ก็แค่Weblogดองๆทำเล่นไปเรื่อยแหละน่าของกรรมกรกระทู้ลงชื่อและเมล์ที่Blogนี้สำหรับผู้ที่ต้องการGmailครับ
เข้ามาแล้วกรุณาตอบแบบสอบถามว่าคุณตั้งหน้าตั้งตาเก็บเนื้อหาในBlogไหนของผมบ้างนะครับ
รับRequestรูปCGการ์ตูนไรท์ลงแผ่นแจกจ่ายครับ
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter

เข้ามาเยี่ยมแล้วรบกวนลงชื่อทักทายในBlogไหนก็ได้Blogหนึ่งพอให้ทราบว่าคุณมาเยี่ยมแล้วลงสักหน่อยนะอย่าอายครับถ้าคุณไม่ได้เป็นหัวขโมยเนื้อหาBlog(Pirate)โจทก์หรือStalker

ความเป็นกลางไม่มีในโลก มีแต่ความเป็นธรรมเท่านั้นเราจะไม่ยอมให้คนที่มีตรรกะการมองความชั่วของ มนุษย์บกพร่อง ดีใส่ตัวชั่วใส่คนอื่น กระทำสองมาตรฐานและเลือกปฏิบัติได้ครองบ้านเมือง ใครก็ตามที่บังอาจทำรัฐประหารถ้าไม่กลัวเศรษฐกิจจะถอยหลังหรือประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ได้เจอกับมวลมหาประชาชนที่ท้องสนามหลวงแน่นอน

มีรัฐประหารเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ขอให้มวลมหาประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน จงไปชุมนุมพร้อมกันที่ท้องสนามหลวงทันที

พรรคการเมืองนะอยากยุบก็ยุบไปเลย แต่ึอำมาตย์ทั้งหลายเอ็งไม่มีวันยุบพรรคในหัวใจรากหญ้ามวลมหาประชาชนได้หรอก เสียงนี้ของเราจะไม่มีวันให้พรรคแมลงสาปเน่าๆไปตลอดชาติ
เขตอภัยทาน ที่นี่ไม่มีการตบ,ฆ่าตัดตอนหรือรังแกเกรียนในBlogแต่อย่างใดทั้งสิ้น
อยากจะป่วนโดยไม่มีสาระมรรคผลปัญญาอะไรก็เชิญตามสบาย(ยกเว้นSpamไวรัสโฆษณา มาเมื่อไหร่ฆ่าตัดตอนสถานเดียว)
รณรงค์ไม่ใช้ภาษาวิบัติในโลกinternetทั้งในWeblog,Webboard,กระทู้,ChatหรือMSN ถ้าเจออาจมีลบขึ้นอยู่กับอารมณ์ของBlogger
ยกเว้นถ้าอยากจะโชว์โง่หรือโชว์เกรียน เรายินดีคงข้อความนั้นเพื่อประจานตัวตนของโพสต์นั้นๆ ฮา...

ถึงอีแอบที่มาเนียนโพสต์โดยอ้างสถาบันทุกท่าน
อยากด่าใครกรุณาว่ากันมาตรงๆและอย่าได้ใช้เหตุผลวิบัติประเภทอ้างเจตนาหรือความเห็นใจ
ไปจนถึงเบี่ยงเบนประเด็นไปในเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันฯเป็นอันขาด

เพราะการทำเช่นนี้รังแต่จะทำให้สถาบันฯเกิดความเสียหายซะเอง ผมขอร้องในฐานะที่เป็นRotational Royalistคนหนึ่งนะครับ
มิใช่Ultra Royalistเหมือนกับอีแอบทั้งหลายทุกท่าน

หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ตรรกะวิบัติ รณรงค์ต่อต้านการใช้ตรรกะวิบัติทุกชนิด แน่นอนความรุนแรงก็ต้องห้ามด้วยและหยุดส่งเสริมความรุนแรงทุกชนิดไม่ว่าทางตรงทางอ้อมทุกคนทุกฝ่ายโดยเฉพาะพวกสีขี้,สื่อเน่าๆ,พรรคกะจั๊ว,และอำมาตย์ที่หากินกับคนที่รู้ว่าใครต้องหยุดปากพล่อยสุมไฟ ไม่ใช่มาทำเฉพาะเสื้อแดงเท่านั้นและห้ามดัดจริต


