Group Blog
 
<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
13 เมษายน 2552
 
All Blogs
 

ดูดีเพราะมีมนุษยสัมพันธ์



การมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ก็หมายถึง การมีบุคลิกภาพภายในจิตใจที่ดี แล้วเมื่อใครมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
คนผู้นั้นย่อมเป็นที่รักใคร่ และอยากจะคบหาของคนมากมาย

ดูดีสำหรับคนที่มีความบกพร่องทางมนุษยสัมพันธ์ แม้ผู้นั้นจะเป็นคนที่มีหน้าตาดูดี รูปร่างดูดีหรือแต่งตัวดูดี ก็ตาม
แต่เชื่อได้ว่า คนผู้นั้นคงมีคนที่รักใคร่ หรืออยากจะคบหาด้วยใจจริงน้อยยิ่งนักหรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้

หลายคนอาจจะเข้าใจว่า การมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีนั้น ก็แค่ยิ้มให้แล้วพยายามพูดคุยกับบุคคลนั้นเยอะๆ
ซึ่งนี่ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งในหลายส่วน ซึ่งทุกส่วนควรมีความเกี่ยวเนื่องกัน
เพื่อการสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดีอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะฉะนั้น จึงนำเรื่องของมนุษยสัมพันธ์มาให้ได้รู้จักกัน
เพื่อให้ได้ศึกษาและเข้าใจอย่างถึงแก่นแท้ของความสัมพันธ์ของมนุษย์
เพื่อที่คุณจะได้กลายเป็นมนุษย์ที่มีคนอยากจะสัมพันธ์ด้วยมากที่สุดคนหนึ่ง ดังนี้

ขอบเขตของความสัมพันธ์
ขอบเขตที่เล็กที่สุดของความสัมพันธ์คือ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับบุคคล อาจเป็นคุณกับคนในครอบครัว
คุณกับเพื่อนร่วมเรียน หรือคุณกับเพื่อนร่วมงาน โดยความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมีจุดหมายอยู่ที่
การเป็นที่รักใคร่ของบุคคลที่เราต้องการติดต่อสื่อสาร ขอบเขตที่ใหญ่ขึ้นมาอีกนิดก็ คือ
ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับกลุ่ม ซึ่งสำหรับกลุ่มนั้นเต็มไปด้วยความหลากหลาย ทั้งความคิด อายุ เพศ วัย ฯลฯ
ย่อมทำให้ยากต่อการสร้างความสัมพันธ์เป็นอย่างมาก

ผิดกับความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มกับบุคคล ที่เจาะจงเฉพาะที่บุคคลเดียว ด้วยอิทธิพลจากกลุ่ม
จึงง่ายต่อการสร้างความสัมพันธ์เป็นอย่างมาก โดยเป้าหมายของความสัมพันธ์แบบนี้คือ ความต้องการการรักใคร่
ศรัทธา ยอมรับนับถือ และร่วมมือร่วมใจโดยไม่ใช้อำนาจควบคุมและขอบเขตที่ใหญ่ที่สุด คือ ความสัมพันธ์ระหว่าง
บุคคลกับสังคม แน่นอนการสร้างความสัมพันธ์กับสังคมที่ใหญ่โตและหลากหลายย่อมยากเอามากๆ
อาจต้องใช้เวลานานกว่าที่จะคล้อยตาม แต่ถ้าสังคมต้องการสร้างความสัมพันธ์กับบุคคล เช่นเดียวกับกลุ่มกับบุคคล
ด้วยอิทธิพลบุคคลจะคล้อยตามได้ง่าย


อิทธิพลที่มีผลต่อการสร้างความสัมพันธ์
เพราะอิทธิพลเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกที่จะสร้างหรือตอบรับความสัมพันธ์ของมนุษย์ โดยอิทธิพลหลักๆ มีดังนี้

อิทธิพลที่ 1 ค่านิยม
คือ การให้ค่าแก่สิ่งต่างๆ ว่าสิ่งใดดีหรือไม่ดี อะไรควร อะไรไม่ควร โดยค่านิยมแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
ค่านิยมเฉพาะตัว อาทิ เมื่อเราต้องการใช้งานใคร เมื่อเขาทำให้ เราก็จะมีของตอบแทนเขาอยู่เสมอ
ทั้งๆ ที่ควรจะเป็นคำขอบคุณจากเราเท่านั้น นี่คือค่านิยมที่เราสร้างขึ้นเอง และอีกค่านิยมคือ
ค่านิยมตามลักษณะของสังคมไทย อาทิ ยกย่องผู้มีอำนาจ หรือเคารพเชื่อฟังผู้อาวุโส

