All Blog
ดีเดย์ส่งสินค้าเกษตรโดยรถไฟจีน-ลาวเที่ยวปฐมฤกษ์26 ม.ค.
"ไทย"เตรียมพร้อมดีเดย์เปิดขนส่งสินค้าเกษตร โดยรถไฟสายจีน-ลาวเที่ยวปฐมฤกษ์26 ม.ค65นี้  ขณะที่“อลงกรณ์” นำทีมหารือทูตลาวขยายความร่วมมือขนส่งผลไม้รถไฟสายจีน-ลาว พร้อมประชุมสมาคมผลไม้ภาคตะวันออกเร่งเครื่องรับมือผลไม้ฤดูกาลผลิตปี 2565
     
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแผนแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ เปิดเผยวันว่า ในวันที่ 26 มกราคมนี้ ขบวนรถขนส่งสินค้าจากสถานีเวียงจันทน์ใต้จะออกเดินบนเส้นทางรถไฟจีน-ลาว เข้าจีนที่ด่านรถไฟโมฮ่านในตอนใต้ของมณฑลยูนนาน สู่มหานครฉงชิ่งในภาคตะวันตกของจีน





 





 

โดยใช้เวลาประมาณ 3 - 4 วัน เร็วกว่าการขนส่งทางเรือถึง 4 เท่าตัว นับเป็นขบวนรถสินค้าปฐมฤกษ์ที่ขนส่งสินค้าเกษตรของไทยไปยังประเทศจีนผ่าน สปป.ลาวเป็นครั้งแรก ตั้งแต่เปิดเส้นทางรถไฟสายจีน-ลาวอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยสินค้าเกษตรล็อตแรกเป็นข้าวเหนียวหัก 20 ตู้น้ำหนัก 500 ตัน จากบริษัทกล้าทิพย์ที่จังหวัดหนองบัวลำพู

ก่อนหน้านี้มีรายงานจากหน่วยงานต่างประเทศคลาดเคลื่อนว่า ได้มีการขนส่งไปฉงชิ่งแล้วเมื่อวันที่ 20 มกราคม แต่เมื่อตนตรวจสอบย้อนกลับในวันเดียวกันทราบว่า ข้าวล็อตดังกล่าวได้ส่งออกจากประเทศไทยผ่านด่านหนองคายไปฝั่ง สปป.ลาวที่ท่าบก ท่านาแล้งแล้ว แต่ยังไม่ได้ส่งไปถึงมหานครฉงชิ่ง เพราะต้องรอเคลียร์พิธีการทางศุลกากรและไฟเขียวจากกระทรวงกสิกรรมที่นครเวียงจันทน์





 










 
จึงได้ประสานกับนายด่านตรวจพืชหนองคาย ผู้ส่งออก บริษัทชิ้ปปิ้งและบริษัทผู้ให้บริการโลจิสติกส์ของไทยและจีน จนทราบปัญหาจึงติดต่อให้นายจันทร สิทธิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเวียงจันทน์โลจิสติกส์ปาร์ค และท่าบกท่านาแล้งช่วยสนับสนุนจนเสร็จสิ้นเรียบร้อย และได้รับแจ้งว่าจะเคลื่อนย้ายตู้สินค้าไปสถานีเวียงจันทน์ใต้ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ก่อนจะยกขึ้นแคร่รถไฟเพื่อพร้อมในการเดินทางในวันพุธที่ 26 มกราคมนี้ด้วย

“ในวันนี้ผมจะหารือกับท่านเอกอัครราชทูตลาวประจำประเทศไทยเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างไทย-ลาว เรื่องการขนส่งสินค้าผ่านแดนจากไทยไปจีนบนเส้นทางรถไฟสายจีน-ลาว เพื่อความพร้อมสำหรับการขนส่งสินค้าเกษตรอื่นๆ โดยเฉพาะผลไม้ที่ใกล้จะถึงฤดูกาลผลิตปี 2565 เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้นอกจากนี้ จะมีการประชุมทางไกลกับสมาคมผลไม้และสมาคมล้งกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในภาคตะวันออกในบ่ายวันนี้ (22 ม.ค.) อีกด้วย” นายอลงกรณ์ กล่าว 

