พูดตรงๆ ก็ได้…ง่ายจัง
เคยไหมที่พูดคุยกับใครๆ แล้วจบลงด้วยการสงสัยความหมายที่ผู้อื่นพูด บ่อยครั้งที่เรามักถามตัวเองว่า คนที่เราคุยด้วยเค้าต้องการอะไร เค้ากำลังพูดกับเรา เรื่องอะไร เราเองก็เช่นกัน บางครั้งก็ไม่รู้ว่าการจะบอกคนอื่นถึงความคิดเห็นของเรานั้น ควรจะมีวิธีการอย่างไรที่ทำให้เกิดความเข้าใจตรงกันทั้งสองฝ่าย คำตอบทั้งหมดของคำถามทั้งหลายเหล่านี้...ก็คือ
การสื่อสารที่ชัดเจน การพูดคุยโดยถือว่าเป็นการสื่อสารที่ชัดเจน คือการใช้คำพูดตรงไปตรงมา เป็นประโยคชัดเจน ไม่ถามด้วยประโยคที่ตีความหมายได้หลายอย่าง ไม่เป็นประโยคกำกวม ไม่เป็นประโยคที่ซ่อนคำถามไว้ เพราะเกือบร้อยละ 90 ของการพูดคุย เมื่อต้องการบอกความต้องการของเราให้อีกฝ่ายทราบ เรามักจะใช้ประโยคคำถาม โดยใช้การตั้งคำถามกับผู้ที่เราคุยด้วย แต่ไม่สื่อสารด้วยประโยคที่ตรงไปตรงมาไม่บอกความต้องการที่ชัดเจนของเรา
ตัวอย่างเช่น เราอยากชวนเพื่อนไปเที่ยวกับเรา แต่เรากลับถามว่า “วันเสาร์นี้ จะทำอะไร” ซึ่งเพื่อนเองก็จะไม่รู้ว่าแท้จริงเราต้องการอะไร
การบอกความคิดของเราให้คนอื่นเข้าใจ ควรเริ่มจากตัวเรา โดยใช้คำว่า “ฉัน” “ผม” “ดิฉัน” แล้วบอกความรู้สึกของเรา ตามด้วยการแสดงความคิดเห็น โดยไม่เป็นการตำหนิ ติเตียน หรือตัดสินการกระทำของผู้อื่น
ตัวอย่างเช่น เมื่อเพื่อนยืนหนังสือการ์ตูนของเรา แต่เราไม่อยากให้ยืม เพราะครั้งก่อนเพื่อนยืมไปแล้วยังไม่คืน การพูดว่า “เราคงให้นายยืมการ์ตูนไม่ได้ เพราะนายไม่รับผิดชอบ” คงไม่เป็นประโยคที่ดีแน่ ทั้งยังอาจทำลายมิตรภาพเพื่อนที่ดีไปด้วย ควรพูดว่า “เรารู้สึกไม่สบายใจกับการที่นายขอยืมการ์ตูนของเรา เพราะนายยังไม่ได้คืนเล่มที่ยืมไปเมื่ออาทิตย์ก่อนเลย”
ภาษาท่าทาง นอกจากคำพูดแล้ว ท่าทีที่แสดงออกไม่ว่าจะเป็นบุคลิกภาพ การใช้สายตา สีหน้า การสัมผัส การเคลื่อนไหวต่างๆ ก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการสื่อสาร ซึ่งจะช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนมากขึ้น
การสื่อสารที่ดีนั้นคำพูดและภาษาท่าทางต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน หากคำพูดขัดแย้งกับภาษาท่าทาง อาจทำให้เกิดการตีความหมายไปทางอื่น และเกิดการเข้าใจผิดต่อกันได้เช่น เมื่อเราพูดกับเพื่อนว่า “เรายินดีที่ได้เจอนาย” แต่ขณะพูดตามองไปที่พื้น เพื่อนอาจคิดไปได้หลายทาง คิดว่า“เราโกหก” คิดว่า “เรากลัว” คิดว่า “เราอาย” ซึ่งสุดท้าย ก็กลายเป็นความเข้าใจผิดว่าเราไม่ได้ยินดีที่ได้เจอเพื่อนตามที่เราพูดจริง ๆ
นอกจากการสื่อสารที่ชัดเจน ตรงไปตรงมา การใช้ภาษาท่าทางและคำพูดที่สอดคล้องกันแล้ว ต้องฟังให้เป็น คือการแสดงความสนใจ ใส่ใจ พยักหน้า สบตา ขณะสนทนา ซึ่งแสดงให้เป็นว่าเราตั้งใจรับฟัง เป็นผู้ฟังที่ดี และเมื่อไม่แน่ใจเรื่องที่พูดคุย อาจพูดทวนหรือพูดซ้ำในประโยคนั้น เพื่อความชัดเจนของการสื่อสาร
สุดท้ายที่สำคัญที่สุด คือ การคิดก่อนพูด ก่อนการพูดใคร่ครวญถึงสิ่งที่พูด ว่ามีจุดมุ่งหมายใด ต้องการสื่อสารเรื่องอะไรให้อีกฝ่ายทราบ แล้วการพูดคุยในเรื่องต่างๆตามที่เราต้องการและทำให้ผู้อื่นเข้าใจ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
โดย สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น
Create Date : 17 มกราคม 2552 |
Last Update : 17 มกราคม 2552 19:51:15 น. |
|
1 comments
|
Counter : 884 Pageviews. |
|
|
|