|
ธรรมะอึดใจเดียว (จากหนังสือ "การเห็นตัวเอง: รำลึก ๑๐๐ ปีชาตกาล หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ")
(๓)
การทวนกระแสน้ำคือการทวนกระแสความคิด
ความคิดนี่เหมือนกับกระแสน้ำ...เหมือนกับกระแสน้ำ เราเคยได้ยินได้ฟังมาแล้ว พระพุทธเจ้าก่อนที่จะได้ตรัสรู้ จับเอาถาดหรือขัน(ของ)นางสุชาดา(ที่)เอาข้าวไปถวายพระพุทธเจ้า นึกว่าเป็นเทวดา พระพุทธเจ้าได้กินข้าวในขันของนางสุชาดาแล้ว ถามนางสุชาดาว่าจะถวายแต่ข้าวหรือจะถวายทั้งหมด...ถามนางสุชาดา นางสุชาดาก็ว่าถวายทั้งหมด ไม่เอาอะไรกลับคืนเลย พระองค์ก็จับถาดหรือขันอันนั้นแหละลงไปริมแม่น้ำ ก็ไปนั่งอธิษฐานว่า ถ้าหากข้าพเจ้าจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ฆ่ากิเลสตาย คายกิเลสหลุด เอาชนะทุกข์ได้ วางถาดหรือขันใบนี้แหละ ลงบนผิวน้ำนี่ ให้ถาดและขันใบนี้แหละทวนกระแสของน้ำขึ้นไปถึงต้นน้ำโน่น...ว่าอย่างนี้
ในทางตรงกันข้าม ถ้าหากจะไม่ได้ตรัสรู้ ไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้า ฆ่ากิเลสไม่ตา ย คายกิเลสไม่หลุด เอาชนะทุกข์ไม่ได้ วางถาดและขันใบนี้ลงไปบนผิวน้ำนี่ ให้มันไหลไปตามกระแสของน้ำ ว่าอย่างนั้น
พอดีพูดจบแล้วก็เลยวางถาดขันอันนั้นลงไป ถาดขันอันนั้นก็เลยทวนกระแสของน้ำ ขึ้นไปถึงต้นน้ำ ก็ไปจมลงที่ตรงกาละนาค(พญานาค)นอนหลับอยู่ ไปซ้อนเข้า เป็นหมอนให้กาละนาคนอน อันนั้นมันเป็นปุคคลาธิษฐาน ให้เข้าใจ ให้เข้าใจ จึงว่าธรรมาธิษฐาน(และ)ปุคคลาธิษฐาน ธรรมาธิษฐานท่านเว้าเรื่องธรรมะ เราไปตี(ความ)เป็นบุคคลขึ้นมา
อันกาละนาคนอนหลับนั้น คือว่า เหมือนเรานี่แหละ(ที่)นอนหลับทับสิทธิ์หลงตนลืมตัว ไม่คิดถึงจิตถึงใจ เรียกว่านอนหลับทับสิทธิ์ ดังนั้น ทวนกระแสของน้ำ คือ ทวนกระแสของความคิด มันคิดอยากไป เราไม่ต้องไป มันคิดอยากขับรำทำเพลง เราก็ไม่ต้องขับรำทำเพลง มันอยากดื่มสุรา เราก็ต้องไม่ดื่มสุรา มันอยากใช้สิ่งของอะไรต่างๆ แปลกๆ ทันสมัย(กับ)เขา ก็ไม่ต้องใช้อย่างนั้น ให้ใช้ชีวิตเป็นธรรมดาเป็นธรรมดา...ใช้ชีวิตเป็นธรรมดา เป็นธรรมดา ธรรมะ จึงว่า เป็นธรรมดา ผิดธรรมดาไปแล้วไม่ใช่ธรรมะ มันเป็นอธรรม ท่านว่าอย่างนั้น
ดังนั้น การพูด การสอน และผู้ฟังกับผู้สอนให้เข้าใจกัน หรือจะเรียนพระไตรปิฎกจนแตกฉานก็ตาม ถ้าหากไม่ทำ(ความรู้สึกตัว)จะไม่รู้เรื่องนี้ ไม่ได้เรียนหนังสือ เขียนไม่ได้อ่านไม่เป็น แต่ทำ(หรือรู้สึกตัว) ก็ต้องรู้เช่นเดียวกัน
ดังนั้นคนโบราณท่านจึงสอนเอาไว้ การพูดนั้นดีแล้ว พูดร้อยคำ พันคำ หมื่นคำ แสนคำ ล้านคำก็ตาม สู้การกระทำครั้งเดียวไม่ได้
การกระทำนั้นทำอย่างไร? ทำให้รู้สึกตัว ตื่นตัว ทำให้รู้สึกใจ ตื่นใจ คนโบราณท่านจึงสอนเอาไว้ว่า อย่าหลงตน อย่าลืมตัว อย่าหลงกาย อย่าลืมใจ นี่ท่านสอนเอาไว้
แต่เรามันหลงตนลืมตัว หลงกายลืมใจ ไม่รู้เท่าทันของความคิด มันเป็นกลเป็นไก...ความคิดนี้
