ก็แค่Weblogดองๆทำเล่นไปเรื่อยแหละน่าของกรรมกรกระทู้ลงชื่อและเมล์ที่Blogนี้สำหรับผู้ที่ต้องการGmailครับ
เข้ามาแล้วกรุณาตอบแบบสอบถามว่าคุณตั้งหน้าตั้งตาเก็บเนื้อหาในBlogไหนของผมบ้างนะครับ
รับRequestรูปCGการ์ตูนไรท์ลงแผ่นแจกจ่ายครับ
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter

เข้ามาเยี่ยมแล้วรบกวนลงชื่อทักทายในBlogไหนก็ได้Blogหนึ่งพอให้ทราบว่าคุณมาเยี่ยมแล้วลงสักหน่อยนะอย่าอายครับถ้าคุณไม่ได้เป็นหัวขโมยเนื้อหาBlog(Pirate)โจทก์หรือStalker

ความเป็นกลางไม่มีในโลก มีแต่ความเป็นธรรมเท่านั้นเราจะไม่ยอมให้คนที่มีตรรกะการมองความชั่วของ มนุษย์บกพร่อง ดีใส่ตัวชั่วใส่คนอื่น กระทำสองมาตรฐานและเลือกปฏิบัติได้ครองบ้านเมือง ใครก็ตามที่บังอาจทำรัฐประหารถ้าไม่กลัวเศรษฐกิจจะถอยหลังหรือประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ได้เจอกับมวลมหาประชาชนที่ท้องสนามหลวงแน่นอน

มีรัฐประหารเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ขอให้มวลมหาประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน จงไปชุมนุมพร้อมกันที่ท้องสนามหลวงทันที

พรรคการเมืองนะอยากยุบก็ยุบไปเลย แต่ึอำมาตย์ทั้งหลายเอ็งไม่มีวันยุบพรรคในหัวใจรากหญ้ามวลมหาประชาชนได้หรอก เสียงนี้ของเราจะไม่มีวันให้พรรคแมลงสาปเน่าๆไปตลอดชาติ
เขตอภัยทาน ที่นี่ไม่มีการตบ,ฆ่าตัดตอนหรือรังแกเกรียนในBlogแต่อย่างใดทั้งสิ้น
อยากจะป่วนโดยไม่มีสาระมรรคผลปัญญาอะไรก็เชิญตามสบาย(ยกเว้นSpamไวรัสโฆษณา มาเมื่อไหร่ฆ่าตัดตอนสถานเดียว)
รณรงค์ไม่ใช้ภาษาวิบัติในโลกinternetทั้งในWeblog,Webboard,กระทู้,ChatหรือMSN ถ้าเจออาจมีลบขึ้นอยู่กับอารมณ์ของBlogger
ยกเว้นถ้าอยากจะโชว์โง่หรือโชว์เกรียน เรายินดีคงข้อความนั้นเพื่อประจานตัวตนของโพสต์นั้นๆ ฮา...

ถึงอีแอบที่มาเนียนโพสต์โดยอ้างสถาบันทุกท่าน
อยากด่าใครกรุณาว่ากันมาตรงๆและอย่าได้ใช้เหตุผลวิบัติประเภทอ้างเจตนาหรือความเห็นใจ
ไปจนถึงเบี่ยงเบนประเด็นไปในเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันฯเป็นอันขาด

เพราะการทำเช่นนี้รังแต่จะทำให้สถาบันฯเกิดความเสียหายซะเอง ผมขอร้องในฐานะที่เป็นRotational Royalistคนหนึ่งนะครับ
มิใช่Ultra Royalistเหมือนกับอีแอบทั้งหลายทุกท่าน

หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ตรรกะวิบัติ รณรงค์ต่อต้านการใช้ตรรกะวิบัติทุกชนิด แน่นอนความรุนแรงก็ต้องห้ามด้วยและหยุดส่งเสริมความรุนแรงทุกชนิดไม่ว่าทางตรงทางอ้อมทุกคนทุกฝ่ายโดยเฉพาะพวกสีขี้,สื่อเน่าๆ,พรรคกะจั๊ว,และอำมาตย์ที่หากินกับคนที่รู้ว่าใครต้องหยุดปากพล่อยสุมไฟ ไม่ใช่มาทำเฉพาะเสื้อแดงเท่านั้นและห้ามดัดจริต


