ว่าด้วยเรื่องตลาดการ์ตูนแนวตีแผ่สาระสำหรับเยาวชน
นับย้อนอดีตไปกว่า20ปีผู้เขียนยังจำได้ว่าสำนักพิมพ์ซีเอ็ดได้เคยบุกเบิกซื้อลิขสิทธิ์นำเข้าการ์ตูนMangaตีแผ่สาระสำหรับเยาวชนจากสำนักพิมพ์Gakkenในช่วงที่ตลาดการ์ตูนMangaบันเทิงกระแสหลักฉบับไพเรตเจริญรุ่งเรืองในช่วงปี2530กว่าๆช่วงนั้นผู้เขียนยังเป็นเด็กประถมที่ไม่เคยสนใจใฝ่การศึกษาอย่างจริงจังสักเท่าไหร่นักพอได้อ่านการ์ตูนที่แม่ของผู้เขียนได้ซื้อยกชุดทั้งกล่องแล้วนั้นเลยทำให้ผู้เขียนมีแรงบันดาลใจที่จะทุ่มเทชีวิตให้กับการเรียนขึ้นมาบ้างแต่หลังจากนั้นไม่นานการ์ตูนMangaตีแผ่สาระก็เริ่มหายไปจากท้องตลาดและเข้าสู่ยุคMangaลิขสิทธิ์อย่างเต็มรูปแบบก็แทบจะไม่มีการ์ตูนสาระสำหรับเยาวชนวางขายในท้องตลาดไปยาวนานหลายปี จนกระทั่งเมื่อสำนักพิมพ์E.Q.Plusได้ถือกำเนิดและตีพิมพ์การ์ตูนสาระสำหรับเยาวชนวาดโดยฝีมือคนไทยอย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกในประวัติศาสตร์สิ่งพิมพ์และได้รับนิยมจากครู,โรงเรียน,ผู้ปกครองและบุตรหลานอยู่พอสมควร(ถ้ามันขายดีอย่างล้นหลามจริงๆละก็ คิดว่าทางE.Q.Plusก็น่าจะเอามาพิมพ์ขายหากินใหม่อีกครั้งไปได้ยาวนานหลายปีไม่ใช่พอขายหมดชุดแล้วก็เลิกไม่พิมพ์ขายต่อซะยังงั้น คาดว่าน่าจะเพราะผู้บริหารบริษัทกลัวจะขาดทุนขึ้นมาเนื่องจากคนในสำนักพิมพ์ตอนนั้นเคยผ่านประสบการณ์อันเจ็บปวดจากการที่ไปร่วมทุนกับQuickPC Networkเจ้าของธุรกิจสื่อนิตยสารคอมพิวเตอร์IT เพื่อทำธุรกิจนิตยสารข่าวและสาระปลุกกระแสวงการการ์ตูนในตำนานอย่างComicQuestแล้วก็ต้องเจ๊งไม่เป็นท่าเพราะยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้และไม่สามารถจัดการบัญชีรายรับรายจ่ายให้ลงตัวได้เลย)โดยตัวอย่างหนังสือที่ออกขายไปก็เช่น การ์ตูนสาระชุดประวัติศาสตร์ชาติไทย,ชีวะประวัติบุคคลสำคัญในยุคศักดินาไทย,บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์โลก,เจาะตำนานรอบโลก ฯลฯนั้นจึงทำให้สำนักพิมพ์กระแสหลักรายสำคัญอย่างซีเอ็ดต้องหันมาสนใจหนังสือแนวนี้อีกครั้งรวมไปถึงสำนักพิมพ์กระแสหลักที่เพิ่งตั้งเมื่อช่วงปี2540กว่าๆแต่กลับเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในชื่อนานมีบุ๊คส์ ก็หันมาจับตลาดแนวนี้ตามไปด้วยหลังจากที่ในช่วงแรกๆสำนักนี้ได้เคยบุกเบิกซื้อลิขสิทธิ์นำเข้าการ์ตูนสาระเยาวชนจากฝั่งอเมริกาและยุโรปมาขายในไทยไปหลายเล่มนับตั้งแต่ช่วงปี2550กว่าๆเป็นต้นมา เมื่อ2สำนักพิมพ์ใหญ่เริ่มขยับตัวนั้นจึงทำให้E.Q.Plusต้องปรับตัวเองเพื่อรับมือแข่งขันกับการ์ตูนสาระเยาวชนนำเข้าจากเกาหลีอย่างขนานใหญ่ทำให้ต้องเปลี่ยนแนวหนังสือสาระของตัวเองกลายมาเป็นการ์ตูนซีรีย์บันเทิงเรื่องยาวแนวสาระอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้และเลิกจัดทำการ์ตูนชุดเก่าๆที่เคยขายไปจนหมดสิ้นเนื่องจากกลัวว่าจะไม่สามารถสู้ยอดขายการ์ตูนจากเกาหลีจนต้องประสบกับภาวะขาดทุนได้นอกเหนือจากE.Q.Plusแล้วก็มี -สำนักพิมพ์ทีวีบูรพาซึ่งได้หันมาจับธุรกิจการ์ตูนสาระด้วยโดยการนำเอาบทจากรายการสารคดียอดนิยมอย่าง กบนอกกะลามาวาดนำเสนอเป็นการ์ตูนลายเส้นของคนไทยขายไปหลายเล่มด้วยกัน -สำนักพิมพ์SkyBookที่ทำธุรกิจคู่มือเตรืยมสอบระดับประถมมัธยมและคู่มือกีฬาก็ได้บุกเบิกการ์ตูนลายเส้นคนไทยวาดจากนิยายพื้นบ้าน,วรรณคดีไทยโบราณ,ราชนิพนธ์,วรรณกรรมจีนโบราณและชีวะประวัติศักดินาไทยโดยผลงานชิ้นสำคัญของค่ายนี้ก็คือซีรีย์การ์ตูนเรื่องยาวชุดผจญภัยตามรอยพระพุทธเจ้า(พระเจ้า500ชาติ)ที่วาดโดยแต่งเพิ่มเติมอิงจากเนื้อหานิทานชาดกจากพระไตรปิฎกกำหนดจำนวนเล่มไว้ทั้งหมด100เล่ม(เล่มละ5ชาติ)ซึ่งตอนนี้ก็ยังคงจัดทำอยู่ -สำนักพิมพ์Bookwaveเป็นอีกค่ายที่นำเข้าลิขสิทธิ์การ์ตูนสาระจำนวนมากจากเกาหลีแข่งกันมาติดๆกับนานมีบุ๊คส์เช่นกันรวมไปถึงการ์ตูนเกาหลีวาดจากวรรณกรรมในตำนานของโลกจากฝั่งยุโรปและอเมริกาหลายเรื่อง -สำนักพิมพ์ReadComics สำนักพิมพ์หน้าใหม่ในเครือของIDC Premierเจ้าของธุรกิจสิ่งพิมพ์คอมพิวเตอร์ITที่เพิ่งจะเปิดมาเพื่อหวังบุกเบิกตลาดการ์ตูนสาระสำหรับเยาวชนด้วยเช่นกันโดยใช้แนวทางเดียวกับE.Q.Plusในตอนนี้นั้นก็คือ การ์ตูนซีรีย์เรื่องยาวตีแผ่สาระนั้นเอง โดยการ์ตูนสาระสำหรับเยาวชนที่สำนักพิมพ์ใหญ่อย่างซีเอ็ดและนานมีบุ๊คส์ได้ตัดสินซื้อลิขสิทธิ์เพื่อเอามาตีตลาดปลุกกระแสการอ่านให้กับเยาวชนและผู้ปกครองก็คือการ์ตูนนำเข้าจากเกาหลีและจีนที่ยังคงแพร่หลายอยู่ในตลาดหนังสือมาจนถึงตอนนี้แต่โดยส่วนใหญ่การ์ตูนแนวนี้ที่นำเข้ามามักจะเป็นของเกาหลีซะส่วนใหญ่มีของจีนเพียงแค่ไม่กี่เล่มเท่านั้น แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตอยู่มากเลยว่าทำไมทั้งซีเอ็ดและนานมีบุ๊คส์จึงแทบจะไม่นำการ์ตูนMangaแนวนี้จากญี่ปุ่นมาขายในประเทศไทยเลยแม้แต่เรื่องเดียว? ทั้งๆที่ญี่ปุ่นคือชาติที่น่าจะมีต้นทุนและประสบการณ์ในการจัดทำและตีพิมพ์การ์ตูนMangaแนวนี้มากกว่าและคุณภาพเนื้อหาก็น่าจะออกมาดีกว่าชาติอื่นอย่างเกาหลีและจีนด้วยซ้ำไป คำตอบของเรื่องนี้ก็คือเพราะวัฒนธรรมหนังสือของญี่ปุ่นที่มีการเปิดอ่านซึ่งแตกต่างจากโลกสากลนั้นเอง