จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวหํ ... จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำความสุขมาให้ ... สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ ... การให้ธรรมะชนะการให้ทั้งปวง
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
13 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 

วิธีสร้างบุญบารมี ๑๑



พระนิพนธ์ใน
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
สกลมหาสังฆปริณายก องค์ที่ ๑๙
วัดบวรนิเวศวิหาร


การเจริญสมถะและวิปัสสนาอย่างง่ายๆ ประจำวัน (ต่อ)


(๒) มีจิตใคร่ครวญถึง อสุภกรรมฐาน อสุภ ได้แก่สิ่งที่ไม่สวยไม่งาม เช่น ซากศพ คือมีจิตพิจารณาให้เห็นความเป็นจริงที่ว่า ร่างกายของคนและสัตว์ อันเป็นที่นิยมรักใคร่เสน่หา และเป็นบ่อเกิดแห่งตัณหา ราคะ กามกิเลส ว่าเป็นของสวยงาม เป็นที่เจริญตาเจริญใจ ไม่ว่าร่างกายของตนเองและของผู้อื่นก็ตาม
แท้ที่จริงแล้วก็เป็นอนิจจัง คือไม่เที่ยงแท้แน่นอน ทุกขัง คือทนอยู่ในสภาพเช่นนั้นไม่ได้ วันเวลาย่อมพรากความสวยสดงดงาม ให้ค่อยๆ จากไป จนเข้าสู่วัยชรา ซึ่งจะมองหาความสวยงามใดๆ หลงเหลืออยู่มิได้อีกเลย


และในทันใดที่ตายลงนั้น แม้แต่ผู้ที่เคยสนิทสนมเสน่หารักใคร่อันรวมถึง สามี ภริยา และบุตรธิดา ต่างก็พากันรังเกียจในทันใด ไม่ยอมเข้าใกล้ บ้านของตนเองที่อุตส่าห์สร้างมาด้วยความเหนื่อยยาก ก็ไม่ยอมให้อยู่ ต้องรีบๆ ขนออกไปโดยไว ไว้ที่วัด แล้วซากเหล่านั้นก็เน่าเปื่อยสบายไป เริ่มตั้งแต่เนื้อหนัง ค่อยๆ พองออก ขึ้นอืด น้ำเลือดน้ำเหลืองก็เริ่มเน่า แล้วเดือดไหลออกจากทวารทั้งหลาย เนื้อหนังแตกปริ แล้วร่วงหลุดออก จนเหลือแต่กระดูก ส่งกลิ่นเน่าเหม็น เป็นที่น่าเกลียดน่ากลัวสะอิดสะเอียน หาความสวยงามน่ารักเสน่หาใดๆ มิได้เลย ทั้งไร้คุณค่าและประโยชน์ คงมีค่าแค่เป็นอาหารแก่หมู่หนอนเท่านั้น แล้วในที่สุดกระดูกก็กระจัดกระจายเรี่ยราดอยู่ตามดินและทราย แตกละเอียดผุพังเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แล้วเปื่อยยุ่ยเป็นปุ๋ยแก่พืชผักต่อไป หาตัวตนของเราของเขาที่ไหนมิได้เลย สังขารของเราในที่สุดก็เป็นเช่นนี้ ไม่มีอะไรคงเหลือไว้เลย


(๓) มีจิตใคร่ครวญถึง กายคตานุสติกรรมฐาน บางทีเรียกกันง่ายๆ ว่า “กายคตาสติกรรมฐาน” เป็นกรรมฐานที่มีอานิสงส์มาก เพราะสามารถทำให้ละ “สักกายทิฐิ” อันเป็นสังโยชน์เบื้องต้น ได้โดยง่ายและเป็นกรรมฐานที่เกี่ยวกับการพิจารณาร่างกาย ให้เห็นสภาพตามความเป็นจริง ซึ่งมักพิจารณาร่วมกับอสุภกรรมฐาน มรณัสสติกรรมฐาน ซึ่งพระอริยเจ้าทุกๆ พระองค์ที่จะบรรลุพระอรหันตผลได้ จะต้องผ่านการพิจารณากรรมฐานทั้ง ๓ กองนี้เสมอ มิฉะนั้นแล้วจะเป็นพระอรหันต์ในพระพุทธศาสนามิได้ ทั้งนี้เพราะบรรดาสรรพกิเลสทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นความโลภ โกรธ และหลง ต่างก็เกิดขึ้นที่กายนี้ เพราะความยืดมั่นถือมั่นด้วยอำนาจอุปาทาน ว่าเป็นตัวตนและของตน จึงได้เกิดกิเลสดังกล่าวขึ้น


การพิจารณาละกิเลส ก็จะต้องพิจารณาละที่กายนี้เอง มรรค ผล และนิพพาน ไม่ต้องไปมองหาที่ไหนเลย แต่มีอยู่พร้อม ให้รู้แจ้งเห็นจริงได้ที่ร่างกาย อันกว้างศอก ยาววา และหนาคืบนี่เอง