คนโบราณท่านจึงสอนเอาไว้ว่า ความคิดคนนี้เหมือนกับลิง ท่านว่าอย่างนั้น ความคิดมันกลอกกลับได้ไว ความคิด(ของ)คน...เหมือนกับลิง ลิงนี่มันอยู่นิ่งๆ ไม่ได้ (เมื่อ)เราเอาไม้ไปแหย่มัน มันก็กระโดดโลดเต้น จับโน่นจับนี่ มันเป็นอย่างนั้น ความคิดก็เหมือนกัน ท่านว่าอย่างนั้น
จิตคนนี้กลอกกลับได้ไว ดุจมีลานไขในตน เราท่านควรบังคับกล ให้จิต(ของตน)หมุนมาแต่ในทางข้างดี หากปล่อยให้มันหมุนไปในทางข้างกีย์(กิเลส,โลกีย์) ธรรมที่มีก็จักหนีจักหน่ายหายสูญ อธรรมเข้าครอบงำ ความระยำสัมบูรณ์ ก็ปลิ้นปลอกหลอกตน นี่...มันหลอกเรา
ดังนั้นพวกกรรมฐาน ไปนั่งภาวนา แล้วเห็นเลข เห็นบัตร เห็นเบอร์ เพราะไม่เห็นจิตใจนี่เอง เพราะไปฝึกกรรมฐาน มันไม่ได้ฝึกตัวเอง มันไปฝึกนั่งหลับตา ไปฝึกอะไรต่างๆ นั่นน่ะ มันเลยผิดธรรมชาติ ผิดธรรมดา
เมื่อผิดธรรมชาติ ผิดธรรมดา ก็แสดงว่า ไม่รู้ธรรมชาติ ไม่รู้ธรรมดา มันก็หลอกเราเอาเสีย นี่...มันเป็นอย่างนี่ ดังนั้น จึงศึกษากับธรรมชาติ ศึกษากับธรรมดา ไม่ให้(จิต)มันหลอกเรา เรารู้เท่าทันกลไก หรือมายาของจิตใจ แน่ะ...มันเป็นอย่างนี้ ธรรมที่มีก็จักหนีจักหน่ายหายสูญ ก็(เพราะ)เราไม่รู้นี่เอง
อันความไม่รู้นั้น ภาษาธรรมะ เรียกว่า โมหะภาษาพื้นบ้านเรียกว่า หลงตน ลืมตัว หลงกายลืมใจ ไม่รู้ตัว ไม่รู้กาย ไม่รู้ใจ ท่านว่าอย่างนั้น
ดังนั้นจึงศึกษาหาของจริง(ว่า)จริงไหม มองเห็นต้นไม้ มองเห็นคนเดินไป มองเห็นคนนั่ง มองเห็นคนนอน...แน่ะ อันนี้จริงไม๊... นั่นแหละ ตา(ทำ)หน้าที่ของดู หูจึงเป็นหน้าที่ของฟัง ตาดูแต่ตามันไม่รู้ หูฟัง(แต่)หูมันไม่รู้ คือตัวใจมันรู้ มันเป็นทาง...มันเป็นทางเดิน ของจิตของใจ มันเป็นทางเดินของกิเลส มันเป็นทางเดินของอวิชชา คือความไม่รู้ มันเทียวเข้าเทียวออก เดินไปเดินมา(แต่)เราไม่รู้ บัดนี้เรามาศึกษากับธรรมชาติ เราไปไหนมาไหน มันนึกมันคิด เราเห็นเรารู้ เราเข้าใจ พอดี มันถูกเห็น ความคิดมันถูกหยุดทันที อุปมาให้ฟังเหมือนเราขุดบ่อน้ำ เราขุดหาน้ำ หรือจะขุดบนที่สูงๆ ก็ตาม แล้วขุดที่ลุ่ม ที่ดอน ขุดที่ไหนก็ตาม แต่พื้นดินนี้ต้องมีน้ำ ทุกหนทุกแห่ง ขุดลงไปลึกๆ ไปเจอน้ำแล้ว น้ำกับตมกับเลนน่ะ มันอยู่ด้วยกัน เราก็เป็นหน้าที่ตักตมตักเลนออกทิ้ง น้ำ(ที่)อยู่ข้างใน มันจะไล่ตะกอนออกมา มันจะไล่ออกมาให้หมดเลย เราก็เป็นหน้าที่ตักตมตักเลนออกให้หมด ตักออก ตักออก วิดออก วิดออก... ตักกับวิดเป็นอันเดียวกันนะ...ตมเลนออกหมดแล้ว น้ำมันจะไล่ตะกอนออกมา แต่มันยังขุ่น ยังมัวยังสกปรก น้ำนั้นยังใช้ไม่ได้ (ให้)กวนปากบ่อเข้าให้มันล้างตมล้างเลนล้างตะกอนเหล่านั้นออก ตักออก ตักออก เมื่อตักออกหลายครั้งหลายหน ล้างหลายครั้งหลายหน น้ำก็สะอาดขึ้นมา เมื่อน้ำสะอาดแล้ว เอาไปใช้อะไรก็ได้
|
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันกันนะคะ