All Blog
ไทยร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมพืชสวนโลกที่เนเธอร์แลนด์
ไทยร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมพืชสวนโลก ครั้งที่ 7 ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์ พร้อมเปิดตัว Thailand Pavilion อย่างยิ่งใหญ่ งดงามด้วยไม้ดอก พืชพรรณนานาชนิดจากหลากหลายประเทศทั่วทุกมุมโลก

เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมพืชสวนโลก The International Horticultural Exposition 2022 หรือ EXPO 2022 Floriade Almere ณ ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ว่า สมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ ทรงเป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมพืชสวนโลก ครั้งที่ 7 (The International Horticultural Exposition 2022) หรือ EXPO 2022 Floriade Almere





 





 
เป็นงานแสดงพืชสวนยิ่งใหญ่ระดับโลก ได้รับการรับรองจากสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) และสำนักงานจัดงานมหกรรมนานาชาติ (BIE) มีประเทศเข้าร่วมจัดแสดง 26 ประเทศ และ 3 องค์กร ได้แก่ บังคลาเทศ เบลเยียม ชาด จีน โคลัมเบีย ไซปรัส เช็ค คองโก เอกวาดอร์ เอธิโอเปีย ฝรั่งเศส เยอรมนี กานา อินเดีย อิตาลี  ญี่ปุ่น  ลักเซมเบิร์ก กาตาร์ India – Spiritual Garden เกาหลีใต้ โซมาเลีย ซูดาน ซูรินัม ไทย เอมิเรตส์ ตุรกี เยเมน Lisinia และ Sino-Europe Horticulture Association (SEHA) และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 2 ล้านคน

โดยมีกำหนดจัดขึ้นทุก ๆ 10 ปี จะหมุนเวียนไปตามเมืองต่าง ๆ จัดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2503 (ค.ศ. 1960) สำหรับประเทศไทยได้เข้าร่วมการจัดงาน Floriade มาแล้วถึง 3 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992) พ.ศ. 2545 (ค.ศ.2002) และ พ.ศ. 2555 (ค.ศ. 2012) และในปีนี้ เป็นการจัดงานครั้งที่ 7 มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เข้าชมงาน ให้ดำเนินชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และมีชีวิตที่มีสุขภาพดีขึ้น





 





 
จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 เมษายน – 9 ตุลาคม 2565 ณ เมืองอัลเมียร์ (Almere) จังหวัดเฟลโวลันด์ (Flevoland) บนพื้นที่กว่า 375 ไร่ ซึ่งเป็นเกาะเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลมากกว่า 4 เมตร มีเขื่อนกั้นน้ำไว้เป็นแนวป้องกัน ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2529 (ค.ศ. 1986) แม้จะเป็นเมืองที่สร้างขึ้นมาใหม่ไม่ถึง 40 ปี แต่ที่นี่กลับมีสถาปัตยกรรม เส้นทางจักรยานหลายร้อยกิโลเมตร เส้นทางชายหาดที่ทอดยาว และทิวทัศน์ธรรมชาติโอบล้อมกันอย่างกลมกลืน

สำหรับแนวคิดการจัดงาน Expo 2022 Floriade Almere ในครั้งนี้ ต้องการจุดประกายให้ทุกคนเห็นถึงการให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านแนวคิด “Growing Green Cities” ที่มุ่งเน้นที่การทำให้เมืองต่างๆ มีความสนุกสนาน น่าอยู่ และยั่งยืนมากขึ้น

โดยนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับเมืองแห่งอนาคต และมุ่งหวังที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ดำเนินวิถีชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น ด้วยการดำเนินการพัฒนาเมืองให้เป็น…





 





 
Greening the city การเพิ่มความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น

Feeding the city การพัฒนาการจัดหาอาหาร การผลิตอาหารอย่างยั่งยืนโดยเมืองและเพื่อเมือง

Energizing the city การจัดหาแหล่งพลังงานอัจฉริยะที่มีความยั่งยืนมากขึ้น

Healthying the city การมีสุขภาพที่ดีในเมืองที่ดี





 





