Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
1 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
สร้างพลังใจ...ฟันฝ่าอุปสรรค



“ไม่มีอะไรเกินความตั้งใจของมนุษย์”

ในโลกใบนี้มีเรื่องราวของความไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคของคนดังมากมาย
ที่ต่อสู้จนประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน อาชีพของตัวเอง

ไมเคิล จอร์แดน ดาราบาสเกตบอลผู้ยิ่งใหญ่ ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกไล่ออกจากทีมบาสเกตบอลของโรงเรียนมาแล้ว
แต่ในที่สุดก็สามารถกลับไปเป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงได้

วินสตัน เชอร์ชิล อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษเอง ก็ไม่ได้รับการตอบรับให้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ออกซ์ฟอร์ด
รวมทั้งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เนื่องจากเขาทำคะแนนวิชาพื้นฐานว่าด้วยกรีกและโรมันได้ไม่ดี

และดูเหมือนคนดังเหล่านี้จะรู้ว่า ความลับของความสำเร็จประการหนึ่งคือ
การไม่ยอมให้ความท้อถอยมาสกัดกั้นให้ตัวเองพ่ายแพ้

ผู้ชายคนนี้ก็เช่นกัน คุณแหล่ง ณัทธร ดิษฐ์ดำรง ชายหนุ่มวัย 30 ปีเจ้าหน้าที่วิเคราะห์งบประมาณ 5
สำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ชีวิตในช่วงวัยเรียนของเขาได้กลายเป็นบทเรียน
และบททดสอบความมุ่งมั่นพยายามในการฝ่าฟันอุปสรรคได้เป็นอย่างดี

คุณแหล่ง เล่าว่าตัวเองเติบโตมาในครอบครัวของชนชั้นกลาง มีคุณแม่รับราชการ และคุณพ่อทำงานเอกชน
ด้วยความที่เป็นลูกคนเดียวทำให้ได้รับความรัก ความเอาใจใส่จากคุณพ่อคุณแม่อย่างเต็มที่
โดยเฉพาะในเรื่องการศึกษาเล่าเรียน ดังนั้นผลการเรียนของเขาจึงจัดอยู่ในเกณฑ์ดี
แต่ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยสองครั้งแรกเขากลับสอบเอนทรานซ์ไม่ติด “ผมสอบเทียบตั้งแต่เรียนอยู่ ม.5
แต่สอบเอนทรานซ์ไม่ติด พอจบ ม.6 รู้ตัวว่าอยากเรียนวิศวกรรมจึงเลือกสอบเข้าคณะนี้ แต่กลับไม่ติด
จึงไปเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงอยู่ 1 ปีระหว่างนั้นก็อ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวเอนทรานซ์ใหม่อีกครั้ง
ปรากฏว่าสอบติดที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ซึ่งเป็นคณะลำดับท้ายๆ ที่เลือก”

แม้ใจจริงจะอยากเรียนต่อในคณะวิศวกรรม แต่เมื่อสอบติดคณะนี้แล้ว คุณแหล่งก็ตัดสินใจเข้าเรียนที่นี่
ด้วยความชื่นชมยินดีของครอบครัว แต่การณ์กลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น
เพราะแค่เพียงก้าวเดียวที่คิดผิด เขากลับกลายเป็นผู้สร้างปัญหา และอุปสรรคของชีวิตให้กับตัวเองไปในทันที

“ ผมคิดว่าถ้าเราเอนทรานซ์ติดแล้ว ชีวิตในมหาวิทยาลัยคือ เราจะได้เป็นอิสระเสรี
ไม่ต้องมีคุณครูมาคอยควบคุมเหมือนสมัยมัธยม
ดังนั้นในช่วงปีหนึ่ง ผมจึงใช้เวลาหมดไปกับการนั่งคุยนั่งเล่นกับเพื่อน เวลาเรียนก็ไม่เคยเข้าเรียนเลย
เหมือนกับเป็นความหลงระเริง เที่ยวกลางคืน ไปกินเหล้า บ่ายๆ เล่นสนุกเกอร์ เย็นๆ มานั่งเล่นที่คณะ เล่นฟุตบอล
ถึงเวลาสอบก็ไปสอบ ตอนนั้นไม่คิดถึงอะไรเลย ติดเพื่อน เพื่อนว่ายังไง ทำตามหมด
อีกอย่างมาจากความรู้สึกว่าเราไม่ได้อยากเรียนคณะนี้ ยิ่งทำให้ไม่สนใจการเรียนเข้าไปใหญ่
ช่วงนั้นผมใช้ชีวิตแบบเผาผลาญไปวันๆ ปี 1 ผลการเรียนเฉลี่ยหนึ่งกว่าๆ ตอนนั้นยังไม่รู้สึกอะไร
ยังคิดว่ายังไงก็ทำได้ ยังไม่ตกใจ พอมาปี 2 เทอมหนึ่ง เริ่มแย่โดน warning
พอปี 2 เทอมสอง เกรดเฉลี่ยเราไม่ถึง 2 ก็ยังไม่รู้สึกตัวอยู่ดี”

