ก็แค่Weblogดองๆทำเล่นไปเรื่อยแหละน่าของกรรมกรกระทู้ลงชื่อและเมล์ที่Blogนี้สำหรับผู้ที่ต้องการGmailครับ
เข้ามาแล้วกรุณาตอบแบบสอบถามว่าคุณตั้งหน้าตั้งตาเก็บเนื้อหาในBlogไหนของผมบ้างนะครับ
รับRequestรูปCGการ์ตูนไรท์ลงแผ่นแจกจ่ายครับ
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter

เข้ามาเยี่ยมแล้วรบกวนลงชื่อทักทายในBlogไหนก็ได้Blogหนึ่งพอให้ทราบว่าคุณมาเยี่ยมแล้วลงสักหน่อยนะอย่าอายครับถ้าคุณไม่ได้เป็นหัวขโมยเนื้อหาBlog(Pirate)โจทก์หรือStalker

ความเป็นกลางไม่มีในโลก มีแต่ความเป็นธรรมเท่านั้นเราจะไม่ยอมให้คนที่มีตรรกะการมองความชั่วของ มนุษย์บกพร่อง ดีใส่ตัวชั่วใส่คนอื่น กระทำสองมาตรฐานและเลือกปฏิบัติได้ครองบ้านเมือง ใครก็ตามที่บังอาจทำรัฐประหารถ้าไม่กลัวเศรษฐกิจจะถอยหลังหรือประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ได้เจอกับมวลมหาประชาชนที่ท้องสนามหลวงแน่นอน

มีรัฐประหารเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ขอให้มวลมหาประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน จงไปชุมนุมพร้อมกันที่ท้องสนามหลวงทันที

พรรคการเมืองนะอยากยุบก็ยุบไปเลย แต่ึอำมาตย์ทั้งหลายเอ็งไม่มีวันยุบพรรคในหัวใจรากหญ้ามวลมหาประชาชนได้หรอก เสียงนี้ของเราจะไม่มีวันให้พรรคแมลงสาปเน่าๆไปตลอดชาติ
เขตอภัยทาน ที่นี่ไม่มีการตบ,ฆ่าตัดตอนหรือรังแกเกรียนในBlogแต่อย่างใดทั้งสิ้น
อยากจะป่วนโดยไม่มีสาระมรรคผลปัญญาอะไรก็เชิญตามสบาย(ยกเว้นSpamไวรัสโฆษณา มาเมื่อไหร่ฆ่าตัดตอนสถานเดียว)
รณรงค์ไม่ใช้ภาษาวิบัติในโลกinternetทั้งในWeblog,Webboard,กระทู้,ChatหรือMSN ถ้าเจออาจมีลบขึ้นอยู่กับอารมณ์ของBlogger
ยกเว้นถ้าอยากจะโชว์โง่หรือโชว์เกรียน เรายินดีคงข้อความนั้นเพื่อประจานตัวตนของโพสต์นั้นๆ ฮา...

ถึงอีแอบที่มาเนียนโพสต์โดยอ้างสถาบันทุกท่าน
อยากด่าใครกรุณาว่ากันมาตรงๆและอย่าได้ใช้เหตุผลวิบัติประเภทอ้างเจตนาหรือความเห็นใจ
ไปจนถึงเบี่ยงเบนประเด็นไปในเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันฯเป็นอันขาด

เพราะการทำเช่นนี้รังแต่จะทำให้สถาบันฯเกิดความเสียหายซะเอง ผมขอร้องในฐานะที่เป็นRotational Royalistคนหนึ่งนะครับ
มิใช่Ultra Royalistเหมือนกับอีแอบทั้งหลายทุกท่าน

หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ตรรกะวิบัติ รณรงค์ต่อต้านการใช้ตรรกะวิบัติทุกชนิด แน่นอนความรุนแรงก็ต้องห้ามด้วยและหยุดส่งเสริมความรุนแรงทุกชนิดไม่ว่าทางตรงทางอ้อมทุกคนทุกฝ่ายโดยเฉพาะพวกสีขี้,สื่อเน่าๆ,พรรคกะจั๊ว,และอำมาตย์ที่หากินกับคนที่รู้ว่าใครต้องหยุดปากพล่อยสุมไฟ ไม่ใช่มาทำเฉพาะเสื้อแดงเท่านั้นและห้ามดัดจริต


ใครมีอะไรอยากบ่น ก่นด่า ทักทาย เชลียร์ เยินยอ ไล่เบี๊ย เอาเรื่อง คิดบัญชี กรรมกรกระทู้(ยกเว้นSpamโฆษณาตัดแปะรำพึงรำพัน) เชิญได้ที่ My BoardในMy-IDของกรรมกรที่เว็ปเด็กดีดอทคอมนะครับ


Weblogแห่งนี้อัพแบบรายสะดวกเน้นหนักในเรื่องข้อมูลสาระใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว ไม่ตามกระแส ไม่หวังปั่นยอดผู้เข้าชม
สำหรับขาจรที่นานๆเข้ามาเยี่ยมสักที Blogที่อัพเดตบ่อยสุดคือBlogในกลุ่มการเมือง
กลุ่มหิ้งชั้นการ์ตูนหัวข้อรายชื่อการ์ตูนออกใหม่รายเดือนในไทย
และรายชื่อการ์ตูนออกใหม่ที่ญี่ปุ่นในตอนนี้

ช่วงที่มีงานมหกรรมและสัปดาห์หนังสือแห่งชาติประจำครึ่งปี(ทวิมาส)จะมีการอัพเดตBlogในกลุ่มห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญา
และหิ้งชั้นการ์ตูนของกรรมกรกระทู้


Hall of Shame กรรมกรมีความภูมิใจที่ต้องขอประกาศหน้าหัวนี่ว่า บุคคลผู้มีนามว่า ปากกาสีน้ำ......เงิน หรือ กลอน เป็นขาประจำWeblogแห่งนี้ที่เสพติดBlogการเมืองและใช้เหตุวิบัติอ้างเจตนาในความเกลียดชังแม้วเหลี่ยมและความเห็นใจในสถาบัน เบี่ยงประเด็นในการแสดงความเห็นเป็นนิจ ขยันขันแข็งแบบนี้เราจึงขอขึ้นทะเบียนเขาคนนี้ในหอเกรียนติคุณมา ณ ที่นี้ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

Group Blog
นิยายดองแต่งแล่นบันทึกการเดินทางของกรรมกรกระทู้คำทักทายกับสมุดเยี่ยมพงศาวดารมหาอาณาจักรบอร์ดพันทิพย์สาระ(แนว)วงการการ์ตูนมารยาทในสังคมออนไลน์ที่ควรรู้แจกCDพระไตรปิฎกฟรีรวมเนื้อเพลงดีๆจากดีเจกรรมกรกระทู้รวมแบบแผนชีวิตของกรรมกรกระทู้ชั้นหิ้งการ์ตูนของกรรมกรกระทู้ภัยมืดของโลกออนไลน์เรื่องเล่าในโอกาสพิเศษห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญาของกรรมกรกระทู้กิจกรรมของกรรมกรกระทู้กับInternetคุ้ยลึกวงการบันเทิงโทรทัศน์ตำราพิชัยสงครามซุนวูแฟนพันธ์กูเกิ้ลหน้าสารบัญคลังเก็บรูปกล่องปีศาจ(ขอPasswordได้ที่หลังไมค์)ลูกเล่นเก็บตกจากเน็ตสาระเบ็ดเตล็ดรู้จักกับงานเทคนิคการแพทย์ของกรรมกรรวมภาพถ่ายโดยช่างภาพกรรมกรรวมกระทู้ดีๆการเมือง1กรรมกรกับโรคAspergerรวมกระทู้ดีๆการเมือง2ความเลวของสื่อความเลวของพรรคประชาธิปัตย์ความเลวของอำมาตย์ศักดินาข้อมูลลับส่วนตัวกรรมกรที่ไม่สามารถเผยได้ในการทั่วไปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายรวมบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจการเงินเจาะฐานการเมืองท้องถิ่น

ถึงผู้ที่ต้องการขอpasswordกล่ิองปีศาจหรือFollowing Userใต้ดินเพื่อติดตามข่าวการอัพเดตกล่องปีศาจและดูpasswordมีเงื่อนไขว่ากรุณาแจ้งอายุ ระดับการศึกษาหรืออาชีพการงาน และอำเภอกับจังหวัดของภูมิลำเนาที่คุณอยู่ เป็นการแนะนำตัวท่านเองตอบแทนที่ผมก็แนะนำตัวเองในBlogไปแล้วมากมายกว่าเยอะ อีกทั้งยังเก็บรายชื่อผู้เข้ามาเยี่ยมGroup Blogนี้ไปด้วย
ถ้าอยากให้คำร้องขอpasswordหรือการFollowing Userใต้ดินผ่านการอนุมัติขอให้อ่านBlogข้างล่างนี่นะครับ
ข้อแนะนำการเขียนProfileส่วนตัว

