Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
27 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
คุณค่าของการมองกันในแง่ดี



คุณเคยรู้สึกบ้างไหมว่า เวลาอยู่กับคนที่จ้องแต่จะตรวจสอบหรือจับผิดเรานั้น
มันช่างวางตัววางใจได้ลำบากยากเย็น ผิดกับเวลาที่อยู่กับคนซึ่งไว้ใจกัน เป็นมิตรต่อกัน
ไม่ว่าจะพูดคุยหรือทำงาน ก็จะรู้สึกปลอดโปร่ง ผ่อนคลายอยู่ตลอดเวลา

ไม่ว่าจะมองกันอย่างไร ร้ายหรือดี ทั้งหมดเป็นเรื่องของทัศนคติและอุปนิสัยที่ต้องได้รับการเอาใจใส่ ตรวจสอบ
และแก้ไขปรับปรุงให้ดีกว่าเดิมเสมอ เพื่อความสุขในการอยู่ร่วมกัน
และเพื่อพลังสร้างสรรค์ที่ข้องเกี่ยวกับกิจการงานและการดำเนินชีวิตด้วย

ความหวาดระแวงเป็นอารมณ์พื้นฐานของมนุษย์ และมันข้องเกี่ยวกับกลไกการป้องกันตัวเองด้วย

สำหรับร่างกายและสมองที่ทำงานอย่างสัมพันธ์กันแล้ว ความหวาดระแวงเหมือนยาอย่างหนึ่ง
ที่หากให้ในระดับอ่อนๆ หรือในระดับที่เหมาะสม กลไกการปกป้องตัวเองจะทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพ

แต่หากมีความหวาดระแวงมากเกินไป ก็เหมือนร่างกายและจิตใจได้รับยาพิษ
ฤทธิ์ของมันรุนแรง ทำให้กลไกการปกป้องตัวเองมีสูงเกินความจำเป็น
ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวล กลัว และจะต้องปกป้องตัวเองอยู่ตลอดเวลา

คนที่มีความหวาดระแวงในระดับเข้มข้น จะเป็นคนที่ไว้ใจคนยาก ไม่ค่อยเชื่อใจใคร ทำอะไรก็มักจะลงมือทำเอง
เพราะไม่เชื่อมือคนอื่น หากได้ลงมือทำด้วยตัวเองแล้ว จะสบายใจกว่า
และหากไม่สามารถควบคุมระดับของความหวาดระแวงได้ เขาจะกลายเป็นคนที่จ้องจับผิดคนอื่น
กลัวคนอื่นดีกว่าตัวเอง กลัวว่าตัวเองจะด้อยกว่าหรือพลาดโอกาสที่ดี จึงมีนิสัยชอบแข่งขันไปโดยอัตโนมัติ
ทั้งๆ ที่บางครั้งอีกคนหนึ่งไม่รู้เลย ว่าถูกจับไปเป็นคู่แข่ง

เราทุกคนมีหน้าที่เรียนรู้อารมณ์และจิตใจของตัวเอง เพื่อจะได้จับ ปรับ และเปลี่ยนแปลงมันได้อย่างทันท่วงที

"จับ" หมายถึงรู้ความเคลื่อนไหวของอารมณ์ รู้ว่าเวลานี้อารมณ์บางอย่างก่อตัวขึ้นแล้ว
เช่น อารมณ์โกรธ รัก เกลียด กลัว เบื่อ ไม่เชื่อ หงุดหงิด ฟุ้งซ่าน คิดถึง ฯลฯ
อารมณ์ที่เกิดขึ้นนี้ หากไม่รู้ตัวหรือจับไม่ติด โอกาสที่มันจะทวีความเข้มข้นหรือความรุนแรงขึ้นโดยอิสระก็มีมาก
จนหลายครั้งเราไม่สามารถควบคุมอารมณ์บางอย่างในตัวเราได้ และทำให้เรากลายเป็นทาสของอารมณ์

