|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
ภารกิจพิชิตอีป้าวัยทอง::เรื่องของเบาหวานน้ำตาลสูงปริ๊ดดด
“ความสำเร็จ คือ ผลรวมของความพยายามเล็กๆ ที่สะสมมาวันแล้ววันเล่า” ช่วงนี้.. คำถามส่วนใหญ่ที่เจอในออฟฟิตจะมีประมาณว่า วันนี้พี่กินอะไร. . คนนึงผ่านไป . . อีกคนก็มาหนอนวันนี้แกรกินอะไรหรือเปล่า จากนั้นก็. . ส้มกินได้ไหม . . แล้วก็มี . . แล้วๆ วันที่ไม่กินพี่กินไรได้มั่งอ่ะ แล้วพี่ไม่หิวหรอ . . มีอยากกินโน่นนั่นนี่บ้างไหม อะไรแบบนี้ . . อาจจะเป็นเพราะว่าระยะเวลาตั้งแต่วันที่เราเริ่มภารกิจนี้รักษาเบาหวาน ด้วยตนเอง โดยการกินโลวคราบ + ทำ IF จากวันแรกผ่านมาจนถึงวันนี้ นับเวลาได้เกือบ 4 Week แล้วล่ะมัง . . ผองเพื่อนจึงเพิ่มรู้สึกได้ว่า เฮ้ยย . . คราวนี้มันน่าจะเอาจริง 555+ หนึ่งเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก จริงนั้นล่ะนะ . . เลยถือโอกาสครบรอบหนึ่งเดือนนี้ มาบันทึกผล เรื่องน้ำตาลไว้สักหน่อย เอาจริงๆ ตั้งแต่เริ่มทำภารกิจนี้ . .แม้เรา จะบอกทุกคนว่าเป็นเบาหวาน แต่เรายังไม่เคยบอกเลยใช่ไหมว่า ค่ากลูโคสในเลือดของเรามันคือเท่าไร อยากจะบอกว่า เลขมันน่ากลัวมากจริงๆ . . เราเลยไม่อยากบอกใครกลัวโดนด่า . . แต่ไหนๆ ก็ไหนๆละ วันนี้ได้โอกาสขอสารภาพเลยแล้วกัน
7 มีนาคม 2022 ค่าน้ำตาลในวันที่โดนหมอด่า ของเราอยู่ที่ FBS 206 HBA1C 10.7 Fasting Blood Sugar อยู่ที่ 206 น้ำตาลสะสม 10.7 ค่านี้คือเยอะมว๊ากกก . . สองเท่าของคนปกติจริงๆ . . และค่านี้ คือหมอให้โอกาสคุมเองมา 6 เดือนแล้ว แต่ . .ก็ไม่รอด . . โดนสิคะ โดนด่าหนักเลย . . เหอๆ วันนั้น(วันที่โดนหมอด่า) เราเศร้ามาก . . ลากเพื่อนไปกิน MK บุฟเฟ่ต์ส่งท้ายแล้วบอกกับ ตัวเองว่า . . พรุ่งนี้ชั้นจะลุกขึ้นมารักษาเบาหวานอย่างจริงจังสักที . .
