8/10









Day 3 :: Thursday Sep.25, 2008

Now Showing (Raya Martin, 2008)
Country :: Phillippines

++ มีความรู้สึกว่า หนังทำให้เรากลายเป็นริต้าไปทีละน้อยละน้อย จากแรกๆที่ต้องเฝ้าดูกิจวัตรของเธอด้วยเวลาที่ยาวนาน บางครั้งก็ชวนอึดอัด จนที่สุดก็เริ่มจะรู้ทางและเริ่มคิดไปพร้อมกับเธอแล้วก็กลายเป็นคิดแทนเธอ

ชอบฉากที่เธอเปิดตู้เย็นแล้วไปหลบยืนร้องไห้ ฉากในสุสานก็หลอนดี

คะแนนความชอบส่วนตัว :: 6/10


Soi Cowboy (Thomas Clay, 2008)
Country :: Thailand / UK

++ เป็นการบอกเล่าวงจรชีวิตของสาวบ้านนาที่มาจากหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตั้งแต่จุดเริ่มต้น (ที่ไม่ใช่จุดเริ่มต้น) ที่มีค่านิยมที่ต้องควาญหาสามีต่างชาติมาเป็นของตัวเอง รวมทั้งเรื่องที่แตกแขนงออกไปโดยมีคนในครอบครัวต้องไปรับงานกับเจ้าพ่อค้าคนโดยมีสินจ้างรางวัล

ความรักที่หลงลืม คุณธรรมที่สูญหาย เพราะพร้อมใจกันตกลงบ่อที่ชื่อ “เงิน”

ฉากเหวอสุด คือน้องชายพาพี่ชายเข้าป่า!

คะแนนความชอบส่วนตัว :: 7/10








Day 4 :: Friday Sep.26, 2008

Invisible Children (Brian Gothong Tan, 2008)
Country :: Singapore

++ หนังจากสิงคโปร์ไม่ว่าเรื่องไหนก็ยังสนุกกับการเหน็บจิกรัฐบาลโดยเฉพาะเรื่องการศึกษา และเด็กสองคนในเรื่องที่ต้องหนีออกจากบ้านนั้นสาเหตุก็มาจาก “การเรียน” เหมือนกัน หนังมีตัวอย่างของหลากหลายอาชีพ หลายชีวิตที่ต้องโดดเดี่ยว แล้วจบด้วยความเข้าใจชีวิตแบบตั้งใจ๊ตั้งใจ

ต้องสูญเสียหรือแยกจากแล้ว จึงจะเห็นว่า “สำคัญ”

คะแนนความชอบส่วนตัว :: 6.75/10


Lemon Tree (Eran RiKlis, 2008)
Country :: Israel

++ หนังสร้างจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงแล้วดัดแปลงเนื้อหานิดหน่อย เกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่ง (ปาเลสติเนียน)ที่ต่อสู้กับประเทศ (อิสราเอล) เพียงเพราะสวนมะนาวนั้นอาจเป็นที่ซ่องสุมหรือซ่อนตัวของผู้ก่อการร้าย ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อบ้านท่านรัฐมนตรีกลาโหมที่พึ่งย้ายมาเป็นเพื่อนบ้านเธอ

ดูแล้วคิดถึง ยายไฮ ที่ยึดมั่นและต่อสู้เพื่อสิทธิของตนอย่างเด็ดเดี่ยว+โดดเดี่ยว
และชอบที่ให้พี่ทนายไม่ดูเป็นคนดีเหลือเชื่อที่เข้ามาช่วยคดีในคดีนี้

ประทับใจกับหนังเรื่องนี้เป็นพิเศษและเป็นอันดับหนึ่งของหนังที่ประทับใจที่สุดในเทศกาลบางกอกฟิล์มปีนี้

คะแนนความชอบส่วนตัว :: 9/10


Frozen (Shivajee Chandrabhushan, 2007)
Country :: India

++ หนังสวยงามในส่วนของภูมิประเทศ แต่หดหู่ในเนื้อหา ที่เล่าถึงความยากลำบากในการหาเงินจนสุดท้ายต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำคือส่วนของผู้ใหญ่ ส่วนภาพรวมของเด็กเป็น coming-of-age จากไม่รู้สึกรู้สาแปรไปเป็นการยอมรับและความเข้าใจ

