"กนย."ไฟเขียวประกันราคายางระยะ 3 ชงครม.หมื่นล้านช่วยชาวสวนยาง
กนย.เห็นชอบหลักการเตรียมเสนออนุมัติโครงการการประกันราคายาง เฟรส 3 เตรียมเตรียมชง ครม . เสนอขอใช้งบกว่า 10,000 ล้านบาท ช่วยชาวสวนยาง
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ครั้งที่ 1/2564 ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ประชุมเห็นชอบในหลักการโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 3 ระยะประกันรายได้ตั้งแต่ ตุลาคม 2564 – มีนาคม 2565 แบ่งสัดส่วนรายได้ เจ้าของสวน ร้อยละ 60 และคนกรีด ร้อยละ 40 ของรายได้ทั้งหมด รายละไม่เกิน 25 ไร่
โดยกำหนดราคาประกันรายได้ ยางแผ่นดิบคุณภาพดีที่ราคา 60 บาท/กิโลกรัมน้ำยางสด (DRC 100%) 57 บาท/กิโลกรัม ยางก้อนถ้วย (DRC 50%) 23 บาท/กิโลกรัม รวมวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 10,065,687,645.28 บาทซึ่งเกษตรกรชาวสวนยางที่ได้รับการช่วยเหลือครั้งนี้มีการขึ้นทะเบียนและแจ้งข้อมูลพื้นที่ปลูกยางกับ กยท. ภายในวันที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา จำนวน 1,880,458 ราย ส่วนผลการดำเนินโครงการประกันฯ ระยะที่ 2 มีการจ่ายเงินให้กับเกษตรกรชาวสวนยางได้ทั้งหมด 1,466,427 ราย คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 7,543,235,529 บาทสามารถช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. ให้ได้เงินส่วนต่างของรายได้ที่ควรได้รับ ทำให้ชาวสวนยางมีรายได้และเป็นมาตรการทางอ้อม ที่นำมาใช้แทนการแทรกแซงราคายาง เพื่อลดการบิดเบือนกลไกตลาดในอนาคตด้วย อย่างไรก็ตามในส่วนการขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาวสวนยาง กยท.ได้ออกประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาวสวนยาง (ฉบับที่ 2) ซึ่งเป็นการขยายโอกาสให้เกษตรกรชาวสวนยางที่แจ้งพื้นที่ปลูกยางกับ กยท. (บัตรชมพู) จำนวน 456,061 ราย พื้นที่สวนยาง 6,437,373 ไร่ ให้สามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้ ภายใต้หลักเกณฑ์ที่ประกาศกำหนดไว้ และขอให้เกษตรกรชาวสวนยางติดตามรายละเอียดของประกาศ และเอกสารแนบท้ายประกาศต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจ ต่อไป
"เกษตร"ระดมช่วยประชาชนน้ำท่วม
มอบหญ้าพระราชทานเกษตรกรเพชรบูรณ์น้ำท่วม
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ได้มอบหมาย นายวิวัฒน์ ไชยชะอุ่ม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ เป็นผู้แทนในนามศูนย์อำนวยการป้องกันและ แก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ พร้อมด้วยนายสุนทร นาดี หัวหน้ากลุ่มโครงการพิเศษและป้องกันภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ มอบหญ้าพระราชทานให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีนายฉัตรพล พรหมเศรณี หน กลุ่มยุทธศาสตร์ฯ ผู้แทนปศุสัตว์จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยนายภูดิท คงจำนงค์ และนายนพดล ไชยวงศา ปศุสัตว์อำเภอหล่มสัก นายคำนวณ อุ่นจันทึก ผู้แทนศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์เพชรบูรณ์ ปลัดอำเภอหล่มสัก ฝ่ายความมั่นคง พร้อมเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ณ บริเวณลานหน้าสำนักงานปศุสัตว์อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