แล้วทำไม . . ก่อนหน้านี้ หมอให้เวลาตั้งหกเดือนถึงไม่สำเร็จกันล่ะ นั่นสิ . . ทำไมอ่ะ . . ตอนนั้น สิ่งที่นักโภชนาการบอกให้ทำคือ ให้งดโค้กซีโร่ (โอเคได้) และให้เรากินข้าวครบสามมื้อ ห้ามอด เดี๋ยวน้ำตาลตก(โอเคได้) แต่ . .ให้จำกัดปริมาณข้าวแค่เพียง มื้อละ 1 ทัพพีพอ ประมาณ 3-4 คำเราลองทำแล้ว แต่ทำไม่ได้ค่ะ มันหิว 555+ ก็เลยเปลี่ยนมาลองงดมื้อเย็น . . มันก็ทำได้นะ แต่ทรมานมาก โหยมาก หวิวๆ เหมือนจะเป็นลม พอทนไม่ไหว สุดท้ายก็ออกไปหาข้าวกินนอกบ้านระเบิดระเบ้อ . . แต่เอาจริงๆ ไอ้เลขน้ำตาลเนี่ยะ มันก็ยังไม่ท้าทายสามัญสำนึกของเราเท่าไร เราค่อนข้างดื้อด้าน 55+
แต่สิ่งที่น่ากลัวสำหรับเรา คือ หลังๆ เนี่ยะ . .เรากินอะไรไม่อิ่มเลย กินข้าวไปจานยังต้องมียำรวมมิตร พอสองอย่างนี้หมด ก็ยัง จะฟาดต้มเลือดหมูได้อีกหนึ่งถ้วยใหญ่ . . ฟาดต้มเลือดไปถ้วยแล้ว ก็เหมือนจะยังอยากอะไรอยู่ . . สุดดดด . . นี่มันไม่ปกติแล้ว เราผู้ดื้อด้านเพิ่งจะตระหนักถึงความจริงเหล่านี้ได้ในวันก่อนพบหมอ แค่เพียง 1 วัน เพราะงั้น . . เวลาหมอด่า เราก็จะบอกทันทีว่า ขอกลับไปแก้ตัวใหม่นะคะ หมอก็ด่าต่อ.. เดี๋ยวพี่จะกลับไปแก้ตัว ยังพูดไม่ทันจบหมอก็ด่าเพิ่มทันที . . คือ เราสำนึกแล้ว แต่ . . เหมือนว่าหมอจะไม่ค่อยเชื่อหรอก . . 555+ ครั้งล่าสุดที่พบหมอนี้ นักโภชนาการบอกมาว่า . . ถ้ากินข้าว 1 ทัพพีไม่ได้ ก็ให้เปลี่ยน มากิน 3 ทัพพีต่อมื้อ แต่ให้เพิ่มผักและเนื้อสัตว์เข้าไปเยอะๆ ซึ่งเราว่ามันไม่ใช่ละ . . แบบนี้มันไม่น่าจะตัวเลือกที่ใช่สำหรับเรา เราเลยตัดสินใจกลับมาวิธีดั้งเดิมของเราโดยการเข้าเผ่า แต่รอบนี้ไม่สังกัดเผ่าไหนเลย แค่ตั้งเป้าลดแป้งและน้ำตาล และกลับมาจริงจังกับการทำไอเอฟอีกครั้ง . . โดยตั้งใจว่า จะคุม Net Crab ให้อยู่ในปริมาณ 25 กรัม/วัน โดยประมาณ
เช้าวันถัดมา . . เราลุกขึ้นมาเข้าครัวเลย . . จากที่ตอนแรก คือ ขี้เกียจมาก ขนาดล้างจานอาหารเปียกแมว เรายังล้าง อ่างในห้องน้ำกลางบ้านเล้ยย คือแทบไม่เหยียบพื้นครัวเลย วันที่ 2 เราลื้อเครื่องวัดน้ำตาลปลายนิ้วออกมาออกมาจากกรุ อยากบอกว่า . . ซื้อมาเป็นปีแล้วแต่เอามาเทสไม่ถึงสามครั้ง เหอๆ
น้ำตาลที่วัดได้ครั้งแรก . . วันที่ 9 มีค.22 ช๊อคมากกก . . (ไม่ต้อง งง กับตัวเลขวันที่ในเครื่องนะ . . เราหาวิธีปรับไม่เป็น เพิ่งจะลองปรับเมื่อครู่นี้เอง55+) น้ำตาลปลายนิ้วอยู่ที่ 295 บ้าเกินไปแล้ว นี่มันสูงกว่าที่หมอเจาะเลือดเราไปตรวจอีก. . แต่ . . จากที่ไปฟังหมอป๊อบ นางบอกว่าตอนเช้าร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้เราตื่นตัว เพราะงั้น ในตอนรุ่งเช้าตับจะผลิตน้ำตาลมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ค่าน้ำตาลของเรา ดูสูงกว่าปกติขึ้นไปอีก . . หรือ อาจเป็นเพราะเราไม่กินน้ำตาล ร่างกายก็เลยสลายไขมันแล้วการสลายไขมันเนี่ยะ มันจะได้ไกลโคเจน กับกรดไขมันสามตัว ซึ่งร่างกายอาจจะเอาไกลโคเจนไปเปลี่ยนเป็นน้ำตาล ปล่อยลงสู่กระแสเลือดมัง น้ำตาลที่สูงอยู่แล้วก็เลยเพิ่มมากขึ้นขนาดนี้ (เดา) แต่ยังไงก็ไม่คิดว่ามันจะสูงขนาดนี้นะ . .โคตรช็อค!!