อิทธิพลที่ 2 การรับรู้
คือ การตีความ หรือเข้าใจสิ่งต่างๆ ตามที่ได้มีประสบการณ์ การรับรู้แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
การรับรู้ตนเอง คือ การเข้าใจว่าตนเองเป็นอย่างไร และแสดงพฤติกรรมตามที่ตนเองเข้าใจ และการรับรู้ผู้อื่น คือ
การรับรู้ว่าผู้อื่นเป็นคนเช่นไร แล้วเราก็จะแสดงออกต่อเขาในแบบที่เรารู้สึกต่อพฤติกรรมของเขาที่เรารับรู้

อิทธิพลที่ 3 ทัศนคติ
ซึ่งเป็นเรื่องของความรู้สึกชอบ หรือไม่ชอบ อันเป็นผลมาจากความคิด ความเชื่อ ฉะนั้น ถ้าเราต้องการให้ผู้อื่นมี
มนุษยสัมพันธ์ที่ดี ก็ต้องสร้างทัศนคติที่ดีให้เกิดขึ้นกับผู้อื่น และถ้าผู้อื่นมีทัศนคติไม่ดีกับเรา จากการเข้าใจผิดหรือ
ไปฟังใครมา เราก็ทำได้ด้วยการเปลี่ยนทัศนคติของผู้อื่น เพื่อให้เขามีทัศนคติที่ดีกับเรา


ท้ายสุดกับ ‘วิธีการสร้างมนุษยสัมพันธ์’
แน่นอนว่าคุณควรต้องเริ่มจากการสำรวจตนเองก่อน ว่าเรามีอะไรดี อะไรบกพร่อง การสำรวจตัวเองอาจทำได้ด้วย
วิธีต่างๆ ดังนี้ การส่องกระจก การสอบถามผู้อื่น การศึกษาจากทฤษฎีและจากแบบทดสอบต่างๆ
เมื่อได้รู้เรามีอะไรดี อะไรบกพร่องแล้ว ก็หยิบข้อบกพร่องตีออกมาเป็นข้อๆแล้วหาวิธีจัดการกับข้อบกพร่องเหล่านั้น
ทีละข้อ อาจเขียนเป็นโปรแกรม และกำหนดเวลาเพื่อสรุปผล อย่าลืมเมื่อปรับปรุงข้อบกพร่องแล้ว
ควรสำรวจตัวเองอีกครั้งจากผู้อื่น เพื่อให้รับทราบผลของการปรับปรุงว่าเป็นอย่างไร สำเร็จหรือไม่

ที่สำคัญ ควรศึกษาวัฒนธรรม ประเพณีและสังคม รวมถึงสภาพธรรมชาติของบุคคลที่เราต้องการสร้างความสัมพันธ์
เพราะสิ่งเหล่านี้ย่อมมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของบุคคลเป็นอย่างยิ่ง บางครั้งบางทีการที่บุคคลหนึ่งกับอีกบุคคลหนึ่ง
มีปัญหาเรื่องมนุษยสัมพันธ์ต่อกัน ก็อาจเป็นเพราะเรื่องเหล่านี้

ตัวอย่างเช่น เราชวนเพื่อนไปดื่มสังสรรค์งานวันเกิด แต่เพื่อนกลับปฏิเสธ เราเลยพาลโกรธ หาว่าเขาไม่ให้เกียรติ
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าเขาไปกับเรา เขาจะผิดศีลของศาสนาที่เขานับถือ เป็นต้น

นอกจาก 3 เรื่องข้างต้นแล้ว เราควรจะศึกษาหลักการของการสร้างมนุษยสัมพันธ์เพิ่มเติมผ่านงานวิจัยทางด้านนี้
หรือจากบุคคลที่มีชื่อเสียงทางด้านนี้ เพื่อเรียนรู้และเอาเป็นแบบอย่างที่ดีในการสร้างมนุษยสัมพันธ์

และอย่าลืมนำทั้งหมดไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสม่ำเสมอจนกลายเป็นนิสัย ในที่สุดเมื่อคุณใฝ่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
เรียนรู้และเข้าใจในเรื่องนี้อย่างดี และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันจนกลายเป็นนิสัย
ดิฉันเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันจะไปส่งเสริมบุคลิกภาพของคุณให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป และรับรองได้ว่า
ใครๆ ก็อยากที่จะคบหาสมาคมกับคุณอย่างจริงใจ จนใครต่อใครต้องกระซิบถามเคล็ดลับการ ‘ดูดีอย่างมีมิตร’
จากคุณแน่นอนค่ะ

เรื่อง : อ.ประณม ถาวรเวช




 

Create Date : 13 เมษายน 2552
1 comments
Last Update : 13 เมษายน 2552 9:54:53 น.
Counter : 1215 Pageviews.

 


๙๙
๙๙๙
๙๙๙๙
๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙๙
๙๙๙๙๙๙๙๙๙
เจิมค่ะ

เจิมให้นะเจ้าคะ ขอบคุณข้อความดีๆเจ้าค่ะ

 

โดย: yoja 13 เมษายน 2552 12:44:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.