ใครมีอะไรอยากบ่น ก่นด่า ทักทาย เชลียร์ เยินยอ ไล่เบี๊ย เอาเรื่อง คิดบัญชี กรรมกรกระทู้(ยกเว้นSpamโฆษณาตัดแปะรำพึงรำพัน) เชิญได้ที่ My BoardในMy-IDของกรรมกรที่เว็ปเด็กดีดอทคอมนะครับ


Weblogแห่งนี้อัพแบบรายสะดวกเน้นหนักในเรื่องข้อมูลสาระใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว ไม่ตามกระแส ไม่หวังปั่นยอดผู้เข้าชม
สำหรับขาจรที่นานๆเข้ามาเยี่ยมสักที Blogที่อัพเดตบ่อยสุดคือBlogในกลุ่มการเมือง
กลุ่มหิ้งชั้นการ์ตูนหัวข้อรายชื่อการ์ตูนออกใหม่รายเดือนในไทย
และรายชื่อการ์ตูนออกใหม่ที่ญี่ปุ่นในตอนนี้

ช่วงที่มีงานมหกรรมและสัปดาห์หนังสือแห่งชาติประจำครึ่งปี(ทวิมาส)จะมีการอัพเดตBlogในกลุ่มห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญา
และหิ้งชั้นการ์ตูนของกรรมกรกระทู้


Hall of Shame กรรมกรมีความภูมิใจที่ต้องขอประกาศหน้าหัวนี่ว่า บุคคลผู้มีนามว่า ปากกาสีน้ำ......เงิน หรือ กลอน เป็นขาประจำWeblogแห่งนี้ที่เสพติดBlogการเมืองและใช้เหตุวิบัติอ้างเจตนาในความเกลียดชังแม้วเหลี่ยมและความเห็นใจในสถาบัน เบี่ยงประเด็นในการแสดงความเห็นเป็นนิจ ขยันขันแข็งแบบนี้เราจึงขอขึ้นทะเบียนเขาคนนี้ในหอเกรียนติคุณมา ณ ที่นี้ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

Group Blog
นิยายดองแต่งแล่นบันทึกการเดินทางของกรรมกรกระทู้คำทักทายกับสมุดเยี่ยมพงศาวดารมหาอาณาจักรบอร์ดพันทิพย์สาระ(แนว)วงการการ์ตูนมารยาทในสังคมออนไลน์ที่ควรรู้แจกCDพระไตรปิฎกฟรีรวมเนื้อเพลงดีๆจากดีเจกรรมกรกระทู้รวมแบบแผนชีวิตของกรรมกรกระทู้ชั้นหิ้งการ์ตูนของกรรมกรกระทู้ภัยมืดของโลกออนไลน์เรื่องเล่าในโอกาสพิเศษห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญาของกรรมกรกระทู้กิจกรรมของกรรมกรกระทู้กับInternetคุ้ยลึกวงการบันเทิงโทรทัศน์ตำราพิชัยสงครามซุนวูแฟนพันธ์กูเกิ้ลหน้าสารบัญคลังเก็บรูปกล่องปีศาจ(ขอPasswordได้ที่หลังไมค์)ลูกเล่นเก็บตกจากเน็ตสาระเบ็ดเตล็ดรู้จักกับงานเทคนิคการแพทย์ของกรรมกรรวมภาพถ่ายโดยช่างภาพกรรมกรรวมกระทู้ดีๆการเมือง1กรรมกรกับโรคAspergerรวมกระทู้ดีๆการเมือง2ความเลวของสื่อความเลวของพรรคประชาธิปัตย์ความเลวของอำมาตย์ศักดินาข้อมูลลับส่วนตัวกรรมกรที่ไม่สามารถเผยได้ในการทั่วไปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายรวมบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจการเงินเจาะฐานการเมืองท้องถิ่น

ถึงผู้ที่ต้องการขอpasswordกล่ิองปีศาจหรือFollowing Userใต้ดินเพื่อติดตามข่าวการอัพเดตกล่องปีศาจและดูpasswordมีเงื่อนไขว่ากรุณาแจ้งอายุ ระดับการศึกษาหรืออาชีพการงาน และอำเภอกับจังหวัดของภูมิลำเนาที่คุณอยู่ เป็นการแนะนำตัวท่านเองตอบแทนที่ผมก็แนะนำตัวเองในBlogไปแล้วมากมายกว่าเยอะ อีกทั้งยังเก็บรายชื่อผู้เข้ามาเยี่ยมGroup Blogนี้ไปด้วย
ถ้าอยากให้คำร้องขอpasswordหรือการFollowing Userใต้ดินผ่านการอนุมัติขอให้อ่านBlogข้างล่างนี่นะครับ
ข้อแนะนำการเขียนProfileส่วนตัว