ในหนังมีนางเอกคนเดียวที่หน้าตาอารมณ์อินเดีย นอกนั้นประมาณทิเบต แปลกดี

คะแนนความชอบส่วนตัว :: 7.5/10


A Chrismas Tale (Arnaud Desplechin, 2008)
Country :: France

++ เป็นการจับเอาความโกลาหลและปัญหาแต่ละครอบครัวของลูกๆที่อยู่กันคนละทิศ มาอยู่รวมกันในบ้านของพ่อ-แม่ ในช่วงวันคริสมาส และพร้อมๆกับร่วมรับทราบว่าแม่เป็นมะเร็งในเม็ดเลือด หนังหาทางออกได้น่าติดตาม ชอบตัวละครของ อองรี (Mathieu Amalric) เจ้าปัญหา ไม่เข้าท่า และเล่นได้แรงดี

คะแนนความชอบส่วนตัว :: 7/10






:: Please welcome ::

ขอเชิญ ทุกท่านร่วมแสดงความคิดเห็นต่อหนังหลากเรื่องหลายแนว ทั้งชนโรง ทั้งหนังแผ่น ได้ที่ //vreview.yarisme.com ค่ะ และเรายังมีกิจกรรมให้ทุกท่านมีสิทธิลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท ฟรี!!!! จำนวน 8 ใบ ทุกเดือนอีกด้วย
.
.





 

Create Date : 02 ตุลาคม 2551
24 comments
Last Update : 2 ตุลาคม 2551 9:50:26 น.
Counter : 1299 Pageviews.

 

ยังไม่หมดใช่ไหมนี่ ได้ดูเยอะจริงๆ

หนังที่อยากดูอย่าง My Winnipeg กระแสไม่ดีเลยแหะ

A Chrismas Tale เป็นเรื่องล่าสุดที่เกิดอยากดูขึ้นมา ส่วน วิคกี้ คงมีโอกาสได้พิสูจน์เร็วๆนี้แน่ๆ

คำโปรย Bkkiff "เทศกาลของ "คนดูเงา"" มันหมายฟามว่าไงหว่า

 

โดย: BloodyMonday 2 ตุลาคม 2551 10:21:32 น.  

 

เยอะมาก ๆ

 

โดย: I will see U in the next life. 2 ตุลาคม 2551 10:33:56 น.  

 

อ่านมายาวเลยค่ะ .. ประมาณว่าอยากดู
ตั้งหลายเรื่องเลยแน่ะ ธีมโดนใจอ่ะคะ
มีเทศกาลหนังอย่างนี้ คนชอบและรักหนัง
ชื่นใจกันล่ะค่ะที่ได้ดูหนังที่แบบว่าหาดู
กันไม่ได่ง่ายๆ เน๊าะ

 

โดย: JewNid 2 ตุลาคม 2551 11:40:21 น.  

 

 

โดย: เริงฤดีนะ 2 ตุลาคม 2551 13:29:12 น.  

 

โอ้ว นี่แค่ part 1. นะเนียะ
ดูเยอะจัดเลยแม่คุณ เอ้ย

 

โดย: haro_haro 2 ตุลาคม 2551 16:10:52 น.  

 

+ เหวออออ!! 8 วัน 30 เรื่อง!!! ... ของผมขนาดซื้อแพ็คเกจเดียว ดูได้ 10 เรื่อง ยังต้องกระจายดูตั้ง 4 วันแน่ะครับ ... มีวันแรก (อังคาร) ที่ลางานไป เลยอัดไว้ 4 เรื่องรวด (เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ดูหนัง 4 เรื่อง (เกือบ) ต่อกัน ภายในวันเดียว ทุกทีผมดู 2 เรื่องก็แย่แล้ว มันเมื่อย แล้วก็ปรับอารมณ์ไม่ค่อยทันด้วยอ่า)
+ เอ๋! นี่ก็แสดงว่า 2 เรื่องแรกของเทศกาล (วิคกี้ / วินนิเปก) เราก็เป็น 'เพื่อนร่วมโรง' กันอ่ะจิครับเนี่ย อุๆ

+ แต่การมีซับฯ ไทยแบบปีนี้ ก็ดีเหมือนกันนะครับ เพราะปีก่อนๆ ผมพยายามเลี่ยงหนังพูดอังกฤษ (ยกเว้นเรื่องที่อยากดูจริงๆ) ปีนี้เลยไม่ต้องติดข้อจำกัดเรื่องนี้อีก

+ Vicky ผมก็ชอบเหมือนกันครับ มีเสน่ห์และดูฉลาดดี (แต่ยังไม่ใช่เรื่องที่ชอบที่สุดในงานนี้ ซึ่งก็คือ Let the right one in)

