All Blog
หนุนเลี้ยง“ปลาพลวงชมพู”สร้างรายได้ เกษตรกรชายแดนใต้
นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่าล่าสุดกรมประมงระดมทีมนักวิจัย กรมประมง จัดทำ“โครงการพัฒนาเทคโนโลยีระบบเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์และระบบเพาะพันธุ์ปลาพลวงชมพู” เพื่อพัฒนาการเพาะขยายพันธุ์สัตว์น้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด สอดรับกับนโยบายการตลาดนำการผลิตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่ชายแดนใต้ สามารถนำองค์ความรู้ไปต่อยอดการเพาะเลี้ยงในเชิงพาณิชย์อย่างยั่งยืน ต่อไป

ปลาพลวงชมพู (Tor douronensis) เป็นปลาน้ำจืดหายากประจำท้องถิ่นในจังหวัดยะลาและนราธิวาส ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงเนื่องจากมีรสชาติดีเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 2,500 - 3,500 บาท

ทำให้ปลาชนิดนี้สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่เป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากปลาพลวงชมพูเป็นปลาที่โตช้า ดูแลค่อนข้างยาก ซึ่งจากการศึกษาของกรมประมงพบว่าปลาชนิดนี้โดยธรรมชาติสามารถวางไข่ได้ปีละ 1 ครั้ง และได้ไข่เพียง 500 ฟองต่อแม่ ที่สำคัญการเพาะพันธุ์ปลาพลวงชมพูโดยวิธีผสมเทียมในแต่ละครั้งจำเป็นต้องใช้พ่อแม่พันธุ์ปลาพลวงชมพูที่รวบรวมจากธรรมชาติ






 






 
เนื่องจากปลาพลวงชมพูรุ่นลูกที่นำมาเลี้ยงเป็นพ่อแม่พันธุ์ยังไม่สามารถนำมาใช้ในการเพาะพันธุ์ได้เพราะไม่มีความสมบูรณ์เพศ อีกทั้งขั้นตอนการฟักไข่แบบเดิมในบ่อซีเมนต์ยังประสบกับปัญหาการติดเชื้อราทำให้ไข่มีอัตราฟักเป็นตัวต่ำ  จึงจำเป็นต้องเร่งศึกษาเพื่อพัฒนาการวิจัยในเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วน

ล่าสุดกรมประมง โดยกองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด ร่วมกับ กองวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด และกองวิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์น้ำได้จัดทำ “โครงการพัฒนาเทคโนโลยีระบบเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์และระบบเพาะพันธุ์ปลาพลวงชมพู” เพื่อดำเนินการศึกษาวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตลูกปลาพลวงชมพู

โดยมีเป้าหมายให้พ่อแม่พันธุ์ปลาพลวงชมพูรุ่นลูกมีความสมบูรณ์เพศจนนำมาใช้เพาะพันธุ์โดยวิธีผสมเทียมได้ และสามารถผลิตไข่พร้อมลูกพันธุ์ที่มีความสมบูรณ์ แข็งแรง มีอัตราการรอดสูง เพียงพอสำหรับการส่งเสริมให้เกษตรกรจังหวัดชายแดนภาคใต้นำไปต่อยอดเลี้ยงในเชิงพาณิชย์






 






 
อีกทั้งเป็นการอนุรักษ์ให้สัตว์น้ำชนิดนี้คงอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติอย่างยั่งยืนโดยมีแผนการดำเนินการระยะเวลา 3 ปี (ปีงบประมาณ 2564 – 2566 ) อีกทั้งในปี 2564 ยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการวิจัยจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ด้วย
  
นายธเนศ พุ่มทอง ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อพัฒนาสูตรอาหารสำหรับเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ปลาพลวงชมพูให้มีความสมบูรณ์เพศ โดยการใช้สารเสริมในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (carotenoid) เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการสืบพันธุ์และเพิ่มคุณภาพของไข่ ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