จนกระทั่งวันหยุดสุดสัปดาห์หนึ่ง ซึ่งคุณแหล่งบอกว่า เหมือนเป็นวันเปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตของเขาเลยทีเดียว
เพื่อนๆ ชวนไปเที่ยวต่างจังหวัด ตอนเช้าวันนั้นเขาจึงจัดเก็บเสื้อผ้าอย่างสบายอารมณ์

“ตอนนั้นผมเรียนอยู่ปีสอง อาจารย์ที่ปรึกษา โทรมาหาคุณพ่อคุณแม่ที่บ้าน
และเล่าให้ฟังว่าการเรียนของผมย่ำแย่มาก ไม่ค่อยสนใจการเรียน และกำลังจะโดนไล่ออก
คุณพ่อคุณแม่จึงเรียกผมเข้ามาคุย คุณพ่อพูดว่า
‘ทำไมทำตัวอย่างนี้...มันเหมือนกับสวะ ลอยตามน้ำไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมายอะไรเลย’
ผมรู้ว่าจากคำพูดสั้นๆ นี้ คุณพ่อเสียใจมาก ท่านร้องไห้ไม่ออก ท่านรอวันที่ลูกจบรับปริญญา
แต่กลายเป็นว่าเราไม่ตั้งใจเรียนและกำลังจะโดนไล่ออก การที่คุณพ่อไม่ได้ด่าว่าอะไรยิ่งทำให้เสียใจมาก

“ คืนนั้นผมนอนคิดว่า มันเป็นเรื่องของการวัดความสามารถของตัวเองมากกว่า เรามีความสามารถแค่นี้เหรอ
ทำไมเราทำให้พ่อแม่เสียใจ เราต้องพิสูจน์ตัวเองสิ เพราะต้องมีคนกลุ่มหนึ่งมองเราด้วยสายตาเหยียดหยาม
เราต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเราเอนทรานซ์เข้ามาเรียนได้ เราต้องเรียนจบได้
ตั้งแต่ปี 3 เป็นต้นมาตั้งใจเรียน เปลี่ยนเป็นคนละคนเลย”

ตั้งแต่นั้น ด้วยความมุ่งมั่นที่จะฟันฝ่ากับอุปสรรคที่ตัวเองสร้างขึ้น ทำให้คุณแหล่งกลายเป็นคนใหม่
จนเพื่อนๆ และครูบาอาจารย์พากันแปลกใจ เขาเลือกที่จะนั่งเรียนข้างหน้า จดทุกวิชาด้วยตัวเอง
ปรึกษาอาจารย์ประจำวิชานั้นๆ เป็นพิเศษ
และยุติกิจกรรมเผาผลาญเวลาทั้งหลายที่เคยทำมา และตั้งใจเรียนโดยได้รับกำลังใจที่ดีจากคนรอบข้าง

“ตลอดเวลาที่ผมพิสูจน์ตัวเอง ผมพบว่า ‘ไม่มีอะไรเกินความตั้งใจของมนุษย์’
ผมได้เข้าใจถึงคำว่ากำลังใจ และพลังของความหวังดีจากคนรอบข้างมากขึ้น
ทำให้ผมรู้ว่าจริงๆ แล้วมีคนสนใจเราอยู่ โดยเฉพาะอาจารย์ทั้งที่คณะและต่างคณะ จะคอยให้คำแนะนำตลอด
เพื่อนๆ เองก็คอยช่วยเหลือ หาหนังสือมาให้ ผมรู้สึกว่าการที่ผ่านจุดวิกฤตของชีวิตมาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ส่วนหนึ่งเพราะชีวิตเราแวดล้อมด้วยคนที่จิตใจดี เอื้อเฟื้อมีน้ำใจกัน”

ทุกวันนี้ถ้าให้ย้อนมองตัวเอง คุณแหล่งบอกว่าเขาจะตั้งใจเรียนตั้งแต่ปี 1
และไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์
เพราะนั่นเท่ากับเป็นการบั่นทอนสติปัญญาของตัวเอง และอยากจะบอกทุกคนที่อยู่ในวัยเรียนว่า

