Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 
15 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
ลับคมบุคลิกภาพ

ลับคมบุคลิกภาพ

ดิฉันจึงมีข้อแนะนำในการปฏิบัติตัวเพื่อให้สิ่งดีๆ ได้บังเกิดขึ้นในปีที่จะมาถึง ง่ายๆ ดังนี้

1.มาทำจิตใจ ให้ผ่องใสสะอาด
ง่ายๆ เลย คือ คุณต้องมีพื้นฐานจิตใจที่ดีเสียก่อน จิตใจที่ดีคืออะไร?
จิตใจดีคือ การที่ความคิดของคุณมีความเป็นมิตร รักการผูกมิตร และไม่คิดเหยียดหยันทำร้ายผู้อื่น
คุณต้องรู้จักมองทุกสิ่งในด้านดี มันก็จะทำให้คุณมีความสุข
และเมื่อคุณมีความสุข ความสุขนั้นก็จะเปล่งประกายออกมาภายนอก
ช่วยให้ดูเป็นคนอ่อนโยน สดใส มีความหวัง มีชีวิตชีวา สดชื่นรื่นเริงอยู่เป็นนิตย์

นอกจากนี้ การมองทุกคนทุกเรื่องในแง่ดี พยายามเข้าใจว่า ทุกคนมีเหตุผลในการกระทำของเขา
คุณก็จะไม่โกรธใครง่ายๆ มองโลกสวยงาม จะมีจิตใจที่รื่นรมย์ แล้วยิ่งถ้าคุณหมั่นให้การช่วยเหลือ ห่วงใย
และมีจิตใจที่เอื้ออาทรต่อผู้คนเพิ่มขึ้นไปอีก ใครๆ ก็จะชื่นชมได้โดยไม่ยาก

จิตใจเป็นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ และเป็นสายตาที่จะช่วยให้มองเห็นว่าผู้อื่นก็ เป็นมนุษย์
ใครที่มีจิตใจดีงามเช่นนี้จะมีความรักมากพอที่จะเผื่อแผ่ให้แก่ผู้อื่น รู้เหตุรู้ผลและยอมรับความเป็นไปของสิ่งต่างๆ
เรื่องต่างๆ ภาวะต่างๆ และผู้คนที่แตกต่าง นี่เป็นจุดเริ่มต้นของความดีที่สุดภายในตัวตนของคุณเลยนะ
เมื่อคุณมีจิตใจที่ดี อารมณ์สกปรกขุ่นมัวก็แทบเรียกได้ว่าเป็นเส้นขนาน กับชีวิตของคุณเลยก็ได้

หากจิตใจดี อารมณ์กับบุคลิกภาพก็ดีได้โดยอัตโนมัติ
ถ้ามีอะไรที่จะต้องปรับแก้ ก็มักเป็นแค่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น เช่น ท่าทางการเดิน ยืน นั่ง ที่คุ้นเคย
หากเป็นการพูดก็แค่เรื่องจังหวะจะโคน และความชัดเจน ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องเล็กๆ ที่มองข้ามไปได้ไม่ยาก

เพียงแค่คุณหมั่นทำใจให้ผ่องแผ้วแจ่มใส สลัดความทุกข์ ความรำคาญ
หรือการเพ่งเล็งแต่ความผิดของผู้อื่นออกไป และสบายใจอยู่เสมอในทุกสถานการณ์
ภาพสะท้อนที่ปรากฏออกมา คุณก็จะเป็นคนที่ดูร่าเริง น่ารัก สนุกสนาน และมีอารมณ์ขันอยู่เสมอ
อย่างนี้แล้ว ใครที่ไหนล่ะคะจะไม่ชื่นชม


2.มาทำวาจา ให้น่ารักน่าคบหา
การพูดให้ได้ใจคน ต้องอยู่บนพื้นฐานของความอ่อนน้อม น่ารัก และเป็นธรรมชาติ จริงใจ ไม่เสแสร้ง
ที่สำคัญคือ ไม่ผิดโอกาส สถานที่ และตัวบุคคล
และที่สำคัญยิ่งไปกว่าคือ พูดออกมาจากใจ มิใช่เพียงพูดเพื่อให้ได้ใจเท่านั้น
ด้านน้ำเสียงที่พูดก็ต้องให้แจ่มใส ชัดเจน ด้วยความดังที่พอเหมาะ มีสัมมาคารวะ

สัมมาคารวะ หมายถึง การมีความเคารพอยู่ในน้ำเสียง
และท่าที ซึ่งเป็นภาษากาย แปลตรงตัวหมายถึง แสดงความเคารพอย่างถูกต้อง
เคารพอะไรบ้างหรือคะ
หนึ่ง เคารพในความเป็นมนุษย์
สอง เคารพในเกียรติ
สาม เคารพในวัย
สี่ เคารพในตำแหน่งหน้าที่
และห้า เคารพในน้ำมิตรไมตรี

คนจะพูดดีได้ต้องมีน้ำเสียงที่ดี จังหวะจะโคนที่ดี มารยาทที่ดี และความรู้ที่ดี
ไม่ใช่พูดจาเรื่อยเปื่อย หาเรื่องหาราวไม่เจอ เมื่อใครก็ตามที่มาพูดคุยกับคุณ เขาก็จะรู้สึกเคลิบเคลิ้ม คล้อยตาม
และไม่อยากให้หยุดพูด เรียกง่ายๆ คือวาจาของคุณได้ใจของเขาไปแล้ว
เมื่อเป็นแบบนี้ไม่รักก็ไม่ได้แล้ว จริงไหมคะ


