ก็แค่Weblogดองๆทำเล่นไปเรื่อยแหละน่าของกรรมกรกระทู้ลงชื่อและเมล์ที่Blogนี้สำหรับผู้ที่ต้องการGmailครับ
เข้ามาแล้วกรุณาตอบแบบสอบถามว่าคุณตั้งหน้าตั้งตาเก็บเนื้อหาในBlogไหนของผมบ้างนะครับ
รับRequestรูปCGการ์ตูนไรท์ลงแผ่นแจกจ่ายครับ
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter

เข้ามาเยี่ยมแล้วรบกวนลงชื่อทักทายในBlogไหนก็ได้Blogหนึ่งพอให้ทราบว่าคุณมาเยี่ยมแล้วลงสักหน่อยนะอย่าอายครับถ้าคุณไม่ได้เป็นหัวขโมยเนื้อหาBlog(Pirate)โจทก์หรือStalker

ความเป็นกลางไม่มีในโลก มีแต่ความเป็นธรรมเท่านั้นเราจะไม่ยอมให้คนที่มีตรรกะการมองความชั่วของ มนุษย์บกพร่อง ดีใส่ตัวชั่วใส่คนอื่น กระทำสองมาตรฐานและเลือกปฏิบัติได้ครองบ้านเมือง ใครก็ตามที่บังอาจทำรัฐประหารถ้าไม่กลัวเศรษฐกิจจะถอยหลังหรือประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ได้เจอกับมวลมหาประชาชนที่ท้องสนามหลวงแน่นอน

มีรัฐประหารเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ขอให้มวลมหาประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน จงไปชุมนุมพร้อมกันที่ท้องสนามหลวงทันที

พรรคการเมืองนะอยากยุบก็ยุบไปเลย แต่ึอำมาตย์ทั้งหลายเอ็งไม่มีวันยุบพรรคในหัวใจรากหญ้ามวลมหาประชาชนได้หรอก เสียงนี้ของเราจะไม่มีวันให้พรรคแมลงสาปเน่าๆไปตลอดชาติ
เขตอภัยทาน ที่นี่ไม่มีการตบ,ฆ่าตัดตอนหรือรังแกเกรียนในBlogแต่อย่างใดทั้งสิ้น
อยากจะป่วนโดยไม่มีสาระมรรคผลปัญญาอะไรก็เชิญตามสบาย(ยกเว้นSpamไวรัสโฆษณา มาเมื่อไหร่ฆ่าตัดตอนสถานเดียว)
รณรงค์ไม่ใช้ภาษาวิบัติในโลกinternetทั้งในWeblog,Webboard,กระทู้,ChatหรือMSN ถ้าเจออาจมีลบขึ้นอยู่กับอารมณ์ของBlogger
ยกเว้นถ้าอยากจะโชว์โง่หรือโชว์เกรียน เรายินดีคงข้อความนั้นเพื่อประจานตัวตนของโพสต์นั้นๆ ฮา...

ถึงอีแอบที่มาเนียนโพสต์โดยอ้างสถาบันทุกท่าน
อยากด่าใครกรุณาว่ากันมาตรงๆและอย่าได้ใช้เหตุผลวิบัติประเภทอ้างเจตนาหรือความเห็นใจ
ไปจนถึงเบี่ยงเบนประเด็นไปในเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันฯเป็นอันขาด

เพราะการทำเช่นนี้รังแต่จะทำให้สถาบันฯเกิดความเสียหายซะเอง ผมขอร้องในฐานะที่เป็นRotational Royalistคนหนึ่งนะครับ
มิใช่Ultra Royalistเหมือนกับอีแอบทั้งหลายทุกท่าน

หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ตรรกะวิบัติ รณรงค์ต่อต้านการใช้ตรรกะวิบัติทุกชนิด แน่นอนความรุนแรงก็ต้องห้ามด้วยและหยุดส่งเสริมความรุนแรงทุกชนิดไม่ว่าทางตรงทางอ้อมทุกคนทุกฝ่ายโดยเฉพาะพวกสีขี้,สื่อเน่าๆ,พรรคกะจั๊ว,และอำมาตย์ที่หากินกับคนที่รู้ว่าใครต้องหยุดปากพล่อยสุมไฟ ไม่ใช่มาทำเฉพาะเสื้อแดงเท่านั้นและห้ามดัดจริต


ใครมีอะไรอยากบ่น ก่นด่า ทักทาย เชลียร์ เยินยอ ไล่เบี๊ย เอาเรื่อง คิดบัญชี กรรมกรกระทู้(ยกเว้นSpamโฆษณาตัดแปะรำพึงรำพัน) เชิญได้ที่ My BoardในMy-IDของกรรมกรที่เว็ปเด็กดีดอทคอมนะครับ