ใครมีอะไรอยากบ่น ก่นด่า ทักทาย เชลียร์ เยินยอ ไล่เบี๊ย เอาเรื่อง คิดบัญชี กรรมกรกระทู้(ยกเว้นSpamโฆษณาตัดแปะรำพึงรำพัน) เชิญได้ที่ My BoardในMy-IDของกรรมกรที่เว็ปเด็กดีดอทคอมนะครับ


Weblogแห่งนี้อัพแบบรายสะดวกเน้นหนักในเรื่องข้อมูลสาระใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว ไม่ตามกระแส ไม่หวังปั่นยอดผู้เข้าชม
สำหรับขาจรที่นานๆเข้ามาเยี่ยมสักที Blogที่อัพเดตบ่อยสุดคือBlogในกลุ่มการเมือง
กลุ่มหิ้งชั้นการ์ตูนหัวข้อรายชื่อการ์ตูนออกใหม่รายเดือนในไทย
และรายชื่อการ์ตูนออกใหม่ที่ญี่ปุ่นในตอนนี้

ช่วงที่มีงานมหกรรมและสัปดาห์หนังสือแห่งชาติประจำครึ่งปี(ทวิมาส)จะมีการอัพเดตBlogในกลุ่มห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญา
และหิ้งชั้นการ์ตูนของกรรมกรกระทู้


Hall of Shame กรรมกรมีความภูมิใจที่ต้องขอประกาศหน้าหัวนี่ว่า บุคคลผู้มีนามว่า ปากกาสีน้ำ......เงิน หรือ กลอน เป็นขาประจำWeblogแห่งนี้ที่เสพติดBlogการเมืองและใช้เหตุวิบัติอ้างเจตนาในความเกลียดชังแม้วเหลี่ยมและความเห็นใจในสถาบัน เบี่ยงประเด็นในการแสดงความเห็นเป็นนิจ ขยันขันแข็งแบบนี้เราจึงขอขึ้นทะเบียนเขาคนนี้ในหอเกรียนติคุณมา ณ ที่นี้ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

Group Blog
นิยายดองแต่งแล่นบันทึกการเดินทางของกรรมกรกระทู้คำทักทายกับสมุดเยี่ยมพงศาวดารมหาอาณาจักรบอร์ดพันทิพย์สาระ(แนว)วงการการ์ตูนมารยาทในสังคมออนไลน์ที่ควรรู้แจกCDพระไตรปิฎกฟรีรวมเนื้อเพลงดีๆจากดีเจกรรมกรกระทู้รวมแบบแผนชีวิตของกรรมกรกระทู้ชั้นหิ้งการ์ตูนของกรรมกรกระทู้ภัยมืดของโลกออนไลน์เรื่องเล่าในโอกาสพิเศษห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญาของกรรมกรกระทู้กิจกรรมของกรรมกรกระทู้กับInternetคุ้ยลึกวงการบันเทิงโทรทัศน์ตำราพิชัยสงครามซุนวูแฟนพันธ์กูเกิ้ลหน้าสารบัญคลังเก็บรูปกล่องปีศาจ(ขอPasswordได้ที่หลังไมค์)ลูกเล่นเก็บตกจากเน็ตสาระเบ็ดเตล็ดรู้จักกับงานเทคนิคการแพทย์ของกรรมกรรวมภาพถ่ายโดยช่างภาพกรรมกรรวมกระทู้ดีๆการเมือง1กรรมกรกับโรคAspergerรวมกระทู้ดีๆการเมือง2ความเลวของสื่อความเลวของพรรคประชาธิปัตย์ความเลวของอำมาตย์ศักดินาข้อมูลลับส่วนตัวกรรมกรที่ไม่สามารถเผยได้ในการทั่วไปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายรวมบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจการเงินเจาะฐานการเมืองท้องถิ่น

ถึงผู้ที่ต้องการขอpasswordกล่ิองปีศาจหรือFollowing Userใต้ดินเพื่อติดตามข่าวการอัพเดตกล่องปีศาจและดูpasswordมีเงื่อนไขว่ากรุณาแจ้งอายุ ระดับการศึกษาหรืออาชีพการงาน และอำเภอกับจังหวัดของภูมิลำเนาที่คุณอยู่ เป็นการแนะนำตัวท่านเองตอบแทนที่ผมก็แนะนำตัวเองในBlogไปแล้วมากมายกว่าเยอะ อีกทั้งยังเก็บรายชื่อผู้เข้ามาเยี่ยมGroup Blogนี้ไปด้วย
ถ้าอยากให้คำร้องขอpasswordหรือการFollowing Userใต้ดินผ่านการอนุมัติขอให้อ่านBlogข้างล่างนี่นะครับ
ข้อแนะนำการเขียนProfileส่วนตัว

อยากติดตั้งแถบโฆษณาแนวนอน ณ ที่ตรงนี้จังเลยพับผ่าสิเมื่อไหร่มันจะยอมให้ใช้Script Codeได้นะเนี่ย เพราะคลิกโฆษณาที่ได้มาตอนนี้ได้มาจากWeblogของผมที่Exteen.comซึ่งทำได้2-4คลิกมากกว่าที่นี่ซึ่งทำได้แค่0-1คลิกซะอีก ทั้งๆที่ยอดUIPที่นี่เฉลี่ยที่400กว่าแต่ของExteenทำได้ที่200UIP ไม่ยุติธรรมเลยวุ้ยน่าย้ายฐานจริงๆพับผ่า
เนื่องจากพี่ชายของกรรมกรแนะนำW​eb Ensogoซึ่งเป็นWebขายDeal Promotion Onlineสุดพิเศษ ซึ่งมีอาหารและของน่าสนใจราคาถูกสุดพิเศษให้ได้เลือกกัน ใครสนใจก็เชิญเข้ามาลองชมดูได้ม​ีของแบบไหนที่คุณสนใจบ้าง
เปรียบเทียบ 'ทีวีสาธารณะ' แบบอเมริกา-ไทย

พีร์ พงศ์พิพัฒนพันธุ์

เปรียบเทียบและข้อสังเกตบางประการ ของ PBS ของสหรัฐอเมริกา และไทยพีบีเอสของไทย
กิจการของทีวีสาธารณะ หรือที่รู้จักกันในชื่อ PBS เป็นชื่อของทีวีสาธารณะของอเมริกัน มาจาก Public Broadcasting Service เป็นองค์กรไม่หวังผลกำไร ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1970 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนับเป็นเวลาประมาณ 42 ปีแล้ว โดยมีสำนักใหญ่ที่เมืองอาลิงตัน มลรัฐเวอร์จิเนีย เมืองเดียวกับสถานที่ตั้งสำนักงาน CIA

ส่วน “Thai PBS” อยู่ภายใต้การกำกับดูแลขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ซึ่งเปิดดำเนินการ 15 มกราคม พ.ศ.2551 พยายามเอาปรัชญาหรือแนวคิด (หรือเลียนแบบ) กิจการของทีวีสาธารณะของอเมริกันแห่งนี้ ภายหลังจากที่กิจการ ITV เดิมที่ใช้ระบบการประมูล ประกอบกิจการไม่เป็นผลสำเร็จ

เรียกว่า แม้แต่การก่อเกิดองค์กรก็แตกต่างกันเสียแล้ว แม้ทีวีฟากไทยได้พยายามจะลอกเลียนแบบรูปแบบ (Concept) การบริหารจัดการและการทำรายการของ US PBS ก็ตาม แต่จากรูปการณ์แล้ว หลายอย่างไม่น่าจะเป็นไปตามที่คาดหวังกันไว้แต่แรก

อาจมองได้ว่า ระบบการทำสื่อทีวีของไทยกับระบบของอเมริกันแตกต่างกัน แต่ก็ไม่แน่เสมอไป เพราะเดี๋ยวนี้ระบบการบริหารจัดการเทคโนโลยีและระบบข้อมูลแทบไม่แตกต่างกัน เมื่อโลกกลายเป็นหนึ่งเดียวอย่างไม่สามารถแยกข้อมูลสารสนเทศออกจากกันได้อีกต่อไป อีกนัยหนึ่งก็คือ ปัจจุบันแทบไม่มีพรมแดนด้านข่าวสารข้อมูลหลงเหลืออยู่อีกแล้วนั่นเอง