อยากติดตั้งแถบโฆษณาแนวนอน ณ ที่ตรงนี้จังเลยพับผ่าสิเมื่อไหร่มันจะยอมให้ใช้Script Codeได้นะเนี่ย เพราะคลิกโฆษณาที่ได้มาตอนนี้ได้มาจากWeblogของผมที่Exteen.comซึ่งทำได้2-4คลิกมากกว่าที่นี่ซึ่งทำได้แค่0-1คลิกซะอีก ทั้งๆที่ยอดUIPที่นี่เฉลี่ยที่400กว่าแต่ของExteenทำได้ที่200UIP ไม่ยุติธรรมเลยวุ้ยน่าย้ายฐานจริงๆพับผ่า
เนื่องจากพี่ชายของกรรมกรแนะนำW​eb Ensogoซึ่งเป็นWebขายDeal Promotion Onlineสุดพิเศษ ซึ่งมีอาหารและของน่าสนใจราคาถูกสุดพิเศษให้ได้เลือกกัน ใครสนใจก็เชิญเข้ามาลองชมดูได้ม​ีของแบบไหนที่คุณสนใจบ้าง
จอม เพชรประดับ : สมาคมวิชาชีพสื่อกับการแก้วิกฤตชาติ

โดย จอม เพชรประดับ
17 กันยายน 2552

เมื่อ ผมได้รายงานให้นายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยทราบ คำพูดแรกที่ได้รับ คือการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของผมว่า ยังทำการบ้านเพื่อซักถาม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ดีพอ ไม่มีข้อมูลมากพอที่จะต้อนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนไปกับข้อมูล ส่วนนายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยพูดกับผมก็คือ “ไม่เห็นมีอะไร เพราะเป็นเรื่องปกติที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแล อสมท. จะต้องเข้าไปตรวจสอบเมื่อมีการปฎิบัติขัดแย้งกับนโยบาย"

การสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2552 ทางวิทยุ 100.5 อสมท.ที่ผ่านมา ผู้เขียนได้คำตอบที่ชัดเจนทั้งเรื่องความไม่เป็นธรรม ปัญหาสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนไทย ปัญหาสิทธิมนุษยชนในสังคมไทย ที่กำลังเป็นปัญหาหนักหนา และร้ายแรงไม่แพ้ปัญหาอื่นๆ และกำลังทำให้บ้านเมืองไทยวิกฤตอยู่ในขณะนี้

แต่สิ่งที่ทำให้ผู้เขียนคาดไม่ถึง นั่นก็คือ บทบาทองค์กรวีชาชีพสื่อทั้งสองสมาคมคือ สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย

แม้จะรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนทั่วไปอยู่บ้างว่า สมาคมวิชาชีพทั้งสองนี้ สองมาตรฐาน หรือมาตรฐานเดียวคือ มาตรฐานที่ตั้งอยู่บนอคติ ไม่ให้ความเป็นธรรมกับประชาชนที่มีความคิดเห็นแตกต่างทางการเมือง และไม่เป็นกลางในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร แต่คิดเพียงว่า เป็นเพราะสภาพสังคมไทยอยู่ในสภาพแตกเป็นขั้ว แตกเป็นฝ่ายอย่างรุนแรง ประชาชนจึงอาจตั้งความหวังกับสมาคมวิชาชีพไว้สูงเกินไป

แต่ คำวิพากษ์วิจารณ์นี้กลับเป็นจริงอย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากที่ผู้เขียนถูกแทรกแซงการทำงานที่วิทยุ 100.5 อสมท. จนนำไปสู่การต้องตัดสินใจยุติการทำรายการในเวลาต่อมา

เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ผู้เขียนได้รายงานเรื่องนี้ (ทางโทรศัพท์) ให้กับนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย คำพูดแรกที่ได้รับ คือการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของผู้เขียนว่า ยังทำการบ้านเพื่อซักถาม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ดีพอ ไม่มีข้อมูลมากพอที่จะต้อนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนไปกับข้อมูล