อยากติดตั้งแถบโฆษณาแนวนอน ณ ที่ตรงนี้จังเลยพับผ่าสิเมื่อไหร่มันจะยอมให้ใช้Script Codeได้นะเนี่ย เพราะคลิกโฆษณาที่ได้มาตอนนี้ได้มาจากWeblogของผมที่Exteen.comซึ่งทำได้2-4คลิกมากกว่าที่นี่ซึ่งทำได้แค่0-1คลิกซะอีก ทั้งๆที่ยอดUIPที่นี่เฉลี่ยที่400กว่าแต่ของExteenทำได้ที่200UIP ไม่ยุติธรรมเลยวุ้ยน่าย้ายฐานจริงๆพับผ่า
เนื่องจากพี่ชายของกรรมกรแนะนำW​eb Ensogoซึ่งเป็นWebขายDeal Promotion Onlineสุดพิเศษ ซึ่งมีอาหารและของน่าสนใจราคาถูกสุดพิเศษให้ได้เลือกกัน ใครสนใจก็เชิญเข้ามาลองชมดูได้ม​ีของแบบไหนที่คุณสนใจบ้าง

ยุวชนวัยซน บทนำ

Knowing Kid(ยุวชนวัยซน) Pre Lesson(บทนำ) Decision to bangkok(ตัดสินใจสู่กรุงเทพฯ) Story by Spiralhead(บทประพันธ์โดยวัฏสีร์ ธรรมจารี)

บ่ายสงกรานต์ปีพศ.255xที่ทางหลวงสายเอเซีย เส้นทางที่เต็มไปด้วยรถยนต์ รถกระบะ รถบรรทุกสินค้าสัมภาระวิ่งผ่านไปมาเยอะกว่าทุกวันเนื่องจากเป็นเทศกาลวันหยุดแถมถนนก็เต็มไปด้วยรอยนูนของยางมะตอยที่ราดซ่อมอยู่เป็นประจำปุปะไปหมด
ภาพจับไปที่รถยนต์โตโยต้าสีบลอนด์ที่แล่นจากกรุงเทพฯมา เป็นรถของครอบครัว"ธรรมจารี"นั้นเอง หญิงสาวคนหนึ่งเป็นผู้ขับโดยมีลูกน้อยวัยประมาณ2-3ขวบจำนวน4คนและสามีที่หน้าตาออกญี่ปุ่นๆนั่งโดยสารมา หลายคนอาจจะคิดว่าเด็กๆทั้ง4คงจะนั่งหลับกันมาตลอดทาง แต่จริงๆแล้วพวกเขากำลังตื่นเต้นกับทิวทัศน์รอบตัวเขาที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจมากกว่าพร้อมๆกับสนุกสนานกับเพลงที่เปิดบนรถด้วยเป็นเพลงจังหวะมันๆของวงนูโวเมื่อปี32-33ตอนที่ผู้เป็นแม่ยังเป็นเด็กประถมอยู่ จังหวะเร้าใจพอที่จะไม่ทำให้การขับรถของเธอไร้รสชาติจนเกินไปนัก
"คุณแม่ฮะ อุทัยธานีที่เรากำลังไปค้างที่บ้านคุณตาคุณยาย3วัน2คืนเนี่ยมีอะไรน่าเที่ยวเหรอครับ"ลูกชายคนที่โตสุดถาม
"อ้อ....ก็มีวัดท่าซุงของท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำพระอาจารย์คนดังผู้ล่วงลับที่ชาวบ้านนับถืออยู่นะสิจ๊ะ วิหารแก้วของวัดนะสวยงามมากนะ และก็มีหุบป่าตาดที่ว่ากันว่าเป็นป่าต้นตาดโบราณในซอกหุบเขาอำเภอลานสักที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์เชียวนะ และก็วัดเขาสะแกกรังซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาเป็นที่พักปิคนิคอย่างดีเลย อ้อ...ยังมีถ้ำสวยงามๆที่อำเภอบ้านไร่ด้วยนะแม้จะไม่อลังการเท่าที่อื่นก็ตามที อุทัยธานีนะถึงจะเป็นจังหวัดเล็กเมื่อเทียบกับนครสวรรค์,พิษณุโลก,อยุธยา,สุโขทัย แต่ก็พอจะมีที่น่าเที่ยวบ้างนะ เก่งลูกรัก"คุณแม่คนขับรถอธิบายมาซะยืดยาว
"ฮ่ะๆๆๆที่รักสมกับเป็นชาวอุทัยธานีเลยนะนี่รู้จักสถานที่น่าเที่ยวได้ขนาดนี้นะ ว่าแต่เรือนตะวันของคุณพ่อตาแม่ยายที่เรากำลังจะไปเยี่ยมนี่ อยู่ที่ไหนเหรอจ๊ะ"สำเนียงเหน่อๆแบบญี่ปุ่นหัดพูดไทยของผู้เป็นสามีถามขึ้นมา
"ก็อยู่ในตัวอำเภอเมืองนี่แหละ และเส้นทางก็ค่อนข้างจะวกวนพอสมควรด้วยไม่งั้นดิฉันก็คงไม่มาออกแรงขับแบบนี้สิค่ะ"หญิงสาวตอบก่อนที่หักรถเลี้ยวซ้ายสู่ทางหลวงสาย333ที่จะนำทางเข้าสู่ตัวเมือง.....

ย้อนมาที่บ้านไร่หลังหนึ่งบนเกาะเทโพริมแม่น้ำสะแกกรัง ชายชาวสวนวัยกว่า30ปีกำลังยุ่งอยู่กับงานที่สวนผักผลไม้อยู่โดยมีลูกสาววัย15คอยช่วยเหลือที่บ้านทำด้วยไม้ยกพื้นสูง ภรรยาชาวสวนกำลังเตรียมทำอาหารจากผักผลไม้ที่ปลูกได้กับของอย่างอื่นเป็นหม้อใหญ่ๆเพื่อเตรียมนำไปจำหน่ายที่ตลาดเทสบาลเมืองที่ฝั่งแม่น้ำอีกฝั่งหนึ่ง
โดยลูกชายวัย9ขวบจะขึ้นป.4กำลังอ่านการ์ตูนความรู้วิทยาศาสตร์ทั่วไปของสำนักพิมพ์ซีเอ็ดกับประวัติบุคคลสำคัญของนานมีบุ๊คส์กองเป็นภูเขาอยู่ เขาชอบวิทยาศาสตร์มากหนังสือทั้งหมดเขาขอยืมอ่านมาจากห้องสมุดของโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี ถึงจะเป็นเด็กบ้านนอกคอกนาก็ยังมีนิสัยอยากรู้อยากเห็นโลกกว้างนอกเหนือจากบ้านไร่ริมธารที่เขารักและชื่นชอบในความร่มรื่นในความเขียวขจีของพืชพันธ์ไม้นานาชนิด (เพลง"บ้านไร่ริมธาร"จากละครของค่ายกันตนาช่อง5เริ่มบรรเลง)
(solo)บ้านริมธารคือวิมานของเรา... คู่หนุ่มสาว ต่อสู้ฟันฝ่า... เมื่อดวงดาวเกลื่อนเต็มท้องฟ้า.... เจ้าเหนื่อยอ่อนล้า หลับเถิดหลับให้สบาย.... ชีวิตเรา.. เกิดมาหลายคู่.... ให้อยู่..เคียงใจเราสอง.... ข้ามคืน.. ข้ามวันอย่าให้ใครมาต้อง แยกทางเธอไปจากฉัน...
สร้างทาง.. สร้างความรักยิ่งใหญ่... ด้วยใจระคนห้าวหาญ... ด้วยจิต เมตตา..ปลอดทุกข์ทุกเส้นทาง ด้วยความหวังความงดงามของคนดี....(ด้วยความหวังความงดงามบ้านไร่ริมธาร) ด้วยพลัง.. ด้วยแรงศรัทธา... ชาวไร่ชาวนา.. จงกล้าแกร่ง...สร้างถิ่นกำเนิดอย่าให้ใครมายื้อแย่งเป็นเครื่องดัดแปลง ผืนดินและแดนถิ่นวิมาน.... (solo)
สร้างทาง.. สร้างความรักยิ่งใหญ่... ด้วยใจระคนห้าวหาญ... ด้วยจิต เมตตา..ปลอดทุกข์ทุกเส้นทาง ด้วยความหวังความงดงามของคนดี....(ด้วยความหวังความงดงามบ้านไร่ริมธาร.....solo ending)