ปกติวัฒนธรรมการเขียนตัวหนังสือของชนชาติต่างๆโดยทั่วไปมักจะเขียนเรียงบรรทัดจากด้านบนในแนวนอนโดยเริ่มจากซ้ายไปขวาพอจบบรรทัดแล้วถึงค่อยขึ้นบรรทัดใหม่ทางด้านซ้ายไล่ลงมาข้างล่างหนังสือที่ตีพิมพ์ออกมาจึงต้องพลิกหน้าเปิดจากขวาไปซ้ายแบบที่เราคุ้นเคยกันดี(ยกเว้นภาษาอาหรับที่เริ่มเขียนเรียงบรรทัดจากขวามาซ้ายไล่จากบรรทัดบนมาล่าง)แต่การเขียนตัวหนังสือของญี่ปุ่นนั้นได้รับสืบทอดมาแต่โบราณจากจีนและเกาหลีที่เขียนตัวหนังสือลงในม้วนผ้าไหมที่คลี่ม้วนออกมาจากทางด้านซ้ายแล้วใช้มือขวาถือพู่กันเขียนลงไปโดยเรียงเป็นแถวจากบนลงล่างจากนั้นจึงขึ้นแถวใหม่ที่ด้านซ้ายไปเรื่อยๆพอเริ่มมีการทำกระดาษฟางเกิดขึ้นหนังสือที่เย็บเป็นเล่มออกมาก็ต้องพลิกหน้าเปิดจากซ้ายไปขวาแตกต่างจากหนังสือของโลกสากลไปเลยตัวอย่างก็คือMangaลิขสิทธิ์แปลไทยที่ตีพิมพ์อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเดิมทีสำนักพิมพ์Mangaลิขสิทธิ์แปลไทยเคยกลับด้านต้นฉบับเพื่อให้Mangaตีพิมพ์ออกมานั้นเปิดอ่านเหมือนกับโลกสากลที่เราคุ้นเคยกันจนกระทั่งเข้าสู่ปี2548-49 สำนักพิมพ์เจ้าของลิขสิทธิ์Mangaในญี่ปุ่นได้เริ่มบังคับให้สำนักพิมพ์ในไทยต้องตีพิมพ์Mangaตามต้นฉบับของตนอย่างถาวร นั้นจึงทำให้Mangaฉบับเปิดอ่านแบบไทยค่อยๆหายไปจากตลาดหนังสือทีละน้อยไปกับการจบชุดของMangaเรื่องที่ซื้อไปก่อนหน้านั้น อ๊ะเดี๋ยวก่อนเมื่อกี้เราเพิ่งจะพูดไปนี่นะว่าวัฒนธรรมหนังสือของญี่ปุ่นนั้นได้รับสืบทอดมาจากจีนและเกาหลีนี่นาถ้าเช่นนั้นวัฒนธรรมหนังสือของจีนและเกาหลีก็ต้องแตกต่างจากโลกสากลตามไปด้วยสิคุณเข้าใจถูกแล้วละเพียงแต่ว่าวัฒนธรรมหนังสือในยุคปัจจุบันของจีนและเกาหลีนั้นได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิงมาตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่2ไปแล้วโดยกรณีของจีนนั้นได้มีนโยบายปฏิวัติวัฒนธรรมของตัวเองให้เข้ากับสากลนิยมเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชาติรวมไปถึงปฏิวัติวัฒนธรรมการเขียนและตีพิมพ์หนังสือของตนให้เข้ากับโลกสากลตามไปด้วยโดยการริเริ่มของพรรคคอมมิวนิสต์จีนยุคหลังได้รับชัยชนะจากการสุ้รบด้วยกำลังและอุดมการเหนือพรรคก๊กมินตั๋งและขับไล่พรรคก๊กมินตั๋งให้ไปตั้งฐานที่มั่นณ เกาะไต้หวันตราบถึงปัจจุบัน(นี่จึงเป็นเหตุผลให้วัฒนธรรมหนังสือของชาวไต้หวันนั้นยังคงรักษาธรรมเนียมดั้งเดิมของตนได้เหมือนกับของญี่ปุ่นโดยสำนักพิมพ์เนชั่นเอ็ดดูเทนเมนต์ก็เพิ่งจะซื้อลิขสิทธิ์นำเข้าการ์ตูนสาระจากไต้หวันมาตีพิมพ์ขายในไทยไปและหนังสือที่พิมพ์ออกมาก็เปิดอ่านเหมือนของMangaลิขสิทธิ์ที่ขายในไทยนั้นเอง) ส่วนกรณีของเกาหลีนั้นเราคงต้องไปสอบถามนักประวัติศาสตร์เกาหลีกันไปว่าทางเกาหลีนั้นมีแรงบันดาลใจอะไรกันแน่ที่ทำให้ชาติของตนต้องเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมหนังสือตามก้นจีนไปด้วยทั้งๆที่วัฒนธรรมหนังสือมาแต่โบราณของตนก็ได้รับมาจากจีนเช่นกันเนื่องจากผู้เขียนไม่มีข้อมูลเบื้องลึกเกี่ยวกับเรื่องนี้จากทางฝั่งเกาหลีเลย