12:08 East of Bucharest เวลาแห่งการเริ่มต้น
12:08 East of Bucharest เวลาแห่งการเริ่มต้นพล พะยาบ คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 16 มีนาคม 2551 ว่ากันว่าในแวดวงหนังนานาชาติช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาไม่มีใครโดดเด่นไปกว่าหนังจากโรมาเนีย The Death of Mr. Lazarescu (2005) ของ คริสตี้ พุยอู คือหนังเรื่องแรกที่เข้าไปอยู่ในการรับรู้ของนักดูหนังจำนวนมาก รวมถึงกวาดรางวัลมากมายทั่วโลก ตามติดด้วย 12:08 East of Bucharest (2006) ของ คอร์เนลิอู โพรัมโบยอู The Way I Spent the End of the World (2006) ของ คาตาลิน มิตูเลสกู California Dreamin' (2007) ของ คริสเตียน เนเมสกู และ 4 Months, 3 Weeks and 2 Days (2007) ของ คริสเตียน มุนกิอู หนังทั้งหมดต่างได้รางวัลสำคัญที่เมืองคานส์ โดยเฉพาะ 4 Months, 3 Weeks and 2 Days สามารถคว้าปาล์มทองซึ่งเป็นรางวัลใหญ่สุด และถือเป็นครั้งแรกของหนังจากแดนผีดิบ สังเกตว่าในจำนวนหนัง 5 เรื่องนี้ มีอย่างน้อย 3 เรื่อง อ้างถึงหรือแฝงนัยไปถึงโรมาเนียยุคเผด็จการนิโคไล เชาเชสกู และเหตุการณ์การลุกฮือโค่นล้มเชาเชสกูอันนำไปสู่การล่มสลายของคอมมิวนิสต์ หนังเรื่อง 12:08 East of Bucharest ชัดเจนที่สุดด้วยการตั้งคำถามถึงเหตุการณ์มวลชนปฏิวัติ 22 ธันวาคม 1989 ขณะที่ The Way I Spent the End of the World ใช้ฉากหลังยุคเชาเชสกูเกี่ยวกับหญิงสาวผู้วางแผนหลบหนีไปจากโรมาเนีย สำหรับ The Death of Mr. Lazarescu แม้จะมีเนื้อหาว่าด้วยระบบบริการสุขภาพ แต่หนังได้เอ่ยถึงเมืองทิมิชัวร่าอันเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติ และใช้แผลผ่าตัดในอดีตซึ่งตัวละครเชื่อว่าเป็นต้นเหตุของความป่วยไข้อุปมาถึงการโค่นล้มเชาเชสกูและเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองว่าไม่ได้ทำให้ชีวิตชาวโรมาเนียดีขึ้น (อ่านเพิ่มเติมใน The Death of Mr. Lazarescu ความป่วยไข้ในโรมาเนีย ) ด้วยจุดร่วมเดียวกันนี้อาจจะพอสรุปได้ว่ายุคคอมมิวนิสต์ภายใต้การนำของเชาเชสกูซึ่งมีจุดสิ้นสุดที่การปฏิวัติปี 1989 ยังคงมีอิทธิพลต่อชีวิตหรือความรู้สึกนึกคิดของชาวโรมาเนียแม้จะผ่านมาเนิ่นนานพอสมควร หรือมองอีกแง่หนึ่ง ระยะเวลากว่าทศวรรษนานพอให้ชาวโรมาเนียตระหนักว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนั้นมีผลดี-ร้ายอย่างไรต่อความเป็นอยู่ของพวกเขา ดูเหมือนว่าหนังเรื่อง 12:08 East of Bucharest จะสะท้อนความเป็นไปนี้ รวมทั้งส่งสารว่าชาวโรมาเนียควรจะมอง-คิด-ใช้ชีวิตต่ออดีต ปัจจุบัน และอนาคตอย่างไร หนังเริ่มต้นตอนฟ้าสางและจบลงช่วงหัวค่ำของวันที่ 22 ธันวาคม ติดตามชาย 3 คน ในเมืองวาสลุย(เมืองเกิดของผู้กำกับฯโพรัมโบยอู) ทางตะวันออกของบูคาเรสต์ คนแรกเป็นชายวัยกลางคนชื่อ เดเรสกู เป็นเจ้าของสถานีและพิธีกรรายการทางโทรทัศน์ คนที่สองอายุรุ่นราวคราวเดียวกับคนแรกชื่อ มาเนสกู เป็นอาจารย์สอนประวัติศาสตร์ คนสุดท้ายเป็นชายชราชื่อ พิสโกชี่ กิจธุระของเดเรสกูในวันนี้คือติดต่อเพื่อยืนยันบุคคลที่เขาเชิญมาออกรายการพูดคุยในหัวข้อ มีการปฏิวัติในเมืองนี้หรือเปล่า ในวาระครบรอบ 16 ปี การปฏิวัติโค่นล้มเชาเชสกู นอกจากจะใหญ่ในสถานีแล้ว เดเรสกูยังเป็นใหญ่ในบ้านโดยภรรยาของเขาคอยปรนนิบัติทุกอย่าง ยกเว้นก็แต่กับผู้ประกาศข่าวสาวที่เขามีความสัมพันธ์ลับด้วย มาเนสกูคือหนึ่งในแขกรับเชิญของเดเรสกู เขาเป็นอาจารย์ขี้เมาที่มีเจ้าหนี้มากมายคอยทวงเงินคืนทันทีที่ได้รับเงินเดือน รวมทั้งภรรยาซึ่งย้ำนักย้ำหนาว่าต้องนำเงินเดือนมาให้ทุกบาททุกสตางค์ มีเพียงชาวจีนเจ้าของร้านขายของเบ็ดเตล็ดที่มีน้ำใจต่อเขา แม้จะถูกมาเนสกูพูดจาดูถูกและไล่ให้กลับประเทศทุกครั้งที่เมาไม่ได้สติ พิสโกชี่เป็นชายชราที่อยู่ตามลำพัง ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสเขามักจะถูกขอให้เป็นซานตาคลอส ปีนี้ก็เช่นกัน เมื่อเพื่อนบ้านมาขอร้องและนำชุดเก่าๆ สีหม่นๆ มาให้ใส่ พิสโกชี่ถึงกับต้องซื้อหาชุดใหม่ใส่เอง เขาคือคนที่เดเรสกูโทรมาเชิญให้ไปร่วมรายการแทนที่ใครอีกคนซึ่งเบี้ยวนัด กว่า 40 นาทีหลังของหนังเป็นช่วงเวลาจริงของรายการทอล์คโชว์ ฉากหลังของพิธีกรและผู้ร่วมรายการทั้งสองเป็นรูปมุมกว้างของจัตุรัสเมือง-สถานที่ที่มีการชุมนุมเมื่อ 16 ปีก่อน มาเนสกูเล่าเหตุการณ์ในเช้าวันที่ 22 ธันวาคม 1989 ซึ่งเขาและเพื่อนอาจารย์อีก 3 คน มาตะโกนขับไล่เชาเชสกู ก่อนจะปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจลับ และก่อนที่ชาวเมืองจะมาชุมนุมกันหลังเวลา 12.08 น. ซึ่งเป็นเวลาอย่างเป็นทางการที่เชาเชสกูหลบหนีออกจากบูคาเรสต์ (เชาเชสกูและภรรยาถูกจับและถูกตัดสินประหารชีวิตในวันที่ 25 ธันวาคม) ถ้ามาเนสกูและเพื่อนมาตะโกนขับไล่เชาเชสกูจริงแสดงว่าเมืองนี้มีส่วนร่วมในการปฏิวัติครั้งประวัติศาสตร์ด้วย แต่แล้วคำบอกเล่าของมาเนสกูได้ถูกหักล้างจากผู้ชมที่โทรเข้ามาในรายการ บ้างบอกว่าเห็นเขาเอาแต่เมาเหล้าอยู่ในบาร์ พ่อค้าบริเวณจัตุรัสแย้งว่าไม่เห็นใครก่อนเวลา 12.08 น. ขณะที่ตำรวจลับซึ่งมาเนสกูเอ่ยถึงโทรมาขู่ว่าจะฟ้องร้องถ้าเอ่ยชื่อเขาอีก และย้ำว่าวันนั้นเขาอยู่ที่เมืองอื่น บางคนโทรมาพร่ำพูดถึงความดีงามของเชาเชสกูและก่นด่าการปฏิวัติ ไม่มีใครยืนยันคำพูดของมาเนสกูซึ่งเท่ากับว่าไม่มีการปฏิวัติในเมืองนี้ แย่ไปกว่านั้นคือความทรงจำของผู้มีส่วนร่วมในการปฏิวัติคนหนึ่งจะไร้ความหมายไปโดยปริยาย ช่วงแรกหนังนำเสนอภาพชีวิตเฉื่อยชาอับเฉาไร้ความหวังของชาวโรมาเนียคลับคล้าย The Death of Mr. Lazarescu โดยเฉพาะกับตัวละครมาเนสกูและตาเฒ่าพิสโกชี่ เสริมด้วยองค์ประกอบอย่างต้นคริสต์มาสไร้ใบกิ่งก้านหงิกงอที่มาเนสกูหอบกลับบ้าน ชุดซานตาคลอสสีหม่น สิ่งของเครื่องใช้ในห้องของพิสโกชี่ซึ่งมีแต่ของโบราณอย่างจักรเย็บผ้า นาฬิกาแขวน โทรทัศน์รุ่น มือทุบ เวลาภาพและเสียงขาดหาย สีสันบรรยากาศของเมืองก็ดูจะอึมครึมไร้ชีวิตชีวา จากนั้นหนังค่อยๆ บอกผู้ชมว่าแม้วันนี้จะเป็นวันสำคัญของประเทศแต่ไม่มีใครใส่ใจอีกแล้วโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เด็กๆ เอาแต่เล่นประทัดก่อกวนคนอื่น นักศึกษารู้จักแต่การปฏิวัติฝรั่งเศส วงดนตรีประจำสถานีโทรทัศน์เล่นเพลงละตินแทนที่จะเป็นเพลงประจำชาติ หรือแม้แต่เดเรสกูเองซึ่งตั้งหัวข้อพูดคุยตามวาระโอกาสเท่านั้น ยิ่งการพูดคุยในรายการเป็นการขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆ ที่หาข้อสรุปได้ยาก ปฏิกิริยาตอบกลับล้วนแต่เป็นไปในทางลบ 16 ปีที่แล้วเชาเชสกูและคอมมิวนิสต์ล่มสลาย 16 ปีต่อมาการปฏิวัติก็เลือนหายตามไปด้วยมาเนสกูคือตัวแทนของผู้ติดค้างอยู่กับอดีต เขาปล่อยให้ชีวิตตนเองย่ำแย่ สาปแช่งและขับไล่ชาวจีนซึ่งเปรียบเป็นตัวแทนคอมมิวนิสต์ ต่างจากเดเรสกูที่ก้าวไปข้างหน้า และหัวเสียเมื่อมาเนสกูพูดถึงอาชีพเดิมของเขา การเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ก็คือการปรับตัวเข้ากับโลกสมัยใหม่และโลกของทุนเต็มตัว สำหรับพิสโกชี่แม้จะเป็นผู้สูงอายุ แต่การรับบทเป็นซานตาคลอสเท่ากับเขาเป็นตัวแทนของการเริ่มต้น (ขณะร่วมรายการเขาพับกระดาษเป็นรูปเรือ ส่วนมาเนสกูฉีกกระดาษเป็นชิ้นๆ) นอกจากนี้ กิจวัตรเฝ้ามองไฟถนนปิด-เปิดทุกเช้า-เย็นแม้จะดูเงียบเหงาว่างเปล่า แต่ไฟที่เปิดในตอนเย็นของวันที่ 22 ธันวาคม ได้รวมไฟประดับต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่และไฟตกแต่งตัวอาคารบริเวณจัตุรัสเมืองไว้ด้วย เช่นเดียวกับคำพูดของหญิงสาวซึ่งสูญเสียลูกชายในการปฏิวัติ เธอโทรเข้ารายการเพื่อบอกทุกคนว่าหิมะตกแล้ว ออกไปข้างนอกเถิด สื่อความหมายในตัวเองว่ามีการเริ่มต้น ความสุข ความหวังรอเราอยู่ ฉะนั้น อย่ายึดติดกับอดีต ไม่ว่าอดีตในช่วงเชาเชสกูหรืออดีตแห่งการปฏิวัติจะว่าไปแล้ว เนื้อหาว่าด้วยเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ มีสองฝ่ายเห็นต่างกัน ฝ่ายหนึ่งต้องการให้ความจริงปรากฏ กับอีกฝ่ายอยากให้ลืมๆ ไป ...ช่างคล้ายกันเหลือเกินกับบ้านเรา
Create Date : 13 กรกฎาคม 2551
7 comments
Last Update : 13 กรกฎาคม 2551 2:08:44 น.
Counter : 2275 Pageviews.
โดย: nanoguy IP: 125.24.149.64 16 กรกฎาคม 2551 21:15:08 น.
โดย: ม่วนน้อย 20 กรกฎาคม 2551 17:19:27 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549 ..............................select movie / blog ....... --international-- ....... The Walking Dead I Wish I Knew 127 Hours The Expendables vs. Salt No puedo vivir sin ti Bright Star The World is Big and Salvation Lurks Around the Corner Sin Nombre Invictus Afghan Star Moon Gigante The Promotion An Education Up in the Air Snow (Snijeg) Liverpool Tahaan Lion's Den Tulpan Everlasting Moments Absurdistan Topsy-Turvy Ramchand Pakistani The Pope's Toilet Antonio's Secret พลเมืองจูหลิง Flashbacks of a Fool And When Did You Last See Your Father? The Boy in the Striped Pyjamas Gran Torino Departures Gomorra Abouna + Daratt Grace Is Gone The Road to San Diego Into the Wild Slumdog Millionaire The Silly Age The Year My Parents Went on Vacation It's Hard to Be Nice Ben X Caramel The Class Kings จาก Kolya ถึง Empties The Unknown Woman Dokuz Heima Cocalero The Blood of My Brother & Iraq in Fragments 12:08 East of Bucharest Rescue Dawn Mongol 6 : 30 Something Like Happiness To Each His Cinema The Counterfeiters ข้างหลังภาพ Lions for Lambs + Michael Clayton Father and Daughter Possible Lives กอด The Buried Forest รัก-ออกแบบไม่ได้ Lights in the Dusk The Piano Teacher Do You Remember Dolly Bell? Sisters in Law Al Otro Lado A Time for Drunken Horses Zelary Bug The Invasion The Science of Sleep Paris, I love you Still Life The Lives of Others Heading South Renaissance ABC Africa The Death of Mr. Lazarescu Maria Full of Grace The Last Communist Eli, Eli, lema sabachthani? 4 : 30 Late August, Early September The Circle The Cave of the Yellow Dog Italian for Beginners Love/Juice Your Name is Justine The Syrian Bride Dragon Head Reconstruction Eros The Scarlet Letter The Night of Truth Familia Rodante Bonjour Monsieur Shlomi Lantana Flanders Tokyo . Sora The World Whisky Buffalo Boy S21 : The Khmer Rouge Killing Machine Fire, Earth, Water C.R.A.Z.Y. All about My Mother Jasmine Women Battle in Heaven The Day I Became a Woman Man on the Train CSI : Grave Danger Innocence Life Is a Miracle Drugstore Girl Der Untergang The Bow Happily Ever After The Wayward Cloud The House of Sand Or, My Treasure Janji Joni Moolaade Vodka Lemon Angel on the Right Twentynine Palms The Taste of Tea ....... --independent-- ....... Goodbye Solo The Hurt Locker (500) Days of Summer Towelhead Kabluey Three Burials of Melquiades Estrada Titus Chuck & Buck The Woodsman Pollock Last Days The Limey Inside Deep Throat Coffee and Cigarettes Garden State My Name is Joe Sexy Beast Real Women Have Curves The Brown Bunny Before Sunset Elephant Bubble You Can Count on Me 9 Songs ....... --classic-- ....... Memories of Underdevelopment (1968) The Last Laugh The Snows of Kilimanjaro The Cabinet of Dr.Caligari Nanook of the North The Apu Trilogy ....... --หนังมีไว้ให้คิด-- ....... The Schoolgirl's Diary Long Road to Heaven The Imam and the Pastor Maquilapolis ....... --what a film!-- ....... Kabuliwala (1956) Macunaima (1969) Kozijat rog (1972) The Girl and the Echo (1964) Fruits of Passion (1981) Happy Gypsies (1967) ....... --introducing-- ....... Death Race 2000 (1975) ซอมบี้ปากีฯ+ผีดิบมาเลย์+ซูเปอร์แมนตุรกี Zinda Muoi Father and Daughter ....... --directed by-- ....... Ouran (1968) Pierwsza milosc (1974) Salome (1978) 4 หนังสั้น เคียรอสตามี recommended ....... - 'รงค์ วงษ์สวรรค์ กับภาพยนตร์ - เทมาเส็ก พิคเจอร์ส - Heading South - Still Life - The Apu Trilogy - The Day I Became a Woman - จาก Fire, Earth สู่ Water พญาอินทรี ศราทร @ wordpress
1 2 3 4 5
6 7 8 9 10 11 12
13 14 15 16 17 18 19
20 21 22 23 24 25 26
27 28 29 30 31