เติม “กำลังใจ”
บุคคลที่เรามักพบว่าประสบความสำเร็จในชีวิตทั้งหน้าที่การงาน ครอบครัวต่างมีคุณลักษณะพิเศษหนึ่งคือ การมีทัศนคติต่อการมองโลกที่ดี การมีความหวังและมีความคิดทางบวกอยู่เสมอ แต่ในขณะเดียวกันอาจมีบ้างที่ในชีวิตคนเราต้องประสบความไม่สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ซึ่งบางคนก็สามารถแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ แต่ก็มีหลายรายที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ตามที่ใจคาดหวังไว้ ทำให้เกิดความรู้สึกว่า “ขาดกำลังใจ”ที่จะต่อสู้ หรือพยายามทำในสิ่งที่ตนเองคาดว่าน่าจะทำได้สำเร็จ ซึ่งนับว่าเป็นสัญญาณอันตรายที่หากปล่อยให้มีอาการสะสมเป็นเวลานานก็อาจจะนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้ อาการขาดกำลังใจนั้น มักจะมีความรู้สึกเบื่อหน่าย ท้อแท้ หดหู่ เซื่องซึม ไม่กระตือรือร้นขาดแรงจูงใจ ไม่รู้ว่าจะทำสิ่งต่าง ๆไปเพื่ออะไร สับสนในตัวเอง หากท่านมีความรู้สึก “ขาดกำลังใจ” เช่นที่ว่านี้ ก็อย่าพึ่ง “หมดกำลังใจ” ไปก่อนก็แล้วกัน ควรพยายามค้นหา ตรึกตรอง วิเคราะห์ถึงสาเหตุของความรู้สึกนี้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ซึ่งส่วนใหญ่จะมีสาเหตุหลัก 3 ประการคือ ประการแรกด้านร่างกาย อาจเป็นเพราะเจ็บป่วยเรื้อรัง ทำให้สุขภาพร่างกายอ่อนแอ ไม่สามารถทำสิ่งต่าง ๆ อย่างที่เคยทำได้ ทำให้เกิดความท้อแท้ เบื่อหน่าย ประการที่สองด้านจิตใจ แบ่งออกได้เป็น 2 กรณีคือ หนึ่งโดยรู้ตัว คือ รู้ตัวว่ามีปัญหาและรู้ว่าปัญหานั้นมีสาเหตุจากอะไร แต่ไม่สามารถขจัดหรือแก้ปัญหานั้นได้ ทำให้ไม่สบายใจเมื่อไม่ได้ในสิ่งที่ปรารถนา และสองคือสาเหตุด้านจิตใจโดยไม่รู้ตัว คือ ไม่รู้ว่า ทำไมจึงไม่มีกำลังใจ ทั้ง ๆ ที่ดูแล้วไม่น่าจะขาดกำลังใจ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน ฐานะทางเศรษฐกิจ แต่ถ้าเราค่อย ๆ พิจารณาไตรตรองดูจะรู้ว่ามีสาเหตุอยู่ลึก ๆ หรือฝังใจมาตั้งแต่เด็กจนเราอาจนึกไม่ถึงก็เป็นได้ เช่นความไม่ยุติธรรมของพ่อแม่ น้อยเนื้อต่ำใจรูปร่างตัวเอง หรือ อาจจะรู้สาเหตุแต่ไม่ยอมรับจึงเกิดอาการท้อแท้ เบื่อหน่าย ไม่มีกำลังใจ ประการที่สุดท้ายคือสาเหตุด้านสังคม หรือสิ่งแวดล้อม คือมักจะไม่ค่อยถูกกับใคร ไม่มีใครรัก ไม่มีใครสนใจ เมื่อตนทำดีแล้วแต่ไม่มีใครเห็นความดี วิธี “เติมกำลังใจ” ต้องเริ่มจาก ก่อนอื่นต้องพยายามหาสาเหตุก่อนว่าการที่เราไม่มีกำลังใจนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร หาทางแก้ไขและยอมรับ อย่าคิดหรือมองอย่ามองว่าตัวเองเป็นคนมีปัญหา ไร้ความสามารถ อย่ามัวหมกมุ่นอยู่คนเดียว ลองพูดคุยกับคนที่เราไว้ใจเชื่อถือ เราอาจจะได้รับคำแนะนำที่ดี มองโลกในแง่ดี ทำจิตใจให้สดชื่น อ่านหนังสือดี ๆ ทำให้ได้ความรู้ใหม่ๆ นำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น ออกกำลังกายตามที่ชอบและถนัด พยายามอย่าปล่อยให้มีเวลาว่างมากเกินไป ควรหางานอดิเรกหรืองานที่ชอบทำให้เราสนุกไปกับงานนั้น เมื่อตื่นนอนควรรีบลุกจากที่นอนทันที ควรมีแผนการทำงานแต่ละวัน ทำงานด้วยความกระฉับกระเฉง
วิธีต่าง ๆ ข้างต้นอาจช่วยให้ท่านที่ขาดกำลังใจ กลับมีกำลังใจขึ้นใหม่และมีชีวิตทุกวันอย่างมีความสุข
โดย วันทนีย์ สุวรรณช่าง ที่มา...ข่าวสารกรมสุขภาพจิต ปีที่ 13 ฉบับที่ 17
เนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง การสร้างกำลังใจให้ตนเอง พูดให้กำลังใจในชีวิตคู่ วิธีที่จะทำให้เกิดกำลังใจ 9 วิธีสร้างกำลังใจในการทำงาน
Create Date : 27 เมษายน 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 27 เมษายน 2552 15:51:52 น. |
Counter : 1231 Pageviews. |
|
|
|