11มีค.22 เราวัดน้ำตาลอีกรอบ ตัวเลขอยู่ที่ 255 มันลดลงนะ . . แต่ก็ยังสูงปริ๊ดเหมือนเดิมแหละ เฮ้ออ . .สามวันที่ผ่านมานี้ จะบอกว่าทรมานมาก อาหารไม่อร่อยเลย ไม่เข้าใจว่าก่อนหน้านี้ เราเคยกินแบบนี้ได้ไงตั้งสองสามเดือน แถมของทอดก็มันและเลี่ยนมาก แต่ . . เหมือนมันไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ . . น้ำตาลสูงขนาดนี้ หมอบอกว่าคุณจะน๊อควันไหนก็ไม่รู้นะ . . เราถอยไม่ได้แล้วจริงๆ
เอาเป็นว่าอย่าเยอะ . . เลือกคิดและทำเฉพาะสิ่งที่เราทำได้ เราตัดสินใจเพิ่มผักและเครื่องเทศเข้ามาในมื้ออาหาร เพื่อให้กินง่ายขึ้น บวกกับการทำ IF 23/1 ซึ่งถูกร่างกายปรับเอง โดยอัตโนมัติ จากการที่เราไม่หิว ใช่สิ . . มันจะไปหิวได้ยังไง ก็แดรกซะขนาดนั้น 55+ กินมื้อเดียวอิ่มจุกไปทั้งวัน . .
นอกจากการกินแล้ว มีอีกสองสิ่งที่เราจริงจังมาก คือ การกินน้ำและการนอน กินน้ำต้องห้ามต่ำกว่าสามลิตร โดยวันนึงต้องกินน้ำหรือโซดา ผสมกับเกลือชมพูวันละ 2 ชช. ในวันฟาสจะมี ACV ด้วย ส่วนมะนาว ในรูปนั้น งดกินวันฟาสเพราะมันอาจจะทำให้เบรคฟาสได้
ที่เราต้องกินเกลือ 2 ชช. ต่อวันนั้น สาเหตุคือเนื่องจากว่าการกิน แบบโลวคราบนั้นร่างกายจะอยู่ในสภาวะอินซูลินต่ำเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งอาจจะทำให้อัตราการดูดซึมเกลือแร่ลดลง เพราะงั้นเราจึงจำเป็นต้อง เพิ่มเกลือแร่เข้าไป ไม่อย่างนั้นอาจทำให้เพลียหรือมีเอฟเฟคอื่นๆ ได้ . .
ส่วนการนอน เราตัดสินใจซื้อนาฬิกาเรือนใหม่เพื่อคอยเช็ค กราฟการนอนและพยายามปรับปรุงคุณภาพการนอนให้ดียิ่งขึ้น
14มีค.22 วัดน้ำตาลอีกทีได้ต่ำกว่าสองร้อยแล้ว . . แม้ว่ามันจะยังสูงอยู่ แต่เราก็ดีใจมาก . . ดีใจตรงที่สิ่งเหล่านี้ มันเป็นเหมือนตัวชี้วัดว่าเรามาถูกทางแล้ว . . เราไม่ได้บอกว่า เราตัดสินใจ เลิกกินยาเบาหวานที่หมอจ่ายให้ตั้งแต่วันที่สอง ของการทำภารกิจนี้ เนื่องจากว่า . . สิ่งที่เราทำอยู่นี้คือ การตัดคราบและน้ำตาลเพื่อให้ร่างกายเปลี่ยนโหมดจากการเผาน้ำตาล มาเป็นพลังงาน ไปใช้ไขมันที่เราสะสมไว้ มาเป็นพลังงานแทน ซึ่ง . . ร่ายกายจะเข้าสู่กระบวนการนี้ได้ ก็ต่อเมื่อเราสามารถลดระดับ อินซูลินในเลือดให้ต่ำลง โดยวิธีลดแป้งและน้ำตาล + ทำ IF เพราะงั้น ถ้าเรายังเติมอินซูลินจากยาเข้าไป แทนที่มันจะไปช่วย มันกลับไปขัดขวางกระบวนที่ว่าแทน . . เลิกเลยค่ะ . . ตัดสินใจหยุดยาทันที . . ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่เราสามารถทำแบบนี้ได้ ก็เพราะเรามั่นใจว่าอาหารที่เรากินนั้น มันแทบจะไม่มีแป้งและน้ำตาล เป็นส่วนผสมเลย เอาจริง ถึงจะมี Net Carb ก็แทบจะไม่เกิน 20g หรอก
18 มีค.22 น้ำตาลค่อยๆ ลดมาทีละนิดๆ ให้พอชื่นใจ และเราเหมือนจะโอกับอาหารมากขึ้น เอาจริงๆ เหมือนลิ้น เราถูก Reset ตั้งแต่พ้นจากสามวันแรกมา . . คือแบบเหมือนลิ้นเรา รับรสได้ง่ายขึ้น กินขึ้นฉ่ายก็ยังหวานอ่ะคิดดู๊ววว . . เรากลับมา Enjoy Eating อีกครั้งหนึ่ง . .