+ My Winnipeg จริงๆ ผมก็ต่อไม่ค่อยติดเหมือนกันนะครับ ง่วงพอประมาณเช่นกัน แต่ให้คะแนนเพิ่มในเรื่องความคิดสร้างสรรค์ กับบรรยากาศหลอนๆ เหมือนเมืองแวมไพร์ของหนัง (แต่น้องนาโนฯ ให้ตั้งเกือบเต็มแน่ะ จะว่าไปการดูหนังนี่มันก็แล้วแต่แต่ละคนเหมือนกันเนาะครับ ว่าจะถูกจริตกับหนังในแนวนั้นๆ หรือไม่)

+ Lemon tree จริงๆ ก็เล็งไว้เหมือนกันนะ แต่พอดีผมค่อนข้างกลัวที่จะดู 'หนังการเมือง' ก็เลยตัดสินใจไม่เลือกดูอ่ะครับ แหะๆ ถ้ามีโอกาสต้องลองหามาพิสูจน์หน่อยแล้ว

+ A Chrismas Tale จริงๆ ก็เป็นหนังที่ดีในแนวทางของมัน (เห็นน้องนาโนฯ กับน้องเมอร์ฯ ชื่นชมกันนี่นา) พอดีโดยส่วนตัว ผมไม่ค่อยถูกจริตกับหนังฝรั่งเศสแนวแบบนี้ (ความสัมพันธ์ป่วงๆ ในครอบครัว) ก็เลยให้คะแนนออกมาใกล้ๆ กับคุณสลิ่มเช่นกันครับ

+ เอ๋! ว่าแต่นี่ถึงกับหยุดงาน หรือหยุดกิจกรรมที่อุบลฯ เพื่อลงมาตะลุยดูหนัง 8 วันรวดเยี่ยงนี้เลยเหรอครับเนี่ย? เจ๋งจังอ่า

+ ว่าแต่ World Films ก็กำลังจะมาอีกแล้ว (24 ตุลา - 2 พฤศจิกา) นี่มิต้องหยุดงานลงมากวาดดูหนังอีกรอบเหรอครับเนี่ย? กิๆ

+ ผ่านไปแล้ว 14 เรื่อง งั้นก็เหลืออีก 16 หรือเฉลี่ย วันละ 4 เรื่อง! เยอะเจงๆ เด๋วรออ่าน Part II นะครับผม

 

โดย: บลูยอชท์ 3 ตุลาคม 2551 17:33:20 น.  

 

ไม่ได้ไปดูหนังในเทศกาลมา 2 ปีแล้ว และคิดว่าตัวเองไม่ค่อยเหมาะกับอะไรแบบนี้เท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน -*-

มีหนังเอเชียที่อยากดูหลายเรื่องเลย แต่ความยาวของหนังฟิลิปินทั้งหลายทำให้ผมกลัว

 

โดย: ต้องบอกด้วยเหรอ 3 ตุลาคม 2551 19:05:17 น.  

 

เพิ่งนึกได้ว่าเคยดูและชอบหนังของ Eran Riklis เรื่อง The Syrian Bride (2004)
ต้องขวนขวายหา Lemon Tree มาดูซะแล้ว

 

โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ 3 ตุลาคม 2551 20:36:06 น.  

 

ยังไม่ได้ดูก็ดูเรย ^^ (เจียดเวลามาหาหนังฮอลลิวู้ดบ้าง หุหุ)

 

โดย: BdMd IP: 124.122.165.55 3 ตุลาคม 2551 21:28:32 น.  

 

ผมชอบ Now Showing มากๆเลยนะ สุดยอดมากๆๆ

 

โดย: wayakon IP: 58.9.235.165 3 ตุลาคม 2551 21:47:53 น.  

 

โห ดูมาเยอะมากๆ เยอะจริงๆ

Lemon Tree นี่ไม่รู้จักแฮะ แต่ได้คะแนนสูงสุดเลย

 

โดย: navagan 4 ตุลาคม 2551 1:10:10 น.  

 

BdMd
My Winnipeg เราเห็นเป็นที่ชื่นชอบของหลายคนอยู่นะ

I will see U in the next life.
^_^

JewNid
อาจจะมีบางเรื่องจากเทศกาล แล้วมีโอกาสได้ฉายรอบปกติ ยังไงรอติดตามข่าวเรื่อยๆค่ะ

เริงฤดีนะ
^_^

haro_haro
^_^

บลูยอชท์
มีซับฯไทยนี่ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เยี่ยมมากๆ แถมทำได้ทันทุกเรื่องด้วย ขอคารวะจริงๆ
พอได้อ่านไทย มันก็ทำให้เราเข้าใจได้มากขึ้น เร็วขึ้น เมื่อก่อนบรรยายอังกฤษ ทำเอามึนไปหลายตลบเหมือนกัน