ทั้งสำนักพิมพ์ซีเอ็ดและนานมีบุ๊คส์ต้องการที่จะตีพิมพ์การ์ตูนสาระสำหรับเยาวชนที่เปิดอ่านตามแบบสากลมากกว่าเปิดอ่านแบบญี่ปุ่นและไต้หวันจึงแทบจะไม่มีแผนการที่จะซื้อลิขสิทธิ์Mangaสาระสำหรับเยาวชนมาตีพิมพ์ในไทยเลยเว้นเสียแต่ว่าทางเจ้าของลิขสิทธิ์จะยังคงยอมผ่อนปรนให้มีการกลับด้านพร้อมกับตกแต่งแก้ไขความผิดเพี้ยนของต้นฉบับเหมือนเมื่อครั้งอดีตนั้นละ น่าเสียดายที่เราคงจะไม่ได้เห็นMangaสาระคุณภาพชั้นเยี่ยมจากญี่ปุ่นแปลเป็นภาษาไทยมาขายให้มากกว่านี้เป็นแน่ตราบใดที่ฝ่ายเจ้าของลิขสิทธิ์เองนั้นแหละยังไม่คิดที่จะปรับเปลี่ยนต้นฉบับของตนเพื่อเอามาใช้ขายในโลกสากลโดยเฉพาะเท่านั้น
Create Date : 03 ตุลาคม 2555 | | |
Last Update : 3 ตุลาคม 2555 18:21:24 น. |
Counter : 2486 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
J-Comi ทดสอบระบบให้บริการอ่านการ์ตูน-โดจิน เนื้อหาผู้ใหญ่ แบบจ่ายตังค์
เป็นการพัฒนาไม่หยุดยั้ง ที่จะทำให้การอ่านการ์ตูนบนเน็ตกลายเป็นเรื่องไม่ผิดกฎหมาย และ สร้างรายได้ให้แก่นักเขียนการ์ตูนกับสนพ. ซึ่งเว็บ J-Comi เว็บไซต์อ่านการ์ตูนออนไลน์ของ อ.เคน อาคามัตซึ ผู้แต่ง Love Hina กับ Negima ได้เริ่มมีการทดสอบระบบเบต้าของ "J-comi Premium" ซึ่งเป็นบริการเปิดให้ยูสเซอร์สามารถอ่านการ์ตูนเนื้อหาผู้ใหญ่ อย่างแนว บอยเลิฟ , อิโรติค หรือ การ์ตูนที่มีเนื้อหารุนแรงไม่เหมาะสมกับเด็กๆ ได้ โดยที่ต้องเสียตังค์ ซึ่งบริการดังกล่าวจะมีการเปิดใช้อย่างเป็นทางการ 1 ต.ค.นี้ โดยการ์ตูนเรื่องที่อยู่ในข่ายบริการนี้ จะรวมถึงเรื่องที่ไม่มีการตีพิมพ์ใหม่ด้วยเช่นกัน และจะคิดค่าบริการเดือนละ 105 เยน จ่ายโดยเครดิตการ์ด เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้กลุ่มคนอ่านเยาวชนสามารถเข้าถึงการ์ตูนแนวผู้ใหญ่ได้ นอกจากนี้ J-Comi Premium service ยังเปิดให้บริการการอ่านการ์ตูนโดจินชิแบบถูกกฎหมาย ซึ่งมาจากการตกลงกันระหว่าง ทางเว็บ J-Comi เจ้าของผลงานการ์ตูนต้นฉบับ และ ผู้แต่งโดจิน ภายใต้ข้อตกลงที่ว่า นักเขียนการ์ตูนอาชีพ กับ ผู้แต่งโดจิน จะได้รับรายได้จากบริการ J-Comi Premium service ซึ่งกันและกัน เพราะว่า การ์ตูนโดจินชินั้นได้ใช้องค์ประกอบต่างๆมาจากผลงานต้นฉบับที่มีการรับรองลิขสิทธิ์อยู่ จึงทำให้การเผยแพร่โดจินยังคงเกิดความขัดแย้งกัน และด้วยบริการนี้จะทำให้ผู้แต่งโดจินได้รับประโยชน์ นั่นคือ การได้รับอนุญาตให้มีการนำไปเผยแพร่ผลงานอย่างถูกต้องเป็นทางการ นั่นเอง
แหล่งข่าว: animeanime.biz,animenewsnetwork.com,kartoon-discovery.com
Create Date : 20 กันยายน 2554 | | |
Last Update : 20 กันยายน 2554 3:10:30 น. |
Counter : 1530 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ชูโฮ ซาโต้ อ้าง นักเขียนการ์ตูนระดับท็อป 100 คน สามารถทำรายได้เฉลี่ย70ล้านเยน!!