หากมันสั่งให้กรี๊ดในยามโกรธ เราก็กรี๊ดออกไปโดยอัตโนมัติ มันสั่งให้ต่อยหรือยิงในยามกลัว
ก็สามารถทำได้ทันที มันสั่งให้ด่าเมื่อเกลียด ปากก็ด่าออกไปทั้งๆ ที่บางทียังไม่ทันคิดอะไรด้วยซ้ำ
แต่อารมณ์ที่เราจับไม่อยู่ จับไม่ติดนั้น มันสั่งการโดยสัมปชัญญะของเราตามไม่ทัน
นั่นคือมูลเหตุที่เราทุกคนต้องฝึกการมีสติ โยมีสัมปชัญญะ คือความรู้ตัวทั่วพร้อม คอยกำกับ

เมื่อ "จับ" อารมณ์ทันแล้ว ก็อุ้มมันไว้ แล้วค่อยๆ ปรับมันให้โน้มเอียงไปในทางสร้างสรรค์หรือทางบวก
อย่าปล่อยให้มันแผลงฤทธิ์หรือกำเริบไปในทางทำลาย
เพราะอานุภาพของอารมณ์นั้น รุนแรงยิ่งกว่าพายุหรือปรมาณู

เมื่อจับอยู่ ปรับได้ ต่อไปก็ฝึกที่จะเปลี่ยนแปลงมัน หรืออบรมมันให้ดี
ให้รู้สึกก่อนที่จะทำอะไรลงไป ให้ดีงาม ให้สร้างสรรค์จนเป็นธรรมชาติ
และไม่วกกลับไปในทางลบหรือทางทำลายอีก

คนเราเปลี่ยนแปลงได้ ไม่มีใครเลวร้ายอยู่ชั่วนาตาปีหรอก ขอเพียงให้เขารู้ว่าเวลานี้เขาเป็นอย่างไร
และมันมีผลดีผลเสียกับเขาอย่างไร แล้วสร้างแรงจูงใจหรือเหตุปัจจัยที่ทำให้อยากปรับเปลี่ยน
เพื่อความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีของชีวิตโดยรวม เชื่อว่าทุกคนจะสนใจและลงมือทำแน่ๆ

พอเป็นเช่นนี้แล้ว ก็ให้เราหมั่นทบทวนว่าทุกๆ สิ่ง ทุกๆ อย่าง และทุกๆ คนนั้น มีสองด้านอยู่ในตัวเองเสมอ
ด้านที่เราควรมองและควรแสดงออกให้มาก ก็คือด้านที่ดี

การมองเห็นด้านที่ดีของกันและกัน ทำให้จิตใจของทั้งสองฝ่ายเปิดกว้าง

จิตใจที่เปิดกว้างทำให้เกิดการยอมรับ รู้สึกว่าเป็นพวกเป็นเพื่อน
ต่อไปแม้จะมีอะไรหนักนิดเบาหน่อย ก็ยังให้อภัยและให้โอกาสกันเสมอ ไม่ด่วนตัดสินแล้วรีบตัดรอน
ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่ากับการด่วนตัดสินกัน เพราะหากการตัดสินครั้งนั้นๆ ขาดข้อมูลความจริง
ก็จะเป็นการตัดสินที่ผิดพลาด ก่อให้เกิดผลเสียทั้งแก่ตัวเองและคนที่ถูกเราตัดสิน

เราทุกคนต้องเป็นคนมองโลกในแง่ดี โลกมีแง่ดีๆ ให้เรามองมากมาย มองเห็นให้ได้ มองหาให้เจอ
เพื่อที่การอยู่ร่วมกันในทุกๆ วัน หรือการจะต้องติดต่อ พบปะ เจอะเจอ จะส่งผลต่อเนื่องในทางบวก
คือพูดดีต่อกันได้ คิดดีต่อกันเสมอ และทำดีต่อกันอยู่ตลอดเวลา

บ้านใด ออฟฟิศใด ชุมชนใด สังคมใดก็ตาม ที่คนคิดดี พูดดี และทำดีต่อกัน
ที่แห่งนั้นจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ซึ่งเป็นสัญญาณของความผาสุก

ข้อมูลจาก โพสต์ทูเดย์


Create Date : 27 พฤษภาคม 2552
Last Update : 27 พฤษภาคม 2552 11:27:05 น. 1 comments
Counter : 660 Pageviews.

 
มองโลกในแง่ดีชีวีมีสุข


โดย: เอียด IP: 118.173.126.101 วันที่: 19 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:07:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.