'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)
~ สร้างจังหวะ = เจริญสติ ~ คำสอนของหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ (๓)

.............

เวลาเดินจงกรม ถ้านั่งเมื่อยแล้วก็เดิน เดินเมื่อยแล้วก็นั่ง ยืนทำก็ได้ ทำเช่นเดียวกัน ทำช้าๆ

เดินจงกรม...ไม่ช้าเกินไป และไม่ไวเกินไป ถ้าเดินช้าเกินไป มันกำหนดมาก...มันเพ่ง ถ้ามันเดินเร็วเกินไป มันจะไม่รู้สึก...เวลาหยุด เวลาเดิน แน่ะ...ต้องให้มันรู้สึก แต่เวลาเดินนั้น เอามือกอดหน้าอกไว้ ไม่ต้องให้มันไหว ให้มันไหวทีเดียว ให้มันไหวทีละที่ ว่าอย่างนั้นแหละ หรือมันกอดหน้าอก มันเหนื่อยแขน เอามือมาขัดหลังไว้ ไม่ใช่เอาขัด เอามือมาวางข้างหลัง ไขว้กัน แล้วไปจับไว้

เวลาเดินก็ให้มันรู้สึก เท้าเหยียบ เท้าก้าวไป แต่ไม่ให้ว่าให้มันอยู่ที่เท้าอันเดียว ไม่ใช่อย่างนั้น เวลาก้าวเท้าไป...รู้สึก เหยียบลงก็รู้สึก ไม่ใช่ว่าซ้าย ขวา ไม่ต้องพูด ยกหนอ ไปหนอ ไม่ต้องพูด เอาแต่เพียงรู้สึกเบาๆ เท่านั้นเอง วิธีอันนี้

บัดนี้ ยังมีวิธีนั่ง วิธียืน มีวิธีทั้งนั้น เวลานั่งพับเพียบ เวลาจะลุกขึ้น ต้องทำช้าๆ นั่งพลิก...อ้า..นั่งคุกเข่าขึ้น เอา...เรื่องนี้มันต้องฝึกหัดจริงๆ นั่งยองย่อ ไม่ใช่นั่งยองย่อ นั่ง...นั่งเข่า เรียกว่านั่งเข่า หรือจะว่ายังไงก็ไม่ทราบ เพราะว่ามันหาเรื่องพูดยาก นั่งเข่า ...ทีแรกก็ต้องเอาเข่าติดไว้ที่พื้นก่อน บัดนี้ก็ยกเท้าขวาขึ้น ช้าๆ ตั้งเท้าขวาขึ้นแล้ว ยกเท้าซ้ายขึ้น ตั้งช้าๆ เมื่อเท้าซ้าย เท้าขวา ตั้งดีแล้วก็ ลุกขึ้น นี่ ลุกขึ้นช้าๆ

บัดนี้ ยืนทำ เดินไป บัดนี้ ยังนั่ง ก็ต้องมานั่ง แล้วทำจังหวะ เอามือไว้หน้าอก นั่งลง นั่ง...นั่งเข่า แต่ยังไม่ให้...ยัง..เข่ายังไม่ให้ลง แต่นั่งเข่าเอาส้นไว้ที่ตูด ตั้งไว้ เข่ายังไม่ลง เอาเข่าขวาลงช้าๆ เข่าขวาลงเสร็จเรียบร้อยแล้ว เอาเข่าซ้ายลง เมื่อเข่าซ้ายลงเรียบร้อยแล้ว โยกก้นขึ้นให้ตรง แล้วก็เอาเท้าเราพลิกไป จะพลิกไปที่ไหนก็พลิก นั่งพับเพียบลง ทั้งสองวางไว้ดีแล้วก็..นั่งลง

เมื่อนั่งลงแล้ว เวลาจะเคลื่อนไหว จะพลิก ก็ต้องทำช้าๆ ทำอย่างนี้ สลับกันอยู่เรื่อยๆ เรียกว่า กำหนดในอิริยาบถย่อย ว่าอย่างนั้นก็ได้ เพราะว่าครูบาอาจารย์ หรือปู่ย่าตายาย หรือท่านผู้รู้ กล่าวว่า ให้มีสติติดตามกำหนดรู้ในอิริยาบถทั้งสี่ ยืน ก็ให้รู้ เดิน ก็ให้รู้ นั่ง ก็ให้รู้ นอน ก็ให้รู้

รู้ในอิริยาบถทั้งสี่นี้ ก็ยังไม่เพียงพอ ท่านยังให้มีสติเข้าไปกำหนดรู้ในอิริยาบถย่อย คู้ เหยียด เคลื่อนไหวโดยวิธีใดก็ตาม เราต้องทำตามคำพูด คำกล่าว คำเตือนของท่านผู้รู้ อันนี้เรียกว่า ศึกษากับธรรมชาติ หรือปฏิบัติกับธรรมชาติ ธรรมชาติมันมีแล้วทุกอย่าง พร้อมที่จะปรากฏตัวเกิดขึ้น ให้เราได้รู้ ได้เห็น ได้เป็น ได้มี เรียกว่า รู้แจ้ง รู้จริง รู้แล้ว ต่างเก่า ล่วงภาวะเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง

แต่คุณค่าผลการรู้ ไม่ต้องพูดถึง แต่ขอให้ทำ ถ้าคนใดทำอย่างนี้ รู้จริงๆ

รู้ก็รู้ตัวเอง ไม่ต้องไปรู้นอกตัว ไม่ต้องไปรู้ผี เทวดา นรก สวรรค์ ไม่ต้องรู้อย่างนั้น ไม่ต้องไปรู้เทวดาอยู่บนฟ้า นรกใต้ดินก็ไม่ต้องรู้ รู้ตัวเรากำลังเคลื่อนไหวนี่เอง สภาพหรือภาวะที่มันไหว เราก็จะได้รู้นั่นเป็นรูป นี่เป็นนาม มันจะรู้มาอย่างนั้น ผลของมัน

อันระดับต้น รับรองได้ว่า ถ้าทำจริงๆ ถ้าเป็นเด็กนะ อายุระยะไม่เกิน ๘ ปีขึ้นไป ถึง ๑๓ ปี เคยฝึกมาเป็นจำนวนมาก ผู้หญิงก็ตาม ผู้ชายก็ตาม อายุในเกณฑ์ ๘ ปี ๙ ปี ถึง ๑๓ ปีนี้ ถ้าเป็นเด็ก ไม่เกิน ๑๐ วัน...

เรื่องรูป-นาม รูปทำ นามทำ รูปโรค นามโรค รูปโรค นามโรค มี ๒ อย่าง โรคทางเนื้อหนังอย่างหนึ่ง โรคทางจิตใจอีกอย่างหนึ่ง แล้วก็รู้ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา

รู้สมมุติ สมมุติอะไร รู้...แจ้งชัด ให้ครบ ให้จบ ให้ถ้วน รู้สมมุติดีแล้ว ก็รู้ศาสนา รู้พุทธศาสนา รู้บาป รู้บุญ รู้จริงๆ เรื่องนี้ ถ้าเป็นเด็ก ไม่เกิน ๑๐ วัน

ถ้าเป็นผู้ใหญ่ พ่อบ้าน แม่เรือน หรือคนหนุ่มคนสาว ปฏิบัติอย่างนาน ที่เคยทำมานะ พูดให้ฟัง ที่เคยอบรม เคยแนะนำ เคยให้ข้อคิด ปฏิบัติติดต่อกัน กลางวันไม่นอน กลางคืนนอน ไม่ต้องอดทน กลางวันให้...มันง่วง ต้องหาวิธีแก้ มีจังหวะเหมือนกัน ผู้ใหญ่นี้ ไม่เกิน ๒๐ วัน หรือให้เวลา ๓๐ วัน ไม่เกิน ต้องรู้ เรื่องรูป-นาม รู้จริงๆ

เรื่องสมมุตินี่ รู้จริงๆ สมมุติผี สมมุติเทวดา สมมุติว่าผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ตำรวจ ทหาร ข้าราชการ ครูประชาบาล หรือเงิน ทองคำ เพชรนิลจินดานี่..รู้ มันเป็นสมมุติ

แต่รู้แล้วก็ไม่ต้องไปทำลายมัน เอาไว้อย่างนั้นแหละ รู้...เกิดญาณปัญญา รู้แจ้ง รู้จริง รู้แล้วต่างเก่า ล่วงภาวะเดิม คำว่าต่างเก่า ก็หมายถึงว่า เราไม่ไปยึด ไปติด สิ่งที่สมมุติ และก็ไม่ทำลายสิ่งที่สมมุติ แต่มีไว้อย่างนั้น เราต้องรู้อย่างนี้





** เชิญอ่าน ~ประวัติโดยสังเขปของหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ~ค่ะ












Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2551 16:44:57 น. 1 comments
Counter : 537 Pageviews.

 


โดย: เมณี วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:58:17 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.