อ.ชูโฮ ซาโต้ ผู้แต่งเรื่อง Say Hello to Black Jack, Umizaru ได้โพสต์ข้อความผ่าน twitter โดยอ้างถึงข้อมูลที่เขาได้รับมาจากเพื่อนของเขา ผู้ซึ่งเป็น นักวิจัยการ์ตูนว่า นักเขียนการ์ตูนระดับท็อป 100 คน ของญี่ปุ่น สามารถทำรายได้เฉลี่ยจากยอดขายหนังสือ ราว 70 ล้านเยนด้วยกัน เมื่อปี 2009 อย่างไรก็ตาม อ.ซาโต้ ได้กล่าวอีกว่า มีนักเขียนการ์ตูนประมาณ 5,300 คน มีผลงานได้รับการตีพิมพ์ ในปี 2009 โดยนอกจากนักเขียนระดับ Top 100 คนแรก ที่โกยรายได้เป็นกอบเป็นกำแล้ว ที่เหลือล้วนมีรายได้เฉลี่ยจากยอดขายฉบับรวมเล่ม เพียง 2.8 ล้านเยน ในปี 2009 เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่ารายได้เฉลี่ยของพนักงานบริษัทในญี่ปุ่น ปี 2009 ที่มีจำนวนทั้งสิ้น 4.09 ล้านเยน นั่นหมายความว่า นักเขียนการ์ตูน 5,200 คนที่เหลือ สามารถขายฉบับรวมเล่มอย่างน้อยที่สุด 120,000 เล่ม ในแต่ละปี ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ Yucasee Media ได้รายงานว่า อ.เอย์อิจิโร่ โอดะ ผู้แต่งวันพีซ ที่ตอนนี้ขึ้นทำเนียบเป็นนักเขียนการ์ตูนที่มียอดขายผลงานดีที่สุดในขณะนี้ สามารถทำรายได้เฉลี่ยจากยอดขายหนังสือรวมเล่ม ประมาณ 1.3 พันล้านเยนด้วยกัน ผิดกับ ข้อมูลในนิตยสาร Weekly Bunshun ที่ประมาณค่ารายได้ของอ.โอดะ ในปี 2010 ว่า เขามีรายได้ต่อปีรวมกัน 2 พันล้านเยน ซึ่งก็มาจาก รายได้จากการขายฉบับรวมเล่ม 1.29 พันล้านเยน กับ รายได้จากสินค้าคาแร็คเตอร์อีก 749 ล้านเยน อีกทั้ง รายการทีวียังประเมินรายได้ของ อ.โอดะ จากแหล่งอื่นๆอีก คาดการว่า อ.โอดะ จะมีรายได้ทั้งสิ้น 3.1 พันล้านเยน ด้วยกัน!!!! แหล่งข่าว: Yucasee Media,animenewsnetwork.com,kartoon-discovery.com
Create Date : 06 มิถุนายน 2554 | | |
Last Update : 6 มิถุนายน 2554 1:29:47 น. |
Counter : 706 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ผู้แต่ง Love Hina , ผู้สร้าง ComiPo! ร่วมถกปัญหามังงะในอนาคต
เว็บบลอก 2chan.us ได้โพสต์บทแปลภาษาอังกฤษ ซึ่งมีเนื้อหาเป็นการพูดคุยกันระหว่าง อ.เคน อาคามัตซึ ผู้แต่ง Love Hina กับ เคนทาโร่ ทาเคคุมะ ผู้สร้างโปรแกรมทำมังงะ ComiPo! ในหัวข้ออนาคตของวงการมังงะญี่ปุ่น ซึ่งบทสนทนาดั้งเดิมโพสต์ไว้ที่เว็บ ITmedia ของญี่ปุ่น ซึ่งการสนทนาดังกล่า ได้ มาซาฮิโระ ยามางุจิ เป็นผู้ควบคุมการสัมภาษณ์ ซึ่งเราเห็นว่าน่าสนใจดี เลยขอแปลเป็นไทยอีกที และ สรุปสาระสำคัญดังนี้ครับ: * อ.เคน กับ ทาเคคุมะ เห็นด้วย ที่สำนักพิมพ์ควรจะลงมาดูแลทำธุรกิจการ์ตูนออนไลน์ โดยใช้รูปแบบ free ad-supported (ให้ยูสเซอร์เข้าชมฟรี แต่มี banner โฆษณา แปะเอาไว้)แทนที่จะเอาแต่ดูแลธุรกิจการพิมพ์โดยเน้นยอดขายเป็นหลัก ซึ่งทั้งคู่เห็นควรว่า รูปแบบที่พวกเขาได้นำเสนอนั้น เป็นตัวช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้มากขึ้นอีกด้วย * อ.