Group Blog All Blog
|
"ณศร ออสุวรรณ"ชูชสท.ศูนย์กลางสหกรณ์การเกษตรบริการสมาชิกครบวงจร
นายณศร ออสุวรรณ นักบริหารรุ่นใหม่ผู้นั่งตำแหน่งประธานกรรมการฯ ชุดที่ 45 ของ ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย(ชสท.) หลัง ได้รับความไว้วางใจจากการเลือกตั้งในที่ประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2564 เปิดใจถึงแนวคิดและแผนอนาคตในการทำหน้าที่ดูแลส่งเสริมสหกรณ์การเกษตรทั่วประเทศซึ่งเป็นสมาชิกของชุมนุมฯ รวมถึงการสร้างเครือข่ายกระจายผลผลิตทางการเกษตรให้แข็งแกร่งเติบโตเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ของการก่อตั้ง
นายณศร เปิดเผยถึง บทบาทด้านต่างๆ ที่จะนำพาชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยให้ก้าวไกลยิ่งขึ้นรวมถึงเป็นที่พึ่งพาของสมาชิก ประกอบด้วยภารกิจหลายด้าน ทั้งนี้คือ 1. บทบาทการส่งเสริมสหกรณ์เกษตร โดยหยิบยกเอาเครื่องมือ ที่เรียกว่า “ปฏิทินผลไม้” มาใช้เป็นตัวกำหนดแผนในการกระจายผลผลิต รวมถึงวางแผนการตลาดให้เหมาะสมในแต่ละภูมิภาคที่มีผลผลิตต่างกันไปและลักษณะเฉพาะตัว ปฏิทินผลไม้ทำให้รู้ ช่วงเวลาการเก็บเกี่ยวและเตรียมแผนงานการกระจายได้อย่างทันท่วงทีและเหมาะสม นอกเหนือจากนั้น ทางชุมนุมฯ กำหนดการตลาดที่ชัดเจน นั่นคือระบบการสั่งแบบ พรีออเดอร์ Pre-Order เพื่อให้สหกรณ์ผู้ผลิตสามารถวางแผนได้ตรงกับปริมาณความต้องการของลูกค้า และง่ายต่อการขนส่ง
2. ด้านการศึกษา อย่างที่ทราบว่าสหกรณ์สมาชิกของชุมนุมฯ กระจายอยู่ตามภาคต่างๆ ทั่วประเทศไทย จึงเกิดแนวคิดการอบรมหมุนเวียนในแต่ละเขต เป็นการอบรมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ในปี 2565 จะเน้นการให้อบรมที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้หลังวิกฤติโรคระบาดโควิด 19 เช่นต้องเน้นตลาด ออนไลน์มากขึ้น ตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูกค้าหรือผู้บริโภค
3.ด้านการช่วยเหลือสมาชิกและสังคม เช่นกรณี ราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำเป็นที่มาของการตั้งศูนย์กระจายสินค้าให้เป็นฟันเฟืองในการระบายสินค้า หลักการคือเคลื่อนย้ายสินค้าออกจากต้นทางให้ไวที่สุดเพราะสินค้าเกษตรเป็นสินค้าอ่อนไหว เน่าเสียเร็ว ทาง ชสท. จึงมีบทบาทหลักในการช่วยกระจายสินค้าออกจากพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงการทำประชาสัมพันธ์ นอกจากการช่วยสมาชิกยัง มีส่วนช่วยเหลือประชาชนทั่วไป สังคม นั่นคือโครงการข้าวแกงสหกรณ์ ราคา 10 บาท ซึ่งเริ่มมาหลายปีและได้รับการตอบรับมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายณศร กล่าวถึงกลยุทธ์การพัฒนาสหกรณ์ภาคการเกษตรไว้อย่างน่าสนใจ ว่า ชสท. วางแนวคิดที่จะสร้างความเติบโตของสหกรณ์ภาคการเกษตร โดยมุ่งเน้นยกระดับมาตรฐานสินค้าสหกรณ์ให้อยู่ในระดับสากล โดยหาผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ สอนการพัฒนาด้านการผลิต การเก็บเกี่ยว การบรรจุ ให้ได้มาตรฐานยอมรับระดับโลก รองรับแผนส่งออกสินค้าเกษตรไปต่างประเทศให้สำเร็จในที่สุด
“ ปีนี้ต้องเป็นปีแห่งความหวัง” คือวลีสั้นๆ "ณศร ออสุวรรณ" ฝากไว้ให้กำลังใจกับสหกรณ์สมาชิก รวมถึงทุกคนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังที่ต่างผ่านจุดสิ้นหวังอันเป็นผลกระทบจากโรคระบาดโควิด 19 มาหลายปีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในฐานะประธานชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยยินดีจะจุดประกายความหวังเพื่อให้ทุกคนผ่านห้วงเวลาแห่งความกลัวความสิ้นหวังมาสู่ความสำเร็จ ดังนั้น ชสท.จะมุ่งมั่นทำงาน สานงานต่อก่องานใหม่เพื่อประโยชน์ของสมาชิก และของชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นความหวังให้เกษตรกรไทยต่อไป
บุกร้านขายเคมีเกษตรโคราชขายชีวภัณฑ์ไม่ขึ้นทะเบียน
"สารวัตรเกษตร กรมวิชาการเกษตร"ประสานตำรวจ บุกบริษัทขายเคมีเกษตรเมืองโคราช ขายชีวภัณฑ์ไม่ขึ้นทะเบียนผ่านออนไลน ผิดพ.ร.บ.วัตถุอันตราย พร้อมอายัดผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์การผลิตกว่า 12 รายการ