 
กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย สวนพฤกษชาติ การนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีพืชสวนของเนเธอร์แลนด์ กิจกรรมต่าง ๆ ที่แสดงถึงความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น งานศิลปะ ดนตรี เป็นต้น รวมทั้งการนำเสนอสินค้าจากประเทศต่าง ๆ การเจรจาธุรกิจ เป็นต้น ประกอบกับแนวคิดหลักของงาน Expo 2022 Floriade Almere คือ “Growing Green Cities” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับเมืองแห่งอนาคต

โดยประเทศไทยได้เตรียมเปิดตัว Thailand Pavilion ซึ่งถือเป็นโอกาสในการเผยแพร่ความก้าวหน้าในเรื่องนวัตกรรมด้านอาหารและสินค้าเกษตรของไทย การพัฒนากระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานและคุณภาพของไทยอย่างยั่งยืนสู่การรับรู้ของผู้เข้าชมงานกว่า 2 ล้านคน จากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และเพื่อแสดงถึงความพร้อมของไทยทั้งภาคบริการ และภาคการเกษตรของไทย

รวมทั้งความพร้อมด้านการท่องเที่ยวของไทย เผยแพร่แนวทางการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน วิถีชีวิต วัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี จึงขอเชิญผู้ที่สนใจมาเที่ยวชม Thailand Pavilion ได้ทุกวัน ตั้งแต่วันนี้ ถึง 9 ตุลาคม 2565 เวลา 10.00 น. - 19.00 น. และสามารถติดตามรับชมได้ทางออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ thailandfloriade2022.com อีกด้วย





 





 

 



Create Date : 14 เมษายน 2565
Last Update : 14 เมษายน 2565 16:03:02 น.
Counter : 332 Pageviews.

0 comment
"ประพัฒน์"ชี้เกษตรกรยังเผชิญวิกฤตโควิด-สงครามรัสเซีย ยูเครนทับถม
นายประพัฒน์  ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า ในโอกาสเทศกาลสงกรานต์หรือปีใหม่ไทยบรรจบมาอีกครั้งหนึ่งในปี พ.ศ.2565 ปีนี้ยังเผชิญกับวิกฤตโรคระบาด covid-19 อยู่เช่นเดิม แต่ถมทับด้วยปัญหาสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะยืดเยื้อลากยาวออกไป ส่งผลทำให้พี่น้องเกษตรกรไทยทั้งประเทศยังเผชิญกับความยากลำบากต่อเนื่อง อาจมีหลายสาขาการผลิตย่อยที่ยังคงดีอยู่ เช่น เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน

ส่วนพืชไร่อื่นๆยังคงทรงตัว ข้าวก็ยังราคาไม่ดี มันสําปะหลังราคาน่าจะดีขึ้นตามราคาน้ำมัน ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ราคาจะผูกอยู่กับปิโตรเลียม ถ้าราคาปิโตรเลียมขึ้นสูงเมื่อไหร่พืชผลที่สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานทดแทนได้ก็จะขึ้นสูงตามไปด้วย แต่คิดว่าน่าจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆหากเมื่อไหร่สงครามรัสเซียกับยูเครนยุติลง ปัญหาราคาก็คงกลับสู่ภาวะปกติได้  

ขอให้กำลังใจและขอให้ทุกท่านต้องพยายามสงวนเงินตราของตนให้อยู่กับตัวให้นานที่สุด เรื่องการลงทุนการเพาะปลูกรอบใหม่ เนื่องจากปุ๋ยเคมีราคาแพงมากกระโดดขึ้นอีกหลายสิบเปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นอยากจะให้พี่น้องเกษตรกรทั้งประเทศลดการพึ่งพาปุ๋ยเคมีให้เหลือน้อยลงเพื่อจะทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง





 








 
ทั้งนี้ มีพี่น้องชาวนา จำนวนหนึ่งสามารถลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้อย่างมีนัยยะสำคัญ ต้นทุนการผลิตเหลือไร่ละไม่เกิน 3,000 บาท จึงเชิญชวนเกษตรกรทั้งประเทศลองศึกษาทบทวนการผลิตของตนเอง การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ให้เพิ่มมากขึ้นสามารถเอาตัวรอดได้ , แข่งขันได้ คุณภาพสินค้ายังคงคุณภาพดีเหมือนเดิม ความปลอดภัยดีกว่าเดิม   