Weblogแห่งนี้อัพแบบรายสะดวกเน้นหนักในเรื่องข้อมูลสาระใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว ไม่ตามกระแส ไม่หวังปั่นยอดผู้เข้าชม
สำหรับขาจรที่นานๆเข้ามาเยี่ยมสักที Blogที่อัพเดตบ่อยสุดคือBlogในกลุ่มการเมือง
กลุ่มหิ้งชั้นการ์ตูนหัวข้อรายชื่อการ์ตูนออกใหม่รายเดือนในไทย
และรายชื่อการ์ตูนออกใหม่ที่ญี่ปุ่นในตอนนี้

ช่วงที่มีงานมหกรรมและสัปดาห์หนังสือแห่งชาติประจำครึ่งปี(ทวิมาส)จะมีการอัพเดตBlogในกลุ่มห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญา
และหิ้งชั้นการ์ตูนของกรรมกรกระทู้


Hall of Shame กรรมกรมีความภูมิใจที่ต้องขอประกาศหน้าหัวนี่ว่า บุคคลผู้มีนามว่า ปากกาสีน้ำ......เงิน หรือ กลอน เป็นขาประจำWeblogแห่งนี้ที่เสพติดBlogการเมืองและใช้เหตุวิบัติอ้างเจตนาในความเกลียดชังแม้วเหลี่ยมและความเห็นใจในสถาบัน เบี่ยงประเด็นในการแสดงความเห็นเป็นนิจ ขยันขันแข็งแบบนี้เราจึงขอขึ้นทะเบียนเขาคนนี้ในหอเกรียนติคุณมา ณ ที่นี้ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

Group Blog
นิยายดองแต่งแล่นบันทึกการเดินทางของกรรมกรกระทู้คำทักทายกับสมุดเยี่ยมพงศาวดารมหาอาณาจักรบอร์ดพันทิพย์สาระ(แนว)วงการการ์ตูนมารยาทในสังคมออนไลน์ที่ควรรู้แจกCDพระไตรปิฎกฟรีรวมเนื้อเพลงดีๆจากดีเจกรรมกรกระทู้รวมแบบแผนชีวิตของกรรมกรกระทู้ชั้นหิ้งการ์ตูนของกรรมกรกระทู้ภัยมืดของโลกออนไลน์เรื่องเล่าในโอกาสพิเศษห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญาของกรรมกรกระทู้กิจกรรมของกรรมกรกระทู้กับInternetคุ้ยลึกวงการบันเทิงโทรทัศน์ตำราพิชัยสงครามซุนวูแฟนพันธ์กูเกิ้ลหน้าสารบัญคลังเก็บรูปกล่องปีศาจ(ขอPasswordได้ที่หลังไมค์)ลูกเล่นเก็บตกจากเน็ตสาระเบ็ดเตล็ดรู้จักกับงานเทคนิคการแพทย์ของกรรมกรรวมภาพถ่ายโดยช่างภาพกรรมกรรวมกระทู้ดีๆการเมือง1กรรมกรกับโรคAspergerรวมกระทู้ดีๆการเมือง2ความเลวของสื่อความเลวของพรรคประชาธิปัตย์ความเลวของอำมาตย์ศักดินาข้อมูลลับส่วนตัวกรรมกรที่ไม่สามารถเผยได้ในการทั่วไปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายรวมบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจการเงินเจาะฐานการเมืองท้องถิ่น

ถึงผู้ที่ต้องการขอpasswordกล่ิองปีศาจหรือFollowing Userใต้ดินเพื่อติดตามข่าวการอัพเดตกล่องปีศาจและดูpasswordมีเงื่อนไขว่ากรุณาแจ้งอายุ ระดับการศึกษาหรืออาชีพการงาน และอำเภอกับจังหวัดของภูมิลำเนาที่คุณอยู่ เป็นการแนะนำตัวท่านเองตอบแทนที่ผมก็แนะนำตัวเองในBlogไปแล้วมากมายกว่าเยอะ อีกทั้งยังเก็บรายชื่อผู้เข้ามาเยี่ยมGroup Blogนี้ไปด้วย
ถ้าอยากให้คำร้องขอpasswordหรือการFollowing Userใต้ดินผ่านการอนุมัติขอให้อ่านBlogข้างล่างนี่นะครับ
ข้อแนะนำการเขียนProfileส่วนตัว

อยากติดตั้งแถบโฆษณาแนวนอน ณ ที่ตรงนี้จังเลยพับผ่าสิเมื่อไหร่มันจะยอมให้ใช้Script Codeได้นะเนี่ย เพราะคลิกโฆษณาที่ได้มาตอนนี้ได้มาจากWeblogของผมที่Exteen.comซึ่งทำได้2-4คลิกมากกว่าที่นี่ซึ่งทำได้แค่0-1คลิกซะอีก ทั้งๆที่ยอดUIPที่นี่เฉลี่ยที่400กว่าแต่ของExteenทำได้ที่200UIP ไม่ยุติธรรมเลยวุ้ยน่าย้ายฐานจริงๆพับผ่า
เนื่องจากพี่ชายของกรรมกรแนะนำW​eb Ensogoซึ่งเป็นWebขายDeal Promotion Onlineสุดพิเศษ ซึ่งมีอาหารและของน่าสนใจราคาถูกสุดพิเศษให้ได้เลือกกัน ใครสนใจก็เชิญเข้ามาลองชมดูได้ม​ีของแบบไหนที่คุณสนใจบ้าง
Return of สนธิ