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้ประสานกับทางการลาวและเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเพื่อแก้ไขปัญหาด่านส่งออกติดขัดจากปัญหาโควิด19 อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด นับแต่เกิดปัญหาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว โดยปลายเดือนนี้จะมีการประชุมร่วมระหว่างกระทรวงเกษตรไทย-จีน โดยฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ.เพื่อแก้ปัญหาร่วมกันด้วย





 




 



Create Date : 22 มกราคม 2565
Last Update : 22 มกราคม 2565 18:57:47 น.
Counter : 468 Pageviews.

0 comment
"ปศุสัตว์"ลุยห้องเย็นกักตุนซากสุกรอีกเพียบ
"อธิบดีกรมปศุสัตว์"เผยนายกฯ- รมว.เกษตรไฟเขียว สั่งขยายผลลุยตรวจสอบกันกักตุนซากสุกรของห้องเย็นคุมเข้มการเคลื่อนย้ายไม่ทราบแหล่งที่มาพบของกลางกักคันในห้องเย็น ในพื้นที่สมุทรสารครอื้อ 

นายสรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในการตรวจสอบห้องเย็นที่อาจมีการกักตุนสินค้าประเภทเนื้อสุกรเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้มีการขยายผลตรวจสอบอย่างต่อเนื่องพร้อมหน่วยงานในพื้นที่เครือข่ายกองบังคับการปราบปราบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) โดยล่าสุดได้สนธิกำลังเร่งตรวจสอบห้องเย็นเพื่อกันการกักตุนซากสุกรในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 10 แห่ง อายัดสินค้ารอตรวจสอบแล้วรวมกว่า 500 ตัน





 





 
ทั้งนี้วันที่21 มกราคม ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษพญาไท เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ กองสารวัตรและกักกัน สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสมุทรสาคร กรมปศุสัตว์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) สถานีตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบการกักตุนซากสุกรในห้องเย็น

ผลการตรวจสอบพบว่า ห้องเย็นแห่งหนึ่งมีเนื้อสุกรแช่แข็งจัดเก็บ แจ้งกรมการค้าภายใน จำนวน 929 ตัน แต่ไม่พบการออกเอกสารเคลื่อนย้ายเนื้อสุกรออกจากห้องเย็น ปลายทางนครปฐมและราชบุรี จำนวนกว่า 400 ตัน ซึ่งได้มีการเคลื่อนย้ายเนื้อสุกรไปแล้ว โดยเป็นเนื้อสุกรที่รับฝากมาจากบริษัทแห่งหนึ่งย่านราชบุรี นครปฐม ปทุมธานี กรุงเทพฯ และจากแหล่งอื่นๆ





 





 
นอกจากนี้ ยังพบว่าในส่วนที่ยังไม่ได้เเจ้งกับกรมการค้าภายใน ตรวจสอบพบอีกจำนวน 234 ตัน เป็นของบริษัท A แห่งหนึ่งจากราชบุรีที่นำมาฝากเมื่อเดือน กันยายน - พฤศจิกายน 2564 โดยบริษัทดังกล่าวยังไม่เคยเบิกสินค้าออกแต่อย่างใด สินค้าที่ฝากเก็บมีการระบุชื่อสินค้าเป็นสันนอกติดปีก ทำให้ห้องเย็นจัดเก็บเป็นสินค้าไก่ทั้งที่ความจริงแล้วเป็นเนื้อสุกร ซึ่งไม่สามารถแสดงเอกสารเคลื่อนย้ายจำนวนประมาณ 71 ตันได้

พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการอายัดสินค้าไว้ก่อนทั้งหมด 71 ตัน หากสามารถนำมาแสดงได้จะเข้ามาดำเนินการถอนอายัด โดยให้บริษัท A นำเอกสารมาแสดงและชี้แจงภายในวันนี้(วันที่ 22 มกราคม 2565)และในวันเดียวกันนี้ ได้เข้าตรวจสอบห้องเย็นอีกแห่งพบเอกสารเคลื่อนย้ายซากสัตว์แต่ไม่พบเนื้อสัตว์เข้าฝากในห้องเย็นโดยจำนวนที่ระบุในเอกสาร 283 ตัน





 





 
จึงได้สอบถามถึงสถานที่จัดเก็บเนื้อสัตว์ดังกล่าว จากนั้นจึงได้ตามสอบไปยังห้องเย็นอีกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่จัดเก็บเพิ่มเติมของห้องเย็นที่พบเอกสารแต่ไม่มีสินค้าจัดเก็บ พบว่ามีการนำซากสุกรจากบริษัท B และบริษัท A ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่ตรวจพบจากห้องเย็นข้างต้น จำนวนกว่า 441 ตัน มาจัดเก็บไว้ที่ห้องเย็นนี้

โดยไม่พบเอกสารเคลื่อนย้าย และไม่ได้แจ้งการกักตุนสินค้าให้กรมการค้าภายในทราบ จากการตรวจสอบพบมีซากสุกร พบว่าเป็นของบริษัท A มาจัดเก็บที่ห้องเย็นนี้จำนวน 158 ตัน และบริษัท B ไปจัดเก็บจำนวน 283 ตัน ตรวจสอบไม่พบเอกสารการเคลื่อนย้ายไปห้องเย็นดังกล่าว

เบื้องต้น พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้อายัดซากสุกร จำนวน 441 ตันทั้งหมด และแจ้งให้บริษัท A และ B นำเอกสารการเคลื่อนย้ายและหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาแสดงภายในวันที่ 22 มกราคม 2565 นี้ หากไม่สามารถนำมาแสดงได้จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป  หากประชาชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือพบเห็นการกระทำผิดด้านปศุสัตว์ สามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225 -6888 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง



 



Create Date : 22 มกราคม 2565
Last Update : 22 มกราคม 2565 18:21:57 น.
Counter : 774 Pageviews.

0 comment
หวั่นสินค้าตกค้าง "มนัญญา"กำชับกรมวิชาการเกษตรเร่งส่งผลไม้เข้าจีนก่อนตรุษจีน
"มนัญญา "สั่งกรมวิชาการเกษตร ประสานผู้ประกอบการวางแผนเร่งส่งออกผลไม้เข้าจีนก่อนเทศกาลตรุษจีน  รับมือปัญหาการขนส่งหลังแดนจีนแจ้งปิด 3 ด่านทางบกดีเดย์ 31 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์ 2565 ทิ้งด่านโม่ฮานรับศึกหนักนำเข้าเพียงด่านเดียว  คาดจราจรติดสาหัส เสี่ยงสินค้าตกค้าง 

นางสาวมนัญญา  ไทยเศรษฐ์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เปิดเผยว่า  จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาทุกด่านของจีนเข้มงวดตรวจสอบสินค้าเกษตรที่นำเข้าจากทุกประเทศอย่างเข้มงวดทั้งเรื่องของศัตรูพืชและเชื้อโควิดไม่ให้ปนเปื้อนไปกับสินค้า จึงสั่งการให้กรมวิชาการเกษตรติดตามสถานการณ์การส่งออกอย่างใกล้ชิดและรายงานให้ทราบทุกระยะ  เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าผลไม้ของไทย  






 






 
โดยสถานการณ์ล่าสุดได้รับรายงานจากกรมวิชาการเกษตร ว่า ฝ่ายเกษตร ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว ได้ประสานขอให้กรมวิชาการเกษตรแจ้งผู้ประกอบการวางแผนการส่งออกผลไม้ผ่านด่านทางบกของจีนในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีนเนื่องจากบางด่านของจีนจะหยุดให้บริการ จึงได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรแจ้งผู้ประกอบการให้วางแผนการส่งออกในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับสินค้าผลไม้ที่จะส่งออก

นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ด่านนำเข้าของจีนที่จะปิดทำการในช่วงระหว่างวันที่ 31 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์ 2565 มีจำนวน 3 ด่าน ได้แก่ ด่านตงซิง  ด่านโหย่วอี้กวน ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันมีการจำกัดจำนวนรถเข้าวันละประมาณ 80 - 100 คัน ตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และด่านรถไฟผิงเสียง จะปิดรับการยื่นสำแดงนำเข้าผลไม้ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2565






 






 
หลังจากที่เปิดให้นำเข้าในเดือนมกราคม 2565 ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2565 ตามมาตรการเปิด 14 วัน และปิด 14 วัน เหลือเพียงด่านโม่ฮานที่ยังเปิดทำการอยู่ในช่วงวันดังกล่าว  แต่จำกัดจำนวนรถบรรทุกสินค้าผ่านเข้าด่านโม่ฮานวันละประมาณ 100 คัน และมีรถรอผ่านด่านจำนวนมาก   ซึ่งการดำเนินการอาจล่าช้าเนื่องจากผู้ประกอบการที่รับยื่นสำแดงสินค้าบางส่วนหยุดช่วงเทศกาลตรุษจีน




 





 

ในช่วงนี้ผู้ประกอบการส่งออกผลไม้ควรชะลอการผ่านเส้นทางบกจากเวียดนามเข้าจีนและใช้เส้นทางขนส่งทางอื่นแทนเพื่อหลีกเลี่ยงสินค้าตกค้างและผ่านด่านไม่ทันก่อนช่วงหยุดเทศกาลตรุษจีน แม้ว่าด่าน โม่ฮานจะไม่ได้ปิดช่วงเทศกาลตรุษจีน แต่ปริมาณรถขนส่งสินค้าฝั่งบ่อเต็นที่รอผ่านเข้าจีนที่ด่าน   โม่ฮานมีจำนวนมาก และการดำเนินงานช่วงเทศกาลตรุษจีนอาจมีความล่าช้า  ผู้ประกอบการจึงควรประสานงานกับผู้ให้บริการขนส่งอย่างใกล้ชิดก่อนการส่งออก

นอกจากนี้ การขนส่งผลไม้ในเส้นทางบกเข้าจีนยังคงมีความเสี่ยงทั้งระยะเวลาในการรอผ่านด่าน และมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ของจีน จึงขอกำชับให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโควิด – 19 อย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายจากการที่สินค้าจะถูกทำลายหากจีนตรวจพบการปนเปื้อนของเชื้อโควิดบนผลไม้หรือบรรจุภัณฑ์

 







 



Create Date : 20 มกราคม 2565
Last Update : 20 มกราคม 2565 18:26:09 น.
Counter : 406 Pageviews.

0 comment
เดินหน้ารณรงค์หยุดเผาพื้นที่การเกษตร
นางอัญชลี สุวจิตตานนท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตรเดินหน้าโครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตรและปรับเปลี่ยนวิธีการทำการเกษตรมาทำการเกษตรแบบปลอดการเผา โดยการสร้างและพัฒนาเครือข่ายเกษตรปลอดการเผา เพื่อเร่งรัด จัดการ และแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรกรรมอย่างต่อเนื่องในพื้นที่   
จ.สุพรรณบุรีมีจุดความร้อน (hotspot) ในพื้นที่การเกษตร โดยการสำรวจในปี 2564 จำนวนมากถึง 96 จุด

ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรจึงดำเนินการจัดงานรณรงค์หยุดเผาในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เน้นการถ่ายทอดความรู้และสร้างเครือข่ายเกษตรกรปลอดการเผา ช่วงการเก็บเกี่ยวในพื้นที่ทำการเกษตร ภายในงานมีการสาธิตการใช้เครื่องตัดตอซัง การไถกลบ และการหว่านปอเทือง 





 