คงไม่บังอาจเทียบกิจการทีวีสาธารณะของ 2 ประเทศ คือ ไทยกับอเมริกัน ขณะที่ข้างหนึ่งเพิ่งโตมาเพียงไม่กี่ปี อีกข้างหนึ่งโตมา 40 กว่าปี ซึ่งนับว่าแตกต่างกันมาก แต่อย่างที่บอก คือโลกปัจจุบัน ระบบสื่อมวลชนไม่ว่าอเมริกาหรือไทยแทบไม่แตกต่างอะไรกันมากนัก การหาข้ออ้างเรื่องระยะเวลาการเติบโต หรือการฟูมฟักกิจการจึงไม่น่าจะถูกต้องทั้งหมด

โดยเหตุที่ทีวีสาธารณะเป็นของคนทุกคน ในระบบของอเมริกัน ทีวีสาธารณะนำเสนอรายการที่เน้นเนื้อหาสาระแทบจะเต็มๆ ทีเดียว และโดยเหตุที่อเมริกาเป็นประเทศใหญ่ จึงมีสถานี PBS ท้องถิ่นกระจายอยู่ทั่วไปในหลายๆ รัฐ รายการและรูปแบบรายการก็แตกต่างกันไปตามท้องถิ่นหรือรัฐนั้นๆ

รูปแบบทุนสนับสนุนกิจการของ US PBS มาจาก 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นเงินอุดหนุนจากรัฐบาลกลาง ส่วนที่สอง เป็นเงินสนับสนุนจากผู้บริจาค หรือจากบรรดาสมาชิกของ PBS เอง ซึ่งเงินสนับสนุนในส่วนที่สองนี้นับเป็นทุนสนับสนุนส่วนใหญ่ มีจำนวนเกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ หรือมากกว่าทุนที่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐเสียด้วยซ้ำ

ข้อวิพากษ์ถึงความเป็นกลางของทีวีอเมริกันช่องเดียวกันนี้มีอยู่ แต่ไม่ค่อยมากนัก จากการสำรวจของ Roper polls ซึ่งเป็นสถาบันวิจัย พบว่า US PBS เป็นองค์กรที่คนอเมริกันให้ความไว้วางใจมากที่สุด
ส่วนหนึ่งเพราะสถานีเดียวกันนี้มีรายการที่เน้นไปเพื่อการศึกษาเสียมาก เป็นรายการการศึกษาอย่างจริงจัง (ซีเรียส) หรืออย่างเป็นการเป็นงานเสมือนการทำวิจัย ไม่เป็นแบบสุกเอาเผากิน (นิยามของ “ทีวีเพื่อการศึกษา” ของสื่อองค์กรนี้ไม่ได้หมายถึงการศึกษาในรูปแบบการเรียนการสอนทางไกล แต่เป็นการศึกษาผ่านสื่อทีวีเพื่อให้ความรู้กับประชาชนในหลายๆ ด้านอย่างกลมกลืนกับการรับสื่อในชีวิตประจำวัน เช่น ด้านประวัติศาสตร์ ด้านสังคม ด้านวัฒนธรรม ด้านสภาพแวดล้อม เป็นต้น)

ในส่วนของการนำเสนอด้านข่าวของ PBS ส่วนใหญ่เป็นการสัมภาษณ์และเป็นการวิเคราะห์ข่าวมากกว่าที่จะเน้นการทำข่าวเสียเอง เช่น รายการ NewsHour ของ จิม เลห์เรอร์(Jim Lehrer) ที่ถือว่าอยู่มานานหลายปี มีชื่อเสียงและมีความน่าเชื่อถือมาก ส่วนรายการข่าวก็อย่างเช่นรายการ Frontline สำแดงถึงศักยภาพที่เป็นที่น่าเชื่อได้ว่า ไม่เอียงข้าง (ไม่เอียงข้างทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ คงเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างน้อย US PBS ก็ได้รับการวิจารณ์ในทำนองนี้น้อยกว่าทีวีอเมริกันช่องพาณิชย์อื่นๆ )