การพิจารณาก็คือ ให้มีจิตใคร่ครวญ เห็นตามสภาพความเป็นจริงว่า อันร่างกายของคนและสัตว์ ที่ต่างก็เฝ้าทะนุถนอม ว่าสวยงาม เป็นที่สนิทเสน่หา ชมเชยรักใคร่ซึ่งกันและกันนั้น แท้จริงแล้วก็เป็นของปฏิกูลสกปรกโสโครก ไม่สวยไม่งาม ไม่น่ารักใคร่ทะนุถนอม เป็นมูตรเป็นคูถเป็นที่บรรจุไว้ซึ่งสรรพสิ่ง ทั้งที่เป็นพืชผักและซากศพของสัตว์ ที่บริโภคเข้าไปภายในกระเพาะนั้น คือเป็นดุจป่าช้า ที่รวมฝังซากศพของสัตว์ทั้งหลายนั่นเอง พืชและสัตว์ที่บริโภคเข้าไป ก็ล้วนแต่เป็นของที่สกปรก เมื่อขับถ่ายออกมาจากทวารทั้งหลาย ก็ยิ่งเป็นของที่สกปรกโสโครก ซึ่งต่างก็พากันรังเกียจว่าเป็น “ ขี้ ” มีสารพัดขี้ ซึ่งแม้แต่จะเหลือบตาไปมอง ก็ยังไม่อยากที่จะมอง แต่แท้ที่จริงแล้วในท้อง กระเพาะ ลำไส้ ภายในร่างกายของทุกผู้คน ก็ยังคงมีบรรดา “ ขี้ ” เหล่านี้บรรจุอยู่ เพียงแต่มีหนังห่อหุ้มปกปิดไว้ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอกเท่านั้น


แต่เราท่านทั้งหลาย ก็พากันกกกอด คลึงเคล้า เฝ้าชมเชยก้อนขี้เหล่านี้ ว่าเป็นของที่สวยงาม น่ารักน่าใคร่ น่าเสน่หายิ่งนัก
เมื่อมีการขับถ่ายออกจากทวารหู ก็เรียกกันว่า ขี้ของหู คือ “ขี้หู”
ที่ขับถ่ายออกทางตา ก็เรียกกันว่า “ขี้ตา”
ที่ติดฟันอยู่ ก็เรียกกันว่า “ขี้ฟัน”
ที่ออกจากทางจมูก ก็เรียกกันว่าขี้ของจมูก คือ “ขี้มูก”

รวมความแล้วบรรดาสิ่งที่ขับถ่ายออกมา พอพ้นจากร่างกาย ในทันใดนั่นเอง จากเดิมที่เป็นของน่ารักน่าเสน่หา ก็กลายเป็นของที่น่ารังเกียจไปโดยพลัน กลายเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากรักอยากเสน่หา เพราะเป็นขี้ และไม่มีใครอยากเป็นเจ้าของด้วย เมื่อไม่มีใครยอมรับเป็นเจ้าของ สิ่งที่ขับถ่ายออกมาทางผิวหนัง จึงหาเจ้าของมิได้ ซึ่งต่างก็โทษกันว่า “ขี้ของใครก็ไม่ทราบ” นานเข้าก็กลายเป็น “ขี้ไคล” ดังนี้เป็นต้น


นอกจากสิ่งที่ขับถ่ายออกมา จะน่ารังเกียจดังกล่าวแล้ว แม้แต่สังขารร่างกายของคนเรา เมื่อได้แยกแยะพิจารณาไปแล้ว ก็จะเห็นความจริงที่ว่า เป็นที่ประชุมรวมกัน ของอวัยวะชิ้นต่างๆ ที่เป็น ตา หู จมูก ลิ้น กล้ามเนื้อ ปอด ตับ ม้าม หัวใจ กระเพาะอาหาร ลำไส้ หนัง พังผืด เส้นเอ็น น้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำลาย น้ำตา น้ำปัสสาวะ ฯลฯ รวมเรียกกันว่า อาการ ๓๒ ซึ่งต่างก็ห้อยแขวนระเกะระกะ ยานโตงเตงอยู่ภายใน เมื่อแยกหรือควักออกดูทีละชิ้น จะไม่มีชิ้นใด ที่เรียกกันว่าสวยงาม น่ารัก น่าพิศวาสเลย กลับเป็นของที่น่าเกลียด ไม่สวย ไม่งาม ไม่น่าดู แต่สิ่งเหล่านี้ก็รวมประกอบอยู่ภายในร่างกายของเราทุกผู้คน โดยมีหนังหุ้มห่อปกปิดอยู่โดยรอบ หากไม่มีผืนหนังหุ้มห่อ และสามารถมองห็นภายในได้แล้ว แม้จะเป็นร่างกายของคนที่รักสุดสวาทขาดใจ ก็คงจะต้องรีบเบือนหน้าหนี อกสั่น ขวัญหาย บางทีอาจจะต้องถึงขั้นจับไข้ไปเลย ซึ่งอาจจะต้องทำพิธีปัดรังควาน เรียกขวัญกันอีก