World Films เจอกัน อิอิ

ต้องบอกด้วยเหรอ
^_^ ดูหนังยาวๆ ว่ากันยาวๆก็ดีเหมือนกันนะ ไม่ต้องลุกไปไหนเลย ให้สมองมันจ่อมจมอยู่ตรงนั้น ฆ่าเวลาในโลกจริง หุหุ

น้าเอ้
ประเด็นความขัดแย้งทางเชื้อชาตินี่ ดูกี่ที กี่เรื่องก็มีความน่าสนใจไปซะทั้งนั้น
เพราะมันเหมือนเป็นเรื่องที่เคลียกันไม่เคยจบ

BdMd..again
ก็กำลังหาเวลาอยู่จ้า...อยากดูๆ

wayakon
ค่ะ มีนักวิจารณ์หลายคนก็ชอบเรื่อง Now Showing มากๆเหมือนคุณ wayakon
มีโอกาสก็เขียนถึงบ้างนะคะ อยากทราบความคิดเห็น ^_^

navagan
^_^

 

โดย: renton_renton 4 ตุลาคม 2551 11:47:07 น.  

 

โอ้วววว...สุดยอด ดูเยอะจริงๆ อยากดูมั่งจัง เห็นทีต้องย้ายไปอยู่บางกอกบ้างแล้ว

 

โดย: DKRY 4 ตุลาคม 2551 15:43:27 น.  

 


แวะมาเยี่ยมเยียนอีกรอบค่ะ
สบายดีนะคะ
รักษาสุขภาพด้วย..ฝนตกบ่อยๆ

 

โดย: เริงฤดีนะ 4 ตุลาคม 2551 22:50:26 น.  

 

แต๊งส์จ้า

ที่ดูสามวันคือดูเรื่องอื่นจนจบก่อน แล้วจึงมาเปิดเรื่องนี้ ซึ่งเวลามันก็ค่อนข้างจะดึกไปหน่อยแล้ว สุดท้ายมันก็เลยดูเราแทนถึงสองคืนซ้อนไง (อ้อ และมันก็น่าเบื่อด้วยน่ะ 55+)

 

โดย: BloodyMonday 7 ตุลาคม 2551 9:54:52 น.  

 

c;t,kgpujp,8iy[

=j;'ouhw,j,usoy'vtwiojklo.0g]p;jk,jt

 

โดย: chubbmautre IP: 58.8.248.230 7 ตุลาคม 2551 11:30:40 น.  

 

หนทางยังอีกยาวไกล
ต้องส่งแรงใจให้พวกเค้าอดทนและสม่ำเสมอ
เมื่อนั้น ท้องฟ้าจะเป็นสีแดงอีกครั้ง

 

โดย: getterTu 7 ตุลาคม 2551 17:47:30 น.  

 

สวัสดีครับ

 

โดย: beerled IP: 203.154.188.177 7 ตุลาคม 2551 18:22:33 น.  

 

อิจฉา

 

โดย: คนขับช้า 7 ตุลาคม 2551 22:35:29 น.  

 

วันนี้วันคล้ายวันเกิด John Lennon ค่ะ
เจ้าของเพลงสันติภาพของโลก"Imagine"
ในสภาวะบ้านเมืองแบบนี้..
อยากให้เกิดสันติภาพตามเนื้อเพลงนี้จัง...เลย





 

โดย: เริงฤดีนะ 9 ตุลาคม 2551 13:53:36 น.  

 

ไปดูมาเยอะกว่าที่คิดแฮะ
เจ๋งจริงๆ คนเรา
ผมว่าจะไปดู Serbis ที่ House

 

โดย: พลทหารไรอัน 9 ตุลาคม 2551 15:26:37 น.  

 

เหนื่อยนักพักสักนิด..........

เราก็ว่าจะแอบไปทะเลยาวๆช่วงวันปิยะนี้แหละ (ไม่รู้ว่ากลับมางานจะยังอยู่รึเปล่า 555+)

 

โดย: BdMd IP: 58.137.81.98 9 ตุลาคม 2551 18:55:22 น.  

 

อยากดูหนังของวู้ดดี้ อัลเลนจังเลยครับ ถึงแก่แต่ก็ยังเจ๋งอยู่นะนี่

 

โดย: Johann sebastian Bach 10 ตุลาคม 2551 14:17:37 น.  