ขณะที่เรื่องโรค covid 19 มีแนวโน้มว่าในที่สุดก็จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นความร้ายแรงน้อยลงพยายามจะอยู่กับเขาให้ได้ ที่สำคัญก็คือดูแลตัวเองดีๆพยายามรักษาสุขภาพให้แข็งแรงไว้ อยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย เสี่ยงให้น้อยที่สุดขอให้ทุกท่านรักษาตัวเองให้ปลอดภัย 


“ในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ขอให้ท่านทั้งหลาย ปลอดภัย จากโรคโควิดแล้วก็สามารถอยู่รอดได้ท่ามกลางวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจที่หนักหน่วง รุนแรง การค้าการขายก็จะยากขึ้น ตลาดหลายตลาดก็อกหักอยู่โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลจะเห็นว่าตลาดหลายตลาดปิด การค้าขายลำบากเงินก็จะฝืดหายากขึ้น เพราะฉะนั้นขอให้ท่านทั้งหลายดูแลตัวเอง พยายามเซฟเงิน ใช้จ่ายอย่างประหยัดที่สุดเพื่อจะรักษาชีวิตแล้วก็รักษาเศรษฐกิจครัวเรือนของตัวเองอยู่ให้ได้ยาวนานที่สุด ขอให้ท่านทั้งหลายประสบแต่ความสุขโชคชัย ตลอดปีใหม่ไทย 2565 นี้” ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวอวยพร 





 





 



Create Date : 14 เมษายน 2565
Last Update : 14 เมษายน 2565 15:13:15 น.
Counter : 260 Pageviews.

0 comment
“เฉลิมชัย"สั่งปศุสัตว์เร่งช่วยควายน้ำทะเลน้อยขาดอาหาร
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่ได้รับข่าวแจ้งว่ามีควายน้ำทะเลน้อยลอยน้ำตายเป็นจำนวนมากกลางทะเลสาบ ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง หลังขาดอาหารนาน จากน้ำท่วมขัง ตนเองมีความห่วงใยควายน้ำทะเลน้อยและเกษตรกรที่เดือดร้อยอย่างมาก จึงได้สั่งการด่วนให้กรมปศุสัตว์เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือและรายงานผลโดยเร็ว แล้ว 

อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดนายสรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ได้สั่งการให้นายเศกสรรค์ สวนกูล ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาอาหารสัตว์พร้อมด้วย ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคใต้ (ศวพ.) ด่านกักกันสัตว์นครศรีธรรมราช ทีมปศุสัตว์จังหวัดพัทลุง หน่วยพัฒนาสุขภาพและผลผลิตโคนม เขต 8 (Herd Health Unit: HHU) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งให้การช่วยเหลือควายทะเลน้อยและเกษตรกรผู้ได้รับความเดือดร้อนแล้ว

โดยจากการเข้าตรวจสอบในพื้นที่ป่าชื้นเขตอนุรักษ์ห้ามล่าทะเลน้อย 280,000 ไร่ มีควาย 4,000 ตัว เกษตรกรจำนวน 300 ราย มีการเลี้ยงควายแบบปล่อยหาอาหารกินเองตามธรรมชาติ อยู่กันเป็นกลุ่มเป็นฝูง นอนในที่สูงกว่าระดับน้ำทั่วไป บางฝูงเจ้าของมากั้นคอกให้นอนพัก มีการผสมแบบเลือดชิด ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่น้ำท่วม แหล่งพืชอาหารสัตว์ที่ควายหากินทุกปีในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน หลังน้ำลดควายก็หากินตามพื้นที่ชุมน้ำเป็นปกติ แต่ในปี 2565 นี้ เนื่องจากเหตุกระทบน้ำท่วมขังนานตั้งแต่ตุลาคม 2564 เป็นต้นมาจนถึงตอนนี้ ระยะเวลาร่วม 6 เดือน จึงกระทบต่อพืชอาหารสัตว์ที่หากินได้ตามปกติ ทำให้แม่ควายลูกอ่อนได้กินอาหารน้อยลง ร่างกายผอมจึงให้นมน้อยและบางตัวก็ทิ้งลูกทำให้ลูกอ่อนแอและตาย สะสมมา 