หลังจากพังพาบไปกับพิษไข้ต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 สนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งเคยประกาศความยิ่งใหญ่ของชนชาติผิวเหลือง ให้นักธุรกิจสื่อในซีกโลกตะวันตกได้ประจักษ์ในความสามารถ เหมือนกับครั้งหนึ่งในอดีตกาลที่ เจงกีสข่าน ได้ยกพลบุกตะลุยไปจนถึงยุโรป ก่อนจะสิ้นชีพ เพราะความทะเยอทะยานที่เกินกำลังของตัวเอง

"โมกุลแห่งสื่อของเอเชีย" อย่างสนธิ ลิ้มทองกุล ก็มีสภาพไม่แตกต่างไปจากจักรพรรดิเจงกีส ข่าน คือ ต้องถึงกาลดับชีพในโลกธุรกิจ ด้วยสภาพหนี้สินล้นพ้นตัวหลายหมื่นล้านบาท อาณาจักร เดอะ เอ็มกรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ที่เสกเป่าขึ้นมาด้วยลมปากและปลายลิ้น ก็ล่มสลายพังครืนลงจนยากจะรับมือไหว

เมื่อหมดสิ้นหนทางที่จะต้านพิษไข้ต้มยำกุ้ง และไม่อาจจะทานพายุเศรษฐกิจที่พัดผ่านประเทศไทยไปได้ สนธิ ลิ้มทองกุล ได้ประกาศทฤษฎี 3 ไม่ ขึ้นในวงการธุรกิจประเทศไทย ที่ทำให้ลือลั่นไปทั่วโลก ได้แก่ "ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย" พร้อมประกาศตนเป็นลูกหลาน (นอกรีต) พระเจ้าตาก ด้วยการ "ชักดาบ"เจ้าหนี้ทุกรายประดามี

กระบวนท่าของสนธิ บังเกิดผลสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วทุกระดับ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เนื่องจากมีนักธุรกิจจำนวนมาก ยึดสนธิ เป็นแบบอย่างในการต่อสู้กับเจ้าหนี้ด้วยทฤษฎี 3 ไม่ ส่งผลให้ประเทศไทย กลายเป็นลูกหนี้ที่เจ้าหนี้ต่างชาติเข็ดขยาดไปตามๆ กัน

กล่าวกันว่าเฉพาะ บริษัท เดอะเอ็มกรุ๊ป จำกัด(มหาชน) มีหนี้สินมากกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นภาระที่มากเกินกว่าสนธิ จะเยียวยาได้ จึงต้องปล่อยให้เจ้าหนี้เข้ามาจัดการแบ่งสันปันส่วนหนี้ที่สนธิ สร้างเอาไว้ ในขณะที่สนธิ ก็หมดสภาพที่จะยื้อยุดฉุดกระชากลากหนี้กับเจ้าหนี้ทั้งหลาย จนต้องยอมรับสภาพบุคคลล้มละลายในวันหนึ่งเมื่อธนาคารนครหลวงไทย ฟ้องให้ชำระหนี้จำนวน 151 ล้านบาท สนธิไม่สามารถชำระหนี้ได้ ธนาคารนครหลวงไทย ก็ดำเนินการในชั้นศาล ให้ศาลสั่งสนธิ เป็นบุคคลล้มละลาย

ถึงแม้จะตกอยู่ในสถานภาพบุคคลล้มละลาย แต่สนธิ ก็ยังคงมีบทบาทในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ในฐานะที่ปรึกษาบริษัท แมเนเจอร์มีเดียกรุ๊ป จำกัด(มหาชน) และการดำเนินชีวิตของสนธิ ก็ยังคงเป็นไปอย่างมีสีสัน ไม่แตกต่างจากก่อนจะเป็นบุคคลล้มละลายมากนัก นักการเมือง นักวิชาการจำนวนมาก ยังคงแวะเวียนไปหา ไปขอความเห็นเรื่องต่างๆ อยู่เป็นประจำ ไม่เพียงเท่านั้น สนธิ ยังอยู่เบื้องหลังการขยายกิจการของบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ เพื่อทำธุรกิจสื่อเวบไซต์ และสื่อโทรทัศน์ ในนาม ไทยเดย์ดอทคอม ที่มีจิตตนารถ ลิ้มทองกุล ลูกชายคนเดียวของเขาเป็นกรรมการผู้จัดการด้วยเงินทุนหลายร้อยล้าน

