ความสัมพันธ์ระหว่าง Lao Star กับสนธิ
ได้อ่านข้อมูลหนึ่งจาก blog หนึ่ง เขาเขียนเป็นภาษาอังกฤษนะครับ (คนเขียนก็เป็นคนของ The Nation) เมื่อแปลได้ดังนี้
...สนธิ กับ ทักษิณ เมื่อก่อนเรียกได้ว่า เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาก ในหนังสือของสนธิ "แพ้เสียก่อนถึงจะชนะ" สนธิเคยเสนอขายหุ้น IEC ให้ทักษิณ ประมาณปี 2535 (ก่อนหน้าทักษิณเล่นการเมือง) จำนวน 17.5 % ทักษิณก็ซื้อในราคา 10 บาทต่อหุ้น นี่เป็นราคาหุ้นก่อนเข้าตลาด จนกระทั่งหุ้นเข้าตลาด ก็ราคาไปอยู่ 250 บาท ทักษิณก็ขายทำกำไร โดยสนธิบอกว่า ทักษิณได้กำไรประมาณ 6-7 ล้านบาท และสนธิ ก็คิดว่า ทักษิณเอาเปรียบตนที่ได้กำไรไปเยอะขนาดนั้น แถมยังคิดว่า ทักษิณเกิดได้เพราะตนเอง และไม่คิดว่าตนเองเป็นหนี้บุญคุณทักษิณแต่อย่างใด
สนธิได้เริ่มเข้าทำธุรกิจการสื่อสาร เมื่อเขาได้เข้าหุ้นของกลุ่มสยามซีเมนต์ และได้ก่อตั้งสื่อ เครือผู้จัดการขึ้นมา โดยบริษัทที่สนธิซื้อมาจากเครือสยามซีเมนต์ ก็คือบริษัท Micronetic ซึ่งต่อยอดมาเป็น IEC
IEC ก็เป็นตัวแทนขายของ AIS, และ DTAC
ในช่วงปี 2538 ซึ่งเศรษฐกิจบูมมาก สนธิได้เริ่มทำธุรกิจเกี่ยวกับโทรคมนาคม ตามรอยทักษิณ ซึ่งก่อตั้งบริษัทชินแซทเทิลไลท์ และได้ปล่อยดาวเทียมไทยคม 1 ขึ้นสู่วงโคจร เมื่อเดือน ธ.ค. 2536
ในขณะที่กลุ่มเครือบริษัทผู้จัดการของสนธิ คือบริษัท Asia Broadcasting and Communications Network (ABCN) โดยได้มีโครงการมีดาวเทียม Lao Star เป็นของตนเอง โดยโครงการนี้ ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลลาว เมื่อปี 2538 เป็นมูลค่า 900 ล้านบาท
โครงการดาวเทียมนี้ ได้มีการว่าจ้างให้บริษัท Space System/Loral เป็นผู้ผลิต จำนวน 2 ดวง โดย L-Star 1 มีโครงการที่จะปล่อยขึ้นสู่วงโคจร เพื่อเป็นตัวถ่ายทอดสัญญานดิจิตอลไปยังทีวีตามบ้านเรือน โดยจะปล่อยในปี 2541 ในขณะที่ L-Star 2 จะปล่อย ปี 2542
โดยโครงการนี้ กะว่าจะมีผู้ชมกว่า 200 ล้านคนทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ในเวลาต่อมา ABCN ได้ร่วมมือกับ DTAC และ UCOM เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ
กลุ่มบริษัทของสนธิ ได้ขอซื้อคลื่นความถี่ 1800 MHz จากกลุ่มดีแทค เพื่อพัฒนาระบบของตัวเอง เรียกว่า Wireless Communication Service (WCS) ซึ่งอยู่ภายใต้ชื่อ Digital 01
ต่อมาเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ บริษัทของสนธิประสบปัญหาด้านการเงิน โครงการต่าง ๆก็เลยพับไป และโครงการ WCS ก็ต้องขายไปให้กลุ่มซีพี ซึ่งต่อมาก็ได้เปลี่ยนเป็นชื่อ Orange ที่เรารู้จักกันดี ชื่อเสียงของสนธินั้น ป่นปี้ไปหมด
สนธิล้มละลาย ในขณะที่ทักษิณร่ำรวย และคงอยู่ได้ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ
สนธิ เริ่มสานความสัมพันธ์อันดีกับทักษิณใหม่ ผ่านทาง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ ดร.พันธ์ศักดิ์ วิญญูรัตน์ โดยสนธิ เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ในขณะที่ พันศักดิ์ เป็นบรรณาธิการ Asia Times ที่มีสนธิ เป็นเจ้าของ
**หมายเหตุ เอเชียไทมส์ มีที่ตั้งอยู่ฮ่องกง
สนธินั้น โจมตีรัฐบาลชวน ต่อนโยบายการเงิน และทักษิณก็ตั้งพรรคไทยรักไทย มีนโยบาย คิดใหม่ทำใหม่ และถือว่าเป็นพันธมิตรกับสนธิ แม้กระนั้น สนธิก็ยังถูกบรรดาเจ้าหนี้ทวงตามอยู่เช่นเดิม