ผู้เขียนเองก็ยอมรับ และพยายามกับอธิบายกลับไปว่า เพราะไม่ได้เตรียมตัวไว้ล่วงหน้า รวมทั้งผู้เขียนเป็นนักข่าว ไม่ใช่ทนายความ ที่จะคาดคั้น กดดัน โดยการตั้งคำถามกับแหล่งข่าว จนทำให้แหล่งข่าวต้องไปจนอยู่ในมุมใดมุมหนึ่ง และยืนยันไปด้วยว่า ได้ตั้งคำถามที่รัฐบาล และคนไทยส่วนใหญ่มีข้อสงสัยและมีคำถามต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างครอบคลุมเป็นส่วนใหญ่แล้ว (อ่านคำถาม และคำตอบ คำต่อคำ ในเว็บไซต์ประชาไท )

อย่าง ไรก็ตาม ยังได้รับความกรุณาจากนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยที่ให้เขียนบันทึกขึ้น ไป และได้อ่านบทความของนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยในเวลาต่อมาในหนังสือ พิมพ์มติชนที่ท้วงติงการแทรกแซงสื่อของรัฐบาล

ด้านสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ผู้เขียนก็ได้มีโอกาสได้พบกับนายกสมาคมฯ โดยบังเอิญในอีก 2 วันต่อมา สิ่งที่นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยพูดกับผู้เขียนก็คือ “ไม่เห็นมีอะไร เพราะเป็นเรื่องปกติที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแล อสมท. จะต้องเข้าไปตรวจสอบเมื่อมีการปฎิบัติขัดแย้งกับนโยบาย (ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญก็ระบุชัดว่า ผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 46 และทั้งสองสมาคมวิชาชีพ ก็หยิบประเด็นนี้มาเคลื่อนไหว เรียกร้องต่อรัฐบาลทุกครั้งเมื่อมีการแทรกแซงสื่อ)


ผู้ เขียนก็แสดงความคิดเห็นไปว่า นั่นหมายความว่า สมาคมฯ จะเห็นเป็นเรื่องผิดปกติ ก็ต่อเมื่อรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้สั่งให้มีการโยกย้าย หรือสับเปลี่ยนตำแหน่ง หรือสอบสวนเอาผิดกับผู้บริหารใน อสมท.ก่อน ถึงจะเป็นเรื่องผิดปกติในสายตาของนายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์กระนั้น หรือ

นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศไทย มีท่าทียอมรับ ข้าพเจ้าก็ย้อนถามกลับไปว่า ข้าพเจ้าเป็นใคร ก็เป็นคนที่ทำงานข่าวทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ มานานกว่า 20 ปี และถูกแทรกแซงการปฎิบัติหน้าที่มาโดยตลอด (เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก) แต่ทำไม นายกสมาคมฯ มองเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างนี้นี่เองที่เรียกว่า การเลือกปฎิบัติ หรือสองมาตรฐาน (หากเทียบกับกรณีของอดีตผู้อำนวยการ อสมท. คนล่าสุด หรือกรณีนักข่าวคนอื่น ที่มีปัญหากับรัฐบาลที่ผ่านมา สมาคมฯ จะออกมาเคลื่อนไหว และออกแถลงการณ์เกือบทันทีที่เกิดปัญหาขึ้น )

นายกสมาคมนักข่าว วิทยุและโทรทัศน์ไทยก็บ่ายเบี่ยงไปว่า นายกสมาคมฯ คนเดียวตัดสินใจเองไม่ได้ แม้จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ต้องนำเอาเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการฯ ก่อนเพื่อจะสรุปออกมาเป็นมติ ซึ่งตอนนี้ คณะกรรมการแต่ละคนก็ติดธุระไปต่างจังหวัดบ้าง ติดภาระงานกันอยู่บ้าง อย่างไรก็ตามก็เป็นการถกเถียงกันด้วยบรรยากาศที่เป็นมิตร เพราะพวกเราก็ยังคงเป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้องในวิชาชีพเดียวกัน

ผู้เขียนเองพยายามวิเคราะห์ และพิจารณาตัวเองว่า ตั้งแต่ปี 2528 ที่เริ่มเข้าสู่วิชาชีพสื่อสารมวลชน ได้ปฎิบัติหน้าที่ หรือปฎิบัติตนอย่างไร จึงถูกมองเหมือนไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสมาคมวิชาชีพสื่อ อาจจะเป็นเพราะหลังจากที่ออกจากหนังสือพิมพ์มติชน เมื่อปี 2539 แล้วเข้าสู่วงการโทรทัศน์ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็ได้กลายเป็นสื่อมวลชนของรัฐ แม้จะพักอาชีพไปชั่วคราวเมื่อครั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาเป็นเจ้าของ ไอทีวี. แต่เมื่อกลับมา ก็มาทำข่าวโทรทัศน์ของรัฐบาลอยู่ดี ซึ่งก็แน่นอนว่า ส่วนใหญ่ไม่ใช่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์

