'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)
~ข้อปฏิบัติที่ลัดสั้น ~ คำสอนของหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ (๒)

.......

เราเคยได้ยินครูบาอาจารย์เคยเล่าให้ฟังว่า พระองค์ก็เลยเลิกละจากความเพียรเหล่านั้น มากินหมากขามป้อม หมากส้มมอนี่แหละ พวกปัญจวัคคีย์ทั้งห้าก็เห็นว่าพระองค์คลายความเพียร เวียนมามักมากเสียแล้ว คงจะไม่ได้ตรัสรู้เป็นพระอรหันต์ ดับทุกข์ไม่ได้จริงๆ พวกปัญจวัคคีย์ทั้งห้าก็หนี พระองค์ก็เดินมาคนเดียว อันนี้เรียกว่า สงัดกาย สงัดวาจา ใจยังไม่สงบสงัดอะไร


มันยังคิดโน้น คิดนี้ ทีแรกอยู่ด้วยกันห้าคน หกกับเรา บัดนี้ห้าคนหนีไปแล้ว เราเดินไปคนเดียว คิดถึง...อ่า..ราหุล คิดถึงปัญจวัคคีย์ทั้งห้า คิดถึงนางพิมพา คิดถึงทรัพย์สมบัติ คิดถึงผู้ให้ความสนุกสนาน บำรุงบำเรอเหล่านั้นแหละ คิดไป จิตใจมันวุ่นมา ก็เลยมากินข้าวนางสุชาดา นางสุชาดาเอาข้าวไปบวงสรวง เรียกว่าไปบูชาเทวดานี่แหละ ก็เลยมากินข้าวอันนั้น

เมื่อมากินข้าวอันนั้น พระองค์ก็เลยถามนางสุชาดาว่า นาง...จะถวายทั้งถาด ทั้งข้าว ทั้งขันนี่ หรือจะถวาย(ตั้ง)แต่ข้าว นางเลยตอบพระองค์ว่า ถวายทั้งหมด ไม่เอาอะไรกลับคืนมาเลย บัดนี้ พระองค์ก็เลยเห็นว่านางไม่เอากลับคืนแล้วก็ฉันข้าวนางหมดแล้ว ก็จับขันนั้นมา มาริมแม่น้ำ ก็เลยมาอธิษฐานว่า ถ้าข้าพเจ้าจะได้ตรัสรู้เป็นพระอรหันต์ ดับเพลิงทุกข์ ดับกิเลสได้อย่างจริงๆ แล้ว ข้าพเจ้าวางถาดหรือขันใบนี้ลงแม่น้ำนี้แล้ว ให้ถาดหรือขันใบนี้ทวนกระแสของน้ำขึ้นไปถึงต้นน้ำ ในทางตรงกันข้าม ถ้าหากว่าจะไม่ได้ตรัสรู้ ไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้า ดับทุกข์ไม่ได้ ดับกิเลสไม่ได้ วางขันหรือถาดใบนี้ลงไปแล้ว ให้มันไหลไปตามกระแสของน้ำ

พอดีพระองค์ก็เลยวางลงไป วางลงไปแล้ว ขันถาดนั้นก็ทวนกระแสของน้ำขึ้นไปถึงหัวกาฬนาค ก็เลยไปจมลงที่ตรงนั้น กาฬนาคนอนยังไม่ตื่น ก็เลยตื่นขึ้นมาว่า ใครตรัสรู้เร็วจริงๆ เรานอนยังไม่ตื่น ยังไม่ทัน...เท่าไหร่ ก็เลยเพ่งเล็งลงมาถึงสีถาด(สิทธัตถะ) คือพระพุทธเจ้าของเรานี่ ได้ตรัสรู้แล้ว อันนี้ก็เป็นข้อที่ให้เราคิด เราจะเพียงจำตำราเท่านั้น คนใดจำตำราแล้ว ยังไม่พิจารณา อันนั้นชื่อว่าดอกไม้ยังไม่ตูม ยังไม่แน่น

ถ้าหากว่าฟังแล้ว พิจารณาใช้สติปัญญา ดอกไม้ก็ตูม...แน่น...ก็บานได้ สิ่งนั้นก็ไม่ต้องทำแล้ว เรารู้แล้ว ไม่ต้องทำแล้ว อันนี้แปลว่าบานแล้ว พระองค์เลยมาทำทางจิต มาทำทางจิตนี้ เราเคยได้ยินว่า พระพุทธเจ้าของเรานี่แหละ ตรัสรู้เพราะการทำทางจิต มานั่งอยู่ที่ต้นโพธิ์ ว่าอย่างนั้น ครูบาอาจารย์เคยเล่าให้ฟัง อันนี้ อาตมาได้ฟังมา อันนี้เป็นความรู้จัก รู้จักยังไม่รู้แจ้ง ยังไม่รู้จริง


ตอนที่อาตมามามีความซาบซึ้งถึงจิตใจ รับรองคำพูดของพระพุทธเจ้าได้ รับรองคำพูดทางพุทธศาสนานี่ได้จริงๆ และก็ยังรับรองคำพูดของที่อาตมาจะนำมาเล่าให้ท่านผู้ฟังทั้งหลายในวันนี้ รับรองได้จริงๆ..อันนี้