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่าล่าสุดหน้าที่สารวัตรเกษตรได้ร่วมกับเจ้าพนักงานตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (กก.2 บก.ปคบ.) นำหมายค้นศาลจังหวัดนครราชสีมาเข้าตรวจค้น บริษัท สวนพัชรา จำกัด ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา จากการเข้าตรวจค้น บริษัท สวนพัชรา จำกัด พบผลิตภัณฑ์ต้องสงสัยว่าเป็นวัตถุอันตราย ชนิดที่ 2 ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 จำนวน 6 รายการ ได้แก่ 1.ผลิตภัณฑ์ไตรโคเดอร์มา ชนิดน้ำ สำหรับป้องกัน กำจัด และควบคุมแมลงศัตรูพืช ขนาดปริมาตร 1.5 ลิตร บรรจุในกระป๋องพลาสติด ทรงกลม จำนวน 42 ขวด 3. ผลิตภัณฑ์หัวเชื้อ เมตาไรเซียม สำหรับป้องกัน กำจัด และควบคุมแมลงศัตรูพืช ขนาดปริมาตร 1 ลิตร บรรจุในกระป๋องพลาสติก ทรงสี่เหลี่ยม สีขาว จำนวน 13 กระป๋อง4. ผลิตภัณฑ์เชื้อราบิวเวอเรีย สำหรับป้องกัน กำจัด และควบคุมแมลงศัตรูพืช ขนาดปริมาตร 1 ลิตร บรรจุในกระป๋องพลาสติก ทรงสี่เหลี่ยม สีขาว จำนวน 17 กระป๋อง 5. ผลิตภัณฑ์ บิวต้าที ชีวภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช แมลง ด้วง หนอน เพลี้ย ไร ขนาดปริมาตร 1 ลิตร บรรจุในกระป๋องพลาสติก ทรงสี่เหลี่ยม สีขาว จำนวน 10 กระป๋อง6. ผลิตภัณฑ์ จุลินทรีย์บีที ชนิดน้ำ สำหรับป้องกัน กำจัด และควบคุม แมลงศัตรูพืช ขนาดปริมาตร 1 ลิตร บรรจุในกระป๋องพลาสติก ทรงสี่เหลี่ยม สีขาว จำนวน 12 กระป๋อง โดยขนาดบรรจุ 1 ลิตร ราคา 250 บาท เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้อายัด ผลิตภัณฑ์รายการที่ 1- 6 ไว้ในที่เกิดเหตุ และเจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตร ได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์เพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการของกองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร ต่อไป "การตรวจสอบพบว่าสถานที่ดังกล่าวไม่มีใบรับรองแจ้งการผลิตวัตถุอันตราย และไม่มีใบสำคัญการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายชนิดที่ 2 รวมเจ้าหน้าที่ได้อายัดวัตถุอันตรายที่ผิดกฎหมาย รวมถึงวัตถุดิบที่เกี่ยวข้องไว้ทั้งหมดเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป" อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว "เฉลิมชัย"ตรวจความพร้อมสถานที่จัดพืชสวนโลก
"เฉลิมชัย"ตรวจดูความพร้อมของสถานที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมเป็นเจ้าบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับฟังบรรยายสรุปการเตรียมจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 (UDONTHANI International Horticultural Exhibition Expo 2026 ณ พื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด ต.กุดสระ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่ง สมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (International Association of Horticultural Producers : AIPH) ได้ประกาศการคัดเลือกอย่างเป็นทางการให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ทั้งนี้เมื่อเสร็จการจัดงานดังกล่าวแล้ว ทางจังหวัดอุดรธานีมีแผนจะอนุรักษ์พื้นที่ดังกล่าว เพื่อใช้ประโยชน์ต่อเนื่องเป็นศูนย์จัดแสดงนิทรรศการ ประเพณีวัฒนธรรม และศูนย์กลางกีฬานานาชาติ ของกลุ่มอนุภาคลุ่มน้ำโขงและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ซึ่งการเป็นเจ้าภาพมหกรรมพืชสวนโลกในปี 2569 ครั้งนี้ "วันนี้มาดูพื้นที่ในการจัดเตรียมงาน ซึ่งจะต้องร่วมมือกับทางจังหวัดและหน่วยงานต่าง ๆ ในการจัดเตรียมงาน โดยในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดเตรียมงบประมาณตั้งแต่ปี 2566 จากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กรมชลประทาน และประสานงานกับทางจังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดในเรื่องงบประมาณ ความพร้อมของพื้นที่ และระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ให้ถูกต้อง เพื่อให้งานพืชสวนโลกปี 2569 สมบูรณ์ที่สุด"รมว.เกษตรฯกล่าว นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยถึงการปรับปรุงการจัดเตรียมงาน และหลังจากจัดงานเสร็จ ทางนายก อบจ.อุดรธานี จะมาช่วยดูแลพื้นที่ตรงนี้ที่จะกลายเป็นมรดกของคนอุดรธานีต่อไป เกษตรฯขับเคลื่อนThai Rice NAMA ด้วยเทคโนโลยี 4 ป.