และจากการสอบถามเกษตรกรผู้เลี้ยงควาย 3 ฝูงในพื้นที่พัทลุง ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ลูกควายอ่อนแอและตายสะสม 89 ตัว และพบแม่ควายแก่ที่มีอายุมากตายไป 2 ตัว และจากการสอบสวนเกษตรกรในพื้นที่ตำบลทะเลน้อยที่ประสบปัญหา 1 ราย





 





 
เบื้องต้นพบสาเหตุการตายไม่ได้เกิดจากโรคระบาด เนื่องจากกระบือกลุ่มอายุประมาณ 1 ถึง 2 ปี มีสภาพผอม ล้ม ไม่มีไข้ การหายใจปกติ ไม่มีน้ำมูก บางตัวเจ้าของต้องใช้เชือกพยุง เคี้ยวเอื้องได้ดี การเข้าบังคับเพื่อเก็บตัวอย่างเลือดและอุจจาระเพื่อส่งตรวจทำได้ง่าย ในรายนี้เจ้าของได้นำกระบือที่อ่อนแอกลับมาทำการดูแลรักษาต่อที่คอกชั่วคราว โดยตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมเป็นต้นมาได้นำมาดูแล 17 ตัวช่วยดูแลรอดชีวิตแล้ว 7 ตัว

ศวพ.ภาคใต้ตอนบนร่วมกับทีม HHU  ได้ทำการเก็บตัวอย่างเลือดและอุจจาระกระบือ 2 ใน 7 ตัว เพื่อตรวจสอบการติดเชื้อแบคทีเรีย พยาธิในทางเดินอาหาร พยาธิในเลือด ให้ยาบำรุง มอบเวชภัณฑ์ ยาฉีดถ่ายพยาธิ ยาบำรุง แร่ธาตุ ก้อน ให้คำแนะนำการใช้เวชภัณฑ์ การดูแลป้องกันโรค และให้แจ้งปศุสัตว์อำเภอพื้นที่หากพบการป่วยหรือตายผิดปกติในฝูงกระบือ สำหรับข้อเท็จจริงความสูญเสียในพื้นที่โดยรวมจะต้องตรวจสอบและรวบรวมจากเกษตรกรทุกรายในพื้นที่ต่อไป

อธิกรมปศุสัตว์ บอกด้วยว่าในการช่วยเหลือเบื้องต้นได้มอบหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน 600 ฟ่อน (12,000 กิโลกรัม) จ.พัทลุง 400 ฟ่อน/อ.ระโนด จ.สงขลา 200 ฟ่อน มอบยาบำรุงยาถ่ายพยาธิแร่ธาตุเวชภัณฑ์ และน้ำยาฆ่าเชื้อโรคในเบื้องต้น 100 ชุด ศวพ.ภาคใต้ร่วมกับฝ่ายสุขภาพสัตว์วางแผนเตรียมเก็บตัวอย่างเจาะเลือด ดูพยาธิ สุขภาพสัตว์โดยรวม และประสานหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยเพื่อขออนุญาตสร้างสถานที่พักสัตว์ คลังเก็บเสบียงสัตว์ให้กับควายลูกอ่อนได้มีที่พักและพื้นที่สำหรับแปลงพืชอาหารสัตว์

นอกจากนี้รายงานประสานแจ้งผู้ว่าฯ ให้ประกาศเขตให้ความช่วยเหลือภัยพิบัติในกลุ่มผู้กระทบดังกล่าว และหากประชาชนต้องการความช่วยเหลือหรือข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อผ่านสำนักงานปศุสัตว์ในพื้นที่ หรือแอปพลิเคชัน DLD 4.0 หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225 -6888 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง




 





 



Create Date : 14 เมษายน 2565
Last Update : 14 เมษายน 2565 13:21:39 น.
Counter : 442 Pageviews.

0 comment
เกษตรส่งเสริมกระท่อมแจกกว่า 2 แสนต้นต่อยอดเชิงพาณิชย์
"เฉลิมชัย"ตอบโจทย์ความต้องการพืชกระท่อม มอบกรมส่งเสริมการเกษตรจัดทำโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตและขยายต้นกล้ากระท่อมพันธุ์ดี ผ่านศูนย์ขยายพันธุ์พืชทั้ง 10 แห่งทั่วประเทศ แจกจ่ายให้เกษตรกรแล้วกว่า 2 แสนต้น หวังให้เป็นพืชสมุนไพรใช้ในครัวเรือน และต่อยอดไปสู่การผลิตขยายพืชกระท่อมพันธุ์ดีเชิงพาณิชย์หรือเป็นพืชเศรษฐกิจทางเลือกในอนาคต