นายวิวัฒน์ ไชยชะอุ่ม กล่าวว่า เบื้องต้นได้มีการมอบหญ้าหญ้าแห้งพระราชทาน จำนวน 5,000 กก พร้อมด้วยวิตามิน และเวชภัณฑ์ปศุสัตว์ให้กับเกษตรในพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม
และ โดยท่านอธิบดีกรมปศุสัตว์ได้มอบหมายให้หน่วยงานในพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ และเตรียมความพร้อมให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ในโซนใต้ตลอดแนวลุ่มน้ำป่าสัก จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายด้วย
"ไทย จีน"MOUวิจัยเทคโนโลยีปลูกยาง-เพิ่มผลผลิต-ลดต้นทุน
การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และ สถาบันวิจัยยางของสถาบันวิทยาศาสตร์การเกษตรเขตร้อนของจีน (CATAS) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจโครงการความร่วมมือ แม่โขง-ล้านช้าง ด้านเทคโนโลยีการปลูกยาง เพื่อการวิจัยเทคนิคการปลูกและพัฒนายางเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน ต่ออุตสาหกรรมยางธรรมชาติของทั้งสองประเทศ
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน จะดำเนินการในระหว่างปี 2564 – 2565 มีวัตถุประสงค์สำหรับทำการทดลองเพื่อแสดงให้เห็นถึงแนวทางปฏิบัติทางการเพาะปลูกยาง 6 ประการ และเทคโนโลยีในประเทศไทยที่พัฒนาโดยสถาบันวิจัยยาง (สวย.) ของการยางแห่งประเทศไทย และสถาบันวิทยาศาสตร์การเกษตรเขตร้อนของจีน (Chinese Academy of Tropical Agricultural Sciences: CATAS)
ประกอบด้วย การติดตาด้วยต้นเล็ก การกรีดที่กระตุ้นด้วยสาร Ethlin (สารกระตุ้นที่มีประสิทธิภาพสูง) การควบคุมหน้ากรีดยางแห้ง (TPD) ด้วยสาร Sipikang (การรักษา TPD) การกรีดยางด้วยมีดกรีดแบบใช้มอเตอร์ และการตรวจหาปริมาณเนื้อยางแห้ง (DRC) ด้วยอุปกรณ์ทดสอบ DRC ซึ่ง กยท. ได้สนับสนุนพื้นที่ จัดหาต้นยางและแปลงสาธิตที่ศูนย์วิจัยยางฉะเชิงเทราและศูนย์วิจัยยางหนองคาย เป็นพื้นที่รวมประมาณ 12.5 ไร่ ส่วนCATAS จะจัดหาผู้เชี่ยวชาญ ผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นต้องใช้ในแปลงสาธิต และหลักสูตรฝึกอบรมเกี่ยวกับแนวปฏิบัติทางการเพาะปลูกและเทคโนโลยียางให้กับเจ้าหน้าที่ของ กยท. เกษตรกรรายย่อยในพื้นที่ ตลอดจนนักวิชาการของไทย จึงมั่นใจได้ว่าบันทึกความเข้าใจนี้ จะเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยียาง ถือเป็นการสนับสนุนกิจกรรมวิจัยข้ามพรมแดน และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างนักวิจัยของทั้งสองประเทศ
Prof. Huang Huasun, Director of Rubber Research Institute of Chinese Academy of Tropical Agricultural Sciences กล่าวว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจโครงการความร่วมมือ แม่โขง-ล้านช้าง ด้านเทคโนโลยีการปลูกยางร่วมกับ กยท.
ภายใต้กรอบความร่วมมือทางการเกษตรจีน-ไทย ในครั้งนี้มีเรื่องเกษตรกรรมและการลดความยากจนเป็นส่วนสำคัญหลัก รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่างๆ ระหว่างประเทศในแถบลุ่มแม่น้ำโขง (LMC) ประกอบด้วย ประเทศไทย กัมพูชา จีน ลาว พม่า และเวียดนาม ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือ เพื่อแบ่งปันความรู้ด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสวนยาง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมสวนยางและเกษตรกรรายย่อยของทั้งสองประเทศ
โดยทั้งสององค์กรจะเสริมสร้างความร่วมมือกันนำเสนอเทคนิคใหม่ๆ เพื่อแก้ปัญหาผลผลิตตกต่ำและต้นทุนที่สูงขึ้นของชาวสวนความร่วมมือนี้จึงเสมือนชัยชนะของทั้งสองฝ่ายในการร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีด้านสวนยางพาราภายใต้สถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ซึ่งการเริ่มต้นที่ดีก็เหมือนเราประสบความสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว
กระจายวัคซีน 5 ล้านโด๊ส 65 จังหวัด"โรคลัมปี-สกิน"ระบาด
"กระทรวงเกษตรฯ"ประกาศแผนการกระจายวัคซีน 5 ล้านโด๊ส ครอบคลุม 65 จังหวัด ได้รับผลกระทบจากโรคลัมปี - สกิน รมช.ประภัตรเผยกรมปศุสัตว์ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผลิตวัคซีน LSDV คาดพร้อมใช้งานใน 60 วัน
นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ความคืบหน้าการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคลัมปี – สกิน (LSDV) 5 ล้านโด๊สที่นำเข้ามานั้น วัคซีนล็อตแรกกว่า 1 ล้านโด๊ส มาถึงประเทศไทยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2564 และจะทะยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้กรมปศุสตว์ ได้จัดทำแผนการจัดสรรวัคซีนสำหรับกระจายวัคซีน 5 ล้านโด๊ส ให้กับ 65 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากโรคลัมปี – สกินเรียบร้อยแล้ว ดั้งนี้
พื้นที่ปศุสัตว์เขต 1 จังหวัดกรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดพระนครศรีอยุธายา จังหวัดอ่างทอง จังหวัดลพบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดชัยนาท และจังหวัดสระบุรี มีประชากรโค - กระบือ รวม 463,803 ตัว ได้รับการจัดสรรวัคซีน 224,100 โด๊ส
พื้นที่ปศุสัตว์เขต 2 จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดนครนายก และจังหวัดสระแก้ว มีประชากรโค - กระบือ รวม 269,287 ตัว ได้รับการจัดสรรวัคซีน 130,100 โด๊ส พื้นที่ปศุสัตว์เขต 3 จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดยโสธร จังหวัดชัยภูมิ และจังหวัดอำนาจเจริญ มีประชากรโค - กระบือ รวม 3,359,880 ตัว ได้รับการจัดสรรวัคซีน 1,623,300 โด๊ส
พื้นที่ปศุสัตว์เขต 4 จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุดรธานี จังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวักกาฬสินธุ์ จังหวัดสกลนคร จังหวัดนครพนม และจังหวัดมุกดาหาร มีประชากรโค - กระบือ รวม 2,334,733 ตัว ได้รับการจัดสรรวัคซีน 1,127,900 โด๊ส
พื้นที่ปศุสัตว์เขต 5 จังหวัดเชียงราย จังหวัดลำพูน จังหวัดลำปาง จังหวัดแพร่ จังหวัดน่าน จังหวัดพะเยา จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีประชากรโค - กระบือ รวม 839,412 ตัว ได้รับการจัดสรรวัคซีน 405,600 โด๊ส
พื้นที่ปศุสัตว์เขต 6 จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดอุทัยธานี จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดตาก จังหวัดสุโขทัย จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดพิจิตร และจังหวัดเพชรบูรณ์ มีประชากรโค - กระบือ รวม 779,635 ตัว ได้รับการจัดสรรวัคซีน 376,600 โด๊ส
พื้นที่ปศุสตว์ เขต 7 จังหวัดราชบุรี จังหวัดกาณจนบุรี จังหวัดสุพรรณ จังหวัดนครปฐม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีประชากรโค - กระบือ รวม 1,166,145 ตัว ได้รับการจัดสรรวัคซีน 563,400 โด๊ส
พื้นที่ปศุสัตว์ เขต 8 จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดกระบี่ จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดระนอง จังหวัดชุมพร จังหวัดตรัง และจังหวัดพัทลุง มีประชากรโค - กระบือ รวม 706,502 ตัว ได้รับการจัดสรรวัคซีน 341,300 โด๊ส
พื้นที่ปศุสัตว์ เขต 9 จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส มีประชากรโค - กระบือ รวม 429,852 ตัว ได้รับการจัดสรรวัคซีน 207,700 โด๊ส
นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมกันผลิตวัคซีนป้องกันโรคลัมปี – สกินขึ้นมาเองแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองผล โดยคาดว่าจะสามารถนำมาใช้งานจริงได้ภายใน 60 วัน ซึ่งจะเข้ามาเสริมกับวัคซีนที่นำเข้ามา ทำให้ปริมาณวัคซีนให้เพียงพอต่อประชากรสัตว์ของประเทศ และคาดว่าสถานการณ์การระบาดของโรคลัมปี - สกินนั้น จะจบลงภายในสองเดือน