ประเด็นที่ US PBS ถูกวิจารณ์ ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการบริหารจัดการผู้บริหารและพนักงานในองค์กร ซึ่งเชื่อมกับที่มาของเงินทุนสนับสนุนองค์กร สื่อสิ่งพิมพ์อเมริกันบางฉบับเคยวิจารณ์รูปแบบการบริหารของสถานีแห่งนี้ว่า น่าจะทำให้มีรูปแบบเชิงพาณิชย์มากขึ้น ในเมื่อผู้บริหารของสถานีมีรายได้จำนวนมากพอๆกับช่องทีวีพาณิชย์อื่นๆ เช่น ABC ,NBC , CBS , FOX หรือ CNN หมายถึง เป็นองค์กรสื่อไม่หวังผลกำไรก็จริง แต่มีลักษณะการทำงานในเชิงพาณิชย์อยู่ในที ซึ่งก็เหมือนองค์กรไม่หวังผลกำไรหลายองค์กรในอเมริกาที่ได้รับเงินสนับสนุนจำนวนมาก จนผู้บริหารตั้งเงินเดือนหรือค่าตอบแทนของตัวเองสูงมากจนดูน่าเกลียด

อย่างไรก็ตาม ในประเด็นเดียวกันนี้ คงไม่สามารถวิจารณ์การบริหารงานของ US PBS ได้ทั้งหมดเสียทีเดียว เพราะการให้ความสนับสนุนสถานีแห่งนี้ของประชาชนหรือองค์กรเอกชนต่างๆ เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ส่วนหนึ่ง อย่างน้อยก็มีการระดมทุนเพื่อเป็นทุนในการบริหารงานของสถานีแห่งนี้ทุกปี และยังมีคนอเมริกันให้การสนับสนุนสื่อสาธารณะแห่งนี้อย่างมากมาย หากเมื่อเทียบกับ Thai PBS ที่กลไก (หน่วยงาน) ของรัฐไทยให้การสนับสนุนแล้ว นับว่าแตกต่างกันอย่างมากเลยทีเดียว

คำถามก็คือ คณะกรรมการ(บอร์ด)ของ Thai PBS ที่แม้จะเป็นองค์กรอิสระก็จริง แต่จะให้เชื่อว่าอิสระจริงได้อย่างไร ในเมื่อผูกโยงกับฝ่ายการเมืองในเรื่องการสนับสนุนด้านการเงินในสัดส่วนที่แทบจะร้อยทั้งร้อย (กฎหมายเปิดโอกาสให้เอกชนไทยสนับสนุนด้านการเงิน แต่ก็น่าเชื่อว่า เงินส่วนนี้มีจำนวนน้อยมาก??? ทั้งยังเป็นเรื่องลึกลับที่รู้กันอยู่เฉพาะวงใน)

เมื่อพิจารณาถึงลักษณะการทำงาน โดยเฉพาะการทำรายการของ US PBS ที่มีการทำงานแบบเป็นทีมสูง แต่ดูเหมือน Thai PBS กลับให้ภาพความเป็นปัจเจกของคนทำรายการมากกว่าอย่างอื่น คือ มุ่งสนองต่อความเป็นปัจเจกของผู้จัดทำ (ผลิต) หรือผู้สร้างสรรค์รายการมากกว่า ทั้งนี้อาจเพราะคนไทยทำงานเป็นทีมกันไม่ค่อยเป็นหรือไม่ ก็เป็นสิ่งที่น่าคิด

ประเด็นที่น่าจับตามองอีกประการที่เกี่ยวกับนโยบายการทำงานของ US PBS คือ การมุ่งกระจายแห่งที่มาของรายการไปยังเอกชนอื่นๆ นอกเหนือเครือข่ายขององค์กร (Third Party Sources) เช่น NETA, American Public Television, WTTW National Productions เป็นต้น เพื่อทำงานด้านผลิตรายการอีกทาง ทำให้เกิดความหลากหลายต่อผู้ชม หรือคนรับสื่อ และมีรายการทางเลือกมากขึ้น ทำให้เกิดพัฒนาการของการทำสื่อที่มาจากมวลชนจริงๆ แม้กระทั่งการรายงานข่าวจากพื้นที่นั้นๆ ในแต่ละท้องถิ่น