จากนั้นผู้เป็นแม่ซึ่งตระเตรียมข้าวของจะไปขายในตลาดแล้วได้ร้องเรียกลูกชายของตัวเอง"เล็ก ได้เวลาไปช่วยแม่ขายของแล้วนะ"
"ครับ..."เด็กน้อยรับคำที่จะไปช่วยแม่ "นี่ลูกยังจะเอาหนังสือพวกนั้นไปอ่านอยู่อีกหรือไงนะ"คุณแม่ทักท้วง
"โธ่...คุณแม่ครับไปทำงานขายของก็ดีอยู่หรอกครับ แต่ช่วงที่หาลูกค้าไม่ได้เลยเนี่ยมันว่างมากน่าเบื่อจริงๆนะครับ ผมเลยต้องหาอะไรที่มีสาระน่าสนใจและก็สนุกด้วยจากหนังสือพวกนี้นะ มันมีประโยชน์กับผมมากเลยนะเนี่ยแม้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะไม่มีเงินพอจะพาผมออกไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้างนอกจากบ้านไร่ริมธารของเรากับตลาดจังหวัดเล็กๆเนี่ย ผมนะก็ยังรักและอยากช่วยเหลือคุณแม่อยู่เสมอนะครับ"เจ้าเล็กสวนกลับมาซะยาวเชียว คุณแม่เถียงไม่ขึ้นรู้ดีว่าลูกของเขากำลังอยากรู้อยากเห็นเลยต้องปล่อยๆไป
หลังจากเตรียมผักผลไม้กับข้าวยกขึ้นรถกระบะเก่าๆที่ตกทอดกันมาตั้งแต่ตายายของเจ้าเล็กแล้ว เล็กและคุณแม่ก็ขึ้นรถขับไปที่ตลาดเทศบาลเพื่อเตรียมขายของต่อไป....

มาที่เรือนตะวันของคุณตาตะวันกับคุณยายจันทรา ธรรมจารี พวกเขาดีใจมากที่ลูกสาวคนเก่งของเขากลับมาเยี่ยมบ้าน โดยก่อนมาเกตได้โทรศัพท์มาบอกว่าจะมาพักค้างคืนที่เรือนตะวัน2คืนในช่วงสงกรานต์แล้ว
"โอ้.... พ่อดีใจเหลือเกิน เกตลูกรักตั้งแต่ลูกได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศนี่ก็ไม่ได้เจอลูกเลยนะนี่"คุณตากล่าวทักทาย
"ต้องขอโทษด้วยนะพ่อที่พอหนูเรียนจบก็ต้องเข้าทำงานที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์เลยนะ งานรัดตัวมากไม่ว่างมาหาพ่อเลยนะและอีกอย่างหนูต้องคอยดูแลพวกลูกทั้งหมดนี่ด้วยจ๊ะ"เกตกล่าวขอโทษทักทายก่อนอธิบาย
"ไม่นึกเลยว่าคนชอบทำอาหารอย่างลูกนะจะเก่งขนาดไปเรียนต่อเมืองนอกได้นะเนี่ย ลูกทำงานได้ดิบได้ดีมีครอบครัวเป็นฝั่งเป็นฝาอย่างนี้แม่ก็ดีใจแล้วลูกเอ้ย ดูเหมือนผัวลูกนี่ท่าทางจะรวยซะด้วย เป็นบุญของแม่จริงๆ"คุณยายพรรณนามาอย่างยินดี
"แต่หนูก็ยังรักคุณพ่อคุณแม่มากนะ หนูเปิดบัญชีส่งเงินมาให้พ่อแม่ใช้ไม่เคยขาดและสมัยนี้การสื่อสารก็ดีมากหนูก็โทรมาหาอยู่เรื่อยๆเลยคราวนี้เป็นเวลาที่หนูต้องตอบแทนพ่อแม่บ้างนะ แต่เอ...พี่กิ่งยังอยู่ที่ไหนเหรอจ๊ะ"
"อืม...ตั้งแต่พี่กิ่งของลูกแต่งงานกับเจ้าเกษมชาวสวนคนนั้นนะ ก็มาช่วยดูแลที่ดินแถวเกาะเทโพให้ตอนนี้เป็นไร่นาสวนผสมสวยงามเลย ทุกเย็นพอหลังจากขายของที่ตลาดเสร็จก็มักจะเอาอาหารที่เหลือขายเนี่ยมาตั้งโต๊ะกินกับพ่อแม่ที่บ้านบ้างเหมือนกันนะ ว่าแต่ยังไม่ทักทายกับพวกหลานๆเลยแนะนำตัวให้รู้จักกันหน่อยสิ"คุณยายตอบพร้อมกับอยากเห็นหน้าพวกหลานๆของตัวเอง
"สวัสดีครับคุณตาคุณยาย ผมชื่อเก่ง พิชญุตม์ อายุ3ขวบครับ"เด็กชายร่างสูงที่สุดท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใส แนะนำตัวก่อนคนแรก
"สวัสดีค่ะ หนูชื่อแก้ว สุทธวีร์ อายุใกล้ๆ3ขวบค่ะ"เด็กสาวหน้าตาน่ารักน่าชังแนะนำตัวตามมา
"สวัสดีครับ ผมชื่อศิลป์ ดรัณภพ อายุ2ขวบครับ"เด็กชายท่าทางสงบเสงี่ยมเรียบร้อยกล่าวออกมา
"สวัสดีครับ ผมชื่อกล้า นิพพิชฌญ์ น้องชายฝาแฝดของพี่ศิลป์อายุ2ขวบครับ"เด็กชายคนละหน้าตาจากศิลป์เพราะเป็นแฝดคนละใบแถมท่าทางยิ้มยาก เอ่ยออกมา

"โฮๆๆเพิ่งแต่งงานได้ไม่กี่ปีก็มีลูกหัวปีท้ายปีเลยนะนี่ เหอะๆๆ..."คุณตาพูดหัวเราะออกมา
"ฮึ่ม...พูดเกินไปแล้วนาพ่อ จริงๆหนูนะไม่อยากจะมีลูกมากขนาดนี้ซะหน่อยนะค่ะ แต่ว่าเอ้อ...."เกตค้อนพ่อก่อนที่จะเงียบไป
"แต่ว่าอะไรหรือลูก?"คุณตาสงสัย "เอ้อ...ช่างเถอะค่ะคือฟุซึคุงเขาอยากจะมีลูกมากนะค่ะ"เกตตอบกลับมา
"เจ้าเขยยุ่นคนนี้นะเหรอ"คุณตาหันไปมองสามีชาวญี่ปุ่นของเกต
"แหะๆคือพ่อแม่ผมเองก็อยากจะได้ลูกๆไว้สืบสกุลนะครับ"ฟุซึคุงตอบ
"เอ้อจริงสินะ เพราะคนละเชื้อชาติกันนี่ยังไงก็ต้องแบ่งๆกันใช้ไป อ๊ะ เจ้าเกษมมันมาพอดีเลย"คุณตาพูดยังไม่ทันขาดคำหนุ่มชาวสวนพร้อมลูกสาวที่เพิ่งเสร็จงานที่สวนขี่จักรยานยนต์เข้ามาที่เรือนตะวันพอดี
"เกษม มาทักทายกับพวกหลานๆกันหน่อยสิจ๊ะ"คุณยายออกปากเรียกเกษม
"โอ้โฮ เด็กๆน่ารักทั้งนั้นเลย สวัสดีๆลุงชื่อเกษม พรหมจุติ และนี่ลูกสาวของลุง ธาร ธาราวรรณจ๊ะ"
"สวัสดีจ้า น่ารักทุกคนเลย"ธาราวรรณยิ้มทักทายหลังจากเกษมแนะนำตัว
"เอ้อพี่เกษม หนูธารจ๊ะ นี่สามีชาวญี่ปุ่นของน้าเองจ๊ะชื่อ โยอิฮิโต้ ฟุซึอิซังค่ะ"เกตแนะนำผัวชาวญี่ปุ่นให้พี่เขยรู้จัก
"อ้า ไฮสวัสดีครับคุณเกษม โอ้ คาวาอิ(น่ารัก) สวัสดีจ๊ะหนู"ฟุซึอิกล่าวเหน่อๆทักทายสองพ่อลูก
"เอ้อ แม่ค่ะไหนๆก็มากันครบแล้วหนูขอแสดงฝีมือทำอาหารไทยในแบบฉบับวิทยาศาสตร์กันหน่อยนะค่ะคราวนี้จะทำต้มยำกุ้ง ผัดไทย และก็แกงเขียวหวานไก่ ของชอบของฝรั่งเขานะค้า พึ่งจะไปตลาดมาซื้อของมาทำเพียบเลย"เกตกล่าวมาอย่างกระตือรือร้น
"งั้นแม่จะเป็นลูกมือช่วยลูกทำด้วยดีกว่า ได้ออกกำลังบ้างไม่ยังงั้นโรคข้อโรคกระดูกถามหาแน่ๆ"คุณยายกล่าวอาสาช่วยเกต
"หนูก็ขอร่วมด้วยคนสิค่ะ อยากเห็นฝีมือการทำอาหารของคุณน้าบ้างจัง"ธาราวรรณก็ขอร่วมด้วยอีกแรง
พวกผู้หญิงทั้งสามก็เดินเข้าห้องครัวพร้อมเสบียงไปทำอาหารด้วยกันพร้อมสนทนาเล็กๆน้อยๆไปด้วย
ส่วนผู้ชายก็ไปนั่งพักคุยกันที่โต๊ะรับแขก ศิลป์กับกล้านั่งเล่นGBAแข่งกันอย่างดุเดือดส่วนเก่งกับแก้วก็ไปเดินเล่นสำรวจทั้งในและนอกเรือนตะวันอย่างตั้งอกตั้งใจ

