2 ปีที่สูญเสียไป ได้อะไรกลับมา
Magnolia ได้อ่านกระทู้หนึ่งที่ชวนสนทนากันในเว็บบอร์ด พูดถึงช่วงเวลา 2 ปีที่มีโควิด-19 ระบาดอยู่นับแต่ต้นปี 2563 ถึงปัจจุบัน มีทั้งคนที่สูญเสียและคนที่ได้มา แต่ดูเหมือนว่าคนที่สูญเสียจะมีมากกว่า สูญเสียทั้งเงิน ทั้งงาน โอกาส และความรู้ความสามารถบางอย่างหายไป รวมทั้งเสียสุขภาพจิตเนื่องจาก Work from home หรือเรียน online ขณะที่บางคนได้มาก็มี เช่น คนที่ทำงานด้านไอที เล่าว่าตนมีลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะคนหันมาใช้ไอทีในชีวิตประจำวันกันมากขึ้น ไม่กระทบการทำงานแถมรายได้ยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย หรืออาชีพ rider ส่งอาหารหรือส่งของก็ดูจะคึกคักมากกว่าก่อนโควิด เนื่องจากคนไม่กล้าออกจากบ้านก็เลือกที่จะกินช้อปใช้ผ่านแอปพลิเคชันแทน และเจ้าของธุรกิจขนส่งดูจะได้กำไรกว่าเจ้าของสินค้า บางคนสูญเสียความสัมพันธ์ส่วนตัวกับเพื่อน คนรัก และครอบครัว เพราะความไกลกัน ยังไม่รู้ว่าจะกลับคืนมาเมื่อไร และจะเหมือนเดิมหรือไม่ รวมทั้งบางคนสูญเสียไปอย่างถาวร แน่นอนในสถานการณ์โรคระบาดไม่มีอะไรดีอยู่แล้ว แต่เราไม่อยากให้มองการสูญเสียโอกาสเพียงอย่างเดียว หากมองมุมกลับกันใน 2 ปีที่ผ่านมานี้ มีใครได้อะไรกลับมาบ้าง บางคนได้ทบทวนตัวเองว่า ถึงเวลาที่จะเกษียณตัวเองหรือยัง เช่น ทนความกดดันจากบริษัทไม่ไหว เด็กรุ่นใหม่เก่งไอทีกันทั้งนั้น คนรุ่นเก่าก็หมดไฟที่จะเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ แล้ว เป็นช่วงเวลาของการแสวงหาอาชีพหลังเกษียณหรือช่องทางหารายได้ใหม่ บางคนค้นพบความสามารถใหม่ๆ ของตัวเอง อาจจะไม่ได้เป็นพรสวรรค์ในทันที แต่ลองผิดลองถูกพัฒนาฝีมือตนเองไปเรื่อยๆ กระทั่งเป็นความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่ง เช่น ร้อยวันพันปีไม่เคยเข้าครัวเลย แต่เมื่อกลัวโควิดก็ต้องทำอาหารเอง นอกจากกินเองแล้วยังบังคับให้คนในบ้านช่วยกินด้วย จากไม่อร่อยก็รู้สึกอร่อยขึ้นมาในวันหนึ่ง ขณะเดียวกันคนที่ทำอะไรก็อร่อยอยู่แล้ว ได้ฝึกปรือฝีมือมากขึ้นจนทำขายมีรายได้เสริม บางคนเข้ากลุ่มปลูกต้นไม้ กลุ่มแต่งห้อง จนเสพติดและทำตามกลายเป็นคนชอบอยู่บ้านขึ้นมาเสียอย่างนั้น วันๆ ช้อปแต่ของแต่งบ้าน หรือแม้แต่ต้นไม้ก็สามารถช้อปออนไลน์ได้เช่นกัน อย่างปีแรกของโควิด Magnolia ก็ผ่านจุดนั้นมาแล้ว ซื้อโน่นซื้อนี่ใหม่ทั้งที่ของเดิมก็มีอยู่แล้ว ส่วนของเก่าก็ยกให้คนอื่นไปใช้ต่อ แลดูมีน้ำใจ อยู่คนเดียวมีเก้าอี้นั่ง 5 ตัวยังไม่รวมโซฟา จนห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ไม่มีที่จะวางของ แม้แต่ผนังยังไม่ว่าง จากที่คิดว่าจะเป็น Minimal เป็น Maximal ไปเลย เท่านั้นยังไม่พอ---หมดไปไม่รู้เท่าไหร่กับคำว่า “เลี้ยงง่าย” ของคนขายต้นไม้นานาพันธุ์ พอเอากลับมาเลี้ยงที่ห้อง ในช่วง 2 ปีนี้ก็มีต้นไม้ที่จำชื่อไม่ได้ตายไปก็เยอะ ที่ระเบียง ในห้องน้ำ มีต้นไม้หมด จะไปไหนก็ไม่อยากไปนานหลายวัน เพราะกลัวต้นไม้จะไม่รอด แม้แต่กระบองเพชรที่ว่าทนๆ ยังอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ นอกจากนี้ยังลามไปปลูกต้นไม้และจัดห้องที่สำนักงานด้วย หลังจากทำงานมาสิบกว่าไม่เคยจัดโต๊ะทำงานเลย เพิ่งตัดสินใจใช้ช่วงเวลานี้จัดแจงเรียบร้อยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อย่างที่บอกว่า สิ่งเหล่านี้ทำให้คนอยากอยู่บ้านดูแลบ้านมากขึ้นกว่าเก่า อยากมีมุมโปรดของตัวเอง อยากถ่ายรูปอวดโซเชียล ความสุขมันอยู่ตรงนี้เอง (หากไม่คิดถึงเงินที่จ่ายไป) บางคนถือโอกาสกลับมาตั้งหลักที่ภูมิลำเนาเดิม เริ่มต้นชีวิตใหม่ เปลี่ยนทำเลที่อยู่ใหม่ วิถีชีวิตใหม่ อาชีพใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร ค้าขาย หรือธุรกิจดั้งเดิมของครอบครัว เรียนรู้วิถีพอเพียงได้ลึกซึ้งและเข้าใจมากขึ้น บางคนได้ดูแลตัวเองทั้งเรื่องหน้าตา ผิวพรรณ สุขภาพกาย สุขภาพใจให้ดีกว่าเดิม ได้โอกาสไปศัลยกรรมหน้าใหม่ ออกกำลังกายฟิตหุ่นเพื่อทูพีช หรือแม้แต่อาศัยช่วงเวลาที่ไม่มีงานทำบำบัดใจด้วยธรรมะก็มี คุณล่ะ 2 ปีสูญเสียอะไรไป และได้อะไรกลับมาบ้าง... Podcast ฟังเพลินสำหรับคนไม่ชอบอ่านแต่ชอบฟัง ติดตามเพจ https://facebook.com/magnoliadiaryVIDEO
Create Date : 06 มกราคม 2565
0 comments
Last Update : 20 สิงหาคม 2565 14:12:35 น.
Counter : 482 Pageviews.