ในประเด็นเดียวกันนี้ ไม่ทราบว่า Thai PBS ได้ก้าวหน้าไปถึงไหน หรือมีการพยายามรวบอำนาจไว้ที่ส่วนกลางหรือไว้ที่องค์กรที่กรุงเทพทั้งหมดหรือไม่ , หมายถึง อำนาจของคณะกรรมการด้านโยบายและอำนาจในส่วนของคณะกรรมการบริหาร ซึ่งหากเป็นอย่างว่านี้ ก็เท่ากับ Thai PBS มุ่งสนองต่อผลประโยชน์ของกลุ่มบุคคลเท่านั้น และเป็นองค์กรสาธารณะที่มีนโยบายและการบริหารที่คับแคบมาก จะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม

ขณะเดียวกันในส่วนของรายการที่พยายาม “ดันประชาชน” (นักข่าวพลเมือง) ให้ทำสื่อทีวีให้เป็นนั้น ก็ไม่แน่ชัดว่าจะได้ผลอะไรมากนัก จากปัญหาที่เป็นสาเหตุ 2 ประการ คือ

ประการ แรก แรงจูงใจให้ประชาชน (พลเมือง) ทำรายการออกมาดีๆ มีหรือไม่ ในสัดส่วนเท่าไร หรือเป็นการมุ่งโปรโมทสร้างภาพว่า เป็นทีวีประชาชนหรือเป็นทีวีสาธารณะเท่านั้น โดยที่เงินเดือนและผลตอบแทนของคณะผู้บริหารก็เลยหลักแสนกับแทบทั้งสิ้น

ประการที่สอง ยังไม่มีการประเมินผลรายการพลเมืองดังกล่าวนี้อย่างจริงจังแต่อย่างใด ดูไปจึงไม่ต่างไปจากรายการโชว์รายการหนึ่ง (อย่างน้อยๆ ก็จำอวดภาษาท้องถิ่นให้ได้เห็นกันทางทีวี) ติดอยู่กับกระพี้ ไม่ได้นำเสนอเชิงลึกถึงแก่นจริงๆ ของปัญหา ของชาวบ้านจริงๆ

เปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ ตรงๆ อย่างนี้ เพราะต่าง(ก็อ้าง)เป็นทีวีสาธารณะด้วยกันทั้งคู่

ที่มา : //www.prachatai.com/journal/2013/02/45485


Create Date : 23 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2556 14:53:47 น. 0 comments
Counter : 1563 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]









ผม ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
สามัญชนคนเหมือนกัน(All normal Human)
คนจรOnline(ได้แค่ฝัน)แห่งห้วงสมุทรสีทันดร
(Online Dreaming Traveler of Sitandon Ocean)
กรรมกรกระทู้สาระ(แนว)อิสระผู้ถูกลืมแห่งโลกออนไลน์(Forgotten Free Comment Worker of Online World)
หนุ่มสันโดษ(ผู้มีชีวิตที่พอเพียง) นิสัยและความสนใจแปลกแยกในหมู่ญาติพี่น้องและคนรู้จัก (Forrest Gump of the family)
หนุ่มตาเล็กผมสั้นกระเซิงรูปไม่หล่อพ่อไม่รวย แถมโสดสนิทและอาจจะตลอดชีวิตเพราะไม่เคยสนใจผู้หญิงกะเขาเลย
บ้าในสิ่งที่เป็นแก่นสารและสาระมากกว่าบันเทิงเริงรมย์
พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ดีๆกับบันทึกในโลกออนไลน์แล้วครับ
กรุณาปรับหน้าจอเป็นขนาด1024*768เพื่อการรับชมBlog
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter
และติดตามพูดคุยนำเสนอด้านมืดของกรรมกรผ่านTwitterอีกภาคหนึ่ง
Google


ท่องไปทั่วโลกหาแค่ในพันทิบก็พอ
ติชมแนะนำหรือขอให้เพิ่มเติมเนื้อหาWeblog กรุณาส่งข้อความส่วนตัวถึงผมโดยตรงได้ที่หลังไมค์ช่องข้างล่างนี้


รับติดต่อเฉพาะผู้ที่มีอมยิ้มเป็นตัวเป็นตนเท่านั้น ไม่รับติดต่อทางE-Mailเพื่อสวัสดิภาพการใช้Mailให้ปลอดจากSpam Mailครับ
Addชื่อผมลงในContact listของหลังไมค์
free counters



Follow me on Twitter
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.