|
|
ไม่ชอบก้าวร้าว ขี้เกรงใจก็อึดอัด แสดงออกอย่างไรดี
คนบางคนมีการแสดงออกแบบก้าวร้าว
เวลาพูดคุยหรือสัมพันธ์กับคนอื่นแทนที่จะได้ผลที่ดี กลับได้ความโกรธแค้น ไม่ให้ความร่วมมือ
หรือต้องเผชิญกับเกราะกำแพงที่คนอื่นสร้างกันไว้ ไม่ให้ถูกรบกวนจากความก้าวร้าว
ลองดูตัวอย่างคุณแม่รายหนึ่งที่เล่าเรื่องตนเอง
" ลูกๆ ว่าฉันเป็นคนเสียงดัง เป็นคนดุ ฉันก็ว่าไม่เห็นเป็นเลย แต่เขาก็บอกว่าฉันไม่รู้ตัว
เวลาฉันจะคุยกับลูกชาย (วัย 21 ปี) รู้สึกเขาไม่ค่อยไว้ใจเล่าปัญหาของเขา
ไม่ค่อยพูดคุยกัน เพราะคุยกันแล้วเขาจะโมโหทุกที "
คุณแม่คนนี้ลืมไปว่า
การทักทายลูกทุกครั้ง จะเริ่มด้วยการสั่งสอนจากความปรารถนาดี หรือไม่ก็ตำหนิติเตียนในเรื่องต่างๆ
ลูกชายก็เลยต้องเดินหนี หรือไม่ก็ทะเลาะไปเลย
ลองดูตัวอย่างคุณแม่อีกรายที่โทรศัพท์เข้ามาเล่าในรายการโทรทัศน์ เมื่อไม่นานนี้
" สมัยก่อนที่ตัวเองเคยเป็นนักเรียน จำฝังใจว่าครูหลายคนดุและก้าวร้าวมาก
เคยถูกครูหยิก ตี ขว้างชอล์กและแปรงลบกระดาน ปัจจุบันเหตุการณ์ล่วงเลยมา 20 ปีแล้ว ไม่นึกเลยว่า
ลูกสาวอายุ 8 ขวบ ต้องมาเจอครูแสดงออกแบบพฤติกรรมก้าวร้าวและรุนแรง
ต้องทนกล้ำกลืนเพราะไม่สามารถเข้าไปช่วยลูกได้ เกรงว่าปัญหาจะยิ่งตกกับลูกมากขึ้น"
คุณครูรายนี้ควรได้รับการประเมินจากผู้ปกครอง และกลุ่มผู้บริหารในโรเงรียน
เพื่อจะได้ปรับปรุงการแสดงออกของตนเอง การจัดตั้งระบบการตรวจสอบและประเมินครูเป็นการแก้ไขปัญหา
และยังป้องกันมิให้เป็นตัวอย่างพฤติกรรมรุนแรงในสังคมต่อไป
ทีนี้มาดูพฤติกรรมแบบตรงข้ามกับก้าวร้าว บ้างคนขี้เกรงใจอาจดูมีมารยาทดี แต่ในใจอึดอัดอย่างมหาศาล
ไหนจะคอยห่วงความรู้สึกคนโน้นคนนี้ ไหนจะกลัวอะไรต่อมิอะไรมากมาย ผู้คนดูจะไม่ค่อยเกรงใจคนประเภทนี้
เพราะเขาได้ยอมปล่อยให้คนอื่นละเมิดสิทธิ์ของเขา หรือแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกในลักษณะที่ไม่มั่นใจ
ลังเล ทำให้ผู้อื่นไม่เห็นคุณค่าในตัวเขา ยอมตามผู้อื่นและหลีกเลี่ยงความขัดแย้งอยู่เสมอ
ลองดูตัวอย่างผู้สูงอายุรายหนึ่ง
" ปวดศีรษะมากเวลาความดันโลหิตสูงขึ้น เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่นอนไม่หลับ
คิดมากและกังวลเรื่องลูกหลาน เป็นคนขี้เกรงใจมาก คอยเป็นห่วงความรู้สึกของลูกหลานมากไป "
ผู้สูงอายุรายนี้ ไม่กล้าเปิดเผยความจริงของสาเหตุปัญหาสุขภาพตนเองเพราะเกรงว่า จะทำให้คนอื่นไม่สบายใจ
เก็บความทุกข์ร้อนไว้ในใจของตนโดยไม่เกิดประโยชน์อันใด มีแต่ทำให้สุขภาพทรุดโทรมลงไป
แท้ที่จริงแล้วผู้สูงอายุควรมองข้ามปัญหาของลูกหลานไปบ้าง ทำหูตามัวไปตามวัยบ้าง
ไม่ควรเปิดประตูใจ รับความทุกข์ร้อนโดยไม่มีการป้องกันเลย
ไม่ควรผูกขาดความทุกข์ไว้กับปัญหาของลูกหลานจนเกินไป
ถ้าปัญหาสามารถช่วยเขาได้ก็สมควรพยายาม แต่ถ้าช่วยไม่ได้แล้วก็ต้องยอมรับว่าได้พยายามทำดีที่สุดแล้ว
แล้วพฤติกรรมที่แสดงออกอย่างเหมาะสมควรเป็นอย่างไร
ควรเป็นพฤติกรรมการแสดงออก ที่แลดูแข็งแกร่งแต่ไม่แข็งกร้าว สุภาพอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ
การแสดงออกที่เหมาะสมต้องไม่ละเลยสิทธิ์ ที่เรามีอยู่ในการแสดงความรู้สึก
