'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)
~ข้อปฏิบัติที่ลัดสั้น ~ คำสอนของหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ (๗)

....
คนมีเงินร้อยล้านพันล้านก็ยังมีทุกข์ จะมีประโยชน์อะไรในชีวิตอันนั้น มีประโยชน์ไหม ? เอ้า...ลองถามดู มีประโยชน์ไหม? คนมีเงินร้อยล้านพันล้านจะมีทุกข์ อาจารย์...(ถามผู้ฟัง)พูดดู .มี...ไม่มีประโยชน์ เอ้า...คุณพูดดู มีประโยชน์ไหม? (ตอบ-ไม่มีครับ) .เอ้า...มันไม่มีประโยชน์จะไปทำมันทำไม สู้ไม่มีเงินแม้แดงเดียวนี่...ไม่มีทุกข์เนี่ยะ อันนี้แหละมีประโยชน์ อาตมาเข้าใจอย่างนั้น แต่มีก็ได้ มีเงิน มีร้อยล้านพันล้านก็มีได้ แต่มันไม่มีทุกข์ ไม่มีเงินก็ไม่มีทุกข์ อาตมาเข้าใจอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าคนเอาเงินให้...ไม่เอา ไม่ถูกต้อง อันนั้น ....(ผู้ฟังหัวเราะ)....คนเอาเงินให้...เอา..ไม่ถูกต้อง เขาเอาให้ต้องเอา ไม่ใช่เอาไปโยนทิ้ง อาตมาเข้าใจอย่างนี้ จริงๆ อาตมาเข้าใจ...


ที่นำมาพูดให้ฟังนี้ พูดความจริงนะ วันเนี่ยะเป็นวันที่ เป็นวันอาทิตย์ที่ยี่สิบเอ็ดแล้วนี่ แล้วก็พรุ่งนี้ก็เป็นวันจันทร์ ก็จะได้เลิก…เลิกกันแล้วก็แยกย้ายกันไป

ที่นำมาพูดให้ฟังนี้เพื่อจะให้พวกเรานำไปใช้จริงๆ เรียนหนังสือ..อ้า..พวกนี้..อาจารย์เนี่ยะ เรียนจบปริญญาตรี ปริญญาโท หรือปริญญาเอกเนี่ยะ แล้วมันมีทุกข์ จะไปเรียนทำไม มีประโยชน์อะไร นี่มันเป็นอย่างนั้นน่ะ บัดนี้ สู้อาตมาไม่ได้น่ะ อ้า...พูดความจริงนะ(หัวเราะ)....อาตมาเขียนหนังสือไทยไม่เป็น แม้ทุกวันนี้ก็เขียนหนังสือไทยไม่เป็น อ่านก็ไม่ได้ แต่อาตมาไม่มีทุกข์ แล้วพวกคุณนี่เรียนหนังสือจบปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก แล้วมีทุกข์ อาตมาเขียนหนังสือไม่เป็น...ไม่มีทุกข์ ใครจะดีกว่ากันอันนี้ เอ้า..ลองคิดดู...(ผู้ฟังหัวเราะ)....มันต้องพูดกันอย่างนี้ คนไม่มีทุกข์มันก็ดีอย่างนี้ ใช่ไหม

แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีทุกข์เรื่องอื่นนะ เรื่องการทำมาหากิน มันต้องทำเป็นเหมือนกันทุกคน หากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง แม้สัตว์มันก็หากินเป็น นอนเป็น อะไรเป็น คนเรานี่เรียนมาแล้ว แทบจะตายแล้ว ตั้งเก้าปีสิบปี ยี่สิบปีก็มี ยังมีทุกข์อยู่ มันจะมีประโยชน์อะไร ไปเรียนมาทำไม เรียนมาเพิ่มทุกข์อย่างนั้น นี้...อาตมาเข้าใจอย่างนั้นจริงๆ อาตมารู้อย่างนั้นจริงๆ จึงว่า ไม่เกี่ยวข้องกับใครทั้งหมดเลยในโลกนี้ ใครจะพูดยังไงก็ตาม อาตมาไม่เชื่อเลย อาตมาไม่มีทุกข์แล้วพอ