อีกอย่างหนึ่งคือ . . เราตัดสินใจเปลี่ยน IF23/1 เป็น ADF แทน ADF คืออะไร ADF ย่อมาจาก Alternateday Fasting มันคือ การทำ IF อีกรูปแบบหนึ่ง โดยการกินวันเว้นวัน ซึ่งหมอป๊อบบอกว่า . . มันเหมาะกับคนที่น้ำหนักมาก เพราะคนน้ำหนักมากมีถังไขมันเก็บอยู่เยอะ การที่เราเพิ่มเวลาฟาสก็เหมือนเราเพิ่มเวลาให้ร่างกายมันการเผาไขมัน ได้มากยิ่งขึ้นนั่นแหละ . . เราสงสัย ก็เลยไหนลองซิ . . ปรากฎว่ามันดี เฮ้ย
22 มีค.22 น้ำตาลเราลดลงเหลือ 179 เรายังคงทำ ADF อยู่ ยกตัวอย่างเช่น วันนี้เรากินมื้อเช้า มื้อกลางวัน ใช่ไหม จากนั้น เราก็หยุดกิน ข้ามคืนนั้นไป บวกกับอีก 1 วัน แล้วไปกินมื้อเช้า มื้อกลางวันในวันถัดไปแทน . . เราจะบอกเรา Happy กับการ ฟาสติ้งแบบ ADF มาก เราว่ามันเหมาะไลฟ์สไตล์แบบของเราสุดๆ ในเช้าวันฟาส เรามีเวลาว่างมากที่จะทำโน่นนั่นนี่ แถม . . เราไม่หิวเลย ไม่หิวระหว่างมื้อ และไม่หิวในวันที่ฟาสด้วย . . โถ่เอ้ยยยย ไอ้การกินแบบนี้มันเหมือนสูตรโกงเกมชัดๆ เลยจริงๆ . .
30 มีค.22 ค่าน้ำตาลปลายนิ้วของเราเหลือ 168 เอาจริงๆ หมอป๊อบบอกว่า . . ไอ้ค่าน้ำตาลตอนเช้าเนี่ยะ มันแทบจะเป็นตัวชี้วัดตัวสุดท้ายเลยที่หมอเอามาใช้วิเคราะห์ ว่าคนไข้หายจากเบาหวานแล้วหรือยัง เพราะอะไรน่ะหรอ . . ก็เพราะตอนนี้คุณไม่กินน้ำตาลเลยไง เพราะงั้น ค่าน้ำตาลที่ได้เหล่านี้ มันจึงเป็นค่าน้ำตาลที่ได้จากการที่ตับเปลี่ยนไกลโคเจ้นออกมาเป็น น้ำตาลลงสู่กระแสเลือด ซึ่งในตอนเช้า มันมีฮอร์โมนหลายชนิดเลย ที่ร่างกายจะหลั่งออกมากระตุ้นให้เราตื่นตัวพร้อมรับวันใหม่ ไอ้ฮอร์โมนดังกล่าวที่ว่าเนี่ยะ มันจะไปกระตุ้นให้ตับหลั่งน้ำตาลมากขึ้น ให้เราพร้อมใช้พลังงาน ไรแบบนั้น . . เพราะงั้น ค่าน้ำตาลตอนเช้า มันเลยจะสูงกว่าปกติ ส่วน . . เราจะรู้ได้ยังไงว่าอาการเบาหวานเราดีขึ้น ดื้ออินซูลินน้อยลง ง่ายๆ ให้สังเกตุว่า น้ำหนักเราลดลงไหม และ เราเว้นช่วงอาหารได้โดยไม่หิวไหม ถ้าทำได้ แสดงว่า . . . ร่างกายมันเริ่มเอาไขมัน มาเป็นพลังงานได้แล้ว . . บราโว่!!แต่ถึงอย่างนั้น เราก็จะยังวัดต่อไป . . ก็เรามีเครื่องวัดนี่นะ . .ไม่วัดแล้ว จะซื้อมาทำแป๊ะอะไรล่ะเนอะ . . ช่วงปลายเดือนมีค. มาต้นเมย. ADF เราชะงักเนื่องจาก เรากลายเป็นกลุ่มเสี่ยงว่าจะติดโควิดหรือไม่ เราเลยกลับมากินสามมื้อ เพื่อกินยาจีนบำรุงปอด แต่ . . ก็ยังคุมแป้งและน้ำตาลเหมือนเดิม