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตและขยายกระท่อมพันธุ์ดี ณ ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 4 จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า จากความต้องการพืชกระท่อมของเกษตรกรและผู้สนใจทั่วไปมีจำนวนมาก จึงได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรจัดทำโครงการผลิตและขยายต้นกล้ากระท่อมพันธุ์ดี ซึ่งผลิตกระท่อมโดยการนำเมล็ดในสภาพปลอดเชื้อมาเพาะเลี้ยงด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ





 






 
เพื่อเพาะพันธุ์กระท่อมพันธุ์ดีไว้เป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้านเพื่อใช้ในครัวเรือน และสามารถนำไปพัฒนาอาชีพเป็นพืชทางเลือกในอนาคต ก่อให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและชุมชน ตลอดจนเป็นการพัฒนานวัตกรรมการผลิตและขยายกระท่อมพันธุ์ดีสำหรับรองรับความต้องการในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับแผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2560 – 2564 พร้อมต่อยอดการเรียนรู้และขับเคลื่อนไปสู่การผลิตพืชเชิงพาณิชย์หรือเป็นพืชเศรษฐกิจทางเลือก

ปัจจุบันกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร ได้จัดทำโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตและขยายกระท่อมพันธุ์ดี โดยมีศูนย์ขยายพันธุ์พืช จำนวน 10 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 1 จังหวัดชลบุรี ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 2 จังหวัดตรัง ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 3 จังหวัดนครราชสีมา ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 4 จังหวัดนครศรีธรรมราช ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 5 จังหวัดบุรีรัมย์

ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 6 จังหวัดพิษณุโลก ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 7 จังหวัดมหาสารคาม ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 8 จังหวัดลำพูน ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 9 จังหวัดสุพรรณบุรี และศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 10 จังหวัดอุดรธานี ซึ่งได้ดำเนินการผลิตต้นกล้ากระท่อมพันธุ์ดีแล้ว รวมทั้งสิ้น 210,000 ต้น เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนต้นกล้ากระท่อมพันธุ์ดีพร้อมองค์ความรู้ให้แก่สมาชิกศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ทั้ง 882 ศูนย์ทั่วประเทศไทย โดยสนับสนุนรายละ 3 ต้น จำนวน 30 รายต่อศูนย์ ทำให้มีสมาชิก ศพก. ที่ได้รับการสนับสนุน จำนวน 26,460 ราย รวมจำนวน 79,380 ต้น





 





 
นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งเรียนรู้การผลิตและขยายพืชกระท่อมพันธุ์ดีภายในชุมชน ซึ่งมีสมาชิกวิสาหกิจชุมชน/Young Smart Farmer / Smart Farmer / อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน หน่วยงานราชการที่มีภารกิจในการส่งเสริมอาชีพการเกษตร และประชาชนที่สนใจ ได้รับการสนับสนุนจำนวนทั้งสิ้น 130,620 ต้น พร้อมต่อยอดไปสู่การผลิตขยายพืชกระท่อมพันธุ์ดีเชิงพาณิชย์หรือเป็นพืชเศรษฐกิจทางเลือกต่อไปในอนาคต

ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอรับต้นกล้ากระท่อมพันธุ์ดีได้ ณ จุดบริการพืชพันธุ์ Doae ศูนย์ขยายพันธุ์พืชใกล้บ้านท่าน รายละ 3 ต้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าของจะหมดกระท่อมเป็นพืชที่อยู่คู่กับภาคใต้ เมื่อถูกต้องตามกฎหมายแล้ว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็พร้อมจะเข้ามาส่งเสริมอย่างเต็มที่ ซึ่งนอกจากการถ่ายทอดองค์ความรู้และสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีการผลิตให้มีคุณภาพมากขึ้นแล้ว ยังต้องมีการทำการตลาดที่ดี มีการวางแผนและมาตรการรองรับสำหรับผลผลิตกระท่อมที่จะออกต่อไปในอนาคต

สำหรับมาตรการต่อจากนี้จะให้มีการรวมกลุ่มทั้ง วิสาหกิจหรือการรวมกลุ่มแบบแปลงใหญ่ ซึ่งจะทำให้กระทรวงเกษตรฯ สามารถเข้าไปดูแลได้อย่างเต็มที่ ทั้งในเรื่องงบประมาณ และเครื่องไม้เครื่องมือ อีกทั้งยังเป็นการกำหนดทิศทางการเกษตร สามารถลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และหาตลาดรองรับได้ง่ายขึ้นด้วย





 




 
 



Create Date : 08 เมษายน 2565
Last Update : 8 เมษายน 2565 18:20:42 น.
Counter : 370 Pageviews.