จนกระทั่งสองแม่ลูกที่เพิ่งเสร็จจากการขายของที่ตลาด ขึ้นรถกระบะขับมาถึงเรือนตะวันแล้ว
"อืม...ยัยกิ่งกลับมาแล้วละนะพร้อมๆกับเจ้าเล็กด้วย"คุณตากล่าวตัดบทสนทนา
"อะไรกันละเนี่ยคุณพ่อ วันนี้ทำไมแขกเยอะจังเลย?"หญิงสาวแม่ค้าอุทานออกมา
"ฮ่ะๆๆเอ้อ.. หลานๆจะแนะนำให้รู้จักหน่อยนี่คุณป้าของหลานชื่อกิ่งทองหรือป้ากิ่งนะ และก็นี่หลานอีกคนหนึ่งชื่อเล็ก ทศเทพ ตอนนี้9ขวบจะขึ้นป.4แล้วละนะ"คุณตากล่าวแนะนำสองแม่ลูกให้ฟุซึอิและหลานทั้ง4คนให้รู้จักก่อนจะแนะนำให้สองแม่ลูกรู้จักกับแขกผู้มาเยือน
จากนั้นอาหารเย็นก็เสร็จพร้อมตั้งโต๊ะรับประทานด้วยกันทุกคน พอทานอาหารเสร็จก็มาสนทนากันต่อโดยขณะที่กำลังดำเนินไปได้ด้วยดี เกตก็สังเกตเห็นเล็กนั่งอ่านการ์ตูนความรู้หน้าตาท่าทางเอาใจใส่จึงถามถึงนิสัยของเล็กก็รู้ว่าเล็กเป็นเด็กใฝ่รู้ชอบวิทยาศาสตร์ความรู้ทั่วไปก็เกิดความรู้สึกเอ็นดูขึ้นมา

ขณะที่เล็กกำลังอ่านหนังสืออย่างตั้งใจ เก่งกับแก้วก็เดินมาสังเกตดูหนังสือที่เล็กอ่าน เล็กพอรู้ว่าลูกพี่ลูกน้องแท้ๆของตัวเองก็ดูจะสนใจกับหนังสือที่ตัวเองอ่านเช่นกันจึงหยิบหนังสืออ่านแล้วที่วางไว้มาแล้ว
"สนใจเหรอน้อง เอ้อ...เอาไปอ่านสิ สนุกมีสาระน่าสนใจนะ"เล็กพูดชักชวน
"เอ้อ... ขอบคุณครับ(ค่ะ)พี่เล็ก"เก่งกับแก้วขอบคุณแล้วรับหนังสือมาอ่านอย่างยิ้มแย้มแจ่มใสและอ่านติดตามอย่างเอาใจใส่ไม่เคร่งเครียด

เกตพอเห็นน้ำใจรวมถึงความขยันอ่านหนังสือของเล็กและสีหน้าอารมณ์ของเก่งกับแก้วเมื่อได้อ่านหนังสือ ก็นึกย้อนไปเมื่อตอนที่ตัวเองสอนลูกๆให้อ่านหนังสือเด็กสอนภาษาไทยประกอบภาพและต่อมาก็เอาสารานุกรมที่เธอเก็บรวบรวมอ่านตั้งแต่เมื่อยังสาวรวมถึงหนังสือเรียนสมัยเด็กๆของเธอเองให้ลูกๆอ่าน
ตอนแรกๆลูกเธอก็ตั้งใจอ่านดีแต่หลังๆชักเห็นถึงความไม่แจ่มใสทางสีหน้าของลูกๆเนื่องจากลูกคร่ำเคร่งอ่านหนังสือมากเกินไป เธอพยายามแก้ไขโดยพาลูกไปเล่นกีฬาเบาๆข้างนอกบ้างแต่เธอก็ไม่ค่อยมีเวลามากพอจะทำได้ เมื่อเธอมองดูหนังสือที่เล็กอ่านเป็นการ์ตูนเสริมความรู้ ก็เริ่มนึกถึงการ์ตูนสนุกๆที่เพื่อนสมัยเรียนรวมถึงฟุซึคุงของเธอก็ชอบอ่านมาก

การ์ตูนเป็นสื่อคลายเครียดนิยายภาพวาดที่เด็กชอบอ่านซะยิ่งกว่านิยายเป้นตัวหนังสือที่พวกบ้าละครน้ำเน่าชอบอ่านกัน เนื่องจากแต่เดิมเธอก็เป็นเด็กบ้านนอกจนๆที่เวลาและเงินของเธอหมดไปกับการทำอาหารขายและการเรียนเท่านั้นไม่มีโอกาสสัมผัสกับการ์ตูนเหมือนเด็กทั่วไปเลย เพราะเรือนตะวันของเธอกว่าจะมีทีวีดู เธอก็อยู่ม.ต้นไปแล้ว แต่ช่อง9ที่อุทัยฯนั้นไม่ชัดเท่าที่ควรถ้าไม่ติดตั้งเสาอากาศ เธอเลยดูได้แต่ช่อง3,5,7เท่านั้น ที่เธอชอบดูก็มีข่าว7สี,ละครพื้นบ้าน,รายการเพลงและละครน้ำดีบางเรื่องหลังข่าว ช่วงนั้นเธอเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า18ปีคนหนึ่งในจำนวนกว่า15-16ล้านคนผู้ไม่เคยสัมผัสกับการ์ตูนสไตล์ญี่ปุ่น(เคยแต่ฝรั่ง)เลยแม้สักนิดเดียว ทั้งที่จริงแล้วก็มีการ์ตูนญี่ปุ่นดีๆที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย แต่การ์ตูนที่ทีวีบ้านเรานำมาฉายมักจะเจาะเป้าหมายเฉพาะเด็กประถมจริงๆเท่านั้นเนื่องจากเธอมารู้จักการ์ตูนก็ตอนที่เธอโตเป็นสาวต้องรับผิดชอบงานบ้านแล้ว(ในปัจจุบัน2001มีสถิติคนชอบชมการ์ตูนทีวีและอ่านการ์ตูนในแบบคอมมิคแค่ไม่ถึง2ล้านรายจากประชากร63ล้านเป็นเยาวชนต่ำกว่า18ปีเกือบ20ล้านคน)จะว่าไปเล็กก็เป็นเด็กบ้านที่ไม่ได้เปิดหูเปิดตากว้างเหมือนเธอเมื่อยังเด็กเลยเพราะฐานะไม่อำนวย แต่เมื่อเทียบกับตอนนี้ซึ่งที่บ้านของเธอก็มีคอมฯมีอินเตอร์เน็ตสื่อสารหาข้อมูลใช้ ซึ่งเปิดโลกทัศน์ได้กว้างไกลกว่าหนังสือเรียน