2 เมย.22 สรุปว่าไม่เป็นโควิดแล้วเราเลยตัดสินใจ ไปฉีดวัคซีนโควิดเช้าวันนั้นเลย . . เหนื่อยลุ้น ระหว่างฉีด มีเพื่อนไลน์มาถามอย่างห่วงใยหลายคนว่าเป็นไงบ้าง ได้ฉีดยัง มีคนนึง ส่งค่าน้ำตาลตัวเองมาให้ดู แล้วถามของเราว่าน้ำตาลเรา เท่าไรแล้ว เราเลยบอกว่า เดี๋ยวพี่กลับออฟฟิตแล้วจะวัดให้ดูนะ เนี่ยะ . . . วัดแล้ว ลงมาที่ 159 แล้วจ๊ะ . . เราว่าความเครียด มีผลต่อระดับน้ำตาลของเราเหมือนกัน เพราะเวลาเราเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอติซอลซึ่งอีฮอร์โมนนี้ก็เปนส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ตับสร้างน้ำตาลส่งเข้าเส้นเลือดมากขึ้น . .
TODAY 5 เมย.22 เช้าๆ วันสบายๆ ในวันฟาสวันนี้ น้ำตาล เราลงมาอยู่ที่ 148 แล้วแหละ . . เราค่อนข้างพอใจ ในผลลัพธ์ของตัวเองมาก . . ชั้นมาถูกทางแล้ว ชั้นจะทำต่อไป
บ่ายโมง วันนี้ . . หัดเปลี่ยนวันที่เครื่องวัดและลองเช็คน้ำตาล ในระยะฟาสอีกรอบ ลงเหลือ 135 ในวันที่ไม่แดรกอะไร น้ำตาลก็ยังเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาเพราะฮอร์โมนน่ะนะ
**ย้ำ ข้อสังเกตุว่าเราค่อยๆ หายจากการดื้ออินซูลินแล้วหรือยัง คือ หนึ่งน้ำหนักลด และสองไม่หิวระหว่างวัน . . เราว่า สองอย่างนี้ เราประสบความสำเร็จจริงๆ . .
ถึงแม้ว่าตอนนี้ .. เรายังไม่หายจากโรคเบาหวาน . . แต่เราก็มั่นใจ โคตรๆ ว่า การกินแบบนี้ การเว้นช่วงเวลากินแบบนี้ สำหรับตัวเราเองนั้น ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องจริงๆ . . จากคนที่ไม่สามารถลดข้าวให้เหลือ 1 ทัพพีได้ กลายมาเป็น คนทำ ADF ได้อย่างชิลล์ๆ เลย . . ค่าน้ำตาลก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ ต้องขอบคุณร่างกายของเราจริงๆ ที่ยังไม่ถอดใจและพร้อมที่จะสู้ไปกับเราในทุกสถานการณ์ . .