เคน เผยว่า เว็บ J-Comi ที่เป็นเว็บการ์ตูนออนไลน์ที่มีรูปแบบธุรกิจ free ad-supported สามารถสร้างรายได้แก่ อ.มายุ ชินโจ ถึง 525,000 เยน และ ตอนนี้เขากำลังทำงานกับ Google ในการสร้าง web viewer ตัวช่วยเปิดอ่านการ์ตูนที่มีโฆษณาหมุนเวียนกันไป อีกทั้งเขารู้ว่า Google สามารถทำฟีเจอร์ให้ web viewer ให้ได้มากกว่านี้ แต่เขารู้สึกว่า รายได้ 50,000 เยนต่อ 1 เล่มนั้น เป็นสิ่งที่น่าเฉลิมฉลองเหลือเกิน * อ.เคน บอกอีกว่า งาน Wonder Festival ที่เป็นมหกรรมจัดแสงหุ่นโมเดลของญี่ปุ่นกับงาน Comiket ได้ออกใบอนุญาติ 1 วัน ในการตกลงกับแฟนๆ โดยอนุญาตให้แฟนๆสามารถนำผลงานลิขสิทธิ์ไปดัดแปลง และจัดแสดงได้ * อ.เคน บอกต่อว่า เว็บ J-Comi! กำลังอยู่ในขั้นตอนจัดทำเป็นภาษาอื่นๆ * ทาเคคุมะ บอกว่า J-Comi! จะเน้นลงผลงานการ์ตูนที่ไม่ได้มีการตีพิมพ์จากสำนักพิมพ์ต้นสังกัดอีกต่อไปแล้วเป็นหลัก พร้อมกับเผยอีกว่า 10 ปี หลังจาก โชกะกุกัง ได้ยกเลิกผลงานชุด Even A Monkey Can Draw Manga ของเขา เขาก็ขอร้องให้สนพ.แจ้งอย่างเป็นทางการว่าผลงานเรื่องนี้ของเขาไม่ได้มีการตีพิมพ์อีกแล้ว ดังนั้น เขาจึงมีสิทธิ์ที่จะนำผลงานชุดนี้ไปเผยแพร่ที่ไหนก็ได้ ซึ่งโชกะกุกังก็ตอบกลับมาทันทีทันใด ด้วยการตัดสินใจกลับมาตีพิมพ์เรื่องนี้อีกครั้ง * ทาเคคุมะ เผยว่า เขาเคยป่วยเป็นอมพาตระยะสั้นๆ หลังจากที่มีการตีพิมพ์ Even A Monkey Can Draw Manga ใหม่อีกครั้ง * ทาเคคุมะ ได้พูดถึง อัตราค่าต้นฉบับต่อหน้าของนักเขียนการ์ตูนที่ยังคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เป็นเวลา 10 กว่าปีเข้าไปแล้ว ผิดกับค่าครองชีพที่นับวันสูงยิ่งขึ้น เขาเผยอีกว่า มีสนพ.แห่งหนึ่ง (ไม่ระบุชื่อ) ไม่ยอมจ่ายค่าต้นฉบับให้นักเขียนสูงกว่า 50,000 เยนเลย * ทาเคคุมะ บอกว่า สำนักพิมพ์ กับ บก. ควรจะสรรหานักเขียนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ ในงานการ์ตูนสำคัญๆ เช่น Comiket หรือ ในเว็บไซต์ที่รวบรวมนักวาดเก่งๆ เช่น Pixiv เป็นต้น * อ.เคน อ้างว่า บก.ของนิตยสารการ์ตูน ที่อุดมไปด้วยซีรี่ย์เรื่องฮิตขนาดใหญ่ๆนั้น ต่างก็รู้สึกเกรงกลัวที่จะตรวจสอบความถูกต้องของการ์ตูนเรื่องฮิตเอามากๆซึ่งนั่นก็ส่งผลให้ บก.ไม่ได้พัฒนาทักษะในการชี้นำนักเขียนรุ่นใหม่เท่าที่ควร * สุดท้ายนี้ อ.เคน บอกอีกว่า เขาไม่มีวันทรยศหักหลัง สนพ.โคดันฉะ สนพ.ต้นสังกัดของเขาด้วยการนำการ์ตูนเรื่องใหม่ไปเผยแพร่ทาง J-Comi ของเขาเป็นอันขาด แหล่งข่าว: 2chan.us,animenewsnetwork.com,kartoon-discovery.com ข่าวเก่าเก็บตั้งแต่ปลายเดือนเมษาแล้วละ
Create Date : 21 พฤษภาคม 2554 | | |
Last Update : 21 พฤษภาคม 2554 14:46:45 น. |
Counter : 961 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
สำรวจยอดตีพิมพ์นิตยสารการ์ตูนประจำปี 2010