หากแต่สมาคมวิชาชีพฯ ได้ใช้หัวใจที่เป็นธรรม พิจารณาการทำงานของผู้เขียนในช่วงการทำข่าวโทรทัศน์กับฝากรัฐบาลในแต่ละยุค แต่ละสมัยที่ผ่านมา โดยเฉพาะในยุคของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (1 ปีก่อนรัฐประหาร) ผู้เขียนก็พยายามให้ความเป็นธรรม กับฝ่ายที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล หรือไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล เช่น ในรายการ “คนวงใน” ผู้เขียนได้เดินทางไปสัมภาษณ์ บุคคลที่ฝ่ายกองบรรณาธิการข่าวไอทีวี.ขณะนั้นมองว่าอยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกับ เจ้าของไอทีวี. ไม่ว่าจะเป็น กษิต ภิรมย์ สุริยะใส กตะสิลา วิชา มหาคุณ สมเกียรติ ตั้งกิจวณิชย์ สมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ สมาคมสิทธิเสรีภาพ ฯลฯ หรือแม้แต่คุณเสริมสุข (ไม่ทราบนามสกุล) นักข่าวของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ( บก.ข่าวการเมืองทีวีไทยปัจจุบัน) ที่โดน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เล่นงาน เพราะเปิดโปงการทุจริตที่สนามบินสุวรรณภูมิ

จนผู้เขียนได้รับการตัก เตือนด้วยคำพูดจากผู้บริหารสถานี และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งที่ถูกเชิญไปร่วมรับประทานอาหารกลางวันที่บ้านพิษณุโลก ร่วมกับคณะผู้บริหารไอทีวี.โดย พ.ต.ท.ทักษิณ พูดขึ้นบนโต๊ะอาหารว่า “รายการของคุณจอม ผมเห็นเอาคนที่พูดแบบแผ่นเสียงตกร่องมาออกอยู่บ่อย ๆ ผมไม่สนใจฟังหรอกคนพวกนั้น” ซึ่งก็แค่นั้น ไม่มีการมาขู่เข็ญ บังคับตามมาอีก

หากสมาคมวิชาชีพ จะพิจารณาอย่างเป็นธรรมและอยู่บนหลักการที่ถูกต้องแห่งวิชาชีพ เมื่อครั้งเกิดรัฐประหาร ผู้เขียนได้สัมภาษณ์ คุณลุงนวมทอง ไพรวัลย์ แท็กซี่ที่สละชีวิต ขับรถเข้าชนรถถัง ต่อมาก็ได้ตัดสินใจผูกคอตายที่สะพานลอยหน้าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ผู้เขียนก็ถูกสั่งห้ามจาก คมช.สมัยนั้น ไม่ให้นำเสนอข่าวนี้อย่างเด็ดขาด มีคำสั่งทั้งโทรศัพท์เข้ามาเตือน และส่งทหารพร้อมอาวุธเข้ามาประจำการอยู่หน้าสถานีโทรทัศน์ไอทีวี.ตลอดจนหมด ยุค คมช.

สมาคมวิชาชีพสื่อทั้งสองฯ ก็ยังคงมองเป็นเรื่องปกติ และดูเหมือนจะเห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร โดยปล่อยให้มีการถูกแทรกแซง และยอมที่จะถูกลิดรอนเสรีภาพของสื่อเอง ทั้งๆ ที่ได้เคลื่อนไหวเรียกร้องในสิ่งเหล่านี้อย่างหนักหน่วง และเอาจริงเอาจังก่อนหน้านั้น

ไม่รวมเรื่องที่ผู้เขียนเดินทางไป สัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หนีการปฎิวัติรัฐประหารไปอยู่เกาะฮ่องกง ทั้งๆ ที่ผลการเลือกตั้ง ( 23 ธันวาคม 2550 ) ออกมาแล้วว่า พรรคพลังประชาชนเป็นพรรคที่ได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล และเป็นที่รู้กันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คือหัวหน้าพรรคตัวจริง ข้าพเจ้าจึงหวังจะทำหน้าที่ตามความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ นั่นคือ การสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรีตัวจริง ที่ลี้ภัยอยู่ในเกาะฮ่องกง แต่สุดท้ายนอกจากการสัมภาษณ์ครั้งนั้นจะถูกระงับไม่ให้ออกอากาศแล้ว ผู้เขียนกลับได้รับคำประณามทั้งจากเพื่อนร่วมงาน และความไม่สนใจใยดีจากสมาคมวิชาชีพอีกเช่นกัน

