★ 4 วันแรกกับหนัง 14 เรื่อง จากงานเทศกาลบางกอกฟิล์ม
จบลงไปแล้ว สำหรับงานบางกอกฟิล์มที่จัดขึ้นที่ SFW เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ เป็นเวลารวม 8 วัน รวมหนังทั้งหมดที่ได้ดูเป็น 30 เรื่อง มีความคิดเห็นสั้นๆจากการดูหนังแต่ละเรื่องตามนี้ค่ะ PART I Day 1 :: Tuesday Sep.23, 2008 Vicky Cristina Barcelona (Woody Allen, 2008) Country :: USA ++ เป็นหนังที่มีเสน่ห์ได้อย่างออกนอกหน้า นับตั้งแต่ฉากที่ ฮวน อันโตนิโอ (ฆาร์เบีย บาร์เดม) มาชวน วิคกี้ (รีเบคก้า ฮอลล์)และ คริสติน่า (สการ์เล็ต โจฮันสัน) ไปเที่ยวพักผ่อนที่บ้านเขาในช่วงต้นเรื่องจวบจนท้ายเรื่องนั้นเลย และในฉากที่ว่านี้ต้องขอชมว่าเป็นฉากที่แนะนำตัวละครหลักได้เยี่ยมมากๆ ทำให้ตั้งแต่ต้นเรื่องมาเสียง voice over ที่พรรณาสรรพคุณและทัศนคติของสองสาวยาวเหยียดจนแทบจะหมดเปลือกนั้นกลายเป็นเรื่องไม่จำเป็นไปเลย มีรักเหมือนมีทุกข์ เป็นประโยคที่แทนความวุ่นวายยุ่งเหยิงจากความสัมพันธ์คนคู่ทั้งแบบไม่คิดจริงจังและแบบผูกมัดของตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้ แล้วหยอดท้ายด้วยการใบ้ทางออกให้ว่า แต่อย่าให้มันทำหน้าที่เป็นคุกขังดักเราได้...นะ สนุกดี ชอบความเป็นไม้หลักปักเลนของ ฆาเบีย บาร์เดม แกแสดงได้มีเสน่ห์ คะแนนความชอบส่วนตัว :: 8.5/10 My Winnipeg (Guy Maddin, 2007) Country :: Canada ++ ไม่ค่อยเก็ต เลยออกแนวชวนง่วง คะแนนความชอบส่วนตัว :: 5/10 Ironeaters (Shaheen Dill-Riaz, 2007) Country :: Bangladesh ++ ตื่นตาดีกับธุรกิจแยกชิ้นส่วนเรือเพื่อเอาเหล็กไปขาย หนังถ่ายทำและบันทึกจากสถานที่จริง เป็นแนวสารคดี แยกมุมมองของนายทุนและชนชั้นแรงงานชัดเจน แต่น้ำหนักทั้งหลายเทไปที่การเป็นคนขายแรงงาน ป.ล. ไม่คิดว่าบังคลาเทศจะยากจนกันขนาดนี้ รายได้ของคนงานลากสายเคเบิ้ล ได้วันละ 1 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐกับอีก 50 เซนต์ ! คะแนนความชอบส่วนตัว :: 7.25/10 Money No Enough 2 (Jack Neo, 2008) Country :: Singapore ++ ดูได้เพลินๆ แม้จะออกลูกล้งเล้งไปหน่อย ครึ่งแรกหนังประชดประชันรัฐบาลเรื่องการเก็บเงินค่าผ่านทาง และเป็นเรื่องระหว่างเงินกับตำแหน่งทางสังคม ครึ่งหลังประชดเรื่องระหว่างเงินกับชีวิต ดราม่าน้ำเน่า แต่ถ้ามันเคยมีอย่างนั้นจริง คนบางคนก็น่าถูกสมเพช คะแนนความชอบส่วนตัว :: 6.75/10 Day 2 :: Wednesday 24, 2008 Kantata Takwa (Eros Djarot, Gotot Prakosa and Slamet Rahardjo Djarot, 2007) Country :: Indonesia ++ เป็นการผสมผสานระหว่างบทกวี ละคร ดนตรี และภาพยนตร์ ที่น่าประทับใจ บางฉากก็เหมือนกำลังแสดงละครเวทีเพียงแต่มีฉากหลังเป็นหมู่บ้าน ป่าเขาและทะเลจริงๆ การร่ายคำที่ต้องถอดความหมายอีกที เพลงในรูปแบบคอนเสิร์ตมีท่วงทำนองที่ฮึกเหิม เมโลดี้ที่แตกต่างจากที่คุ้นชินกระทั่งเพลงจากเปียโนยังแปลกและเศร้าสร้อย