มีความสว่างขึ้นภายในจิตใจ เรียกว่า รู้แจ้ง รู้จริง เหนือจากคำที่เราเรียนมา ได้ยินได้ฟังมานั้น เหนือจริงๆ เรื่องนี้ อาตมามาทำวิธีการเคลื่อนไหว เคลื่อนไหวโดยวิธีใดก็ตาม แต่วิธีนั้น อาตมามาพลิกมือขึ้น คว่ำมือลง เป็นจังหวะ นั่งสบายไม่ต้องนบก็ได้ ไม่...ไม่ต้องนบก็ได้ ฟังให้มันเกิดปัญญา...เรื่องนี้ เรียกว่า ให้มันบานขึ้นมาได้ในขณะนี้ก็ได้ ฟังแล้วก็รู้ทันที...เรื่องนี้



อาตมามาทำวิธีพลิกมือขึ้น คว่ำมือลง ให้มีสติเข้าไปรู้ ยกมือไป เอามือมา ให้มีสติเข้าไปรู้ เดินหน้า ถอยหลัง ให้มีสติเข้าไปรู้ ก้ม เงย เอียงซ้าย เอียงขวา ให้มีสติเข้าไปรู้ทุกอิริยาบถนั่นแหละ พริบตา อ้าปาก หายใจเข้า หายใจออก กลืนน้ำลายลงมาในลำคอนี่ ให้มีสติเข้าไปรู้

เมื่อทำเช่นนี้ขึ้นมา....ไม่นาน เกิดความคิดชนิดหนึ่ง...เเว่บขึ้นมา...รู้จริงๆ ตอนที่จะเกิดความคิดแว่บขึ้นมานั้น สมัยนั้นอาตมานุ่งกางเกงขาสั้น แมงป่อง หรือว่าแมงงอด บ้านอาตมาเรียกว่าแมงงอด ตกใส่ขาอาตมา ตามปกติ อะไรตกใส่ขา อาตมาปัด วันนั้นอาตมาไม่ปัด ก็เลยดู...พิจารณา เลยรู้จักเรื่องรูป-นาม

รู้จักจริงๆ อันเนี้ยะ แต่เมื่อแต่ก่อนนั้น รู้จักกับครูบาอาจารย์ว่า ตาเห็นเป็นรูป รู้ว่ารูปเป็นนาม ว่าซั่น เพราะเรียนอันเนี้ยะว่านาม...นาม สรรพนาม คุณนาม อาจารย์สอน..สอน แต่ความจริงอันนั้นถูกน้อย ไม่ถูกหลาย ถูกไม่ถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ อาตมารับรองได้ คำพูดที่มีในตัวหนังสือนั้นถูกน้อย ไม่ถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์

แต่ความรู้ที่มาเกิดรู้จากรูป-นามนี้ ถูกต้องจริงๆ อย่างน้อยต้องหกสิบเปอร์เซ็นต์ ถ้าพูดอย่างมาก ก็ต้องว่าร้อยเปอร์เซ็นต์..ไม่ขาด สมบูรณ์จริงๆ เรื่องนี้ อันนี้เป็นความรู้ที่เห็นแจ้ง รู้จริงมา...จากจิตใจสำนึกจริงๆ


เมื่อรู้รูป-นามแล้วก็เลยรู้ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ทุกขังนั้น เคยเรียนกับครูบาอาจารย์ว่าผมหงอก ฟันหัก เนื้อหนังมันย่นย่อไป อันนั้นไม่ถูกต้อง...แต่ถูกต้อง...แต่ไม่ถูกถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ ถูกต้องไม่ถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ อาตมาพูดนี้

เมื่อมารู้จักทุกขัง ตัวทุกขังนั่นแหละ ที่พระองค์สอนให้เรากำหนด ให้มีสติตามรู้เนี่ยะ ตัวเคลื่อนไหว ตัวอิริยาบถนั้น...เป็นตัวทุกข์ เราไม่เคยกำหนดมัน ก็เลยไป...มันคิดว่าเคลื่อนไหวโดยวิธีใด...ก็ไปเลย ก็เลยไม่รู้จักทุกข์ ตัวเคลื่อนไหว..ตัวอิริยาบถนั้นเป็นตัวทุกขัง เป็นตัวอนิจจัง เป็นตัวอนัตตา

อันนี้แหละที่(อาต)มามั่นใจว่าไม่ผิด ถูกต้องจริงๆ เมื่อรู้ทุกขัง รู้อนิจจัง รู้อนัตตา แล้วก็รู้สมมุติขึ้นมา สมมุติในโลกเนี่ยะ รู้ให้หมดทีเดียว อย่าให้มีข้อบกพร่อง รู้จริงๆ สิ่งที่เป็นสมมุติพูดขึ้นมา อาตมารู้จริงๆ ในขณะนั้น อาตมาจึงไม่เก้อเขิน ใครจะพูดอย่างไรก็ตาม ก็ต้องเอาความรู้แจ้ง..รู้จริงนี้แหละ..มาใช้ในชีวิตของเรา จึงจะมีประโยชน์ เมื่อพูดตอนเนี้ยะ ก็เอาไว้ก่อน...เนี่ยะ ว่าจะพูดเรื่องอาหารการกิน ก็เลยไม่พูด.........







Create Date : 10 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2550 15:15:43 น. 2 comments
Counter : 522 Pageviews.

 
ปฏิบัติไปเถอะไม่นานก็จะรู้แจ้งเห็นจริงเหมือนดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้แน่นอน


โดย: maxpal วันที่: 10 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:07:22 น.  

 
มาอ่านตอนต่อค่ะ
ดีจริงๆที่ได้อ่าน
ขอบคุแม่ไก่ค่ะ


โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:43:48 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.