อีกทั้งได้มีการพัฒนาระบบฟักไข่ปลาพลวงชมพูแบบราง โดยใช้ระบบน้ำไหลผ่านแบบหมุนเวียนที่มีระบบการควบคุมอุณหภูมิของน้ำแบบอัตโนมัติ มีการฆ่าเชื้อในน้ำโดยใช้แสงอัลตราไวโอเลท




 






 
ตลอดจนพัฒนาต้นแบบระบบการเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ปลาพลวงชมพูในโรงเพาะฟักอัจฉริยะแบบปิด ที่มีระบบทำความเย็นแบบ Evaporative Cooling System และใช้ระบบน้ำหมุนเวียน (Recirculating water system) ที่มีระบบการควบคุมคุณภาพของน้ำแบบอัตโนมัติทั้งในช่วงระยะเวลาเลี้ยงและระยะเวลาก่อนการผสมพันธุ์เพื่อให้มีความเหมาะสมกับการเจริญเติบโตและความสมบูรณ์เพศของพ่อแม่พันธุ์ จนกระทั่งสามารถนำมาเพาะพันธุ์ได้ในที่สุด

สำหรับผลการทดลองเบื้องต้นของการให้พ่อแม่พันธุ์ปลาพลวงชมพูรุ่นลูกที่ได้จากการเพาะพันธุ์ในปี 2556  (รุ่น P0) กินสารเสริมที่มีรงควัตถุแคโรทีนอยด์ และเลี้ยงในระบบน้ำหมุนเวียน ที่มีการควบคุมอุณหภูมิของน้ำแบบอัตโนมัติ

พบว่าสามารถกระตุ้นให้พ่อแม่พันธุ์รุ่นลูก (รุ่น P0)  มีความสมบูรณ์เพศมากขึ้น พร้อมสำหรับการผสมพันธุ์วางไข่และการใช้ทดลองเพาะพันธุ์ โดยจากผลการทดลองเพาะพันธุ์ในช่วงเดือน  มกราคม – มีนาคม 2564





 






 
ที่ผ่านมาสามารถคัดเลือกแม่พันธุ์ปลาพลวงชมพูที่มีไข่สมบูรณ์ได้จำนวน  45 ตัว นำมาเพาะพันธุ์ปลาพลวงชมพูโดยวิธีผสมเทียม จำนวน 8 ครั้ง จนประสบความสำเร็จสามารถรีดไข่ผสมเทียมได้ จำนวน  21 ตัว  คิดเป็นร้อยละ 47 ได้ลูกพันธุ์ปลาพลวงชมพูทั้งหมด จำนวน 12,043 ตัว 

มีแนวโน้มที่ดี เมื่อพบว่า ในเดือนมิถุนายน – กันยายน สามารถทำการเพาะพันธุ์ปลาพลวงชมพู ได้อีก 3 ครั้ง โดยสามารถคัดเลือกแม่พันธุ์ปลาพลวงชมพูที่มีไข่สมบูรณ์ได้จำนวน  14 ตัว นำมาเพาะพันธุ์ และประสบความสำเร็จในการรีดไข่ผสมเทียมจำนวน  8 ตัว  คิดเป็นร้อยละ 57 ได้ลูกพันธุ์ปลาพลวงชมพูทั้งหมด จำนวน  4,366  ตัว

จากผลสำเร็จของกรมประมงในครั้งนี้นับว่า จะเป็นแนวทางในการพัฒนาด้านอาหารสำหรับพ่อแม่พันธุ์ตลอดจนการพัฒนาระบบเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์และระบบฟักไข่ปลาพลวงชมพูให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถผลิตลูกพันธุ์ปลาพลวงชมพูให้ได้ปริมาณมากอย่างต่อเนื่องและ ขยายผลไปสู่เกษตรกรให้เลี้ยงในเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบได้ในอนาคตต่อไป



 



 



Create Date : 28 ตุลาคม 2564
Last Update : 28 ตุลาคม 2564 16:20:02 น.
Counter : 739 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3402302
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



contact >> parwnation@gmail.com
hello welcome
contact =>>parwnation@gmail.com
New Comments