ถึงแม้จะอยู่เบื้องหลังและรั้งตำแหน่งเพียงที่ปรึกษาบริษัท แต่ก็ไม่อาจจะปกปิดสถานภาพที่แท้จริงของตัวเองต่อสายตาของนักลงทุน และเพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการสื่อมวลชนได้ เนื่องจากการเดินหมากทางธุรกิจของสนธิ เป็นหมากที่ดุดัน กว้านซื้อตัวบุคลากรมือดีจากค่ายต่างๆ เข้ามาอยู่ในคอกของตัวเองอย่างไม่พรั่นพรึงต่อราคาที่มีการนำเสนอเข้ามา ขุนพลข่าวมือดี จากโทรทัศน์ทั้ง 6 ช่อง ถูกอำนาจเงินดูดไปอยู่ภายใต้ชายคาบ้านเจ้าพระยา และบ้านพระอาทิตย์ ซึ่งเป็นป้อมค่ายหลักของสนธิ ในการหวนกลับคืนสู่สังเวียนธุรกิจสื่อสารมวลชนอีกครั้งหนึ่ง

ด้วยการลงทุนหลายร้อยล้านบาท เพื่อสร้างอาณาจักรใหม่ ที่มีเวบไซต์ manager.co.th และโทรทัศน์ 11 news 1 เป็นหัวหอกหลักนี้เอง จึงทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นในวงการธุรกิจ และวงการสื่อมวลชนในประเทศ ว่าแท้จริงแล้วสนธิ ไม่ได้บาดเจ็บจากพิษไข้ต้มยำกุ้งจริง ไม่ได้ล้มตามที่เป็นข่าว

จริงอยู่ บริษัทเดอะเอ็มกรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ล้มไปแล้ว แต่สนธิ ยังคงยืนได้อย่างสง่าผ่าเผย ซึ่งพฤติกรรมดังนี้ ไม่อาจเรียกเป็นอื่นได้ นอกจากการล้มบนฟูก กล่าวคือ บริษัทเจ๊ง แต่สนธิ ไม่ได้เจ๊งตามไปด้วย เพราะความชาญฉลาดในการทำธุรกิจ และความเจนจัดในการใช้บริษัท และตลาดหลักทรัพย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเอง เชื่อกันว่าสนธิ ได้ใช้กระบวนท่าดูดเงินบริษัทมหาชน เข้าไปอยู่ในเซฟของตัวเองจำนวนมหาศาล

หลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 สนธิได้หลบลี้หนีหน้าออกจากวงการธุรกิจนานพอสมควร ก่อนจะกลับมาปรากฏกายในวงการหนังสือพิมพ์อีกครั้ง ในนามของพายัพ วนาสุวรรณ ที่ทำให้มิตรรักอย่าง ธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ ต้องจดจำไปอีกนาน ด้วยลีลาการ เปลือยธารินทร์ อย่างเจ็บแสบ เพียงเพราะ ธารินทร์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้น มีทีท่าเมินเฉยต่อความเดือดร้อนของสนธิ ที่กำลังซมพิษไข้ต้มยำกุ้ง ชนิดที่เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด

สนธิใช้ข้อมูลวงใน ที่เคยคลุกคลีตีโมงอยู่กับสองพี่น้อง "นิมมานเหมินทร์" คือ ธารินทร์ และศิรินทร์ มาย้อนถล่มธารินทร์อย่างรุนแรงหนักหน่วง กระทั่งภาพลักษณ์ขุนคลังไร้เทียมทานของธารินทร์ ที่ประชาชนฝากความหวัง ต้องเปรอะเปื้อนไปทั้งตัว และกลายเป็นขุนคลังไร้ราคา โดยเฉพาะเรื่องการขายทรัพย์สินของ ปรส.ให้แก่บรรษัทข้ามชาติในราคาถูกๆ แบบเลหลัง ซึ่งเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ที่มีนายธารินทร์ เป็นผู้รับผิดชอบงานด้านเศรษฐกิจ และเป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลประชาธิปัตย์ ไม่ได้รับความเชื่อถือจากประชาชน กระทั่งเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐบาล และทำให้เกิดวิกฤติศรัทธาในที่สุด

ต้องยอมรับว่าสนธิ เป็นนักหนังสือพิมพ์ที่มีวิธีการนำเสนอข้อมูลที่ยากให้เข้าใจง่ายได้เก่งที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งนับเป็นเสน่ห์ที่ทำให้มีผู้คนติดตามงานของเขาเป็นจำนวนมาก หลายคนตกอยู่ใต้มนต์ของตัวหนังสือที่สนธิร่ายให้ฟังชนิดที่ไม่อยากคิดอะไรเองอีกแล้ว พากันหลงเชื่อคล้อยตามตรรกะแบบสนธิไปได้ง่ายๆ