ทั้งหมดทั้งมวลนั้นพูดถึงการเมือง ความหมายของการมีชีวิต เสรีภาพและความเป็นอิสระ คะแนนความชอบส่วนตัว :: 8.5/10 Autumn (Ozcan Alper, 2008) Country :: Turkey ++ ชอบบรรยากาศของหนังที่เย็นๆหม่นๆ ประทับใจความรู้สึกดีดีของทั้งพระเอกและนางเอกที่มีให้กัน แต่เพียงแต่แตะหรือสัมผัสผ่านๆเท่านั้น มันทำให้เห็นว่ายังมีสิ่งอื่นหรืออย่างอื่นที่สำคัญกว่าการอยู่ด้วยกัน ฉากกินใจคือตอนที่นางเอกมาบอกพระเอกว่าเธอยินดีจะทิ้งทุกอย่างเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน ฝ่ายพระเอก..ไม่ตอบ...และเมื่อเขาตัดสินใจได้และมารอเธอ...เธอไม่มา... จะหดหู่ไปถึงไหนกัน ชีวิต คะแนนความชอบส่วนตัว :: 8.5/10 Alice in the Land (Esteban Larrain, 2008) Country :: Chile ++ ความเวิ้งว้าง แห้งแล้งของทิวทัศน์ ความโล่งเปล่าของท้องฟ้าที่หาที่สุดไม่ได้ แต่ความมุ่งมั่นและใจที่คุกรุ่นไปด้วยความคิดถึงเรื่องต่างๆที่ผ่านมา บวกกับสองเท้าที่ก้าวเดิน เดิน เดิน อย่างรู้จักเหน็ดเหนื่อยแต่ถอยหลังกลับไม่ได้ของเธอ ก็ทำให้หนังมีชีวิตชีวา เดินกันทั้งเรื่องก็ไม่หลับอ่ะว่าง่ายๆ คะแนนความชอบส่วนตัว :: 7.5/10 You, the Living (Roy Andersson, 2007) Country :: Sweden | Germany | France | Denmark | Norway ++ หนังดูเหมือนจะหดหู่และจืดไร้อารมณ์ เพราะเอาแค่ว่าตัวละครทั้งหลายส่วนใหญ่ก็อายุมาก เชื่องช้า ไร้สุข แถมเสื้อผ้าหน้าผมและฉากหลังก็ไร้สีสัน แต่ในความชืดนั้นจริงๆแล้วก็ยังแฝงไปด้วยอารมณ์ขัน หยิกหยอกส่งยิ้มกับให้การดำเนินชีวิตของแต่ละผู้แต่ละคน คล้ายจะบอกว่า ไม่มีใครที่สุขได้นานหรือทุกข์ได้ตลอดหรอก ชีวิตที่แท้มันต้องคละเคล้าไปด้วยทุกอย่างอย่างที่เห็นนี้แหละ คะแนนความชอบส่วนตัว :: 8/10 Day 3 :: Thursday Sep.25, 2008 Now Showing (Raya Martin, 2008) Country :: Phillippines ++ มีความรู้สึกว่า หนังทำให้เรากลายเป็นริต้าไปทีละน้อยละน้อย จากแรกๆที่ต้องเฝ้าดูกิจวัตรของเธอด้วยเวลาที่ยาวนาน บางครั้งก็ชวนอึดอัด จนที่สุดก็เริ่มจะรู้ทางและเริ่มคิดไปพร้อมกับเธอแล้วก็กลายเป็นคิดแทนเธอ ชอบฉากที่เธอเปิดตู้เย็นแล้วไปหลบยืนร้องไห้ ฉากในสุสานก็หลอนดี คะแนนความชอบส่วนตัว :: 6/10 Soi Cowboy (Thomas Clay, 2008) Country :: Thailand / UK ++ เป็นการบอกเล่าวงจรชีวิตของสาวบ้านนาที่มาจากหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตั้งแต่จุดเริ่มต้น (ที่ไม่ใช่จุดเริ่มต้น) ที่มีค่านิยมที่ต้องควาญหาสามีต่างชาติมาเป็นของตัวเอง รวมทั้งเรื่องที่แตกแขนงออกไปโดยมีคนในครอบครัวต้องไปรับงานกับเจ้าพ่อค้าคนโดยมีสินจ้างรางวัล ความรักที่หลงลืม คุณธรรมที่สูญหาย เพราะพร้อมใจกันตกลงบ่อที่ชื่อ เงิน ฉากเหวอสุด คือน้องชายพาพี่ชายเข้าป่า! คะแนนความชอบส่วนตัว :: 7/10 Day 4 :: Friday Sep.26, 2008 Invisible Children (Brian Gothong Tan, 