 
พร้อมสถานีการเรียนรู้ จำนวน 4 สถานี ได้แก่ 1) การส่งเสริมการไถกลบและผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2) การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดภาวะโลกร้อนจากการทำนา (ชาวนารักษ์โลก)  3) นำเสนอทางเลือกในการใช้เทคโนโลยีการเกษตรทดแทนการเผา

4) สาธิตการนำเศษวัสดุทางการเกษตรมาแปรสภาพให้เกิดประโยชน์ นอกจากนี้ ยังมีจุดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับ การลดการเผาในที่โล่ง การป้องกันและลดผลกระทบจากค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 การปลูกพืชหลังนา การลดการเผาตอซังข้าวและการไถกลบตอซัง

การปรับระดับแปลงนาให้เรียบสม่ำเสมอ และการจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้ง ทางเลือกการใช้เทคโนโลยีทดแทนการเผา และความรู้ด้านการขยายพันธุ์พืช การสนับสนุนพืชพันธุ์ดี
จากกรมส่งเสริมการเกษตร อาทิ ต้นพันธุ์ฟ้าทะลายโจร เมล็ดพันธุ์ผักกระเจี๊ยบเขียว กระเจี๊ยบแดง และพริกหอมสุพรรณ เป็นต้น และผลิตภัณฑ์จาก กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร และ Young Smart Farmer ในจังหวัดสุพรรณบุรี อีกด้วย 





 






 
อย่างไรก็ตามในปี 2565 จ.สุพรรณบุรี ได้ดำเนินการถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้สามารถเป็นวิทยากรได้ จำนวน 5 กลุ่ม กลุ่มละ 60 ราย แบ่งเป็น กลุ่มใหม่ (ปี 2565) จำนวน  1 อำเภอ ได้แก่ อ.ดอนเจดีย์ และกลุ่มเดิม (ปี 2564) จำนวน 2 อำเภอ ได้แก่  อ.สองพี่น้อง อ.บางปลาม้า อ.เดิมบางนางบวช อ.ศรีประจันต์

จากนั้นนำร่องสาธิตเทคโนโลยีการจัดการเศษวัสดุการเกษตรทดแทนการเผา  จำนวน 1 กลุ่ม (กลุ่มใหม่ อ.ดอนเจดีย์) กลุ่มละ 60 ราย และดำเนินการรณรงค์ลดการเผาในท้องถิ่น ณ อ.ดอนเจดีย์ เกษตรกรเข้าร่วม 200 ราย





 






 
โดยมีกิจกรรมสร้างการรับรู้และกิจกรรมเสนอทางเลือกลดการเผา ดังนี้ 1) ถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้สามารถเป็นวิทยากรได้ ซึ่งเกษตรกรมีความสนใจเรื่อง การเพาะเห็ดฟาง, น้ำหมักสลายตอซัง, การทำจุลินทรีย์หน่อกล้วย และการแปรรูปฟางข้าวโดยอัดเป็นแท่ง

2) นำร่องสาธิตเทคโนโลยีการจัดการเศษวัสดุการเกษตรทดแทนการเผา โดยการไถกลบตอซังอ้อย, การใช้รถตัดตอซังข้าว, การทำปุ๋ยหมักจากใบอ้อยและฟางข้าว 3) รณรงค์ลดการเผาในท้องถิ่น เพื่อกระตุ้นเกษตรกรให้ตระหนักถึงผลกระทบจากการเผาในพื้นที่การเกษตรและนำเสนอทางเลือกการใช้ประโยชน์จากเศษวัสดุทางการเกษตรและเทคโนโลยีทางการเกษตรทดแทนการเผา

4) ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกอ้อยเพื่อรองรับรถตัดเพื่อลดการเผาอ้อย และจากการดำเนินโครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตรอย่างต่อเนื่องที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าจำนวนจุดความร้อน (hotspot) ในพื้นที่การเกษตร จ.สุพรรณบุรี มีแนวโน้มลดลง ต่อเนื่อง




 




 
 



Create Date : 20 มกราคม 2565
Last Update : 20 มกราคม 2565 16:16:47 น.
Counter : 476 Pageviews.