“เราควรคิดว่ากว่าที่เราจะโตมา แล้วมาเรียนมหาวิทยาลัย เรามีคนอยู่เบื้องหลังรอความสำเร็จจากเรา
คือเขาไม่ต้องการอะไร เขาต้องการเห็นความสำเร็จของลูก เขาจะเสียใจแค่ไหนที่ลูกทำให้เขาผิดหวัง
สิ่งสุดท้ายที่เราจะเสียใจคือเราย้อนเวลาตรงนั้นมาไม่ได้”

ทุกวันนี้ นอกจากคุณแหล่งจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานคนหนึ่งแล้ว
ยังสามารถเรียนจบปริญญาโท ในคณะรัฐประศาสนศาสตร์อีกด้วย

ถือได้ว่าความมุ่งมั่น ตั้งใจของผู้ชายคนนี้
เป็นตัวอย่างที่ดีของคนที่ไม่ยอมให้ความล้มเหลวเพียงครั้งเดียว มาบั่นทอนชัยชนะในชีวิตได้เป็นอย่างดี

ในวิถีของชีวจิตเรารู้ว่าการสร้าง Immune System หรือสร้างภูมิคุ้มกันให้กับชีวิต
เรื่องของอารมณ์และจิตใจเป็นตัวกำกับที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง

คนที่มีจิตใจเบิกบาน เข้มแข็ง พร้อมที่จะต่อสู้กับโรคร้ายต่างๆ ที่เข้ามา
ย่อมสามารถสร้างภูมิชีวิตไว้ต้านทานโรคได้ดีกว่า คนที่ท้อแท้ หมดหวัง

อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง ได้กล่าวไว้ว่า
“ในกรณีที่เจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรง
เราจะระดมวิธีต่างๆ ทุกวิธี เพื่อให้ Immune System ดีขึ้นๆ จนสามารถขึ้นถึงสภาพที่อยู่ตัวได้
และหลังจากนั้น Immune System ก็จะไปจัดการกับโรคร้ายต่างๆ ในตัวเราให้หมดไป
หรือให้สยบอยู่จนกระทั่ง เราสามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปรกติทั่วไป”

การสร้างกำลังใจที่จะเอาชนะอุปสรรคของเราก็เช่นเดียวกันกับการสร้าง Immune System ให้เกิดขึ้นกับตัวเอง
เมื่อไรที่เราสามารถระดมกำลังจนเกิดความเข้มแข็ง
ก็สามารถใช้ต่อสู้เอาชนะทั้งโรคร้ายและอุปสรรคต่างๆได้ในที่สุด



ที่มา : //www.cheewajit.com
ภาพจาก : //www.gettyimages.com


Create Date : 01 กรกฎาคม 2553
Last Update : 1 กรกฎาคม 2553 13:44:32 น. 4 comments
Counter : 1511 Pageviews.

 
ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆมาแบ่งปันกันนะครับ ^^


โดย: The Jotivator วันที่: 1 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:42:46 น.  

 
ผมขอขอบคุณที่นำประวัติของผมมาเสนอเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังท้อแท้เพื่อจะได้มีแรงใจฝ่าฝันอุปสรรคที่ท่านกำลังเผชิญอยู่ ขอให้เชื่อมั่นว่า ท่านต้องฝ่าฝันอุปสรรคไปให้ได้ครับ


โดย: ณัทธร ดิษฐ์ดำรง IP: 203.155.122.1 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:15:28:06 น.  

 
ชีวิตยังอยู่ก็ต้องสู้ต่อไป ชีวิตไม่อยู่ก็สู้ไม่ไหว


โดย: วินิจ IP: 110.49.224.231 วันที่: 29 มิถุนายน 2555 เวลา:8:53:07 น.  

 
ณัทธร ดิษฐ์ดำรง
สวัสดีครับ ช่วงหนึ่งได้รู้จักและได้ทำงานร่วมกัน เป็นระยะเวลามากพอควร สัมผัสกันด้วยความรู้สึกที่ดี อัธยาศัยดีมาก ประทับใจมาตลอดครับ เป็นคนดี จริงใจกับทุกคนมากๆ
อยากพบอีกครั้ง แต่ติดต่อไม่ได้ ติดต่อผมด้วยครับ 0816898834 ขอบคุณครับ


โดย: สุระชิต ฉัตรฉลองชัย IP: 184.22.193.212 วันที่: 1 เมษายน 2563 เวลา:16:31:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.