มีการสืบสาวราวเรื่องกันในเวลาต่อมาว่า เหตุที่สนธิ ในนามของพายัพ วนาสุวรรณ ตั้งหน้าตั้งตาไล่ถล่ม ธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ และรัฐบาลประชาธิปัตย์ ชนิดที่ไม่เห็นแก่คุณธรรมน้ำมิตรแต่เก่าก่อน ซึ่งเคยกินอยู่หลับนอนมาด้วยกัน ก็คือ กรณีที่เมื่อเดือนพฤษภาคม 2542 มีผู้ร้องเรียนต่อ ก.ล.ต. หรือคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ว่า บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนลเอนยิเนียริ่ง จำกัด(มหาชน) หรือ IEC ปกปิดข้อมูลการค้ำประกันเงินกู้ให้แก่บริษัท เดอะเอ็มกรุ๊ป จำกัด(มหาชน) จำนวน 1,078 ล้านบาท และจากการตรวจสอบของก.ล.ต. พบว่าการกู้เงินรายการนี้ของเดอะเอ็มกรุ๊ป จำกัด(มหาชน) มีบริษัท เดอะแมเนเจอร์มีเดียกรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ MGR ร่วมเป็นผู้ค้ำประกันด้วย

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของก.ล.ต. พบว่าสัญญากู้ยืมเงินที่เดอะเอ็มกรุ๊ป กู้จากธนาคารกรุงไทย และสัญญาค้ำประกันเงินกู้ของ MGR นั้นลงนามโดยคน 4 คน ได้แก่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล สุรเดช มุขยางกูร เสาวลักษณ์ ธีรานุจรรยงค์ และยุพิน จันทนา ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม แต่เรื่องนี้กรรมการของ MGR ไม่ได้รับทราบ และไม่ได้มีการเปิดเผยในงบการเงินของ MGR ซึ่งเป็นความผิดตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และตามประมวลกฎหมายอาญา เนื่องจากคนทั้ง 4 ได้กระทำการทุจริตโดยใช้อำนาจที่ตนได้รับมอบหมายแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้เพื่อผู้อื่น อันก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินและผลประโยชน์ของ MGR โดยตรง

รวมทั้ง ในการทำสัญญาประกันดังกล่าว บุคคลทั้ง 4 ได้ร่วมกันปลอมสำเนารายการงานประชุมคณะกรรมการ MGR เพื่อลวงให้ธนาคารกรุงไทยหลงเชื่อว่า คณะกรรมการ MGR ได้มีมติให้ทำสัญญาค้ำประกันดังกล่าว ในนาม MGR การกระทำดังกล่าวเป็นการลวงให้ผู้อื่นหลงผิดจนก่อให้เกิดภาระและความเสียหายแก่ผู้ถือหุ้นของ IEC และของ MGR

นอกจากนี้ บุคคลทั้ง 4 รายได้ร่วมกระทำความผิดจนก่อให้เกิดความเสียหายแก่ MGR โดยตรงแล้ว บุคคลดังกล่าว ยังไม่ได้ดำเนินการให้ MGR เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับภาระค้ำประกันเงินกู้ยืมให้แก่ เดอะเอ็มกรุ๊ป ในงบการเงินของ MGR ที่ต้องส่งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ การกระทำดังกล่าวทำให้ผู้ลงทุนได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน ไม่ตรงกับความเป็นจริง และไม่เป็นปัจจุบัน ส่งผลให้ผู้ลงทุนขาดข้อมูลสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุน

จากการตรวจสอบของก.ล.ต.ดังกล่าว จึงนำไปสู่การแจ้งความดำเนินคดีกับสนธิและพวกรวม 4 คน ต่อกองบังคับการตำรวจคดีเศรษฐกิจ กรณีร่วมกันปลอมแปลงเอกสารประกอบการทำสัญญาในนามของ MGR เพื่อค้ำประกันเงินกู้ 1,078 ล้านบาท ให้กับบริษัทเดอะเอ็มกรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ MGR โดยที่คณะกรรมการ MGR ไม่ได้รับทราบ จนทำให้ MGR เสียหายอย่างมากในเวลาต่อมา

ข้อกล่าวหาของก.ล.ต.ที่มีต่อสนธิและพวก หากพูดกันภาษาชาวบ้าน หรือภาษาข่าว ก็คือ อาชญากรเศรษฐกิจ หรือ โจรเสื้อนอก นั่นเอง ซึ่งข้อกล่าวหานี้ ได้รับการยืนยันว่าเป็นความจริงจากนายพีรศักดิ์ วรสุนโอสถ กรรมการอิสระ บริษัท ไออีซี จำกัด(มหาชน) ในฐานะประธานคณะทำงานจรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีบริษัท ไออีซี ค้ำประกันเงินกู้ให้บริษัท เดอะเอ็มกรุ๊ป จำกัด ที่เปิดเผยว่า ผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตามคำสั่งของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สรุปว่า การค้ำประกันเงินกู้ให้แก่บริษัท เดอะเอ็มกรุ๊ป กับธนาคารกรุงไทย จำกัด ระหว่างวันที่ 30 เมษายน 2539 ถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2540 มูลค่า 1,198 ล้านบาท เป็นการดำเนินงานโดยการรู้เห็นของนายสุรเดช มุขยางกูร กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ไออีซี เพียงผู้เดียว

