ความแตกต่าง..ของผู้หญิงกับผู้ชาย ...น่าสนใจมากค่ะ
การเดินนอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันแล้ว ยังมีประโยชน์ในแง่ของการออกกำลังกาย แต่ภาวะการณ์ปัจจุบันทำให้คนเรา มักจะอ้างว่าไม่มีเวลาออกกำลังกาย แต่ที่จริงแล้วร่างกายมนุษย์ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเคลื่อนไหวในแต่ละวันเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ผลของการเดินยังมีความสำคัญต่อหน้าที่ทางกายภาพของร่างกาย และยังเป็นการส่งเสริมสุขภาพและเป็นจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพชีวิตที่ดี เราจะมาพิจารณาถึงความเข้าใจ และประโยชน์ที่จะได้รับจากการเดินดังต่อไปนี้
Meolism(การเผาผลาญ) การเดินเป็นรูปแบบการเคลื่อนไหวที่มากที่สุดของมนุษย์ในอดีตเพราะการเดินมีความสำคัญต่อการยังชีพ ต่อมาได้มีการศึกษาว่า การเดินมีความจำเป็นต่อสุขภาพ
การเดินเป็นการประสานงานของอวัยวะหลายส่วนร่วมกัน คือ แขน ขา และลำตัว การเดินยังสามารถทำให้เราใช้พลังงานไปถึง 100 แคลอรี อย่างง่ายดาย การเดินทุกวันไม่เพียงแต่มีผลในการเผาผลาญแคลอรี แต่ยังสามารถเพิ่มหน้าที่ของ enzyme และ meolism อีกด้วย ซึ่งจะมีผลให้เพิ่มการเผาผลาญแคลอรี มากถึง 12 ชั่วโมง ภายหลังจากการเดินเพียงแค่ 2 ไมล์ อย่างไรก็ตามการเดินทำให้ meolic effect ของการเดินเพิ่มขึ้น
การเพิ่ม meolism หมายความว่าจะมีการเผาผลาญแคลอรีมากขึ้น และยังส่งผลให้ร่างกายใช้พลังงานจากอาหารและอาหารเสริมที่คุณทานเข้าไปด้วย ทำให้คุณอยากดื่มน้ำเพิ่มมากขึ้น และน้ำที่คุณดื่มยังช่วยสนับสนุนการขับพิษ การขับถ่ายและการย่อยอาหารในร่างกายอีกด้วย Circulation(ระบบไหลเวียนเลือด)
การเดินมีผลต่อจังหวะการบีบและคลายตัวของกล้ามเนื้อ และมีการเปลี่ยนแปลงความดันในร่างกาย ทำให้เพิ่มการไหลเวียนของเลือด น้ำเหลือง และ Synovial fluid (ของเหลวหล่อลื่นที่ผลิตจากในข้อ) จะเห็นว่าการเดินทุกๆวันจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น เนื่องจากมีการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองมากขึ้น Mobilization of internal organs(การเคลื่อนไหวของอวัยวะภายใน)
การเดินทำให้เกิด แรงดันในช่องว่างของร่างกาย จังหวะการเคลื่อนไหวของโครงสร้าง และการหดตัวของกล้ามเนื้อจะเปลี่ยนแปลงไป กระบังลมเป็นกล้ามเนื้อส่วนแรกที่ใช้ในการหายใจ และต่อมาจะมีการหดตัวของกล้ามเนื้อในช่องท้อง ทำให้เกิดสมดุลในร่างกาย ผลจากการที่กล้ามเนื้อกระบังลมหดตัวเป็นการบริหารกล้ามเนื้อภายในของคุณ การเพิ่มการหายใจจากการเดินทำให้ อวัยวะภายในเคลื่อนไหวมากขึ้นซึ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพ ตัวอย่างจากประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น คนที่ท้องผูกบ่อย การรักษาโดยการเดิน อาหารจะทำให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหวมากขึ้น และสิ่งที่จำเป็นต่อมา คืออาหารที่มีประโยชน์ และน้ำรวมถึงอุปนิสัยการรับประทาน การใช้ยาระบายเป็นทางเลือกสุดท้ายที่จะใช้
The P-M-E-S connection มนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีองค์ประกอบ คือ ร่างกาย Physical [P] สติปัญญา Mental [M] อารมณ์ Emotional [E] จิตใจ Spiritual [S] หากคุณสังเกตเพียงเล็กน้อย และพบว่าร่างกายของคุณเฉื่อยชาหรือทำหน้าที่ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ รวมถึงด้านสติปัญญา อารมณ์และจิตใจ ทำให้คุณเป็นทุกข์ได้ คุณจะประหลาดใจมากที่สุดเมื่อพบว่าคุณเดินเพียง 2 ไมล์ต่อวัน จะทำให้ P-M-E-S ของคุณดีขึ้น
ตอนนี้คุณก็รู้แล้วว่าการเดินจะสามารถทำให้คุณปรับตัวเองดีขึ้นได้ แล้วคุณจะใช้เวลาในการเคลื่อนไหวอย่างไร คุณอาจจะจอดรถไกลขึ้นเพื่อเดินไปยังจุดหมาย โดยใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที หรืออาจจะจอดรถตรงข้ามเพื่อที่คุณจะใช้พลังงานในการเดิน หยุดการใช้ลิฟท์และบันไดเลื่อน โดยเปลี่ยนเป็นเดินแทน ถ้าคุณต้องการมีกำลังมากขึ้นกว่าปัจจุบัน คุณต้องเริ่มต้นเดินเพียงเล็กน้อยตั้งแต่วันนี้ ตอนแรกอาจเริ่มในสิ่งที่เป็นไปได้ ดังที่กล่าวไปแล้ว ต่อไปคุณอาจจะเพิ่มมากขึ้น โดยอาจจะศึกษาวิธีการที่ถูกต้อง แต่ถ้าคุณมีโอกาสเดินหรือไปเที่ยวชมธรรมชาติ คุณจะสามารถรับอากาศบริสุทธิ์ได้มากกว่า ไม่ต้องบอกเลยว่า Physicalที่มาข้อมูล :
Create Date : 20 เมษายน 2553 |
Last Update : 20 เมษายน 2553 20:06:33 น. |
|
0 comments
|
Counter : 367 Pageviews. |
|
|