"เกษตรฯ"ขับเคลื่อนโครงการ Thai Rice NAMA เดินหน้าส่งเสริมและพัฒนาการผลิตข้าวด้วยเทคโนโลยี 4 ป. หนุนเกษตรกรทำนาลดก๊าซเรือนกระจก ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ พร้อมเตรียมเสนอ Thai Rice GCF เพิ่มศักยภาพของชาวนาในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างมั่นคง
นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการ Thai Rice NAMA มอบหมายให้ นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมหารือกับ นายแมทเทียส บิกเคล (Dr. Matthias Bickel) ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการด้านการเกษตรและอาหาร องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประเทศไทย นายสมชวน เปิดเผยว่า องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประเทศไทย ได้รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดภาวะโลกร้อนจากการทำนาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Thai Rice NAMA) และหารือการพัฒนาโครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตข้าวที่เท่าทันต่อสภาพภูมิอากาศ (Thai Rice GCF) การดำเนินงานโครงการ Thai Rice NAMA ในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคกลาง (ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และสุพรรณบุรี) มีความก้าวหน้าในการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตข้าวด้วยเทคโนโลยีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยกลุ่มเทคโนโลยีหลักประกอบด้วย 4 ป. ประกอบด้วย (1) การจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้งในการปลูกข้าว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญที่มีศักยภาพลดการปล่อยก๊าซมีเทนได้สูงถึง 70% และไม่มีผลทำให้ผลผลิตต่อไร่ต่ำลง (2) เทคโนโลยีการปรับระดับพื้นที่นาด้วยระบบเลเซอร์ (Laser land levelling : LLL) ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการน้ำในนาข้าวแบบเปียกสลับแห้งซึ่งทั้งสองเทคโนโลยีนี้จะลดปริมาณการใช้น้ำลงได้ประมาณ 40% รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพของปุ๋ยที่สามารถกระจายได้อย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งแปลงและทำให้ได้ผลผลิตสูงขึ้น (3) เทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินที่จะช่วยลดปริมาณการใช้ปุ๋ยลงได้ประมาณ 20% จากที่ใช้โดยทั่วไป (4) การส่งเสริมและสร้างแรงจูงใจทางเศรษฐกิจให้เป็นทางเลือกในการลดการเผาตอซังและฟางข้าว เพื่อ. ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดปริมาณ PM 2.5 ในอากาศ ซึ่งทั้ง 4 เทคโนโลยีข้างต้น นอกจากจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและจะเกิดผลประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปัจจัยการผลิตที่ช่วยลดต้นทุนการผลิตและทำให้ชาวนามีรายได้สูงขึ้นด้วยเช่นกัน การประชุมฯในครั้งนี้ เป็นการหารือเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการพัฒนาข้อเสนอโครงการ Thai Rice GCF ได้อย่างสอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์ของประเทศ รวมทั้งการมีส่วนร่วมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการดำเนินงานโครงการความร่วมมือไทย-เยอรมันด้านพลังงาน คมนาคม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Thai–German Cooperation – Energy, Mobility and Climate : TGC-EMC) ในภาคส่วนชีวมวล เพื่อสนับสนุนให้ภาคเกษตรกรเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศตามเจตนารมณ์ที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้ประกาศใน COP26 ให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ในปี ค.ศ. 2065 (พ.ศ. 2608) ต่อไป "สปก."เดินหน้าขุดบ่อน้ำโซลาเซลล์ในเขตปฏิรูป
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยว่าเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ การเกษตรในพื้นที่ สปก ล่าสุดทาง สปก ได้จัดมำ “โครงการก่อสร้างบ่อบาดาลและระบบสูบน้ำโซลาร์เซลล์เพื่อการเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดิน” ในพื้นที่ โดยได้ขุดเจาะบ่อบาดาลและวางระบบสูบน้ำโซล่าร์เซลล์เพื่อการเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดิน
"ส.ป.ก. จะเร่งดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งที่น้ำเพื่อการเกษตรไม่เพียงพอ เราจะเร่งดำเนินการโครงการสร้างแหล่งน้ำเพื่อเป็นแหล่งน้ำสำรอง และแก้ปัญหาภัยแล้ง รวมทั้งสร้างความมั่นใจให้แก่เกษตรกรในการเพาะปลูกแบบเกษตรผสมผสาน และสร้างคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้อยู่ได้ อยู่ดี และมีความสุขในพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน” เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าว |
สมาชิกหมายเลข 3402302
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
Friends Blog Link |