เธอเริ่มนึกถึงอนาคตของเด็กคนนี้ในวันข้างหน้า จนกระทั่งครอบครัวพรหมจุติขอตัวกลับบ้าน
"นี่เล็กจ๊ะ อยากไปเที่ยวรอบอุทัยฯกับพวกน้าไหมละ"เกตเชิญชวน
"เที่ยวรอบจังหวัดเลยหรือครับ ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยไปเลย ดีจังตกลงครับ"เล็กดีใจตัวลอย
กิ่งซึ่งไม่เคยพาเล็กไปเที่ยวนอกตัวเมืองเลย ก็เห็นด้วยกับน้องสาวเป็นอันว่านี่เป็นการท่องเที่ยวครั้งสำคัญของเจ้าเล็กเลยทีเดียวรวมไปถึง4พี่น้องธรรมจารีด้วย

วันรุ่งขึ้น เล็กโดยสารรถไปกับครอบครัวธรรมจารีเที่ยวจังหวัดไปตลอดวันเริ่มที่ถ้ำและวัดที่สวยงามที่อำเภอบ้านไร่ หุบป่าตาดที่อำเภอลานสัก ทำบุญให้อาหารเลี้ยงปลาชมวิหารแก้วที่วัดท่าซุง ไปปิคนิคทานอาหารเย็นที่วัดเขาสะแกกรังเสร็จแล้วพาไปสรงน้ำพระกับก่อพระเจดีย์ทรายที่วัดพิชัยปุรณารามตามเทศกาลสงกรานต์ ก่อนจะพาไปเลี้ยงไอศกรีมที่ร้านลำไยแถวตลาดเทศบาล ตลอดทั้งวันเล็กมีความสุขที่สุดกับครอบครัวของคุณน้าและอารมณ์ของเล็กก็อยู่ในสายตาของเกตโดยตลอด เมื่อกลับถึงเรือนตะวันเธอก็ได้พูดถึงอนาคตของเจ้าเล็กกับพี่กิ่งของเธอ
"พี่กิ่งจะดีเหรอค่ะถ้าปล่อยให้เล็กซึ่งยังมีอนาคตไกลอย่างนี้อยู่แต่ในบ้านไร่ริมธารของพี่ไปเรื่อยๆนะจริงๆเขาเป็นคนที่ใฝ่รู้มากนะค่ะ ตระกูลของเราตอนนี้ก็มีหนูคนเดียวที่มีฐานะพอที่จะส่งเสริมเขาต่อจากนี้อีกได้แต่พี่นะจะทำได้อย่างหนูหรือเปล่าค่ะ"
กิ่งคิดหนักก่อนจะขอเวลากลับไปตัดสินใจที่บ้าน จะว่าไปเรื่องที่ต้องพลัดพรากจากกับครอบครัวเพื่อทำความฝันในการศึกษาและหน้าที่การงานให้เป็นจริงก็เคยมีในครอบครัวแล้วนั้นก็คือเกตกาญจน์ น้องสาวของเธอเองที่ตอนนี้ความฝันของเธอเป็นจริงไปแล้วและพร้อมที่จะทำให้ความฝันของเล็ก ลูกชายของเธอเป็นจริงตามไปอีกคนหนึ่งแน่นอนว่าคงไม่มีแม่คนไหนไม่อยากให้ลูกได้ดีไปตามเส้นทางของตัวเองที่ควรจะไป
ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจถามลูกชาย เธอเล่าเรื่องทั้งหมดให้เล็กฟังแล้ว
"ลูกอยากไปอยู่กับน้าเกตที่กรุงเทพฯไหมจ๊ะ"คุณแม่กิ่งถาม
"เอ้อ ผมอยากไปมากเลยครับ แต่ว่าผมชอบธรรมชาติ ผมรักบ้านไร่ริมธารบ้านเกิดแห่งนี้มากเลยและอีกอย่างที่สำคัญที่สุด ผมรักพี่ธาร คุณพ่อและก็คุณแม่มากเลยนะครับ"เล็กตอบมาด้วยอารมณ์เหงาปนเศร้า
"แม่ก็รักลูกมากเหมือนกันจ๊ะ แต่แม่นะอยากให้ลูกเติบโตขึ้นเปิดหูเปิดตากับโลกทัศน์ที่กว้างขึ้นเหมือนกับน้าเกตของลูกนะเขามีฐานะความเป็นอยู่สุขสบายกว่าพวกเราเยอะเลยนะ"แม่คอยพูดสนับสนุนให้ลูกไป
"คุณแม่ครับเรื่องฐานะความเป็นอยู่นะผมไม่สนเลยนะแค่ที่เราใช้ชีวิตแบบพออยู่พอกินตามพระราชดำริของท่านในหลวงก็ดีอยู่แล้วนี่ครับ"เล็กทักท้วง
"แต่ว่าความฝันที่อยากรู้อยากเห็นโลกกว้างของลูกละจ๊ะ นี่ฟังแม่ให้ดีๆนะชีวิตเราเกิดมาครั้งหนึ่งนะควรจะทำอะไรที่มีคุณค่าบ้างดีกว่าชีวิตที่ต้องอยู่ไปวันๆหนึ่งแบบนี้นะและถ้าลูกได้ดิบได้ดีเหมือนน้าเกตแล้วละก็จะมีอำนาจช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากในโลกนี้อีกมากมาย นั้นเป็นสิ่งที่ลูกควรทำนะ"กิ่งอธิบายให้ลูกของเธอฟังอย่างกว้างๆเล็กหันมาคิดตามและเห็นด้วยกับคุณแม่
"ตกลงครับ ผมจะไป"เล็กตอบรับอย่างเข้มแข็ง
หลังจากนั้นสองแม่ลูกก็ได้ปรึกษาเรื่องนี้กับพ่อและพี่สาว ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วยกับการส่งเจ้าเล็กไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯก็เป็นอันว่าเจ้าเล็กก็ได้ไปอยู่อาศัยกับน้าเกตที่กรุงเทพฯภายใต้ความเห็นชอบของทุกคน จึงได้ตระเตรียมเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นเก็บใส่กระเป๋าพร้อมที่จะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้
"ลูก พ่อมีของอะไรจะมอบให้หน่อยนะ"เกษมเอ่ยขึ้นมาหลังจากจัดของเสร็จเรียบร้อยแล้วจากนั้นก็ไปหยิบสร้อยคอที่มีพระเครื่อง5องค์มาให้เล็ก
"นี่คือพระเครื่องเบญจภาคี พระเครื่องยอดนิยมของเซียนนักสะสมพระเครื่องเลยนะ เป็นมรดกตกทอดกันมาของตระกูล"พรหมจุติ"ของเรานะลูก รับไปซะ"เกษมกล่าวแนะนำพระเครื่องก่อนนำพระเครื่องเข้าห้อยคอของเล็กเป็นการมอบให้
"ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลจักรวาลแห่งนี้ได้ช่วยคุ้มครองลูกของข้าพเจ้าให้พ้นจากอันตรายและประสบแต่ความสุขความเจริญและความสำเร็จในชีวิตทุกประการเทอญ"เกษมกล่าวอวยพรก่อนที่ทุกคนในครอบครัวจะขานรับ"สา....ธุ"
"เอ้า ไปนอนได้แล้วเล็ก พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้ากินข้าวออกเดินทางกันนะ"จากนั้นทุกคนก็เข้านอน
เช้ารุ่งขึ้นที่เรือนตะวันได้จัดพิธีรดน้ำดำหัวคุณตาคุณยายโดยต่างคนต่างอวยพรให้บุพการีของตนได้อยู่เป็นร่มโพธิร่มไทรแก่ครอบครัวไปนานๆ พอเสร็จพิธี ครอบครัวพ่อแม่ลูก"ธรรมจารี"เตรียมพร้อมรับเจ้าเล็กมาอยู่ที่กรุงเทพอยู่แล้วหลังจากจัดข้าวของขึ้นรถเสร็จ เกตกาญจน์ก็สตาร์ทรถเตรียมกลับสู่กรุงเทพ
"เล็กเอ้ย รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีด้วยนะหลานยายเอ้ย"
"โชคดีนะหลานรักของตา"คุณตาคุณยายกล่าวอำลา
"ขอให้ความฝันที่จะเรียนรู้และประสบความสำเร็จของลูกเป็นจริงนะจ๊ะ พวกแม่จะดูแลบ้านไร่ของเราเอง แม่จะคอยจนกว่าจะถึงวันนั้นนะจ๊ะ"แม่กิ่งกล่าวอวยพร
"ครับ ลาก่อนครับคุณแม่ ลาก่อนอุทัยธานี บ้านเกิดของผม.."เล็กอำลาทั้งน้ำตา (เพลง"คือหัตถาครองพิภพ"โหมโรง)
(solo)สองมือที่ดูนุ่มนวลอ่อนโยน... สองมือที่ดูช่างบอบบางอย่างนั้น... สองมือที่ยังไม่มีความสำคัญ คือสองมือที่ทำให้โลกหมุนไป... แม้เพียงร่างกายนั้นเกิดเป็นหญิง... แท้จริงหัวใจนั้นแกร่งยิ่งกว่าชาย... ขอเพียงให้เป็นได้ดั่งที่ตั้งใจ จะทุกข์ทนเดียวดาย ไม่มีความสำคัญ
*บันดาล..โลกหมุนเวียนวนไปตามจิตใจ นำพา.. ให้เป็นไปตามต้องการ ทุกสิ่งเปลี่ยนแปรไปด้วยมือเธอเสกสรร ดั่งถ้อยคำประพันธ์ เปรียบเปรยพรรณนา... ถึงชายได้กวัดแกว่ง แผลงจากอาสน์... ซึ่งอำนาจกำแหงแรงยิ่งกว่า... อันมือไกวเปลไซร้.. แต่ไรมา คือหัตถาครองพิภพจบสากล...(solo)ซ้ำ*(solo ending)
จากนั้นรถเก๋งโดยสารก็เคลื่อนตัวจากเรือนตะวันสู่กรุงเทพต่อไป
Pre Lesson end. See you again when I have emotion and time.(บทนำจบ แล้วเจอกันเมื่อผมมีอารมณ์และเวลา)
ตีพิมพ์ถูกต้อง copyright 2001 วัฏสีร์/PANTIP.COM , Bloggang.com And Dekdee.com All rights reserved