2008) Country :: Singapore ++ หนังจากสิงคโปร์ไม่ว่าเรื่องไหนก็ยังสนุกกับการเหน็บจิกรัฐบาลโดยเฉพาะเรื่องการศึกษา และเด็กสองคนในเรื่องที่ต้องหนีออกจากบ้านนั้นสาเหตุก็มาจาก การเรียน เหมือนกัน หนังมีตัวอย่างของหลากหลายอาชีพ หลายชีวิตที่ต้องโดดเดี่ยว แล้วจบด้วยความเข้าใจชีวิตแบบตั้งใจ๊ตั้งใจ ต้องสูญเสียหรือแยกจากแล้ว จึงจะเห็นว่า สำคัญ คะแนนความชอบส่วนตัว :: 6.75/10 Lemon Tree (Eran RiKlis, 2008) Country :: Israel ++ หนังสร้างจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงแล้วดัดแปลงเนื้อหานิดหน่อย เกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่ง (ปาเลสติเนียน)ที่ต่อสู้กับประเทศ (อิสราเอล) เพียงเพราะสวนมะนาวนั้นอาจเป็นที่ซ่องสุมหรือซ่อนตัวของผู้ก่อการร้าย ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อบ้านท่านรัฐมนตรีกลาโหมที่พึ่งย้ายมาเป็นเพื่อนบ้านเธอ ดูแล้วคิดถึง ยายไฮ ที่ยึดมั่นและต่อสู้เพื่อสิทธิของตนอย่างเด็ดเดี่ยว+โดดเดี่ยว และชอบที่ให้พี่ทนายไม่ดูเป็นคนดีเหลือเชื่อที่เข้ามาช่วยคดีในคดีนี้ ประทับใจกับหนังเรื่องนี้เป็นพิเศษและเป็นอันดับหนึ่งของหนังที่ประทับใจที่สุดในเทศกาลบางกอกฟิล์มปีนี้ คะแนนความชอบส่วนตัว :: 9/10 Frozen (Shivajee Chandrabhushan, 2007) Country :: India ++ หนังสวยงามในส่วนของภูมิประเทศ แต่หดหู่ในเนื้อหา ที่เล่าถึงความยากลำบากในการหาเงินจนสุดท้ายต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำคือส่วนของผู้ใหญ่ ส่วนภาพรวมของเด็กเป็น coming-of-age จากไม่รู้สึกรู้สาแปรไปเป็นการยอมรับและความเข้าใจ ในหนังมีนางเอกคนเดียวที่หน้าตาอารมณ์อินเดีย นอกนั้นประมาณทิเบต แปลกดี คะแนนความชอบส่วนตัว :: 7.5/10 A Chrismas Tale (Arnaud Desplechin, 2008) Country :: France ++ เป็นการจับเอาความโกลาหลและปัญหาแต่ละครอบครัวของลูกๆที่อยู่กันคนละทิศ มาอยู่รวมกันในบ้านของพ่อ-แม่ ในช่วงวันคริสมาส และพร้อมๆกับร่วมรับทราบว่าแม่เป็นมะเร็งในเม็ดเลือด หนังหาทางออกได้น่าติดตาม ชอบตัวละครของ อองรี (Mathieu Amalric) เจ้าปัญหา ไม่เข้าท่า และเล่นได้แรงดี คะแนนความชอบส่วนตัว :: 7/10
:: Please welcome :: ขอเชิญ ทุกท่านร่วมแสดงความคิดเห็นต่อหนังหลากเรื่องหลายแนว ทั้งชนโรง ทั้งหนังแผ่น ได้ที่ //vreview.yarisme.com ค่ะ และเรายังมีกิจกรรมให้ทุกท่านมีสิทธิลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท ฟรี!!!! จำนวน 8 ใบ ทุกเดือนอีกด้วย . .
Create Date : 02 ตุลาคม 2551
24 comments
Last Update : 2 ตุลาคม 2551 9:50:26 น.
Counter : 1299 Pageviews.
หนังที่อยากดูอย่าง My Winnipeg กระแสไม่ดีเลยแหะ
A Chrismas Tale เป็นเรื่องล่าสุดที่เกิดอยากดูขึ้นมา ส่วน วิคกี้ คงมีโอกาสได้พิสูจน์เร็วๆนี้แน่ๆ
คำโปรย Bkkiff "เทศกาลของ "คนดูเงา"" มันหมายฟามว่าไงหว่า