กลุ่มคนของสนธิ เช่น ดร.สมคิด, ดร.พันศักดิ์, และ ดร.ชัยอนันต์ ต่างก็ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลทักษิณ อย่างเช่น ดร.ชัยอนันต์ อดีตประธาน IEC ได้รับการแต่งตั้งตำแหน่งใหญ่โต ในธนาคารกรุงไทย และการบินไทย ในขณะที่คุณกนก อภิรดี ที่เคยทำงานให้กับสนธิ ก็ยังได้เป็นดีดีของการบินไทย และวิโรจน์ นวลแข ก็กลายเป็นประธานกรรมการธนาคารกรุงไทย
หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ยกย่องให้ทักษิณ เป็นนายก ฯ ที่ดีที่สุดของประเทศไทยเท่าที่เคยมีมา และได้ทำรายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ ทางช่อง 9 อสมท. และได้ลงทุนทำสถานี ชอ่ง 11/1 และ 11/2 และหนี้เงินกู้จากกรุงไทย ก็ลดจาก 1,800 ล้านบาท เหลือเพียง 800 ล้านบาท
ความขัดแย้งระหว่างสนธิกับทักษิณ อาจจะเริ่มมาจาก การที่นายกทักษิณ ไม่สามารถปกป้องตำแหน่งของวิโรจน์ นวลแข จากการเป็นบอร์ดธนาคารกรุงไทย เพราะผู้ว่า ฯ แบ็งชาติตอนนั้นคือ หม่อมอุ๋ย ไม่ยอม รมว.การคลัง (ดร.สมคิด) และข่าวว่า ดร.สมคิด ก็ต้องการให้ประธานบีโอไอออกด้วยเช่นกัน
หม่อมอุ๋ยเข้าพบนายก ฯ ทักษิณที่ทำเนียบ และแสดงเอกสารบางอย่างให้ดู ทำให้ทักษิณ เลยถอยห่างจากความขัดแย้งระหว่าง สมคิด กับหม่อมอุ๋ย วิโรจน์ก็เลยกลายเป็นแพะรับบาป และต้องหลุดจากการเป็นบอร์ดธนาคารกรุงไทยไปในที่สุด
รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ถูกถอดออกจากผังรายการของช่อง 9 ในเวลาต่อมา
ที่มา
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=thaiger&month=12-2005&date=01&group=4&gblog=27
---------------------- ผมอ่านแล้ว นึกย้อนไปดู ตอนที่ไอทีวีถูกรัฐบาลสุรยุทธ์ทอดทิ้ง ซึ่งตอนแรกหากใครจำได้ สนธินั้น ยกย่องพล.อ.สุรยุทธ์ว่ามีความกล้าหาญและเสียสละเพื่อบ้านเมือง
แต่พอไอทีวี ต้องไปตกอยู่ในมือของกลุ่มเนชั่น หอกทั้งหลายก็หันกลับไปทิ่มแทงรัฐบาลสุรยุทธ์ อย่างที่พวกเราคนราชดำเนินเห็น ๆ กัน
ไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมตอน พล.อ.สนธิ ประกาศว่า จะเอาดาวเทียมของไทยมาจากสิงคโปร์
จริง ๆ แล้ว พล.อ.สนธิ น่าจะไปขอจากลาวบ้างก็ดี -----------------------
แก้ไขส่วนที่ผิดนะครับ ขอบคุณคุณ Cambridge มากครับ อารามรีบไปกินข้าวไปหน่อย ต้องขอโทษทุกท่านด้วยครับ
- กำไร 6-7 ล้านบาท น่าจะเป็น 600 ล้าน - 700 ล้านบาท - IEC เป็นตัวแทนขายของ AIS และ TAC น่าจะแก้เป็น IEC เป็นผู้แทนจำหน่าย NOKIA แต่เพียงผู้เดียว และลูกค้าก็คือ TAC, กับ AIS - หนี้เงินกู้จากกรุงไทย ก็ลดจาก 1,800 ล้านบาท เหลือเพียง 800 ล้านบาท น่าจะเป็นเหลือ 200 ล้าน (ตามต้นฉบับภาษาอังกฤษ) - ดร.สมคิด ก็ต้องการให้ประธานบีโอไอ <- น่าจะเป็น ธนาคารแห่งประเทศไทยนะครับ - และอื่นๆ ถ้ามี
จากคุณ : ขนมต้ม - [ 21 ส.ค. 51 17:20:50 A:117.47.41.248 X: ]
Create Date : 21 สิงหาคม 2551 |
Last Update : 21 สิงหาคม 2551 19:20:56 น. |
|
5 comments
|
Counter : 672 Pageviews. |
|
|
|
โดย: may IP: 202.62.99.243 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:05:26 น. |
|
|
|
โดย: bc IP: 61.19.65.140 วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:13:52:06 น. |
|
|
|
โดย: เพิ่มขึ้น IP: 118.172.75.119 วันที่: 2 มกราคม 2552 เวลา:15:55:23 น. |
|
|
|
โดย: toon IP: 58.9.80.47 วันที่: 21 มกราคม 2552 เวลา:0:39:16 น. |
|
|
|
โดย: จิงๆ IP: 180.180.37.147 วันที่: 14 ธันวาคม 2552 เวลา:20:48:47 น. |
|
|
|
| |