0 comment
"ปศุสัตว์"เฝ้าระวังหวัดนกระบาดหลังจีนติดเชื้อ-ตาย
"ปศุสัตว์"แจ้งเตือนเฝ้าระวังหวัดนกระบาดหลังพบการระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิด H5N6 ในจีนมีผู้ติดเชื้อแล้ว 5 ราย ในจำนวนนี้ 2 รายเสียชีวิตแล้ว 2 ราย

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า จากรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบการระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิด H5N6 ในจีนโดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อแล้ว 5 ราย ในจำนวนนี้ 2 รายเสียชีวิตแล้วเมื่อช่วงเดือนธันวาคม2564 ที่ผ่านมาโดย เป็นชาย 4 คน และหญิง 1 คน จากมณฑลเสฉวน, เจ้อเจียง และเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง






 






 
โดยในจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดนี้ 2 ราย เสียชีวิตแล้ว ขณะที่อีก 3 ราย ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยอาการสาหัส โดยผู้ติดเชื้อทั้ง 5 ราย ในจำนวนนี้ 4 ราย สัมผัสกับสัตว์ปีก ขณะที่อีก 1 ราย อยู่ระหว่างการสืบสวน

แม้ประเทศไทยจะไม่พบรายงานการเกิดโรคไข้หวัดนกมาแล้วเป็นระยะเวลา 12 ปี แต่กรมปศุสัตว์ก็ยังคงเตรียมความพร้อม และป้องกันโรคไข้หวัดนกเข้าสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยได้ สั่งการเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เข้าตรวจเยี่ยมเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังโรคสัตว์ตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด  











 
สุ่มเก็บตัวอย่างสัตว์ปีกในพื้นที่เสี่ยง เช่น พื้นที่ตามแนวชายแดน พื้นที่นกอพยพ พื้นที่นกวางไข่ พื้นที่มีการเลี้ยงสัตว์ปีกหนาแน่น เป็นต้น เข้มงวดการเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์ปีกภายในประเทศ ชะลอการนำเข้าสัตว์และซากสัตว์ปีกจากประเทศที่เกิดโรคไข้หวัดนก

ส่วนสัตว์ปีกเลี้ยงในระบบฟาร์มให้เข้มงวดความปลอดภัยทางชีวภาพขั้นสูงสุด เช่น การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในโรงเรือนและบริเวณโดยรอบ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มเข้มงวดเรื่องระบบความปลอดภัยภายในฟาร์ม ควบคุมการเข้า-ออกฟาร์ม ให้ฉีดพ่นยานพาหนะทุกคัน





 





 
นอกจากนั้นยังมีการ รณรงค์ทำความสะอาดและพ่นยาฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ได้แก่ พื้นที่นกอพยพอาศัยอยู่ พื้นที่ตามแนวชายแดน พื้นที่เลี้ยงสัตว์ปีกหนาแน่นเป็นต้น ตลอดจนผลักดันระบบการเลี้ยงสัตว์ปีกให้เข้าระบบมาตรฐาน GAP หรือ GFM รวมถึงประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายในประเทศ อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตลอดจนหน่วยงานระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

กรมปศุสัตว์  ขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกสังเกตอาการสัตว์อย่างใกล้ชิด  หากพบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติ อย่านำสัตว์ปีกไปจำหน่ายจ่ายแจก หรือนำไปประกอบอาหารโดยเด็ดขาด ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอ อาสาปศุสัตว์ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เจ้าหน้าปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที  เพื่อเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและดำเนินมาตรการ ควบคุมโรคทันที




 





 



Create Date : 20 มกราคม 2565
Last Update : 20 มกราคม 2565 15:50:36 น.
Counter : 560 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  

สมาชิกหมายเลข 3402302
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



contact >> parwnation@gmail.com
hello welcome
contact =>>parwnation@gmail.com
New Comments