0 comment
โควิดระบาดหนักแนะส่งออกผลไม้ไปจีนทางเรือ

ฟรุ้ทบอร์ดหวั่นโควิดระบาดหนักในจีนกระทบการส่งออกผลไม้ไทย แนะผู้ส่งออกเพิ่มการขนส่งทางเรือเป็น 55% พร้อมขยายตลาดบริโภคในประเทศจาก 30% เป็น 40% รับมือกรณีด่านปิด 

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ได้มอบหมายให้ นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดกรผลไม้ ครั้งที่ 2/2565        ที่ประชุมรับทราบ เรื่องการแต่งตั้งคำสั่งคณะกรรมการผู้แทนเกษตรกร สถาบันเกษตรกร ภาคเอกชน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่ (ความก้าวหน้า สถานการณ์การผลิตไม้ผล ปี 2565  รวมทั้งสรุปผลการประชุมเฉพาะกิจการเตรียมการบริหารจัดการผลไม้ภาคตะวันออก ปี 2565 การรายงานความก้าวหน้าของคณะทำงานศึกษาเสถียรภาพกลุ่มสินค้าทุเรียน การรายงานความก้าวหน้าของคณะอนุกรรมการพัฒนาและบริหารการตลาด (การรายงานสถานการณ์ด่านการส่งออกผลไม้ไปจีน และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในจีน และรายงานแนวทางแก้ไขปัญหาการขนส่งผลไม้ล็อตแรกของไทยไปจีนโดยรถไฟจีน-ลาวให้ใช้เวลาไม่เกิน 3 วันครึ่ง 

         



 

 





 

นอกจากนี้ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบ แผนบริหารจัดการผลไม้ภาคตะวันออก (ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง) ปี 2565 เป็นแนวทางบริหารจัดการผลไม้ ปี 2565 ตามมติคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 โดยจังหวัดได้จัดวางแผนการบริหารจัดการผลไม้ แบบเบ็ดเสร็จได้ด้วยตัวเอง ในเชิงคุณภาพสอดคล้องตามยุทธศาสตร์พัฒนาผลไม้ไทย พ.ศ.2565 - 2570 และในเชิงปริมาณ โดยการจัดการความสมดุลเป็นไปตามหลัก อุปสงค์ – อุปทาน  ซึ่งมีแผนบริหารจัดการผลไม้ภาคตะวันออก ปี 2565 เพื่อบริหารจัดการผลผลิต ทุเรียน 729,110 ตัน มังคุด 221,840 ตัน เงาะ 216,420 ตันลองกอง 18,994 ตัน รวมทั้งสิ้น 1,186,364 ตัน 

รวมทั้งเสนอให้คณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาอันเนื่องมาจากผลผลิตการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน และพาณิชย์จังหวัด เป็นฝ่ายเลขานุการ เป็นกลไกหลัก ในการขับเคลื่อนบริหารจัดการผลไม้ในพื้นที่จังหวัด ประจำปี 2565 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย  ส่วนกรณีที่การบริหารจัดการผลไม้ในพื้นที่มีปัญหา มอบหมายให้จังหวัดประสานกับฝ่ายเลขานุการคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ และ/หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณา ใช้มาตรการที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป 

สำหรับแผนบริหารจัดการผลไม้ภาคเหนือ (ลิ้นจี่) ปี 2565 เพื่อให้จังหวัดใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในการบริหารจัดการผลไม้ในฤดูการผลิตปี 2565 ซึ่งมีแผนบริหารจัดการผลไม้ภาคเหนือ (ลิ้นจี่) ปี 2565 จำนวน 43,511 ตัน ผ่านกลไกคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) โดยเสนอให้คณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาอันเนื่องมาจากผลผลิตการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน และพาณิชย์จังหวัด เป็นฝ่ายเลขานุการ เป็นกลไกหลัก ในการขับเคลื่อนบริหารจัดการผลไม้ในพื้นที่จังหวัด ประจำปี 2565 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนกรณีที่การบริหารจัดการผลไม้ในพื้นที่มีปัญหา มอบหมายให้จังหวัดประสานกับฝ่ายเลขานุการคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ และ/หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณา ใช้มาตรการที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกร ต่อไป 