มีตัวละครมาสมัครไป1คนจากPocketคิดว่าจะเอามาใช้ในตอนต่อไปอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้ผมนึกไม่ออกว่าจะต่อยังไงดีแล้วกระทู้คงร้างแน่ๆตามเคย แถมยาวอีกต่างหาก

เอ้า ขอสมัคร เป็นตัวละครหน่อยแล้วกัน
ชื่อ ศรีชุมพร
อายุ 17 ปี
อาชีพ หนุ่มเจ้าของฟาร์มกุ้งมังกร ในประเทศไทย
วุฒิการศึกษา ม.3
สันดาน (นิสัย) - รักธรรมชาติ รักสงบ เบื่อกฏระเบียบของสังคม ชอบดูถูกตัวเอง ทั้งๆที่ตัวเอง เป็นเจ้าของฟาร์มกุ้งมังกร แห่งแรกในประเทศไทย มีรายได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง และยังชอบมอง ว่าโลกนี้ มันแย่ไปหมด เกลียดระบบ "กูใหญ่ _เล็ก กูสั่งอะไร _ต้องทำ ถ้า_ไม่ทำ _ตาย"
เป้าหมายในชีวิต - เลี้ยงกุ้งต่อไปเรื่อยๆ และไม่ต้องการมีเมีย เพราะเห็นว่า "เมีย คือซาตาน จากนรก ที่มาคอยสูบเลือดสูบเนื้อ"
ประวัติ โดยย่อ มีเพียงเท่านี้
จาก : อามุโร่ เรย์ - 27/08/2001 20:45
โฮมเพจ : //members.thaicentral.com/amuro_rei




 

Create Date : 28 ธันวาคม 2547    
Last Update : 10 กันยายน 2548 12:38:03 น.
Counter : 806 Pageviews.  

เค้าโครงเรื่องแนะนำตัวละครกับพูดคุยกันก่อน

นี่คือนิยายเรื่องแรกในชีวิตซึ่งไม่น่าเชื่อว่าคนไม่มีหัวทางอักษรศาสตร์การประพันธ์อย่างผมจะสามารถแต่งออกมาเป็นตอนอย่างนี้ได้รวมแล้วก็ได้เกือบ5หน้ากระดาษA4 แต่ตอนต่อไปไม่แน่เหมือนกันแล้วแต่เวลาและอารมณ์ของผมเป็นหลัก
ลักษณะการนำเสนอนิยายของผมก็เลียนแบบจากโทรทัศน์มา มีการอธิบายการเปิดตัวโลโก้ประจำตัวของผมด้วย(ปกติละครโทรทัศน์ก่อนที่จะเข้าไตเติ้ลละครจะมีการทำเปิดตัวโลโก้ของบริษัทผลิตละครไว้ด้วย)จริงๆผมน่าจะทำเป็นFlashมากกว่าแต่ผมไม่เคยทำและก็ทำไม่เป็นด้วย และผมเองก็คิดลักษณะการเปิดตัวโลโก้แบบอลังการสุดๆกว่านี้อีกเยอะไว้ในใจผมแล้วด้วย(เลียนแบบเปิดตัวโลโก้ของยักษ์ใหญ่วงการบันเทิงบริษัทหนึ่ง)แต่ผมไม่อยากเอามาใช้เพราะผมจะทำยังงั้นก็เมื่อผมแต่งนิยายได้ประมาณถึง100-200กว่าตอนเท่านั้น
นอกจากโลโก้ของผมแล้วก็มีเพลงประกอบฟิกซึ่งผมงัดเอามาใช้จากเพลงประกอบละครโทรทัศน์ที่เพราะๆมาคิดว่าหลายท่านคงไม่รู้จักเพราะคนที่นี่หลายคนก็มิได้ชอบดูละครน้ำเน่ากันแถมเพลงละครที่ผมเอามาใช้ก็ตั้งแต่ปี37-38มาแล้วนานมากเลย เนื้อเพลงที่ผมเขียนมานี่ถ้าร้องไม่เป็นละก็จะไม่มีทางเขียนมาได้อย่างชัดเจนขนาดนี้แน่นอน
เออ... เป็นไปได้ ถ้าคุณอยากจะมีส่วนร่วมในฐานะตัวละครคนหนึ่งในนิยายเอาเป็นชื่อภาษาไทย(ถ้าเป็นอังกฤษหรือญี่ปุ่นก็คงให้เป็นลูกครึ่งฐานะร่ำรวยแน่ๆหรืออาจเป็นดารารับเชิญก็ได้)ระบุนิสัย หน้าตา ความสัมพันธ์กับตัวละครของผมในเรื่องและประวัติส่วนตัวมาแล้วแต่ท่าน งานนี้ผมหวังลมๆแล้งๆ แทะแห้วกินตามเคยแหงๆ
เนื่องจากนิยายเรื่องนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีข้อมูลสาระและจินตนาการในการแต่งเกินกว่าความสามารถของผู้เขียน ดังนั้นนิยายเรื่องนี้ของผู้เขียนจึงถือเป็นนิยายดองที่ไม่มีวันแต่งต่อไปได้ตลอดกาลครับ ถ้าไม่สามารถหาแนวร่วมผู้มาช่วยสานต่อให้ ยังไงก็ขอขอบคุณผู้ที่มาแวะอ่านทุกท่านครับ