และเมื่อพรรคพลัง ประชาชนขึ้นมาเป็นรัฐบาล คุณสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี คุณสมัครก็ได้เชิญบรรดานักข่าว ไอทีวี. ที่ถูกลอยแพอย่างไร้ความปราณี ( เพราะถูกป้ายสีมาตลอดเวลาว่า เป็นนักข่าวไร้อุดมการณ์ รับใช้ระบอบทักษิณ ) มาทำงานข่าวที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ซึ่งได้เปลี่ยนเป็น เอ็นบีที. ผู้เขียนก็ได้ขอเข้าพบกับ คุณจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ว่า ขอทำหน้าที่อย่างมีอิสระและมีเสรีภาพ โดยไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เหมือนที่สังคมกำลังตั้งคำถาม ซึ่งก็ได้รับคำตอบเป็นที่พอใจว่า จะให้อิสระในการทำงานอย่างเต็มที่ เพราะนี่คือจุดเด่นของคนไอทีวี. ที่ทำให้ ไอทีวี. เป็นที่ยอมรับของความเป็นสถานีข่าวจนถึงปัจจุบัน

แต่วันแรกของเปิด สถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที ผู้เขียนก็ถูกแทรกแซงการทำงานอย่างรุนแรงทั้งจากผู้บริหารสถานีฯ และจากบริษัทที่ว่าจ้างให้เข้าไปทำงาน โดยผู้เขียน ซึ่งเป็นผู้ดำเนินรายการ “ถามจริงตอบตรง” ประสงค์ที่จะเชิญตัวแทนฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล มาพูดคุยเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นปมปัญหาแห่งความขัดแย้งของฝ่ายการเมือง ( เดิมนั้น คุณสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะมาเป็นแขกในรายการ แต่ท่านป่วยไม่สามารถมาร่วมรายการได้)

แต่ผู้บริหารสถานีเห็นว่า ไม่เหมาะสม เพราะวันแรกของการเปิดสถานีที่เปลี่ยนโฉมใหม่ ควรให้รัฐบาลในฐานะผู้กำกับดูแลโทรทัศน์ช่องนี้มาออกอากาศ ซึ่งผู้เขียนเห็นว่า ตลอดทั้งวันของการเปิดสถานี เอ็นบีที. รัฐบาลก็พูดฝ่ายเดียวมาตลอดทั้งวันแล้ว หลังจากถกเถียงกัน จนเกือบจะทำให้ผู้เขียนตัดสินใจยุติการทำหน้าที่อีกครั้ง แต่ก็มาลงเอยด้วยข้อต่อรองที่ว่า ให้ฝ่ายรัฐบาลมาออกรายการในวันแรกก่อน แล้ววันถัดไป ผู้เขียนขอเชิญ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน คือคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาเป็นแขกในรายการ ซึ่งทางผู้บริหารสถานีก็ตกลงร่วมกันเช่นนั้น

เมื่อ ถึงวันที่จะออกอากาศหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน กลับเป็นว่า ออกอากาศไม่ได้ เพราะไม่มีเวลา ทั้งๆ ที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กำลังเดินทางมาเข้ารายการ ต้องยกเลิกการออกอากาศกลางคัน ข้าพเจ้าต้องทำหนังสือขอโทษอย่างเป็นทางการ และเดินทางไปขอโทษกับคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านด้วยตัวเองที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนอกจากจะได้รับการต่อว่าจากปากของคุณอภิสิทธิ์ว่า “นักการเมือง เมื่อมาเป็นรัฐบาล ทำอะไรไม่เกรงใจประชาชน พยายามใช้อำนาจของตัวเอง ใช้สื่อของรัฐซึ่งเป็นสื่อของประชาชนด้วยเช่นกันมาเป็นเครื่องมือตอบโต้ทาง การเมือง” ถึงตอนนั้น นักข่าวหลายสำนัก ให้ความสนใจ ติดตามสอบถามมายังผู้เขียน ถึงการแทรกแซงสื่อของพรรคพลังประชาชนอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะๆ โดยเฉพาะสำนักข่าวเนชั่น