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในจีนระลอกใหม่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการส่งออกผลไม้ของไทยที่ประมาทไม่ได้ จึงขอให้ผู้ส่งออกเพิ่มการขนส่งทางเรือให้มากที่สุดเป็น 55% และการขนส่งทางรถไฟสายจีน-ลาวในระบบผสม “ราง-รถ” เป็นทางเลือกเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยงของการขนส่งทางรถที่มีความไม่แน่นอนของด่านทางรถที่อาจปิดได้ทุกเมื่อหากเกิดการระบาดของโควิดในพื้นที่ใกล้เคียงแม้ตอนนี้ด่านทุกด่านยกเว้นด่านตงชิงยังเปิดเป็นปกติ

 




 


 



 

รวมทั้งต้องเร่งรณรงค์การบริโภคผลไม้ภายในประเทศให้มากขึ้นจาก 30% เป็น 40% เพื่อช่วยสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ทั้งในส่วนของภาคตะวันออก ภาคใต้ ภาคเหนือและทุกภาคทั่วประเทศ และขอให้ทุกหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติตามมาตรการเชิงรุกล่วงหน้า ตามนโยบายและมาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2565 และ แผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ ปี 2565 กรณีเหตุการณ์ไม่ปกติ จำนวน 5 มาตรการ 21 โครงการ 

ประกอบไปด้วย มาตรการป้องกันเพื่อเตรียมรองรับเหตุการณ์ไม่ปกติ มาตรการช่วยเหลือในการกระจายสินค้า ควบคุมคุณภาพ และกระตุ้นการบริโภคผลไม้ มาตรการช่วยเหลือสนับสนุนการส่งออกผลไม้ไทย มาตรการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มผลไม้ และมาตรการช่วยเหลือเยียวยา และฟื้นฟูเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่ปกติโดยมาตรการดังกล่าวจะรองรับผลไม้ 450,000 ตัน ในส่วนอื่นๆ จะเป็นไปตามกลไกตลาดโดยเกษตรกรผลิตผลไม้ที่ได้คุณภาพ ล้งรับซื้อตามมาตรฐานและราคาที่เป็นธรรม ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกดำเนินการเตรียมการส่งออกต่อไป 

“สถานการณ์การค้าผลไม้กับจีนในปีที่ผ่านมา ไทยส่งออกผลไม้ไปจีน 1.6 แสนล้านบาท แต่จีนส่งผลไม้มาไทย 4 หมื่นล้านบาท นับว่าไทยได้เปรียบการค้าจีนด้านผลไม้ 3-4 เท่าตัว โดยผลไม้ไทยครองตลาดจีนมีมาร์เก็ตแชร์กว่า  40% อันดับ 2 คือ ชีลี 14% เวียดนาม 6% อยู่อันดับ 3ซึ่งสะท้อนขีดความสามารถของไทย นอกจากนั้น ปีที่ผ่านมาส่งออกผลไม้ไปจีนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เฉพาะทุเรียนส่งออกทะลุ 1 แสนล้านบาทเป็นครั้งแรกแม้จะเผชิญปัญหามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในจีนซึ่งกระทบการขนส่งและการส่งออกเป็นระยะๆ ปีนี้จึงประมาทไม่ได้แม้จะได้เตรียมมาตรการและงบประมาณสนับสนุนล่วงหน้าก็ตามแต่การระบาดระลอกใหม่ของโควิดในจีนยากจะคาดคะเนว่าจะยุติลงเมื่อใด” นายอลงกรณ์ กล่าว.

 




Create Date : 08 เมษายน 2565
Last Update : 8 เมษายน 2565 11:56:42 น.
Counter : 329 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  

สมาชิกหมายเลข 3402302
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



contact >> parwnation@gmail.com
hello welcome
contact =>>parwnation@gmail.com
New Comments