นี้แหละหลักพุทธศาสนา จึงว่า พุทธะเเปลว่าผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม ธรรมะอยู่ที่ไหน ธรรมะคือลักษณะจิตใจของคนทุกคนนี่แหละ นี่ ! มันมีลักษณะสะอาด สว่าง สงบ มีแล้ว สะอาด คือจิตใจของเราไม่เคยสกปรกเลย สว่าง คือเราเห็นต้นตอของชีวิตจิตใจของเรา สงบก็หมายถึงหยุดแล้ว อันนี้อาตมาพูดตามภาษาอาตมา หยุดแล้ว ไม่ต้องไปศึกษาที่ไหนแล้ว ไม่ต้องไปหาอะไรแล้ว จะไปเรียนมาทำไม มีประโยชน์อะไร เข้าใจอย่างนี้ แปลว่า หยุด หยุด แปลว่าเซาเนี่ยะ บ้านอาตมาเรียกว่า..เซา หยุดแล้ว ก็เรียกว่าสงบนี่ เนี่ยะ..สะอาด สว่าง สงบ

สะอาด คือ เห็นแล้ว บัดนี้ เมื่อสะอาดแล้วก็พูดเรื่องสมมุติให้ฟัง เราไปขุดบ่อน้ำ พอดีขุดบ่อน้ำลงไป เราไปเจอน้ำ เจอน้ำ เราจะทำยังไง ก็ตมเลนมันมี เราก็ต้องเอาขัน หรือเอาอะไรตักเลน ตักตม ตักน้ำนั้นออกมา น้ำข้างในมันไหลออกมาเป็นรู วุ่น..วุ่น..ออกมา แต่น้ำข้างในมันสะอาดนะ มันไม่มีตมมีเลน เราก็เป็นได้นะ ที่ตักแล้วตักทิ้ง ตักทิ้ง ตักทิ้ง พอดีมันหมดถึงก้นบ่อมัน เราก็นั่งพักสักคราวเดียว น้ำข้างในมันไหลออกมา เราก็มากวนปากบ่อ เราเอามือกวน น้ำมันก็ไปล้างตม ล้างเลน...น้ำ..ล้างตามขยะบ่อนนั้น มันก็สกปรกขึ้นมาแล้ว ความจริงน้ำไม่ได้สกปรก เราก็ตักออก ตักออก ตักจักร้อยครั้งพันหนก็ตามแล้วบัดนี่ น้ำออกมาแล้วมันเต็มแล้ว เราเอามือไปกวน น้ำมันไม่ขุ่นแล้วบัดนี่ อะไรตกลงมาก้นบ่อก็เห็น

อันลักษณะจิตใจเราก็เช่นเดียวกัน...นี่ นี้แหละพระพุทธเจ้าท่านสอนจริงๆ อันนี้ อันนี้แหละ ผู้มีปัญญาจำแล้วก็ปฏิบัติได้ มันไม่ยาก อันนี้แหละเป็นบุญจริงๆ เป็นกุศลจริงๆ อันนี้

นี่มันนึก นิดเดียวเท่านั้น อึดใจเดียวก็ได้เลย ถ้าหากผู้ฟังเป็นแล้วนี่ ผู้ฟังไม่เป็นก็เว้าพูดกันบ่อยๆ ก็มันก็ฟังไม่รอดเนี่ยะ แต่ความจริงนะ พระพุทธเจ้าตรัสรู้เพราะการทำทางจิตทางใจ เราก็พูดได้ แต่ทำไมไม่ทำ...เพราะเรื่องอะไร เพราะคนนั้นจำมาเพียงตำราเท่านั้น อยู่ในที่มืด ไม่ออกจากถ้ำเป็น เมื่อหมดไฟแล้วก็ตายคาถ้ำเลย อยู่ในถ้ำเลย ออกจากถ้ำไม่ได้

เหมือนกับคนติดตำรานั่นแหละ ออกจากตำราไม่ได้ ก็พูดกัน อยู่หน้าที่เท่านั้น พระไตรปิฎกเล่มนั้น โอ๊...ไปพูดทำไมเรื่องพระไตรปิฎก พระไตรปิฎกคือคนนี่เอง นี่ตู้พระไตรปิฎกก็…ตัวคนนี่แหละเป็นตัวพระไตรปิฎก เกสา โลมา นขา ทันตา ตโจ หนัง อู๊ย...พูดยาก อาตมาไม่อยากพูดเลย เกสา บ้านเราเรียกว่าผม ผม เรียกว่าเกสา โลมา เขาเรียกว่าขน ขน บ้านอาตมาว่าขน ไม่ใช่ว่าผม ฟัน เล็บ อันนั้นมันเป็นเรื่องคำพูด เป็นเรื่องปลีกย่อย เรื่องจริง มันจริงๆ น่ะ เรื่องจิตใจ...นี่








Create Date : 16 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2550 11:59:25 น. 1 comments
Counter : 580 Pageviews.

 


โดย: wildbirds วันที่: 16 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:19:27 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.