หากจะถือว่า ความน่ารักน่าเสน่หา อยู่ที่ผืนหรือแผ่นหนังรอบกาย ก็ลองลอกออกมาดู ก็จะเห็นว่าไม่สวยงามตรงไหนแต่อย่างใด แต่ที่นิยมยกย่อง รักใคร่ หลงกันอยู่ ก็คือผิว หรือสีของหนังชั้นนอกสุดเท่านั้น ถ้าได้ลอก หรือขูดผิวชั้นนอกสุดออก ให้เหลือแต่หนังแท้แดงๆ แล้วแม้แต่จะเป็นหนังสดสวยของนางงามจักรวาล ผู้คนก็คงจะต้องเบือนหน้าหนี จึงเป็นที่แน่ชัดว่า คนสวยคนงาม ก็คงสวยและงามกันแค่ผิวหนังชั้นนอกสุด รักและเสน่หากันที่ผิวหนัง ซึงเป็นของฉาบฉวยนอกกาย หาได้สวยงามน่ารักเข้าไปถึง ตับ ปอด หัวใจ ม้าม กระเพาะ ลำไส้ น้ำเลือด น้ำเหลือง อุจจาระ ปัสสาวะ ที่อยู่ภายในร่างกายด้วยไม่


ส่วนผู้ที่ผิวหรือสีของหนังดำด่าง ไม่สดใสน่าดู ก็พยายามทาลิปสติก แต่งหน้า ทาสี พอกแป้ง ย้อม และดึงกันเข้าไป ให้เต่งตึง และออกเป็นสีสันต่างๆ แล้วก็พากันนิยมยกย่องชวนชมกันไป แท้ที่จริงแล้วก็เป็นความหลง โดยหลงรักกันที่แป้งและสีที่พอก หลอกให้เห็นฉาบฉวยอยู่แค่ที่ผิวภายนอกเท่านั้น เมื่อมีสติพิจารณาเห็นความเป็นจริงอยู่เช่นนี้ หากจิตมีกำลัง ก็จะทำให้นิวรณ์ ๕ ประการ ค่อยๆ สงบระงับลง ทีละเล็ก ทีละน้อย โดยเฉพาะจิตจะไม่เดือดร้อนกระวนกระวาย แส่ส่ายไปในอารมณ์รักๆ ใคร่ๆ ในที่สุดจิตก็จะสงบเยือกเย็นลง จนถึงขั้นอุปจารสมาธิได้ หากมีสติกำลังพอ ก็อาจถึงขั้นปฐมญานได้


กายคตานุสสติกรรมฐานนั้น ความจริงก็เป็นเพียงสมถภาวนาที่ทำให้จิตเป็นสมาธิได้ถึงขั้นปฐมฌาน แต่ก็เป็นสมถภาวนา ที่เจือไปด้วยวิปัสสนาภาวนา เพราะเป็นอารมณ์จิตที่ใคร่ครวญหาเหตุและผล ตามสภาพเป็นจริงของสังขารธรรม หรือสภาวธรรม


ซึ่งหากได้พลิกการ พิจารณาอาการ ๓๒ ดังกล่าว ให้รู้แจ้งเห็นจริงว่า อาการ ๓๒ ดังกล่าวนั้น ไม่มีอาการทรงตัว เมื่อมีเกิดเป็นอาการ ๓๒ ขึ้นแล้ว ก็ไม่อาจจะตั้งมั่นอยู่ได้ จะต้องเปลี่ยนแปลงไป

อาการ ๓๒ ดังกล่าวนั้น เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน ไม่ใช่คน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่ตัวเราและของเราแต่อย่างใด ร่างกายไม่ว่าของตนเองและของผู้อื่น ต่างก็เต็มไปด้วยความทุกข์ ดังนี้ก็เป็นวิปัสสนา


กายคตานุสสติกรรมฐาน เป็นกรรมฐานที่เมื่อได้พิจารณาไปแล้วก็จะเห็นความสกปรกโสโครกของร่างกาย จนรู้แจ้งเห็นจริงว่า ไม่น่ารัก ไม่น่าใคร่ จึงเป็นกรรมฐานที่มีอำนาจทำลายราคะกิเลส และเมื่อได้รู้แจ้งเห็นจริงดังกล่าวมากๆ เข้า จิตก็จะมีกำลัง และเกิดความเบื่อหน่ายในร่างกาย ทั้งของตนเองและของผู้อื่น จึงเป็นการง่ายที่ “นิพพิทาญาณ” จะเกิดขึ้น

และเมื่อ “นิพพิทาญาณ” ได้เกิดขึ้นแล้ว จนมีญาณทัสสนะเห็นแจ้งอาการพระไตรลักษณ์ว่า ร่างกายเป็นอนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน ไม่ใช่เรา ไม่ใช่เขาแต่อย่างใด จิตก็จะน้อมไปสู่ “สังขารรุเปกญาณ” ซึ่งมีอารมณ์อันวางเฉย ไม่ยินดียินร้ายในร่างกายและคลายกำหนัดในรูปนามขันธ์ ๕ เรียกว่า จิตปล่อยวาง ไม่ยึดมั่นถือมั่นในอุปาทานขัน ๕ ซึ่งจะนำไปสู่การละ “สักกายทิฐิ” อันเป็นการละความเห็นผิดในร่างกายนี้เสียได้ ถ้าละได้เมื่อใด ก็ใกล้ที่จะบรรลุความเป็นพระอริยเจ้าเบื้องต้นในพระพุทธศาสนา คือเป็น “พระโสดาบัน” สมจริงตามที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า การเจริญพระกรรมฐานกองนี้จะไม่ห่างจากมรรค ผล และนิพพาน