 

หนังเรื่อง Soi Cowboy นี่น่าสนใจนะ ดูเหมือนจะเป็นหนังไทย แต่ผู้กำกับเป็นชาวต่างชาติใช่ป่าว

Concept ของเรื่องนี้สะท้อนสังคมต่างจังหวัดบางท้องที่ชัดๆเลยนะเนี่ย

 

โดย: Tony Koon (tk_station ) 11 ตุลาคม 2551 23:02:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


renton-renton
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Photobucket.Just wait until night then switch the light off
DeUsynlige (2008) Erik Poppe : : หนึ่งเป็นผู้ทำลาย หนึ่งเป็นฝ่ายสูญเสีย เวลาผ่านต่างฝ่ายต่างเริ่มชีวิตใหม่แต่ที่สุดแล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งสองต้องมาเผชิญหน้ากัน ~ ถึงพล็อตจะสามัญแบบนี้แต่หนังวางสถานการณ์ที่แสดงและเหตุการณ์ที่ซ่อนอยู่ได้หมาะกันดีมาก การถ่ายโอนตัวละครจุดศูนย์กลางของเรื่องจากคนหนึ่งไปคนหนึ่งก็ไหลลื่น เรื่องราวที่บรรจุความกดดันต่อสู้กับตัวเองของตัวละครก็เข้มข้น และ "โอกาส" เป็นสิ่งที่หนังขอให้เราเห็นเป็นสำคัญเพราะที่สุดแล้วเราจะเห็นว่าฝ่ายที่เคยสูญเสียกลับด้านมาเป็นผู้ทำลายบ้าง ทั้งหมดเป็นความละเอียดในอารมณ์ของผกก.ที่ทำออกมาได้น่าชื่นชมจริงๆ
Adventureland (2009) Greg Mottola : : เด็กหนุ่มพรหมจรรย์และเด็กสาวเมียเก็บนายช่างของสวนสนุกเกิดลังเลในความรู้สึกที่มีให้แก่กัน ครั้นจะจูนกันติดกลับมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันซะงั้น ~ ปั๊ปปี้เลิฟสนุกๆ ประสาวัยรุ่นวัยเรียน ฉากหลังเป็นยุค 80 ที่มีกัญชาเป็นสื่อกลางสร้างความสัมพันธ์ เพลงดิสโก้ ฟังก์ พั้งค์ จากยุคนั้นก็อัดกันขนกันมาเพียบ เพลิน และมองว่า คริสเตน สจ๊วต นั้นดูทื่อมะลื่อไงไม่รู้
Mutum (2007) Sandra Kogut : : เด็กชายคนหนึ่งแถบบ้านนาของบราซิล ต้องเผชิญกับความดุดันของพ่อ สนิทกับอาแต่เหมือนเขาจะมาจีบแม่ ถูกเพื่อนวัยเดียวกันเหน็บแนมและที่สำคัญคือสูญเสียเพื่อนรักที่สุดในชีวิต ~ อะไรจะแกร่งเกินนี้ไม่มีอีกแล้ว เจ้าหนูไม่ได้อยู่ในร่างของคนมองโลกในแง่ดี หากแต่ให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยความเข้าใจและมองถึงสิ่งที่ตนต้องทำ ... ชอบเรื่องที่แทรกอยู่เล็กๆ อย่างความผิดปกติทางสายตา (สายตาสั้น) เมื่อมันเกิดขึ้นกับคนในชนบทซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร จะเห็นความแตกต่างก็ต่อเมื่อได้ลองสวมแว่นตาเท่านั้น
Dalkomhan insaeng (2005) Ji-woon Kim : : มือขวาของเจ้าพ่อฝีมือสุดเนี้ยบทำการใดไม่เคยล้มเหลว ตีรันฟันแทงเตะต่อยขอให้บอก แต่จะมาตายเอาก็เพราะริอาจมีใจให้ “เด็ก” ของเจ้าพ่อ ~ หนังแก็งส์เตอร์ของพี่ๆ เกาหลีเขาต้องบอกว่าออกแบบท่าทางกันมาดี ดูแล้วเพลิน นึกถึง Transpotter ที่ เจสัน สเตแธม ในชุดสูทหรูระยับแต่ยกแข้งขาถีบยันได้ดีเอาเรื่อง ทรยศหักหลังยังเป็นชนวนหลักที่สร้างสีสันให้กับหนังแนวนี้ สนุกดีแม้จะชวนสับสนนิดหน่อยว่าใครอยู่ฝ่ายไหนลูกน้องใคร (ก็หน้าตาเขาคล้ายกันน่ะ)
Noise (2007) Matthew Saville : : หนังมีส่วนผสมของความเป็นหนังเขย่าขวัญอยู่เพียงส่วนหนึ่งทั้งๆ ที่มีเหตุสะเทือนขวัญรุนแรง แต่... อ่านต่อ ที่นี่
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
2 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add renton-renton's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.