และเมื่อพรรคพลังประชาชน จัดให้มีรายการ “ความจริงวันนี้” ทางเอ็นบีที. ผู้เขียนก็แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระถึงความไม่เหมาะสมของการเป็นทีวีของรัฐ แต่ฝ่ายการเมืองกลับนำมาใช้เป็นเครื่องมือตอบโต้ทางการเมือง ซึ่งก็มีหลายสำนักข่าวอีกเช่นกัน ได้ให้ความสนใจ จนนำไปสู่การถอดรายการ “ถามจริงตอบตรง” ออกจากผังรายการ แต่ด้วยความปราณีที่ยังคงให้ผู้เขียนจัดรายการต่อไป แต่เปลี่ยนชื่อรายการเป็น “ทางออกสังคมไทย” และเตือนไม่ให้เล่นประเด็นขัดแย้งทางการเมืองอีก ผู้เขียนต้องยอมจำนน เพราะไม่อยากให้เพื่อนร่วมงานนับสิบคนต้องมาตกงานจากตัดสินใจของผู้เขียน เพียงคนเดียว

เมื่อพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเป็นรัฐบาล ก็ได้ร่วมกับกลุ่มบริษัท และคณะบุคคลที่มีคนข่าวจากหลายสำนักร่วมขบวนการปฎิวัติช่อง 11 ให้กลายเป็น ‘หอยม่วง’ อย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน โดยที่ผู้เขียนก็ถูกปรับเปลี่ยนสถานะเป็นเพียงผู้จัดรายการอิสระชั่วคราว
(จะอ้างว่าหมดสัญญาจ้างก็ตามที) แต่ถูกว่าจ้างจาก ศอบต.ให้ทำรายการเกี่ยวกับปัญหาภาคใต้ ซึ่งเป็นการวางแผนและพูดคุยกันมาตั้งแต่รัฐบาลพรรคพลังประชาชนแล้ว

ดัง นั้นจะเห็นว่า ตลอดการทำงานของผู้เขียน ไม่ว่ารัฐบาลยุคใดสมัยใด จะเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมืองไปอย่างไร แต่ผู้เขียนก็ยังยืนยันอยู่บนหลักการที่ถูกต้องของวิชาชีพไม่เคยเป็นเครื่อง ทางการเมือง หรือรับใช้การเมืองฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด พยายามอย่างเต็มที่ (แม้จะเจ็บปวดกับความพยายามที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องก็ตาม) ดำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรม การให้โอกาส และที่สำคัญคือสิทธิเสรีภาพของคนสื่อ

เหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นกับผู้เขียน ในฐานะที่เป็นคนข่าวคนหนึ่ง และในฐานะประชาชนคนหนึ่งด้วย อยากจะเรียกร้องให้ สมาคมวิชาชีพสื่อ เป็นที่พึ่ง เป็นความหวัง เป็นองค์กรวิชาชีพที่ไม่เลือกข้าง ไม่ตัดสินใจแทนประชาชน กับความเห็นต่างทางการเมือง จนถูกมองว่า สมาคมวิชาชีพสื่ออคติกับประชาชนอีกกลุ่มหนึ่ง และขอให้สมาคมวิชาชีพสื่อ ยืนหยัดอยู่บนหลักการแห่งความเป็นธรรม สิทธิเสรีภาพ และเคารพสิทธิมนุษยชนไว้ให้ได้อย่างมั่นคง

ไม่เฉพาะกับ ผู้เขียน แต่สำหรับประชาชนทั้งประเทศ ต่างก็รอความหวังว่า เมื่อไหร่ ผู้ที่ทำหน้าที่สื่อสารมวลชน หรือองค์กรวิชาชีพสื่อสารมวลชนทั้งหลาย ซึ่งได้รับเกียรติจากสังคมมาโดยตลอด จะได้ทำหน้าที่แก้วิกฤตของชาติ สร้างความปรองดอง และสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นภายในชาติของเราเสียที


Create Date : 17 กันยายน 2552
Last Update : 17 กันยายน 2552 17:28:40 น. 4 comments
Counter : 473 Pageviews.

 
คุณจอมครับขอถามสักคำในฐานะผู้เสียภาษี นักโทษคนอื่นที่อยู่ในเรือนจำทำไมไม่ได้ออกรายการของคุณจอมหละครับ เช่นหมอที่ฆ่าหั่นศพ หรือผู้ต้องโทษที่เป็นพระที่ดงแคนใหญ่ ทำไมต้องเป็นแค่คุณทรัพย์สินคนเดียว หรือแม้แต่คุณวัฒนา ณ.เกาะกง การแก้ตัวก็เป็นแค่การผายลมทางปาก คนโง่เท่านั้นที่บอกว่าหอม


โดย: ปากกาสีน้ำ......เงิน IP: 125.26.196.123 วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:21:46:43 น.  

 
ตอบแทน คุณจอม blOG คนที่1 เห็นว่า คุรก็คงจะเป็นคนหนึ่ง ที่บอกว่ามันหอม อยากตอบว่าเขา ทำเป็นเรื่องไป นี้เป้นเรืองของการเมือง คุณเอาเรื่องหมอเรืองส่วนตัวมาปะปนก็เรืองของการเมือง คุณโงเท่านั้นที่แยกแยะมันไม่ออก(ก็คุณไง ยังไม่รู้อีก)
ออ อย่าเก็บความโงไว้คนเดียว การแสดงความเห็นแบบโง่ๆยิ่งทำให้โงหนักไปอีก มิได้แบ่งเบาภาระให้ความโง่ มันลดลงแต่อย่างใค


โดย: ตอบแทน คุณจอม IP: 74.64.20.194 วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:23:16:54 น.  

 
เรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองของแท้เลยหล่ะครับ ไม่ว่าเรื่องโฆษกีใฝ กับอดีตนางงาม โกหกออกทีวี ตอนที่ตำรวจสลายม็อบ การทำเลย์ดาวน์เพื่อให้การออกอากาศล่าช้า ซึงแม้กระทั่งนายกเขายังไม่กลัว ต้องถามว่าเงินเดือนของพวกคุณ ช่องเลขเหมือนกัน มาจากที่ใหน ถ้าจะทำอย่างนี้ ไปเถอะช่องพีทีวีไปรวมกันที่โน่น ชาวบ้านเขาจะได้แยกผิดแยกถูก


โดย: ปากกาสีน้ำ......เงิน IP: 125.26.141.253 วันที่: 18 กันยายน 2552 เวลา:6:13:54 น.  

 
ไม่ได้เข้ามาตั้งนาน พันทิปก็ยังเป็นก็ยังเป็นที่รวมตัวของพวกสมุนทักษิณโจรขายชาติเหมือนเดิมนะครับ

ไม่มีอะไรพัฒนาเลย

พวกเสื้อแดงก็ยังฟายเหมือนเดิม



โดย: อุกเงียว วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:21:33:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]









ผม ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
สามัญชนคนเหมือนกัน(All normal Human)
คนจรOnline(ได้แค่ฝัน)แห่งห้วงสมุทรสีทันดร
(Online Dreaming Traveler of Sitandon Ocean)
กรรมกรกระทู้สาระ(แนว)อิสระผู้ถูกลืมแห่งโลกออนไลน์(Forgotten Free Comment Worker of Online World)
หนุ่มสันโดษ(ผู้มีชีวิตที่พอเพียง) นิสัยและความสนใจแปลกแยกในหมู่ญาติพี่น้องและคนรู้จัก (Forrest Gump of the family)
หนุ่มตาเล็กผมสั้นกระเซิงรูปไม่หล่อพ่อไม่รวย แถมโสดสนิทและอาจจะตลอดชีวิตเพราะไม่เคยสนใจผู้หญิงกะเขาเลย
บ้าในสิ่งที่เป็นแก่นสารและสาระมากกว่าบันเทิงเริงรมย์
พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ดีๆกับบันทึกในโลกออนไลน์แล้วครับ
กรุณาปรับหน้าจอเป็นขนาด1024*768เพื่อการรับชมBlog
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter
และติดตามพูดคุยนำเสนอด้านมืดของกรรมกรผ่านTwitterอีกภาคหนึ่ง
Google


ท่องไปทั่วโลกหาแค่ในพันทิบก็พอ
ติชมแนะนำหรือขอให้เพิ่มเติมเนื้อหาWeblog กรุณาส่งข้อความส่วนตัวถึงผมโดยตรงได้ที่หลังไมค์ช่องข้างล่างนี้


รับติดต่อเฉพาะผู้ที่มีอมยิ้มเป็นตัวเป็นตนเท่านั้น ไม่รับติดต่อทางE-Mailเพื่อสวัสดิภาพการใช้Mailให้ปลอดจากSpam Mailครับ
Addชื่อผมลงในContact listของหลังไมค์
free counters



Follow me on Twitter
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.