3.มาทำตัวเอง ให้ดูดีมีเสน่ห์
แว้บแรก ที่คนจะรู้ว่าคุณดูดี หรือไม่ก็คือ การเดิน
ก่อนที่คุณจะเข้าถึงใคร "การเดิน" จะบอกความเป็นตัวคุณไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าเป็นคนอย่างไร
อ่อนหวาน มีกาลเทศะ หรือกะเปิ๊บกะป๊าบ ซุ่มซ่าม หรือมั่นคงมั่นใจ
ฝึกการเดินดีๆ เอาไว้เถอะค่ะ คือ เดินในจังหวะที่ไม่ช้า หรือเร็วเกินไป ก้าวเท้าพอดีๆ ไม่สั้น หรือยาวเกินขา
จังหวะก้าวต้องคล่องแคล่ว และมั่นคง ที่สำคัญต้องผ่อนคลาย และเป็นธรรมชาติ
ไม่บิด หรือสะบัดเสียจนเห็นว่าจงใจ หรือเกร็งแข็งทื่อจนนึกว่าผีดิบ หรือไม่ก็หุ่นยนต์

สิ่งที่ตามมาก็คือ เรื่องของเครื่องแต่งกาย เสื้อผ้า ต้องเรียบร้อย รับกับรูปร่าง สีผิว อยู่ในสมัยนิยมได้ก็ดี
แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องเหมาะสม กับกาลเทศะ
คนที่รู้กาลเทศะคือ คนน่ารัก มีมารยาท และรู้ได้เลยว่าเขาผ่านการศึกษา และการอบรมสั่งสอนมาดี
คนแบบนี้ทุกคนชื่นชม โดยอัตโนมัติ

ไม่ต้องดูรูปร่างหน้าตา ไม่ต้องดูว่าอ้วน หรือผอม ดูกันที่การกระทำ ซึ่งมีค่านั้นก็เพียงพอแล้ว
ผมเผ้าก็เช่นเดียวกัน ต้องสะอาด เรียบร้อย รับกับรูปหน้า และส่งเสริมความมั่นใจ
ทรงผมที่เข้ากับยุคสมัยจะดีที่สุด เพราะผมเป็นจุดสำคัญที่จะบอกให้รู้ว่าคนคนนั้น "รุ่นไหน"
หรือ "ทันสมัย" หรือเปล่า

กระนั้นก็ดี อย่าหวือหวาจนกลายเป็นว่าหน้า กับตัวถูกรัศมีทรงผมกลบหมด ดูกาลเทศะด้วยค่ะ
ส่วนใหญ่ไว้ผมสั้น หรือหากผมยาวก็รวบเก็บให้เรียบร้อย ก็ดูดีแล้วค่ะ
ถ้ารวบผมแล้วกลัวว่าจะเชย หรือธรรมดาเกินไป ก็ปรับให้เข้ากับเทรนด์ได้นี่คะ
แค่ดูแลเรื่องสีผมเสียหน่อย แค่นี้ก็เกินจะทันสมัย

กลิ่นกายก็มีความสำคัญค่ะ หาวิธีระงับกลิ่นกายที่เหมาะสมกับตนเอง
และปรุงแต่งกลิ่นหอมให้แก่ตัวเองบ้างตามสมควร แต่อย่าให้ชโลมจนมันฉุนมากจนคนรำคาญกลิ่นหอมของคุณ

ที่เหลือก็เป็นเรื่องกิริยาท่าทาง เรียบร้อยไหม
คุกคามไหม ดูก้าวร้าวไม่เกรงใจคนไหม ประหม่าหรือตื่นเต้นไหม ฯลฯ
กิริยาท่าทีที่ดีคือ ต้องดูเป็นมิตร คล่องแคล่ว รู้กาลเทศะ และรู้เคารพอาวุโส
ประการหลังนี่คนไทยถือมาก ดังนั้นพึงระวัง และปฏิบัติให้เคยชินจนเป็นธรรมชาติ

และที่สำคัญอย่าลืมรอยยิ้ม เพราะรอยยิ้มเป็นประตูแห่งมิตรภาพ กระนั้นก็ดี รอยยิ้มก็ต้องการโอกาส จังหวะ
และสถานที่ที่เหมาะสมเหมือนกัน รอยยิ้มต้องการความเป็นธรรมชาติ จริงใจ
และรอยยิ้ม ยังตามมาได้ด้วยคำพูดทักทาย เช่น สวัสดีค่ะ ดีใจที่ได้เจอนะคะ
ได้ยินชื่อเสียงมานานเหลือเกินครับ เพิ่งได้เจอตัวจริงก็วันนี้ ไม่ผิดหวังเลย ฯลฯ

นี่แหละค่ะเคล็ดลับในการลับคมบุคลิกภาพ สำหรับคนที่หวังจะเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ
ให้กับชีวิต อย่ารอช้านะคะ ลองทำตามวิธีที่ดิฉันแนะนำดู

ประณม ถาวรเวช สถาบันพัฒนาบุคลิกภาพ จอห์น โรเบิร์ต พาวเวอร์
ที่มา post today


Create Date : 15 มิถุนายน 2552
Last Update : 15 มิถุนายน 2552 13:21:36 น. 0 comments
Counter : 802 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.