ฉะนั้น กายคตานุสสติกรรมฐาน จึงเป็นกรรมฐานเครื่องที่จะทำให้บรรลุพระอรหันต์ได้โดยง่าย ซึ่งในสมัยพระพุทธกาล ท่านที่บรรลุแล้วด้วยพระกรรมฐานกองนี้มีเป็นอันมาก

ในสมัยที่พระพุทธองค์ตรัสรู้ใหม่ๆ ได้เสด็จไปพบพราหมณ์สองสามีภรรยา ซึ่งมีธิดาที่สุดสวย นามว่า “นางมาคัณฑิยา” พราหมณ์ทั้งสองชอบใจในพระพุทธองค์ จึงได้ออกปกยกนางคัณฑิยาให้เป็นภรรยา

พระพุทธองค์ไม่ทรงรับไว้ และมองเห็นนิสัยของพราหมณ์สามีภรรยาทั้งสอง ที่จะได้บรรลุมรรคผล จึงได้ทรงแสดงธรรมให้ฟัง โดยยกเอากายคตานุสสติกรรมฐาน ขึ้นมาเทศน์ ซึ่งได้ตรัสตำหนิโทษแห่งความสวยงามแห่งรูปกายของนางมาคัณฑิยาว่า พระพุทธองค์ทรงเห็นว่า เป็นของปฏิกูล มูตร เน่าเหม็น หาความสวยงามใดๆ มิได้เลย พราหมณ์ทั้งสองพิจารณาตาม ก็ได้ดวงตาเห็นธรรม ส่วนนางมาคัณฑิยากลับผูกโกรธ ต่อมานางได้เป็นมเหสีของพระเจ้า
อุเทนแห่งกรุงโกสัมพี ก็ได้จองล้างจองผลาญพระพุทธองค์อย่างไม่สิ้นสุด เพราะอำนาจแรงพยาบาท

อีกท่านหนึ่งก็คือ นางอภิรูปนันทา ซึ่งเป็นพระราชธิดาของพระเจ้าเขมกะศากยะ ก็จัดว่ามีรูปงามที่สุดในสมัยนั้น และพระนางทรงภาคภูมิหลงใหลในความงดงามของพระนางยิ่งนัก แต่ด้วยบุญบารมีที่ได้เคยสร้างสมอบรมมาแล้วเป็นอันมากในอดีตชาติ เป็นเหตุให้พระนางได้มองเห็น แล้วบันดาลให้รูปเนรมิตนั้น ค่อยๆ เจริญวัย แล้วแก่ชราทรุดโทรมลงๆ จนตายไปในที่สุด แล้วก็เน่าเปื่อย สลายไปต่อหน้าต่อตา พระนางก็น้อมนำเอาภาพนิมิตนั้น เข้ามาเปรียบเทียบกับร่างกายของพระนางนั้น จนเห็นว่า ร่างกายอันงดงามของพระนางนั้นหาได้งามจริงไม่ ทั้งเป็นอนิจจัง และอนัตตา หาสาระแก่นสารที่พึ่งอันถาวรอันใดมิได้เลย จนพระนางได้บรรลุพระอรหันต์ในขณะนั้นเอง

และนอกจากนี้ ก็ยังมีพระนางเขมาเทวี ที่ยิ่งด้วยรูปโฉม และเป็นพระมเหสีองค์หนึ่งของพระเจ้าพิมพิสาร แห่งเมืองราชคฤห์ ก็ได้บรรลุพระอรหันต์ในทำนองเดียวกันนี้เอง

--------------------------------

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ คราวหน้าจะเป็นตอนจบค่ะ จะพาไปพิจารณา "ธาตุกรรมฐาน" กันค่ะ อย่าลืม! ติดตามกันนะคะ




 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2552
57 comments
Last Update : 13 กรกฎาคม 2552 19:30:56 น.
Counter : 1762 Pageviews.

 

สวัสดียามเย็นครับ พ่อระนาดแววไว

ขอโมทนาบุญด้วยนะครับ
ครั้งที่แล้ว เป็นพิจารณาความตายเป็นอารมณ์ เรียกว่า มรณานุสติกรรมฐาน
ตอนนี้ มีอสุภกรรมฐาน ให้พิจารณาถึงความไม่สวยงามเป็นอารมณ์

และ กายคตานุสติกรรมฐาน ให้พิจารณา อาการ32
ให้รู้แจ้งเห็นจริงว่า อาการ ๓๒ ดังกล่าวนั้น ไม่มีอาการทรงตัว เมื่อมีเกิดเป็นอาการ ๓๒ ขึ้นแล้ว ก็ไม่อาจจะตั้งมั่นอยู่ได้ จะต้องเปลี่ยนแปลงไป

เคยอ่านเรื่อง นางอภิรูปนันทา หรือพระนางรูปนันทา ด้วยนะครับ


ขอให้พ่อระนาดแววไว มีความสุขมากๆ นะครับ


ปล. จะคอยติดตาม ตอนจบด้วยคนนะครับ

 

โดย: หมึกสีดำ 13 กรกฎาคม 2552 19:32:17 น.  

 

แวะมาอ่านค่ะ
หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์

 

โดย: กัดหมอน 13 กรกฎาคม 2552 19:39:41 น.  

 

สวัสดีจ๊ะน้องปุ๊กมาอ่านอย่างตั้งใจ

ขอโมทนาบุญด้วยนะจ๊ะ จิตดีร่างกายดี
นับเป็นบุญอันประเสริฐ ดูแลสุขภาพ
ด้วยจ๊ะน้องปุ๊ก ฝันดีจ่ะ

emoemoemo

 

โดย: Nat-cherry 13 กรกฎาคม 2552 19:54:10 น.  

 

อ่านๆๆๆ ค่ะ

อ่านแล้วทะลุๆ ยังไงบอกไม่ถูก คือไม่ซึมซับ เหอะๆ มันดูยากอ่ะค่ะ (บอกตรงๆ ไปเลย แหะๆ)

เอาแค่ทุกวันนี้กรรมฐานหรือนั่งสมาธิ ยังไม่ค่อยจะสม่ำเสมอเลยค่ะ เค้าบอกว่า ความดีนั้นทำยาก สงสัยครูเดียวจะ รู้สึกว่ายากก็เรื่องการวิปัสสนาเนี่ยแหละค่ะ

งั้นครูเดียวขอเป็นนักสร้างบุญแบบพื้นๆ ละเว้นการสร้างบาปละกันนะคะ

แต่ถ้าวันใด บุญส่งเสริมให้ครูเดียวมีโอกาสและเข้าถึงวิธีวิปัสสนากรรมฐานเช่นนี้ เมื่อนั้นครูเดียวจะคิดถึงพ่อระนาดนะคะ ยกให้เป็นมิตรทางธรรมเลยค่ะ

 

โดย: deawdai 13 กรกฎาคม 2552 20:17:59 น.  

 

อ่านแล้วทำให้รู้ถึงความรู้สึกแปลกๆเนอะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผิวได้ห่อหุ้มไว้ ทุกสิ่งทุกอย่างว่างเปล่าไปหมด

 

โดย: อ้วนforest IP: 124.120.79.67 13 กรกฎาคม 2552 20:44:46 น.  

 

สวัสดีค่ะ พี่อ้วน ไม่ได้ทักทายกันหลายวันเลยนะคะ

เป็นอย่างที่พี่อ้วนรู้สึกนั่นแหล่ะค่ะ ร่างกายเป็นสิ่งสมมุติ
ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน ไม่มีเรา ไม่มีเขา ทั้งนั้น
ถ้าจะให้ดี ตอนหน้าพี่อ้วนมาอ่านอีกนะคะ
คราวนี้ได้พิจารณาถึงว่า คนเราประกอบด้วยธาตุ 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ค่ะ

ขอบคุณพี่อ้วนนะคะ ที่แวะมาทักทายกันค่ะ

 

โดย: พ่อระนาด 13 กรกฎาคม 2552 21:06:12 น.  

 

เเวะมาอ่านเเล้วนะคะ
วันนี้ตั้งใจมารับสาระดีๆใส่สมอง..
ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆ ที่นำมาฝากกันนะคะ

 

โดย: อาลีอา 13 กรกฎาคม 2552 21:35:03 น.  

 







มารับสิ่งดีๆจ้ะ



คิดถึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เหมือนเดิมจร้า


 

โดย: นายกุหลาบ 13 กรกฎาคม 2552 23:51:30 น.  

 

แหะๆ สงสัยนอนหลับอยู่แน่ๆเด๋วแอบเข้าฝันซะนิ อิอิ

 

โดย: อ้วนพีมาแล้วจ้าาาา (Opey ) 14 กรกฎาคม 2552 1:54:39 น.  

 




สวัสดีในวันสีชมพูครับ พ่อระนาด

จากบล็อก... ไม่เชี่ยวชาญเสียด้วย พูดไปตามความรู้สึกครับ ไม่รู้ว่าเหมือน หรือใช่หรือเปล่า

มีความสุขมาก ๆ รักษาสุขภาพ นะครับ

 

โดย: เซียน_กีตาร์ 14 กรกฎาคม 2552 7:11:43 น.  

 

อ่านกี่ที ก็ซึ้งใจค่ะ
ทุกสิ่งไม่เที่ยง

 

โดย: redclick 14 กรกฎาคม 2552 7:12:55 น.  

 

เราคงสวนกันแน่เลย
ทำงานให้มีความสุขนะคะ ไร้ปัญหาและอุปสรรค

 

โดย: redclick 14 กรกฎาคม 2552 7:29:20 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับคุณปุ๊ก







 

โดย: กะว่าก๋า 14 กรกฎาคม 2552 7:40:51 น.  