"คณะกรรมการมีการสอบถามนายสุรเดช ได้รับการชี้แจงว่า บริษัท ไออีซี ค้ำประกันเงินกู้ของบริษัท เดอะเอ็มกรุ๊ป ติดต่อกันหลายครั้ง ตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2539 ทั้งที่การกู้ยืมของเดอะ เอ็มกรุ๊ป มูลค่า 1,198 ล้านบาท มีการวางหลักประกันเป็นที่ดินและใบหุ้นมูลค่ารวมประมาณ 1,632 ล้านบาท แต่ธนาคารกรุงไทยต้องการให้มีการค้ำประกันเพื่อความมั่นใจในเงินกู้ บริษัท จึงเข้าค้ำประกันร่วมกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล และบริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด" นายพีรศักดิ์กล่าว

สำหรับ สาเหตุของการเข้าค้ำประกันเงินกู้ ได้รับการชี้แจงจากนายสุรเดชว่า บริษัทเดอะ เอ็ม กรุ๊ป ติดต่อขอความช่วยเหลือผ่านทางนายสุรเดช และตัดสินใจเข้าค้ำประกัน เนื่องจากเห็นว่าไม่น่าจะมีผลกระทบต่อฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของไออีซี เพราะมูลค่าหลักประกันที่เดอะ เอ็มกรุ๊ป วางไว้สูงกว่าวงเงินกู้ยืม และยังมีบุคคลอื่นร่วมค้ำประกัน ขณะที่เดอะ เอ็มกรุ๊ป มีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในไออีซี ซึ่งเคยให้ความช่วยเหลือด้านธุรกิจมาตลอดตามธรรมเนียมปฏิบัติของบริษัทในเครือเดียวกัน โดยในช่วงที่ไออีซี จำเป็นต้องหาเงินทุนก็จะได้รับความช่วยเหลือจากเดอะ เอ็มกรุ๊ป จึงตัดสินใจด้วยความสุจริตลงนามค้ำประกันเงินกู้

กล่าวกันว่ากรณีของไออีซีนี้ ทำให้สนธิ ลิ้มทองกุล เสียหายอย่างหนัก ทั้งทางเครดิต และทางแหล่งเงิน ที่จะเข้ามากอบกู้อาณาจักร เดอะ เอ็มกรุ๊ป จึงเป็นเหตุให้เกิดรายการ "แค้นสั่งฟ้า" ขึ้น บนหน้าหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ในคอลัมน์ของพายัพ วนาสุวรรณ แล้วในที่สุดก็ฟาดไปที่ก้านคอ ธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ จนแทบสลบ

หลังจากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ สูญสิ้นอำนาจ เนื่องจากพ่ายแพ้การเลือกตั้งเมื่อต้นปี 2544 ให้กับพรรคไทยรักไทย ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างชนิดหมดรูปมวย สนธิ ในฐานะนักหนังสือพิมพ์คนหนึ่ง ซึ่งไม่น่าจะได้รับผลบวกหรือผลลบอะไรมากนักกับการเลือกตั้งที่เพิ่งจบลงไป กลับออกอาการดีอกดีใจอย่างเห็นได้ชัด

อาการดีอกดีใจกับชัยชนะของพรรคไทยรักไทย และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้รับการอธิบายในเวลาต่อมาไม่นานนัก เมื่อบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งเข้าดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ในรัฐบาลล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่คุ้นเคย และเคยอยู่ใต้ร่มเงาของสนธิ ในอาณาจักร เดอะ เอ็มกรุ๊ป จำกัด(มหาชน) มาแล้ว อาทิ

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตกรรมการบริษัท เดอะ แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด(มหาชน)

ทนง พิทยะ เพื่อนรักผู้ซาบซึ้งบุญคุณของสนธิ ไม่เสื่อมคลาย

พันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ เอเชียไทม์

กนก อภิรดี อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ แมเนเจอร์ มีเดียกรุ๊ป จำกัด(มหาชน)

ไม่เว้นแม้แต่ชัยอนันต์ สมุทวณิช ประธานมูลนิธิไชย้ง ลิ้มทองกุล(มารดาของนายสนธิ) ซึ่งเข้ามาเป็นมือเป็นไม้ให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจและนโยบายประชานิยม ให้กับรัฐบาลไทยรักไทย

การดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลของบุคคลที่เคยทำงานให้กับสนธิ ทำให้เกิดภาพซ้อนขึ้นมาทันทีว่า ระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับสนธิ ลิ้มทองกุล ต้องมีความสัมพันธ์พิเศษระดับสูงสุด และมาตอกย้ำให้เห็นว่าภาพซ้อนที่เห็นกันนั้น เป็นภาพที่ถูกต้อง ก็คือ การเดินทางไปร่วมงานวันเกิดของสนธิ ถึงสำนักงานหนังสือพิมพ์ ผู้จัดการ ของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งสร้างความฮือฮาให้แก่วงการสื่อสารมวลชนเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อมองไปถึงการหวนกลับคืนสู่ธุรกิจสื่อสารมวลชนอย่างคึกคักของสนธิ และสื่อในเครือผู้จัดการ ก็ยิ่งมั่นใจได้ว่า แกนนำสำคัญในรัฐบาลกับสนธิ มีความนัยพิเศษต่อกันอย่างแน่นอน เนื่องจากรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ ได้ทุ่มเทงบโฆษณาเข้าไปในสื่อเครือผู้จัดการของสนธิ อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อาทิ ธนาคารกรุงไทย การบินไทย การสื่อสารแห่งประเทศไทย ปตท. ฯลฯ

โดยเฉพาะรายของธนาคารกรุงไทย เจ้าหนี้รายใหญ่ของเดอะ เอ็มกรุ๊ป และเดอะ แมเนเจอร์ มีเดียกรุ๊ป ถึงกับทำแผนลดหนี้ และปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้รายนี้ด้วยการรับชำระหนี้ เป็นสื่อโฆษณาในสื่อเครือผู้จัดการทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ นิตยสาร รายการวิทยุ รายการโทรทัศน์ และเวบไซต์ ซึ่งนับว่าเป็นลูกหนี้ที่ได้รับการปฏิบัติเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากวิโรจน์ นวลแข กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) ในขณะนั้น ก็คือ เพื่อนรักและผู้มีอุปการคุณรายใหญ่ของสนธิ มาโดยตลอด

การหวนกลับคืนสู่วงการธุรกิจสื่อของสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งเปรียบเสมือนการกลับคืนสู่รากเหง้าของตัวเองของนักธุรกิจสื่อข้ามชาติ ที่พ่ายแพ้ย่อยยับกลับมา จึงต้องหลบเลียแผลในบ้านตัวเอง ถูกโจมตีอย่างหนักจากเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง สมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร เข้าจองบริษัท วอชด๊อก จำกัด ซึ่งดำเนินรายการโทรทัศน์ในช่อง 9 อ.ส.ม.ท. และช่อง 11 อยู่หลายรายการ แต่ต้องถูกเตะออกมา เพื่อเอาเวลาไปให้แก่สนธิ เป็นผู้ดำเนินรายการแทน

นอกเหนือจากการได้รับการสนับสนุนด้วยดีจากรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐในทุกสื่อของเครือผู้จัดการ จนแทบเก็บเงินเก็บทองกันไม่ทัน บริษัท เดอะ เอ็มกรุ๊ป ก็ยังได้รับการพิจารณาปรับโครงสร้างหนี้ จากเจ้าหนี้ ให้เป็นกรณีพิเศษอีกด้วย ตัวเลขการปรับลงหนี้ให้กับเดอะ เอ็มกรุ๊ป มากถึง 6,000 ล้านบาท

เรียกได้ว่า ในช่วงต้นของรัฐบาลไทยรักไทย สนธิ ในฐานะบุคคลล้มละลาย และผู้ต้องหาของก.ล.ต. ได้รับการปฏิบัติจากกลไกของรัฐ ในฐานะ "คนพิเศษ" จนเป็นที่ครหานินทาไปทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ก็ไม่อาจสะท้านความรู้สึกของสนธิ และอดีตผู้ร่วมงาน ที่ได้ดิบได้ดีมีอำนาจวาสนาในรัฐบาลอย่างเนืองแน่น

พร้อมๆ กับความยิ่งใหญ่ของพรรคไทยรักไทย ก็คือ การตื่นจากหลับของเครือผู้จัดการ และสนธิ และออกก้าวเดินอย่างไม่สนใจคำทักท้วงของใครหน้าไหนทั้งสิ้น รายการวิทยุ 97.5 MHz รายการโทรทัศน์ ก่อนจะถึงจันทร์ เมืองไทยรายวัน ทางช่อง 9 อ.ส.ม.ท. คือการเปิดเกมอุ่นเครื่องบนธุรกิจสื่ออีกครั้งของสนธิ ก่อนจะเปิดเกมรุกอย่างจริงจังกับสถานีข่าว 11 News 1 หรือ 11/1 ที่สนธิ มีความหวังอย่างมากว่า เขาจะมาแทนที่ สุทธิชัย หยุ่น และเครือผู้จัดการ จะมาทดแทน เนชั่นแชนแนล ที่ถูกรุกไล่จนตกจากจอโทรทัศน์ ทั้งแบบฟรีทีวี และเคเบิ้ลทีวี