Cast of Knowing Life the serie
Profileตัวละคร4พี่น้องยุวชนใช้สำหรับฟิกแนวไซไฟแฟนตาซีภาคหลังที่ไม่รู้ว่าจะได้แต่งเมื่อไหร่ถ้าภาคแรกยังแต่งไม่ได้เยอะๆได้ที่
1.คนแรกเป็นชายชื่อ(เก่งหรือGenius)พิชญุตม์ ธรรมจารี
นิสัย -ชอบตลกสนุกสนานและทำตัวเหมือนไม่เอาไหน คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์(EQ)สูงมากชอบอ่านหนังสือเล่นกรีฑายิงปืนและฟุตบอล เป็นนักประดิษฐ์สิ่งของตัวยง และเป็นคนศรัทธาในคำสอนของพุทธศาสนาเช่นเดียวกับพ่อแม่ มีงานอดิเรกคือชอบพิมพ์บทความในหนังสือที่ซื้อมาลงคอมเพื่อทำเป็นห้องสมุดดิจิตอล เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการสั่งสอนน้องๆให้อยู่ในกรอบศาสนา
หน้าตา -รูปร่างสูงโย่ง หน้าตาก็งั้นๆชอบไว้ผมสั้นเกือบโล้น ตาและผมสีดำ
อาชีพ -นักผจญภัย นักเวทมนตร์ฝึกหัด นักปราชญ์
อาวุธ -ปืนเลเซอร์ที่ทำให้คนที่ถูกยิงเป็นอัมพาตหรือสลบโคม่า
เวทมนตร์ -ประเภทแสง ไฟฟ้า
หน้าที่ในการต่อสู้ - Plan Maker วางแผนการต่อสู้ บริหารจัดการความสามารถของน้องๆแต่ละคน หัวเรือในการดำเนินแผนต่อสู้
2.คนที่2เป็นหญิงชื่อ(แก้วหรือMindy)สุทธวีร์ ธรรมจารี
นิสัย -รักงานบ้านงานเรือนและการทำอาหารเรียบร้อยน่ารัก แต่ตอนแรกขี้กลัวเมื่อเผชิญหน้ากับปัญหาเมื่อได้รับการสั่งสอนจากพี่ชาย จึงกลายเป็นสาวผู้หันมาต่อสู้กับปัญหา ต่อมาด้วยอุบัติเหตุบางประการส่งผลให้เธอกลายเป็นสาวพลังจิตจากนั้นเธอก็ชอบใช้พลังของตัวเองไปใช้ประโยชน์อยู่บ่อยๆจนเกิดเรื่องราวต้องจดจำและเป็นบทเรียนมากมาย ชอบเล่นกีฬายิมนาสติกมากและว่ายน้ำชอบอ่านหนังสือเหมือนกันแต่มักจะเป็นเรื่องบันเทิงมากกว่า
หน้าตา - หน้าใสซื่อบริสุทธิ์ ไว้ผมยาวปะบ่า ตาและผมสีดำ
อาชีพ - นักผจญภัย นักเวทมนตร์ฝึกหัด
อาวุธ - มีดสั้นอรัญญิกตีจากโลหะผสมไทเทเนียมอาบยาสลบ คู่กับผลึกแก้วที่โครงสร้างอะตอมเป็นรูปเกลียวสำหรับรวมพลังจิต
เวทมนตร์ - ประเภทลมกับน้ำพลังจิต
หน้าที่ในการต่อสู้ - Plan Supporter คอยใช้พลังจิตและเวทมนตร์สนับสนุนการต่อสู้
3.คนนี้เป็นเด็กหนุ่มชื่อ(ศิลป์หรือArty)ดรัณภพ ธรรมจารี
หน้าตา -สุดหล่อรูปงามหุ่นสมาร์ท
นิสัย -ชอบในศิลปะทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นศิลปะป้องกันตัวอย่างมวย ยูโด เทควันโด้ คาราเต้ ฯลฯ หรือศิลปะวาดภาพ ปั้นหุ่น ในตอนแรกมีนิสัยชอบชิงดีชิงเด่นกับผู้พี่ชายตลอดมาในด้านต่างๆเกือบทุกเรื่องหยิ่งทระนงในความเก่งของตัวเองทั้งแพ้บ้างชนะบ้าง เมื่อได้รับสั่งสอนจากพี่เก่งตอนหลังเป็นคนที่มีสมาธินิ่งมากๆสามารถจัดการศิลปะได้ละเอียดอ่อนกว่ามนุษย์ทั่วไป และไม่ทำตัวมักใหญ่ใฝ่สูงกับพี่ชายอีกต่อไป เป็นนักคิดสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมในกระดาษหรือคอมพิวเตอร์ตัวยง
อาชีพ -นักผจญภัย นักสู้ฝึกหัด
อาวุธ -พลังปราณกับมือเปล่า
เวทมนตร์ -ประเภทแยกแผ่นดินทลายภูผา
หน้าที่ในการต่อสู้ - Plan Defender ตัวยืนเดี่ยวในการต่อสู้ขัดขวางกับศัตรูที่มีความเข้มแข็งจนอาจส่งผลกระทบต่อแผนที่ตั้งไว้
4.คนสุดท้องเป็นหนุ่มมาดเข้มทระนงจอมมุทะลุชื่อ(กล้าหรือBravy)นิพพิชฌญ์ ธรรมจารี
นิสัย - ค่อนข้างอารมณ์ร้อนชอบไว้ผมยาว ถนัดในเรื่องศาสตร์ของการใช้อาวุธทุกชนิดทุกรูปแบบ ชอบเรื่องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเป็นชีวิตจิตใจจนบางครั้งไม่ได้ใช้สมองคิดไตร่ตรองดูให้ละเอีอดซะก่อน หลังจากได้รับการสั่งสอนจากพี่ใหญ่เขากลายเป็นคนที่เสี่ยงตายทำอะไรอย่างมีหัวคิด
อาชีพ - นักผจญภัย นักดาบเวทมนตร์ฝึกหัด
อาวุธ - ดาบอรัญญิกทำจากโลหะผสมไทเทเนี่ยม(โลหะผสมทางวิทยาศาสตร์ที่แข็งแกร่งที่สุด)อาบยาสลบ
เวทมนตร์ -ประเภทไฟ
หน้าที่ในการต่อสู้ - Plan Striker คอยจู่โจมแบบเฉียบพลันเพื่อสร้างโอกาสให้พี่ๆหรือทำลายจังหวะของคู่ต่อสู้
ตัวละครพิเศษ
5.เด็กบ้านนอกคอกนาธรรมดาๆลูกพี่ลูกน้องของเหล่าเจ้าปัญญาชื่อเล็ก ทศเทพ พรหมจุติ
นิสัย -ขยันใฝ่รู้ รับผิดชอบงาน คอยติดตามดูแลน้องๆเจ้าปัญญาในช่วงที่พ่อแม่ไปทำงานข้างนอก ความจำอยู่ในขั้นดีเมื่อเทียบกับมนุษย์ธรรมดา อ่อนหัดในเรื่องกีฬา สำเนียง การเรียงความคำพูดและสังคมกับเพื่อนๆ
อาชีพ -พี่เลี้ยง นักผจญภัย นักปราชญ์ฝึกหัด
อาวุธ -พระเครื่องเบญจภาคี มรดกตกทอดกันมาของตระกูล"พรหมจุติ"
เวทมนตร์ -พลังแสงศักดิ์สิทธิ์จากบทสวดพระคาถาชินบัญชร(ไม่รุนแรงเท่าของเก่ง)
6.A.I.สาวใช้สไตล์บ้านนอกคอกนาแดนอีสานนาม ยัยแจ๋ว
นิสัย -ซื่อสัตย์ ขยันขันแข็งคอยทำงานรับใช้ให้กับครอบครัวยุวชนในด้านของการทำเว็ปคลังข้อมูลในคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต พูดสำเนียงคนอีสาน
อาชีพ -สาวใช้
อาวุธ -Attacking Operation Program ควบคุมอิเล็คตรอนใช้เป็นอาวุธ
7.แทนตัวผู้เขียนเองเข้ามามีบทบาทในฐานะคุณอาลูกพี่ลูกน้องของคุณแม่ยุวชน คอยสั่งสอนเลี้ยงดู

Scenerio of Knowing the serie
ประวัติ -ช่วงกำเนิดของเหล่าเจ้าปัญญา(อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ได้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของเนื้อเรื่อง)
หลังจากมนุษย์สามารถถอดรหัสพันธุกรรมของDNAของสายพันธุ์Homo SapienของตัวเองในแผนHuman Genome Project ใช้เวลา15ปีเสร็จสิ้นเมื่อมิถุนาปี2000ที่ผ่านมาได้ไม่ถึง10ปี
วันหนึ่งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้กับม.ฮาวาร์ด สหรัฐฯ ดร.ผู้เชี่ยวชาญทางพันธุวิศวกรรมทำงานในสถาบันวิจัยของมหาวิทยาลัยชาวญี่ปุ่นชื่อสกุล โยอิฮิโต้(คนดี) ฟุซึอิ(พุทธานุภาพ) เกิดติดใจในรสชาติอาหารที่ตัวเองชอบกินประจำขึ้นมา ถามหาคนที่ทำอาหารอร่อยนี้ซึ่งก็คือนิสิตสาวปริญญาเอกสาขาวิทยาศาสตร์อาหารชาวไทยผู้ชื่นชอบวิทยาศาสตร์กับการทำอาหาร เกตกาญจน์ ธรรมจารี(ผู้ประพฤติธรรม) เกิดเป็นความรักทั้ง2ฝ่าย
ต่อมา ดร.ผู้สามีค้นพบDNAที่ทำให้เซลล์สมองของมนุษย์สามารถแบ่งตัวเพิ่มความซับซ้อนหรือซ่อมแซมตัวเองได้แม้จะผ่านวัยเด็กไปแล้วทำให้มนุษย์ที่เกิดมามีความชาญฉลาดสูงกว่ามนุษย์โดยทั่วไปแต่ยังไม่ได้ทดลองออกมาเป็นรูปร่างเนื่องจากเป็นทดลองที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนจึงคิดจะทดลองกับสัตว์ก่อนแต่แล้วนักวิทยาศาสตร์ที่ร่วมงานด้วยต้องการจะทดลองกับมนุษย์ที่มีสมองชาญฉลาดอย่างดร.หนุ่มกับแฟนสาวจึงลอบวางยาสลบอุ้มสองหนุ่มสาวมารีดเอาสเปิร์มกับเซลล์ไข่ของพวกเขาไปลอบทำการทดลองซะก่อนสำเร็จเป็นตัวอ่อน4ตัวซึ่งก็คือ4พี่น้องเจ้าปัญญานี่เอง
ต่อมาดร.หนุ่มคิดว่าเหล่าเพื่อนร่วมงานทดลองต้องคิดไม่ซื่อแน่ๆเมื่อฝ่ายสาวเรียนจบต้องกลับมาอยู่บ้านเกิด และทารกโตพอออกมานอกครอบแก้วได้แล้วจึงตัดสินใจลอบพาเอาเด็กซึ่งเป็นลูกๆของตัวเองกับแฟนสาวหนีมาอยู่เมืองไทย มาทำงานที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ที่ทำงานเดียวกับฝ่ายสาว
ต่อมาไม่นานพวกเขาก็แต่งงานกันโดยฝ่ายชายตัดสินใจโอนสัญชาติเป็นไทยใช้นามสกุลเหมือนกับภรรยาเนื่องจากหลงเสน่ห์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีของเมืองไทยกับศรัทธาในคำสอนของศาสนาพุทธเถรวาทของไทย