 

สวัสดีค่ะ...น้องน้อย

วันนี้พี่มีโจ๊กมาฝากค่ะ
แทนความห่วงใยที่มีให้กันค่ะ
วันนี้น้องน้อยของพี่มีความสุขและสดชื่นมากๆนะคะ


 

โดย: tanjira 14 กรกฎาคม 2552 8:27:59 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

เช้าวันอังคารมาพร้อมสายฝน
ชุ่มฉ่ำใจ และคิดถึงกันเสมอ
สวัสดีค่ะคุณปุ๊ก

 

โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 14 กรกฎาคม 2552 9:25:50 น.  

 

แวะเข้ามา นบสัมมา คารวะ ครับ

รู้สึกอบอุ่นดีจัง บ้านนี้...ครับ

 

โดย: ปางสีฝุ่น 14 กรกฎาคม 2552 10:25:20 น.  

 



อนุโมทนา คะ

ต้องขออนุญาติปริ้นทร์ออกมาอ่าน

และก็ตามเซฟ นะคะ

เพราะว่าช่วงนี้ไม่ค่อยได้ทักใคร

มัวแต่ปฏิบัติไปเรื่อยๆคะ

ช่วงนี้เลยอัพแต่บทสวด

เพราะเริ่มเขียนอะไรไม่ออก

หลังจากมุ่งหน้า ปฏิบัติเวลาว่าง

 

โดย: บุปผาลีลาวดี 14 กรกฎาคม 2552 11:19:56 น.  

 

ใครๆก็ต้องตาย ร่างกายที่ผุพังเน่าเปื่อยคือสิ่งที่น่ารังเกียจ เหลือไว้แต่ความระลึกถึงจากคนที่ยังอยู่ ส่วนจะระลึกถึงแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับกรรมที่ตัวเองได้ทำเอาไว้ มองดูแล้วมนุษย์ก็เท่านี้จริงๆ

ปล.เมื่อคืนพี่ก็มาเยี่ยมน้องปุ๊กนะจ๊ะ

 

โดย: JohnV 14 กรกฎาคม 2552 11:23:23 น.  

 



ในเวลาที่สูงสุดอาจมีคนอยู่กับเราเป็นร้อย
แต่ในเวลาต่ำต้อยอาจมีน้อยไม่ถึงหนึ่ง



หอบความระลึกถึงมาฝากมากมาย เก็บเข้าบ้านด้วยเน้อ
อย่าเผลอลืมทิ้งไว้นอกบ้านจะโดนฝนจ้าาาาาาาาาาาาา


คมคำ : เบื้องหลังอุปสรรค อาจมีความสำเร็จรออยู่



 

โดย: ร่มไม้เย็น 14 กรกฎาคม 2552 12:36:34 น.  

 


แวะมาเสริฟอาหารว่างครับ พ่อระนาดแววไว

ขอให้พ่อระนาดแววไว มีความสุขในวันสีชมพูนะครับ..

 

โดย: หมึกสีดำ 14 กรกฎาคม 2552 13:50:42 น.  

 

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

พ่อระนาดจ๋า
ดาวจ๋ามีเค้กแอ๊ปเปิ้ลมาฝากค่ะ
ช่วงนี้ดาวจ๋ายุ่งๆ
อาจมาหา ช้า หรือมาหาสาย
แต่ก็จะมาหาทันทีที่ว่างเลยค่ะ

คิดถึงเสมอค่ะ

 

โดย: satineesh 14 กรกฎาคม 2552 14:10:34 น.  

 

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาสาธุค่ะ

 

โดย: Budratsa 14 กรกฎาคม 2552 15:41:06 น.  

 

ย่างเข้ามาบ้านนี้ได้ยินเสียงเพลงก็มีความสุขสงบใจแล้วครับ
นึกถึงบ้านทรงไทยยามเย็นแดดร่มลมตกขึ้นมาเลย
คงต้องสร้างบุญบารมีไว้มากๆ ถึงจะได้ดังใจฝัน

 

โดย: ลุงแอ๊ด 14 กรกฎาคม 2552 20:26:30 น.  

 

ครับช่วงที่ผ่านมาก็ไม่ได้ทักทายใครเลย รู้สึกอยากอยู่คนเดียวแต่เปิดอ่านอยู่นะครับตามตลอดแหละแต่ไม่ได้เม้นท์ สงสัยผ่านช่วงจำศีลมาแล้ว

 

โดย: อ้วนforest IP: 124.120.79.126 14 กรกฎาคม 2552 20:54:51 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

เข้าพรรษา ทานมังสวิรัติวันเกิดบี๋(อาทิตย์) กับวันเกิดแฟน(วันพฤหัส) คร๊า

 

โดย: บี๋ (Yushi ) 14 กรกฎาคม 2552 23:36:13 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับคุณปุ๊ก






 

โดย: กะว่าก๋า 15 กรกฎาคม 2552 8:05:46 น.  

 

เข้ามาอิ่มบุญด้วยคนนะปุ๊ก

 

โดย: แผลเก่า IP: 58.9.66.218 15 กรกฎาคม 2552 8:39:32 น.  

 

สวัสดีค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลศูนย์
ปฏิบัติธรรมค่ะ

 

โดย: ชีวิตมีลีลา 15 กรกฎาคม 2552 9:01:22 น.  

 

คิดถึงพ่อระนาดจังค่ะ..ทำอะไรอยู่นะ..รักษาสุขภาพด้วยนะจ๊ะ...

 

โดย: ตัวp_box 15 กรกฎาคม 2552 16:07:27 น.  

 



สวัสดีค่ะ คุณปุ๊ก

แวะมาหาด้วยความคิดถึง
ช่วงนี้ฝนตกมาก ไน้หวัดก็ระบาด
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
ด้วยความห่วงใยค่ะ

 

โดย: พธู 15 กรกฎาคม 2552 16:49:27 น.  

 




เอาขนมมาฝากจ้ะ จะได้หายเหนื่อยจากการทำงานจ้า

 

โดย: redclick 15 กรกฎาคม 2552 17:51:28 น.  

 

คิดถึงพ่อระนาดเช่นกันจ้า

เนี่ย... เมื่อตอนเช้ายังขบคิดเล่น ๆ อยู่เลยว่า
จริง ๆ แล้ว porranat มาจากคำว่าอะไรกันแน่
(ไม่เกี่ยวกะ..พ่อระนาด..ที่ข้าเจ้าตั้งให้แหง ๆ)

อ่านว่า ป๋อ+อาณัติ รึเปล่าเอ่ย? เฉลยทีสิจ๊ะ
..ยิ้มหวาน..

 

โดย: ปลิวตามลม 15 กรกฎาคม 2552 23:14:23 น.  

 

ขอขอบคุณพ่อระนาดแววไวด้วยนะครับ ที่ติดตามทางสายฯ มาโดยตลอดครับ

มาส่งพ่อระนาดแววไวเข้านอนนะครับ
หลับไม่ฝัน ราตรีสวัสดิ์ครับ

 

โดย: หมึกสีดำ 15 กรกฎาคม 2552 23:14:38 น.  

 

บางเรื่องก็ไม่รู้้ค่ะ ไม่รู้จริงๆ ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย
จนน่าเขกหัว น่าจะรู้นะ หากฉันรู้สักนิดว่าเธอรักฉัน
คงไม่ปล่อยให้คอยน้อยใจ 555

นอนหลับฝันดีนะคะ

 

โดย: redclick 15 กรกฎาคม 2552 23:27:34 น.  

 

พ่อระนาด
แม่ระนาด
ลูกระนาด
หลานระนาด
เหลนระนาด
ฯลฯ

ธรรมะสวัสดีขอรับ

ไม่ขอวิตกวิจารณ์ ขอรับ อิอิ





 

โดย: คนสาธารณะ 16 กรกฎาคม 2552 3:41:38 น.  

 

มารับไว้ นำไปปฏิบัติครับ ได้บุญแล้วจะเอามาฝากนะครับ

 

โดย: kanetp007 16 กรกฎาคม 2552 5:06:45 น.  

 




สวัสดียามเช้าครับ พ่อระนาด



มีความสุขมาก ๆ รักษาสุขภาพ นะครับ

 

โดย: เซียน_กีตาร์ 16 กรกฎาคม 2552 7:52:36 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับคุณปุ๊ก










 

โดย: กะว่าก๋า 16 กรกฎาคม 2552 7:56:34 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับ พ่อระนาดแววไว

 

โดย: หมึกสีดำ 16 กรกฎาคม 2552 8:37:43 น.  

 

"ซึ่งต่างก็โทษกันว่า “ขี้ของใครก็ไม่ทราบ” นาน
เข้าก็กลายเป็น “ขี้ไคล” ดังนี้เป็นต้น"

อืม เห็นด้วยจริง ๆ

 

โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) 16 กรกฎาคม 2552 11:01:08 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: พรหมญาณี 16 กรกฎาคม 2552 11:24:59 น.  

 



ทานขนมสมองจะได้แล่นดีค่ะ

 

โดย: redclick 16 กรกฎาคม 2552 13:10:32 น.  

 

น้องปุ๊กหน้าตาดื้อๆของพี่หายไปไหนน้อ คิดถึงนะจะบอกให้

 

โดย: JohnV IP: 125.26.106.76 16 กรกฎาคม 2552 16:36:00 น.  

 

ขอบคุณคะ
สำหรับคำแนะนำ
แต่เมื่อระลึกถึง
การปฏิบัติธรรม
แล้วคิดถึงเรื่อง กรรม
แล้วรู้สึกไม่ค่อยดีคะ

 

โดย: บุปผาลีลาวดี 16 กรกฎาคม 2552 19:16:47 น.  

 




ศุกร์สวัสดีครับ ปุ๊ก



มีความสุขมาก ๆ รักษาสุขภาพ นะครับ

 

โดย: เซียน_กีตาร์ 17 กรกฎาคม 2552 7:22:01 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับคุณปุ๊ก







 

โดย: กะว่าก๋า 17 กรกฎาคม 2552 7:24:50 น.  