ยังคง ON THE WAY อยู่กับภารกิจพิชิตอีป้าวัยทอง ตั้งใจรักษาเบาหวาน โดยการปรับโภชนาการควบคู่กับการทำ IF เพื่อที่โรคต่างๆ ที่อยู่ในกลุ่ม Metabolic syndrome จะได้หายไปด้วย เป้าหมายระยะสั้น . . คือ ปลายเดือน มิย. พบหมอตูจะไม่โดนด่าอีกแล้ว เป้าหมายระยะยาว น้ำตาลในเลือดจะต้องลด แล้วเราจะต้องกลายมาเป็น คนปกติที่ไม่เป็นโรคเบาหวานภายในระยะเวลาหนึ่งปีให้ได้ . . สู้ๆ จงก้มหน้าก้มตาทำต่อไปนะหนอน . . บันทึกภารกิจโดย . . ตัวหนอนกิ๊วๆ
Create Date : 05 เมษายน 2565 |
Last Update : 5 เมษายน 2565 16:49:20 น. |
|
18 comments
|
Counter : 748 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณSleepless Sea, คุณThe Kop Civil, คุณmariabamboo, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณmultiple, คุณkatoy, คุณอุ้มสี, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณเริงฤดีนะ, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณกะว่าก๋า, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณnewyorknurse, คุณtuk-tuk@korat, คุณหอมกร |
โดย: mariabamboo วันที่: 5 เมษายน 2565 เวลา:18:07:33 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 5 เมษายน 2565 เวลา:19:33:18 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 5 เมษายน 2565 เวลา:20:33:24 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 5 เมษายน 2565 เวลา:22:19:45 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 เมษายน 2565 เวลา:22:24:53 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 5 เมษายน 2565 เวลา:22:59:48 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 เมษายน 2565 เวลา:6:54:22 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 6 เมษายน 2565 เวลา:8:31:31 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 6 เมษายน 2565 เวลา:19:43:06 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 6 เมษายน 2565 เวลา:21:01:41 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 7 เมษายน 2565 เวลา:5:49:05 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เอาจริงๆ สำหรับผมตัวเลขที่สูงจากปีที่แล้วแค่ 5 หน่วย ก็กระทบจิตใจแล้วครับ 55555 อ่อนไหวมาก ขนาดความดัน 112 ผมยังเซ็งๆ เลยว่า เฮ้ย!!! หรืออายุมากขึ้นแล้วความดันจะสูง แม่ต้องบอกว่า โอ้ย จะบ้าหรอ
จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ไม่ว่าจะพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์หรือผีบ้านผีเรือนที่ดลใจให้พี่กลับมาจิงจังในการรักษาสุขภาพ แต่ทุกการเริ่มต้นดีเสมอ
แต่การเจาะปลายนิ้วทุก ๆ วันนี่โคดเจ็บปวดเลยพี่ ผมจะได้ตอนต้องใช้ปากกาเจาะเลือดตัวเองมัน suicide feeling เลยพี่ ยิ่งเห็นเลข 295 เจดดดดดดดดดดเกือบ 300!!!! ดีใจด้วยที่พี่ยังอยู่!!!!! เหมือนพี่ ผจก ที่ คอลเลเตอร์รอล 1200 ก็ยังไม่ตาย - -
ดีใจที่พี่เริ่มต้นครับ และดีใจที่พี่ศึกษาหาความรู้ในสิ่งที่พี่ตั้งใจจะทำ เรียนรู้ทำความรู้จักพร้อมศึกษาตัวเองไปด้วยว่าอะไรที่เหมาะกับเราหรือไม่เหมาะกับเรา เพราะวิธีการของคนหนึ่งอาจจะไม่ match กับอีกคนหนึ่งก็ได้ แค่ตัวเองต้องรู้ตัวเอง
กินข้าวมื้อเดียว แล้วไม่หิวนี่สุดยอดครับพี่ ปรับตัวได้แล้ว ไอ่สิ่งที่เคยทำไม่ได้ตอนนี้ทำได้แล้ว
เรื่องดูดซึมเกลือแร่ลดลง ทำไมบอกช้าจัง ให้ผมต้องไปให้น้ำเกลือแทน - -
แต่เออ วันนึงแม่บ้านมากรอกน้ำที่ชั้นกลับไปกินบ้าน จนหมดตู้ ผมต้องเดินไปซื้อน้ำเซเว่นกิน แล้วเป็นคนติดมองเฟลอ ไม่รู้จริงป่าวนะ แต่พอกินไป 1500 cc ร่างกายมันดีขึ้นมาก ไม่อ่อนเพลีย ไม่ชามือชาเท้า ไม่เจ็บข้อมือข้อเท้า ดีขึ้นมากเลย
นี่ขนาดกินทุกวันนะ ถ้าผมกินวันเว้นวันเหมือนพี่นี่ เป็นลม ไม่ต้องสืบ 55555 นี่ยังหิวอยู่เลย เช้านี่หิวมาก หิวจนเดินไปเดินมารอเที่ยง 55555
วันสุดท้าย น้ำตาลลงมาได้ขนาดนี้จากเกือบ 300ถือว่าเก่งมาก ๆ ประสบความสำเร็จมากครับ แต่อย่าเพิ่งเลิกนะ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกับตัวเองก่อน เป็นกำลังใจครับ