โดยดั้งเดิมแล้วทั้ง4พี่น้องเป็นคนไม่ชอบการฆ่าฟันแม้ว่าคนผู้นั้นจะชั่วขนาดไหนก็ตาม เพียงแค่ทำให้ศัตรูไม่มีกำลังพอจะไปสร้างหายนะที่ไหนได้อีก(แต่ก็ปล่อยวางให้คนอื่นเป็นผู้จัดการตามหลักอุเบกขาในพรหมวิหาร4) เป็นนักสู้ผจญภัยเรียนรู้วิชาความรู้และธรรมชาติของแต่ละมิติโลกขนาน ไม่ชอบใส่ชุดที่ดูแล้วเป็นจุดเด่นของคนทั่วไปเท่าไหร่นักตามกาลเทศะไม่หรูหราอลังการเกินไป ชุดต่อสู้เป็นเสื้อยืดสีเทาโลโก้(Knowing Fighter;K.F.)กางเกงยีนส์สีน้ำเงินจาง สวมแว่นดำกันแดดลมและหมวกแก๊ปอำพรางโฉมหน้า รองเท้าเป็นผ้าใบหุ้มส้นสีเทาเข้ม(เวลาสกปรกจะได้ดูไม่ออกไง)และก็นายเก่งหัวหน้ากลุ่มมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คใช้เทคโนโลยีช่วงปี2001-2010ใช้รวบรวมข้อมูลและคลายเครียดไปด้วยในตัวเป็นเครื่องมือสารพัดประโยชน์ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสง

การ์ตูนที่ผมแต่งนี่ ผมคิดเค้าโครงเรื่องไว้หลายภาคเลยโดยใช้ตัวเอกกลุ่มเดียวกันใช้ชื่อกลุ่มว่า"นักสู้ยุวชน"หรือ"นักสู้ฟ้าใหม่"เป็นตัวดำเนินเรื่องในการผจญภัยล่าทรชนล้างมิติโลกขนานมีทั้งการใช้กำลัง ภูมิปัญญา และที่สำคัญที่สุดคือพระธรรมเป็นอาวุธชิ้นสำคัญในการปราบศัตรู
โดยภาคแรกของเรื่องเป็นการใช้ชีวิตสบายๆแบบมีสาระในช่วงวัยเด็ก คล้ายๆซิทคอมสามหนุ่มสามมุมกับคู่คนละขั้ว
ส่วนภาคสองเป็นการต่อสู้กับทรชนในคราบมนุษย์ สัตว์ประหลาดหรืออำนาจเหนือธรรมชาติ หลังจากย้อนเวลากลับสู่อดีตจากอนาคตที่โลกประสบกับมหาหายนะแบบที่กล่าวไว้ในMMR
ส่วนภาคสามเป็นการต่อสู้และเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตในโลกดึกดำบรรพ์ก่อนและหลังประวัติศาสตร์หลังจากที่เหล่าตัวเอกได้สังเวยชีวิตปราบศัตรูให้สิ้นไปในภาคที่แล้ว และกลับชาติมาเกิดใหม่อีกครั้งในร่างโคลนนิ่งของพวกเขาเองที่พ่อแม่ของเขาได้ทำขึ้นแล้วถูกส่งไปเรียนรู้โลกอดีตเมื่อรอวันที่จะเติบใหญ่เป็นวัยรุ่นอีกครั้งก่อนจะกลับสู่โลกปัจจุบัน ในนามของชื่อกลุ่ม ยุวชนฟ้าใหม่ และอีกชื่อคือ ภาคีแห่งสมุทรสีทันดร(Order of Sitandon Ocean)
ภาคสุดท้ายขณะที่เหล่ายุวชนฟ้าใหม่กำลังท่องไปในโลกอดีตกาลอยู่ก็ได้พบและเผชิญหน้ากับโลกขนาน(Pararell World)ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับโลกนี้ในทุกๆมิติแม้แต่เวลาด้วย และต้องต่อสู้กับองค์กรทรชนข้ามมิติ(พวกเขาให้ชื่อห้วงมิตินี้ว่าสีทันดร)ซึ่งได้ทำการก่อความวุ่นวายละเมิดธรรมชาติและกฏแห่งกรรมไปทั่วทุกมิติทำให้บรรดาตัวเอกถึงกับประกาศว่าจะไม่ขอกลับสู่โลกเดิมอย่างเด็ดขาดถ้าไม่สามารถกวาดล้างองค์กรนี้ได้ จนกระทั่งเขากวาดล้างองค์กรสำเร็จและตัดสินใจเดินทางกลับสู่โลกเดิมไปพบกับฉากจบที่งดงามคล้ายๆสามหนุ่มสามมุม ตัวร้ายที่ผมกำหนดในเรื่องนี้ผมอยากจะเลียนแบบจากตัวร้ายในการ์ตูนดังๆที่นิยมกันมาแล้ว

ตีพิมพ์และแก้ไขถูกต้อง copyright 2001 วัฏสีร์/PANTIP.COM ,Bloggang.com And Dekdee.com All rights reserved




 

Create Date : 28 ธันวาคม 2547    
Last Update : 10 กันยายน 2548 12:42:29 น.
Counter : 512 Pageviews.  


ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]









ผม ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
สามัญชนคนเหมือนกัน(All normal Human)
คนจรOnline(ได้แค่ฝัน)แห่งห้วงสมุทรสีทันดร
(Online Dreaming Traveler of Sitandon Ocean)
กรรมกรกระทู้สาระ(แนว)อิสระผู้ถูกลืมแห่งโลกออนไลน์(Forgotten Free Comment Worker of Online World)
หนุ่มสันโดษ(ผู้มีชีวิตที่พอเพียง) นิสัยและความสนใจแปลกแยกในหมู่ญาติพี่น้องและคนรู้จัก (Forrest Gump of the family)
หนุ่มตาเล็กผมสั้นกระเซิงรูปไม่หล่อพ่อไม่รวย แถมโสดสนิทและอาจจะตลอดชีวิตเพราะไม่เคยสนใจผู้หญิงกะเขาเลย
บ้าในสิ่งที่เป็นแก่นสารและสาระมากกว่าบันเทิงเริงรมย์
พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ดีๆกับบันทึกในโลกออนไลน์แล้วครับ
กรุณาปรับหน้าจอเป็นขนาด1024*768เพื่อการรับชมBlog
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter
และติดตามพูดคุยนำเสนอด้านมืดของกรรมกรผ่านTwitterอีกภาคหนึ่ง
Google


ท่องไปทั่วโลกหาแค่ในพันทิบก็พอ
ติชมแนะนำหรือขอให้เพิ่มเติมเนื้อหาWeblog กรุณาส่งข้อความส่วนตัวถึงผมโดยตรงได้ที่หลังไมค์ช่องข้างล่างนี้


รับติดต่อเฉพาะผู้ที่มีอมยิ้มเป็นตัวเป็นตนเท่านั้น ไม่รับติดต่อทางE-Mailเพื่อสวัสดิภาพการใช้Mailให้ปลอดจากSpam Mailครับ
Addชื่อผมลงในContact listของหลังไมค์
free counters



Follow me on Twitter
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.