ด้วยความหวังอันยิ่งใหญ่ สนธิ จึงเดินหน้าทำธุรกิจสื่ออีกครั้ง ด้วยความมุ่งมั่นที่จะกลับมาเป็นเบอร์หนึ่งของวงการอีกครั้งให้ได้ พร้อมๆกับการเดินหน้าปกป้อง และอาสาเป็นกองเชียร์ให้กับรัฐบาล และนายกฯทักษิณ ทุกเวที ทุกนาที และทุกสถานที่ ที่มีอยู่ในสื่อในเครือผู้จัดการ ในรูปแบบที่เรียกว่า "นายกฯข้า ใครอย่าแตะ" ใครจะมาแตะต้องนายกฯทักษิณ ไม่ได้ สนธิ จะใช้หน้าหนังสือพิมพ์ที่เขามี รายการโทรทัศน์ที่เขาจัด และรายการวิทยุ ที่เขาพูด ตอบโต้ แก้ต่างให้กับนายกฯทักษิณ โดยไม่สนใจว่าใครจะครหานินทาว่ากล่าวเขาถูกซื้อตัวแต่อย่างใด เนื่องเพราะการเกิดของรัฐบาลไทยรักไทย และนายกทักษิณ ก็คือ อนาคตที่สดใสของผู้จัดการ และสนธิ ในวันนั้นเช่นเดียวกัน

จากหนังสือ อีกด้านหนึ่งของสนธิ เล่มที่ 1


Create Date : 18 มีนาคม 2551
Last Update : 18 มีนาคม 2551 20:36:06 น. 1 comments
Counter : 449 Pageviews.

 
สนธิเป็นคนลวงโลก คนเลว ทำลายประเทศชาติ สร้างความแตกแยกในหมู่คนไทย เลวอย่างที่หาอะไรมาเปรียบไม่ได้ ยิ่งกว่าชั่ว น่าจะล้มหายตายจากโลกนี้ได้แล้ว ประเทศชาติจะได้เจริญรุ่งเรือง ขอสาปแช่งทุกวัน คน อะไร สร้างนิยายโกหกตอแหล ใส่ร้ายคนอื่นไปวันๆ ความชั่วที่ทำไว้กับประเทศไทย สิบปีก็บรรยายไม่จบ เป็นสื่อที่ชั่วร้าย หยาบคาย ดูอย่างเรื่องซ้อเจ็ด เขียนมาได้อย่างไรถ่อยสถุลมากๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีในหนังสือพิมพ์ให้คนทั้งประเทศอ่าน


โดย: เที่ยงตรง IP: 77.247.148.106 วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:2:21:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]









ผม ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
สามัญชนคนเหมือนกัน(All normal Human)
คนจรOnline(ได้แค่ฝัน)แห่งห้วงสมุทรสีทันดร
(Online Dreaming Traveler of Sitandon Ocean)
กรรมกรกระทู้สาระ(แนว)อิสระผู้ถูกลืมแห่งโลกออนไลน์(Forgotten Free Comment Worker of Online World)
หนุ่มสันโดษ(ผู้มีชีวิตที่พอเพียง) นิสัยและความสนใจแปลกแยกในหมู่ญาติพี่น้องและคนรู้จัก (Forrest Gump of the family)
หนุ่มตาเล็กผมสั้นกระเซิงรูปไม่หล่อพ่อไม่รวย แถมโสดสนิทและอาจจะตลอดชีวิตเพราะไม่เคยสนใจผู้หญิงกะเขาเลย
บ้าในสิ่งที่เป็นแก่นสารและสาระมากกว่าบันเทิงเริงรมย์
พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ดีๆกับบันทึกในโลกออนไลน์แล้วครับ
กรุณาปรับหน้าจอเป็นขนาด1024*768เพื่อการรับชมBlog
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter
และติดตามพูดคุยนำเสนอด้านมืดของกรรมกรผ่านTwitterอีกภาคหนึ่ง
Google


ท่องไปทั่วโลกหาแค่ในพันทิบก็พอ
ติชมแนะนำหรือขอให้เพิ่มเติมเนื้อหาWeblog กรุณาส่งข้อความส่วนตัวถึงผมโดยตรงได้ที่หลังไมค์ช่องข้างล่างนี้


รับติดต่อเฉพาะผู้ที่มีอมยิ้มเป็นตัวเป็นตนเท่านั้น ไม่รับติดต่อทางE-Mailเพื่อสวัสดิภาพการใช้Mailให้ปลอดจากSpam Mailครับ
Addชื่อผมลงในContact listของหลังไมค์
free counters



Follow me on Twitter
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.