เป็นข้อมูลจากหนังสือ Magazine Data 2011 ที่เป็นการสำรวจยอดตีพิมพ์นิตยสารการ์ตูนประจำปี 2010 ที่จัดทำโดยสมาคมผู้จัดพิมพ์นิตยสารแห่งญี่ปุ่น ซึ่งมีการรวบรวมข้อมูลตั้งแต่ 1 ต.ค. 2009 - 30 ก.ย. 2010 ซึ่งโดยรวมนั้นมียอดตีพิมพ์มากกว่าปีก่อนหน้านี้ โดยนิตยสารการ์ตูนยักษ์ใหญ่ 2 เล่มอย่างโชเน็นแมกกาซีน กับ โชเน็นซันเดย์ มียอดตีพิมพ์ที่ตกลงไปเล็กน้อย ผิดกับ โชเน็นจัมป์ที่มียอดตีพิมพ์สูงขึ้น
นิตยสารการ์ตูนเด็กผู้ชาย นิตยสาร | สำนักพิมพ์ | ยอดตีพิมพ์ (เล่ม) |
---|
Ultra Jump | Shueisha | 73,250 |
Monthly Shonen Sirius | Kodansha | 15,167 | Monthly Shonen Magazine | Kodansha | 847,250 | Monthly Shonen Rival | Kodansha | 89,834 | Coro Coro Comic | Shogakukan | 950,834 | Sunday GX | Shogakukan | 26,000 | Jump Square | Shueisha | 360,000 | Weekly Shonen Sunday | Shogakukan | 678,917 | Weekly Shonen Jump | Shueisha | 2,876,459 | Weekly Shonen Magazine | Kodansha | 1,571,063 | Shonen Ace | Kadokawa Group Publishing (Kadokawa Shoten) | 75,084 | Dragon Age | Kadokawa Group Publishing (Fujimi Shobo) | 29,842 | Magazine Special | Kodansha | 70,834 | Monthly Comic Dengeki Daioh | ASCII Media Works | 130,000 | Monthly Shonen Sunday (Gessan) | Shogakukan | 50,000 | Weekly Shonen Champion | Akita Shoten | 500,000 |
นิตยสารการ์ตูนผู้ชาย
นิตยสาร | สำนักพิมพ์ | ยอดตีพิมพ์ (เล่ม) |
---|
Afternoon | Kodansha | 102,834 | Ikki | Shogakukan | 11,500 | Evening | Kodansha | 147,980 | Gundam Ace | Kadokawa Group Publishing (Kadokawa Shoten) | 135,417 | Comic Ran | LEED Publishing Co., Ltd. | 207,350 | Comic Ran Twins | LEED Publishing Co., Ltd. | 141,202 | Comic Ran Twins Sengoku Bushou Retsuden | LEED Publishing Co., Ltd. | 91,442 | Weekly Young Jump | Shueisha | 768,980 | Super Jump | Shueisha | 277,500 | Business Jump | Shueisha | 285,334 | Big Comic | Shogakukan | 454,000 | Big Comic Original | Shogakukan | 729,750 | Big Comic Spirits | Shogakukan | 260,024 | Big Comic Superior | Shogakukan | 204,125 | Morning | Kodansha | 340,209 | Morning 2 | Kodansha | 35,000 | Young Animal | Hakusensha | 159,709 | Young Animal Arashi | Hakusensha | 151,584 | Young Magazine | Kodansha | 807,871 | Comic Kairakuten | WANIMAGAZINE CO.,LTD. | 350,000 | Comic Kairakuten BEAST | WANIMAGAZINE CO.,LTD. | 120,000 | Comic Shitsurakuten | WANIMAGAZINE CO.,LTD. | 250,000 | Comic Hana-Man | WANIMAGAZINE CO.,LTD. | 100,000 | Comic Beam | Publisher: Enterbrain Distributor: Kadokawa Group Publishing | 25,000 | Weekly Manga Goraku | Nihonbungeisha | 500,000 | Weekly Manga Sunday | Jitsugyo no Nihon Sha | 300,000 | Comic Dengeki Moeoh | ASCII Media Works | 50,000 | Manga Action | Futabasha | 200,000 | MEN'S GOLD | LEED Publishing Co., Ltd. | 50,000 | Young King | Shonen Gahosha Co | 200,000 | Young King Ours | Shonen Gahosha Co | 68,000 | Young Comic | Shonen Gahosha Co | 100,000 | Young Champion | Akita Shoten | 250,000 |