และความต้องการต่างๆ อย่างเหมาะสมและถูกกาลเทศะ ทั้งนี้โดยไม่ละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการแก้ไขการแสดงออก ที่ไม่เหมาะสมให้กลายเป็นเหมาะสม
เพื่อนมาขอยืมสร้อยเพชรที่คุณเคยใส่ออกงานสังคม แต่คุณไม่อยากให้ยืมเพราะเป็นของคุณแม่
ตอบแบบก้าวร้าว "สร้อยเพชร ฉันให้เธอยืมไม่ได้หรอก ของแม่ฉัน ของของใคร ใครก็หวง"
ตอบแบบขี้เกรงใจ "ก็ได้นะ แต่ฉันต้องไปยืมคุณแม่ก่อนเพราะเป็นของคุณแม่"
ตอบแบบเหมาะสม "ขอโทษนะ สร้อยเพชรเป็นของคุณแม่ คุณแม่เคยให้ยืมใส่ คุณแม่หวงมาก
ฉันไม่สะดวกใจที่จะให้ยืม ให้ฉันช่วยเรื่องอื่นที่ฉันช่วยได้แล้วกันนะ"
การแสดงออกที่เหมาะสม ดีกว่าการแสดงออกที่ก้าวร้าวหรือยอมตามผู้อื่นอย่างขี้เกรงใจ
เป็นการแสดงออกทางความรู้สึก ความคิดเห็น และความต้องการของตนเองอย่างตรงไปตรงมา
และเหมาะสมกับสถานการณ์โดยไม่ละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น และไม่ให้ผู้อื่นละเมิดสิทธิ์ของตน
ทำให้เกิดความมั่นใจในตนเองอย่างมาก กล้าเผชิญกับความขัดแย้งโดยไม่ก้าวร้าว
ติดต่อสัมพันธ์กับผู้อื่น ด้วยความสะดวกใจ ไม่อึดอัด และบรรลุผลได้ดีขึ้น
ในบางสถานการณ์ที่คิดว่าการแสดงความรู้สึก ความคิดเห็น และความต้องการอย่างตรงไปตรงมา อาจเกิดผลร้าย
ก็สามารถเลือกที่จะเลี่ยงการแสดงออกนั้นได้ ถือว่าไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ลองดูตัวอย่าง
คุณและครอบครัวไปพักรีสอร์ต กลางดึกเพื่อนข้างเคียงจัดปาร์ตี้ เมาสุรา
คุณมีสิทธิ์ที่จะไปขอให้เขาลดความดังของเครื่องเสียง แต่คุณอาจถูกทำร้ายหรือกลั่นแกล้งก็ได้
ดังนั้นถ้าเป็นการปลอดภัยไว้ก่อน คุณก็อาจต้องอดทนกับสภาพนั้น จะเป็นการดีกว่า
ผู้ที่พยายามปรับพฤติกรรมการแสดงออกให้เหมาะสม เป็นการเริ่มต้นพัฒนาตนเองที่ดี
กรณีที่แก้ไขด้วยตนเองยังไม่สำเร็จเท่าที่ควร
ก็สามารถพบผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ เพื่อเป็นผู้ช่วยเหลือต่อไปได้ ไม่ยากแต่ต้องตั้งใจ
ผลที่ได้คุ้มค่ากับการฝึกฝนทักษะด้านนี้
ทักษะที่ได้กลายเป็นอุปนิสัยใหม่
ซึ่งเป็นตัวกำหนดเส้นทางชีวิตของผู้นั้นให้ประสบความสุข ความสำเร็จในด้านชีวิตและการงานต่อไป
โดย นพ.วีรวุฒิ เอกกมลกุล
ข้อมูลจาก ใกล้หมอ
ที่มา : //www.elib-online.com/doctors2/mental_aggressive01.html
| Create Date : 19 ธันวาคม 2552 |
| Last Update : 19 ธันวาคม 2552 21:35:54 น. |
|
2 comments
|
| Counter : 990 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: itoursab  วันที่: 20 ธันวาคม 2552 เวลา:12:54:31 น. |
|
|
|
| โดย: กิ้ว IP: 112.142.84.207 วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:15:21:54 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [
ฉันไม่สะดวกใจที่จะให้ยืม ให้ฉันช่วยเรื่องอื่นที่ฉันช่วยได้แล้วกันนะ" "
............
สมัยนี้ก็คงใช้ไม่ได้มังครับ
พอตอบแบบนั้นก็จะตื้อ จะเอา ดีไม่ดีว่าเราร้ายๆซะอีก
จะวนไปวนมา ผูกใจว่าทำไมเขาขอแล้วเราไม่ให้
จน ถ้าเราไม่รำคาญไปขอให้ ก็ตะเพิดไปเลย
ต้องยอมรับความจริงว่า
สมัยนี้คนเห็นแก่ได้เยอะและความละอายมันต่ำ
ที่สำคัญ ขาดความรับผิดชอบอย่างแรง แง่บๆ