 

สวัสดีค่ะ...น้องน้อยของพี่

พี่กำลังมาหาน้องน้อยพอดีค่ะ
วันนี้ไปตามพี่เลย..ดีใจจังเลยค่ะ
นึกว่าลืมพี่สาวคนนี้ซะแล้วววว

วันนี้พี่มีความคิดถึงมาฝากเช่นเคยค่ะ
พรุ่งนี้ได้หยุดพักผ่อนกันแล้วนะคะ
วันนี้น้องน้อยมีความสุขและสดชื่นกับวันดีๆนะคะ



 

โดย: tanjira 17 กรกฎาคม 2552 7:25:47 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

ในโลกนี้ไม่มีคนแปลกหน้าสำหรับเรา
มีแต่เพื่อนที่เรายังไม่ได้พบเท่านั้น


สวัสดีตอนเช้า ๆ วันศุกร์
กับการเดินทางอันแสนไกลบนโลกกว้าง
และเปิดประตูรับสิ่งดีเข้ามาในชีวิตค่ะคุณปุ๊กemo

 

โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 17 กรกฎาคม 2552 7:30:49 น.  

 



ทำงานอีกวัน พรุ่งนี้ไปเรียนแต่เช้ามืดค่ะ
การบ้านยังไม่เสร็จเล้ย

ทานอาหารเช้าให้อร่อยนะจ๊ะ

 

โดย: redclick 17 กรกฎาคม 2552 7:40:28 น.  

 



สวัสดีค่ะ คุณพ่อระนาด

งามจริง งามแท้ อยู่ที่ความคุณดีนะคะ

จากบล๊อก...ดีจังชอบเหมือนกันเลย

มีความสุข ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ


 

โดย: อิ่ม_Aim 17 กรกฎาคม 2552 8:18:34 น.  

 

^
^
^

ขอโทษค่ะ พิมพ์ผิด emo

"...อยู่ที่คุณความดีค่ะ"

emo

 

โดย: อิ่ม_Aim 17 กรกฎาคม 2552 8:21:46 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: พรหมญาณี 17 กรกฎาคม 2552 11:04:03 น.  

 





ทักทายกันวันศุกร์จร้าพ่อระนาดจ๋า....


ขอให้มีความสุขมาก มาก รักษาสุขภาพด้วยนะจ๊ะ...

ขอบคุณในความห่วงใยนะคะ เพลงประกอบบล๊อกฟังเพราะเสนาะหูจังเยย

จริงจ๊ะ ทุกอย่างล้วนปรุงแต่งขึ้นมารูป รส กลิ่น เสียง ทุกอย่างคือกิเลสที่มนุษย์นิยมชมชอบ แต่ก็ชอบอ่ะนะ ทำงัยได้หละ พี่ยังตัดไม่ได้อ่ะไอ้ตัวกิเลสหนะ มันคือความสุขทางใจอย่างนุงค่ะ เห็นแล้วมีความสุข ณ ปัจจุบัน ทานแล้วรู้สึกอร่อย ณ ปัจจุบัน ใจเป็นสุขค่ะ แต่อนาคตจะกลรายเป็นเถ้า หรือ สิ่งเน่าเหม็น อันนี้คงต้องใช้ใจอีกแล้วหละค่ะให้ปลงได้แค่ไหนพี่คงยังละกิเลสทั้งปวงมิได้ แต่ก็ขออนุโมทนาด้วยนะค่ะ

 

โดย: หนุ่มน้อยแห่งลุ่มแม่น้ำบางปะกง 17 กรกฎาคม 2552 12:56:26 น.  

 

แหมสวัสดีค่ะคุณปุ๊ก
คึดถึงมากเลย
ไม่ค่อยเห็นคุณปุ๊กเลย
สงสัยงานคงยุ่งมากเลยใช่เปล่า
เพลงนี้อีกแล้ว ได้ยินแล้วก็ไม่อยากไปไหนเลย
เป็นเพลงสะกดวิญญาณจริงๆ
รักษาสุขภาพนะคะ มีความสุขมากๆค่ะ

 

โดย: busabap 17 กรกฎาคม 2552 14:19:19 น.  

 

สวัสดีค่ะพ่อระนาด หายไปนานคงไม่ลืมกันน้า อัพเดทบล็อคแล้วค่ะ แวะไปเยี่ยมกันบ้างน้า

 

โดย: golo_me 17 กรกฎาคม 2552 19:16:35 น.  

 



คุณปุ๊กขา
พูแวะมาเยี่ยมค่ะ
สบายดีนะคะ
ด้วยความห่วงใยค่ะ

 

โดย: พธู 17 กรกฎาคม 2552 19:34:20 น.  

 

สาธุครับ ผมกำลังหาวิธีละซึ่งความกำนักอยู่พอดีเลยรครับ ไม่รู้วิธีกำจัด เลยมืดแปดด้านอยู่นาน ขอขอบพระคุณมากเลยทีเดียวเชี่ยว

มาเลยเจ้าตัณหา เจอกันซักตั้ง .\\ /.

 

โดย: ไม่มี IP: 180.183.64.91 18 มกราคม 2553 21:54:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พ่อระนาด
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เพียรฝึกตนใฝ่รู้ หลักธรรม

จิตเพ่งคิดจดจำ บ่มไว้

หมายเพียรมุ่งตัดกรรม วัฏฏะ

หวังสละจิตสุดท้าย ดิ่งเข้านิพพาน..

Friends' blogs
[Add พ่อระนาด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.