นิตยสารการ์ตูนเด็กผู้หญิง
นิตยสาร | สำนักพิมพ์ | ยอดตีพิมพ์ (เล่ม) |
---|
ASUKA | Kadokawa Group Publishing (Kadokawa Shoten) | 37,084 | The Margaret | Shueisha | 136,667 | Shojo Comic | Shogakukan | 162,609 | Cheese! | Shogakukan | 103,917 | Ciao | Shogakukan | 745,455 | Nakayoshi | Kodansha | 252,084 | Hana to Yume | Hakusensha | 203,959 | Betsucomi | Shogakukan | 89,334 | Bessatsu Hana to Yume | Hakusensha | 66,750 | Bessatsu Friend | Kodansha | 91,750 | Bessatsu Margaret | Shueisha | 261,667 | Margaret | Shueisha | 95,044 | LaLa | Hakusensha | 169,542 | LaLa DX | Hakusensha | 74,034 | Ribon | Shueisha | 243,334 | Sylph | ASCII Media Works | 70,000 |
นิตยสารการ์ตูนผู้หญิง
นิตยสาร | สำนักพิมพ์ | ยอดตีพิมพ์ (เล่ม) |
---|
ARIA | Kodansha | 39,667 | office YOU | Shueisha | 104,000 | Kiss | Kodansha | 127,962 | Cookie | Shueisha | 122,084 | Chorus | Shueisha | 136,250 | The Dessert | Kodansha | 100,834 | CIEL | Kadokawa Group Publishing(Kadokawa Shoten) | 29,500 | Silky | Hakusensha | 54,250 | Dessert | Kodansha | 83,167 | BE-LOVE | Kodansha | 153,792 | FEEL YOUNG | Shodensha | 37,642 | Petit Comic | Shogakukan | 105,000 | Flowers | Shogakukan | 33,000 | Bessatsu Friend 2010 | Kodansha | 69,167 | MELODY | Hakusensha | 47,434 | YOU | Shueisha | 162,917 | Elegance Eve | Akita Shoten | 150,000 | Go-Kinjo no Warui Uwasa | Ohzora Publishing Co. | 90,000 | Comic Aqua | Oakla Publishing Co., Ltd. | 25,000 | Comic B's Log Kyun! | Enterbrain/Kadokawa Group Publishing | 50,000 | Saiko no Ai to Kando | Ohzora Publishing Co. | 62,000 | Shiawase na Kekkon | Ohzora Publishing Co. | 58,000 | Harmony Romance | Ohzora Publishing Co. | 80,000 | For Mrs. | Akita Shoten | 150,000 | Honto ni Kowai Yome/Shutome | Ohzora Publishing Co. | 61,000 | Young Love Comic aya | Ohzora Publishing Co. | 82,000 | Renai Hakusho Pastel | Ohzora Publishing Co. | 150,000 |
แหล่งข่าว: animenewsnetwork.com,kartoon-discovery.com
Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2554 | | |
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2554 17:40:27 น. |
Counter : 622 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |