An Education บทเรียนชีวิต (เอ็กซิสเทนเชียลิสม์)
An Education บทเรียนชีวิต (เอ็กซิสเทนเชียลิสม์)พล พะยาบ คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 10 มกราคม 2553 An Education คือหนึ่งในหนังที่จะผ่านหูผ่านตาบ่อยครั้งในฤดูแจกรางวัลช่วงต้นปีนี้ โดยเฉพาะการแสดงของ คารีย์ มัลลิแกน ในบทสาวน้อยวัยเรียนซึ่งพร้อมจะเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว กระทั่งน่าจะส่งให้เธอไปไกลถึงเวทีใหญ่อย่างออสการ์เลยทีเดียว องค์ประกอบที่น่าสนใจของหนังอังกฤษเรื่องนี้ยังอยู่ที่บทภาพยนตร์ของ นิค ฮอร์นบี นักเขียนเจ้าของผลงานที่เคยถูกสร้างเป็นหนังดังอย่าง High Fidelity (2000) และ About a Boy (2002) คราวนี้ฮอร์นบีเขียนบทโดยดัดแปลงจากบันทึกความทรงจำของ ลินน์ บาร์เบอร์ นักหนังสือพิมพ์อาวุโสชาวอังกฤษ ฉากหลังของเรื่องจึงไม่ใช่เวลาปัจจุบัน แต่ย้อนไปยังช่วงต้นทศวรรษ 1960 อีกองค์ประกอบหนึ่งคือ โลน เชร์ฟิก ผู้กำกับหญิงชาวเดนมาร์กซึ่งเคยเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากหนังปี 2000 เรื่อง Italian for Beginners ในฐานะผู้หญิงคนแรกที่ทำหนังแบบ ด็อกมา 95 หรือการทำหนังให้บริสุทธิ์โดยปราศจากองค์ประกอบปรุงแต่งต่างๆ อย่างไรก็ตาม ด็อกมาของเชร์ฟิกในคราวนั้นดูจะประนีประนอมกับผู้ชมจนทำให้หนังดูง่ายและเป็นกันเองกว่าด็อกมาเรื่องอื่นๆ (เช่น The Idiots ของ ลาร์ส วอน ทริเยร์) ทั้งยังเป็นโรแมนติค-คอมิดี้ในโทนอบอุ่นอ่อนโยน เน้นบรรยากาศของผู้คนและสถานที่ การขยับมาทำหนังดรามาใสๆ เกี่ยวกับการก้าวผ่านวัยของเด็กสาวซึ่งโลกรอบตัวมีอิทธิพลต่อเธอโดยตรงจึงไม่ใช่การเปลี่ยนแนวทางที่ห่างไกลกันนัก ฉากหลังคือชานกรุงลอนดอนปี 1961 ปีสุดท้ายในโรงเรียนมัธยมของ เจนนี (คารีย์ มัลลิแกน) เด็กสาวสดใสเฉลียวฉลาดซึ่งมีแผนการแน่ชัดว่าจะเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด ตามความต้องการของพ่อ (อัลเฟรด โมลินา) และแรงหนุนหลังของครู กระนั้น เจนนีไม่ใช่เด็กเรียบร้อยหัวอ่อนว่านอนสอนง่ายไปหมดทุกเรื่อง บ่อยครั้งที่เธอเห็นแย้งและตั้งคำถามยอกย้อนด้วยอาการต่อต้านกับพ่อของเธอ แต่ที่สุดแล้วเธอทำตามที่พ่อบอกแต่โดยดี ไม่ใช่เพราะเห็นคล้อยตาม แต่เพราะเธอไม่เห็นความจำเป็นต้องปฏิเสธ จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อเจนนีพบกับ เดวิด (ปีเตอร์ ซาร์สการ์ด) ชายที่มีอายุมากกว่าเธอนับสิบปี มีรสนิยมในการใช้ชีวิตฟู่ฟ่าโฉบเฉี่ยวอย่างที่เจนนีไม่เคยสัมผัส เขาพาเจนนีไปฟังคอนเสิร์ตดนตรีคลาสสิค เข้าไนต์คลับสไตล์แจ๊ซ ชมการประมูลภาพเขียน สนุกในสนามแข่งสุนัข แต่ละกิจกรรมล้วนแต่ทำให้เจนนีรู้สึกถึงรสชาติของชีวิตที่แท้จริง ที่พิเศษสุดคือการพาไปเที่ยวที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส สถานที่ในฝันของเจนนีในวันที่เธออายุครบ 17 ปี และตัดสินใจละทิ้งความบริสุทธิ์ไว้ที่นั่น เจนนีหลงใหลชื่นชมเดวิดมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าระหว่างนั้นเธอจะได้รับรู้ว่าเดวิดทำมาหากินแบบไม่ซื่อตรงนัก แต่นั่นก็ไม่สำคัญไปกว่าการเป็นผู้ชายที่ช่วยให้เธอรู้จักปลดปล่อยตนเองอย่างเต็มที่ กระทั่งเจนนีคิดได้ว่าเธอไม่ต้องการจมอยู่กับกิจวัตรซ้ำซากน่าอึดอัดอีกต่อไป และแผนการเรียนต่อไม่ได้มีความหมายอะไร นอกจากการเป็นจุดเริ่มต้นของความน่าเบื่อชั่วชีวิตเชร์ฟิกทำ An Education ได้อย่างมีชีวิตชีวาตามวันวัยของตัวละคร โดดเด่นตั้งแต่ฉากเครดิตเปิดเรื่องซึ่งผสมภาพกิจกรรมของนักเรียนหญิงกับลายเส้นภาพประกอบในตำรา บอกเล่าชีวิตวัยเรียนของเด็กสาวที่มีทั้งความบริสุทธิ์สดใสและความแก่นเซี้ยวซึ่งถึงอย่างไรก็ยังอยู่ในระบบการศึกษาที่วางเอาไว้ มองเผินๆ An Education คือหนังว่าด้วยการเติบโตทางความคิดและจิตใจในช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ โดยมอบทางเลือกให้แก่ตัวละครว่าการใช้ชีวิตตามแบบแผนที่ดีงามอย่างการศึกษา การประพฤติตนตามกฎกรอบต่างๆ อย่างเคร่งครัด กับชีวิตที่มีอิสระ ไม่ขึ้นกับกฎเกณฑ์ใดๆ นอกจากความพอใจของตนเอง ทางเลือกใดมีคุณค่าต่อชีวิตอย่างแท้จริง แม้ว่าเรื่องราวและบทสรุปดูจะมีคำตอบมอบให้ แต่อันที่จริงแก่นสารหลักของหนังไม่ได้อยู่ที่ว่าตัวละครเด็กสาวเติบโตขึ้นด้วยการเลือกทางใดทางหนึ่ง แต่อยู่ที่ว่าเธอได้โอกาสตัดสินใจเลือก เพราะไม่ว่าผลของการตัดสินใจนั้นจะเป็นด้านดีหรือร้าย สำคัญคือเด็กสาวจะได้เรียนรู้ด้วยตนเองในที่สุด ชื่อหนัง An Education จึงไม่ได้หมายถึงการศึกษาซึ่งเป็นเส้นทางชีวิตของตัวละคร แต่หมายถึงการได้เรียนรู้และเข้าใจบทเรียนชีวิต ตรงแก่นสารของหนังนี่เองที่ทำให้ฉากหลังของหนังและองค์ประกอบต่างๆ ซึ่งฮอร์นบีใส่ไว้ในบทภาพยนตร์มีความหมายพิเศษขึ้นมา เริ่มจากฉากหลังปี 1961 ใช่เพียงหมายถึงช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และอยู่ในช่วงเริ่มต้นยุคแสวงหา แต่ทศวรรษก่อนหน้านั้นของอังกฤษถือเป็นยุครุ่งเรืองของพรรคอนุรักษนิยมซึ่งกลับมามีอำนาจแทนพรรคแรงงานได้อีกครั้ง อังกฤษในช่วงเวลาดังกล่าวแม้สภาพเศรษฐกิจจะกระเตื้องขึ้น แต่สถานะและบทบาทบนเวทีโลกกลับตกต่ำลง ทั้งการเสียท่าในวิกฤตคลองสุเอซ พลาดพลั้งและถูกกีดกันให้เข้าร่วมในการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของยุโรปที่มีฝรั่งเศสของ ชาร์ลส์ เดอ โกล นำทีม เริ่มต้นให้เอกราชแก่ชาติแอฟริกาที่เคยเป็นอาณานิคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ลองคิดเปรียบเทียบว่าหากพ่อของเจนนีและโรงเรียนที่เคร่งครัดคืออังกฤษยุครัฐบาลพรรคอนุรักษนิยม เจนนีผู้หลงใหลฝรั่งเศสและฝันจะได้ไปปารีสย่อมแสดงถึงการอยู่ฟากฝั่งตรงข้าม หรืออาชีพของเดวิดที่ขนครอบครัวคนผิวดำไปอยู่ใกล้ๆ กับบ้านของคนชราเพื่อให้ย้ายหนีและยอมขายบ้านให้ในราคาถูก เหมือนเป็นการแก้เผ็ดพวกหัวเก่าที่ยังมองคนผิวสีเป็นเผ่าพันธุ์ที่ต่ำต้อยกว่าไม่ต่างจากอังกฤษในยุคล่าอาณานิคม อาการ ขบถ ของเจนนีทั้งต่อที่บ้านและโรงเรียนยังสะท้อนผ่านรสนิยมด้านศิลปะซึ่งล้วนแต่สอดคล้องไปในทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงของ จูเลียต เกรโค นักร้องหญิงชาวฝรั่งเศสสาวกสไตล์ โบฮีเมียน และเป็นเพื่อนสนิทกับ ฌอง-ปอล ซาร์ตร์ เจ้าปรัชญาอัตถิภาวนิยม (Existentialism - มนุษย์ต้องมีเสรีภาพในการเลือก) สไตล์โบฮีเมียนของเกรโคยังเป็นคำที่เชื่อมโยงกับศิลปะพรีราฟาเอลไลท์ของอังกฤษช่วงศตวรรษที่ 19 ซึ่งต่อต้านการเขียนภาพแบบ ศิลปะสถาบัน และเจนนีชอบเป็นพิเศษ ที่โรงเรียนเจนนีถูกครูเรียกเปรียบเทียบให้เป็น เจน แอร์ ตัวละครหญิงในวรรณกรรมอังกฤษชื่อเดียวกันของ ชาร์ล็อตต์ บรอนเต ตัวแทนของการยึดมั่นในคุณความดี แต่เจนนีกลับชอบอ่านวรรณกรรมฝรั่งเศสเรื่อง คนนอก ของ อัลแบร์ กามู ซึ่งปฏิเสธค่านิยมตายตัวตามแนวคิดของปรัชญาอัตถิภาวนิยม ไม่เพียงเท่านั้น ชื่อนักเขียนอย่าง ซี.เอส.ลูอิส ผู้เขียนหนังสือชุด นาร์เนีย (The Chronicles of Narnia) ยังถูกเจนนีและเดวิดนำมาอ้างถึงแบบมั่วๆ เพื่อโกหกพ่อ กระทั่งแสดงว่าทั้งสองไม่เคยแยแสนักเขียนอาวุโสเคร่งศาสนาคริสต์รายนี้ และเดวิดรู้ว่าควรอ้างถึงใครเพื่อเอาใจพ่อหัวเก่าของเจนนี อย่างไรก็ตาม อาการขบถที่แสดงผ่านศิลปะต่างๆ อาจอธิบายได้ง่ายๆ ว่าเจนนีได้รับอิทธิพลจากกระแสทางวัฒนธรรมหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และยุคบีทช่วงทศวรรษ 1950 ในสหรัฐเพียงแต่การเรียนรู้ที่จะเลือกใช้ชีวิตตั้งแต่วัยเยาว์อาจช่วยให้เธอเติบโตโดยไม่ต้อง แสวงหา อย่างไร้จุดหมายอีกแล้ว
Create Date : 07 มีนาคม 2553
15 comments
Last Update : 7 มีนาคม 2553 23:15:49 น.
Counter : 3746 Pageviews.
โดย: Seam - C IP: 203.144.144.164 8 มีนาคม 2553 9:18:59 น.
โดย: เอกเช้า IP: 203.144.144.164 8 มีนาคม 2553 22:33:50 น.
โดย: beerled IP: 203.144.144.164 10 มีนาคม 2553 13:48:06 น.
โดย: ม่วน IP: 125.25.189.254 10 มีนาคม 2553 16:52:22 น.
โดย: คนขับช้า 12 มีนาคม 2553 15:56:42 น.
โดย: McMurphy 13 มีนาคม 2553 17:06:02 น.
โดย: nanoguy IP: 118.173.97.122 14 มีนาคม 2553 8:24:48 น.
โดย: beerled IP: 203.144.144.164 14 มีนาคม 2553 12:36:47 น.
โดย: dymeeina IP: 58.8.48.254 4 เมษายน 2553 18:09:27 น.
โดย: bim IP: 61.90.108.81 25 เมษายน 2553 15:39:28 น.
โดย: คะน้า IP: 1.46.238.129 18 กันยายน 2560 14:23:49 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549 ..............................select movie / blog ....... --international-- ....... The Walking Dead I Wish I Knew 127 Hours The Expendables vs. Salt No puedo vivir sin ti Bright Star The World is Big and Salvation Lurks Around the Corner Sin Nombre Invictus Afghan Star Moon Gigante The Promotion An Education Up in the Air Snow (Snijeg) Liverpool Tahaan Lion's Den Tulpan Everlasting Moments Absurdistan Topsy-Turvy Ramchand Pakistani The Pope's Toilet Antonio's Secret พลเมืองจูหลิง Flashbacks of a Fool And When Did You Last See Your Father? The Boy in the Striped Pyjamas Gran Torino Departures Gomorra Abouna + Daratt Grace Is Gone The Road to San Diego Into the Wild Slumdog Millionaire The Silly Age The Year My Parents Went on Vacation It's Hard to Be Nice Ben X Caramel The Class Kings จาก Kolya ถึง Empties The Unknown Woman Dokuz Heima Cocalero The Blood of My Brother & Iraq in Fragments 12:08 East of Bucharest Rescue Dawn Mongol 6 : 30 Something Like Happiness To Each His Cinema The Counterfeiters ข้างหลังภาพ Lions for Lambs + Michael Clayton Father and Daughter Possible Lives กอด The Buried Forest รัก-ออกแบบไม่ได้ Lights in the Dusk The Piano Teacher Do You Remember Dolly Bell? Sisters in Law Al Otro Lado A Time for Drunken Horses Zelary Bug The Invasion The Science of Sleep Paris, I love you Still Life The Lives of Others Heading South Renaissance ABC Africa The Death of Mr. Lazarescu Maria Full of Grace The Last Communist Eli, Eli, lema sabachthani? 4 : 30 Late August, Early September The Circle The Cave of the Yellow Dog Italian for Beginners Love/Juice Your Name is Justine The Syrian Bride Dragon Head Reconstruction Eros The Scarlet Letter The Night of Truth Familia Rodante Bonjour Monsieur Shlomi Lantana Flanders Tokyo . Sora The World Whisky Buffalo Boy S21 : The Khmer Rouge Killing Machine Fire, Earth, Water C.R.A.Z.Y. All about My Mother Jasmine Women Battle in Heaven The Day I Became a Woman Man on the Train CSI : Grave Danger Innocence Life Is a Miracle Drugstore Girl Der Untergang The Bow Happily Ever After The Wayward Cloud The House of Sand Or, My Treasure Janji Joni Moolaade Vodka Lemon Angel on the Right Twentynine Palms The Taste of Tea ....... --independent-- ....... Goodbye Solo The Hurt Locker (500) Days of Summer Towelhead Kabluey Three Burials of Melquiades Estrada Titus Chuck & Buck The Woodsman Pollock Last Days The Limey Inside Deep Throat Coffee and Cigarettes Garden State My Name is Joe Sexy Beast Real Women Have Curves The Brown Bunny Before Sunset Elephant Bubble You Can Count on Me 9 Songs ....... --classic-- ....... Memories of Underdevelopment (1968) The Last Laugh The Snows of Kilimanjaro The Cabinet of Dr.Caligari Nanook of the North The Apu Trilogy ....... --หนังมีไว้ให้คิด-- ....... The Schoolgirl's Diary Long Road to Heaven The Imam and the Pastor Maquilapolis ....... --what a film!-- ....... Kabuliwala (1956) Macunaima (1969) Kozijat rog (1972) The Girl and the Echo (1964) Fruits of Passion (1981) Happy Gypsies (1967) ....... --introducing-- ....... Death Race 2000 (1975) ซอมบี้ปากีฯ+ผีดิบมาเลย์+ซูเปอร์แมนตุรกี Zinda Muoi Father and Daughter ....... --directed by-- ....... Ouran (1968) Pierwsza milosc (1974) Salome (1978) 4 หนังสั้น เคียรอสตามี recommended ....... - 'รงค์ วงษ์สวรรค์ กับภาพยนตร์ - เทมาเส็ก พิคเจอร์ส - Heading South - Still Life - The Apu Trilogy - The Day I Became a Woman - จาก Fire, Earth สู่ Water พญาอินทรี ศราทร @ wordpress
1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31
เรื่องนี้เห็นคุณอาร์ต BdMd ให้คะแนนเต็ม
ผมคงได้ดูหลังการประกาศผลครับ อยากพิสูจน์การแสดงของ คารีย์ มัลลิแกน ^^