Bloggang.com : nonnoiGiwGiw : สิ่งที่คิด..

สิ่งที่คิด..

FEB/27/2020

สวัสดีตัวฉัน.. เมื่อวาน..หลังจากที่เปิดกรุ๊ปบล็อกไป..
ก็เหมือนจิตใจจะฮึกเหิมใช่ได้..แสดงว่าการเลือกทำแบบนี้
มันใช้ได้ผล.. เลิกงาน ในระหว่างรอลิฟต์ นานไป..
เลยตัดสินใจเดินดีกว่า.. เออดี.. ต่อไปจะเดินทุกวัน
ก็แค่ 5 ชั้นเอง .. เบาๆ เน้อออ.. สมัยก่อน
นี่คือ ชั้น 15 ไม่ต้องคิดจะเดินหรอกนะ
เวลาซ้อมหนีไฟทีนี่เหนื่อยยาก..

เล็กๆ น้อยๆ เป็นแผนการบังคับให้ร่างกายใช้พลังงาน
หวังว่าข้อเข่าจะไม่พังไปซะก่อนอะนะ ฮ่าาาาาาาา

แล้วก็กลับไปนั่งวางแผนคิดๆ เอาไว้
ว่า จำศิล รอบนี้ จะกินแบบไหนดี คิดคร่าวๆ ไว้
คือกลับเข้าเผ่าคีโตฯ อีกครั้งหนึ่ง จากนั้นก็คุม IF ไปด้วย
แรกๆ ก็อาจจะเป็น 16/8 ไปก่อน พอร่างกายปรับตัวได้แล้ว
ก็ค่อยเปลี่ยนเป็น 23/1 ก็แล้วกันนะ..

ว่าแต่.. ไอเอฟ(IF)คืออะไร

เอาเป็นว่าขออธิบายคำว่า IF ง่ายๆ ว่าอย่างนี้
ถึงแม้ว่าคำพูดติดปากของทุกคน ที่มักจะพูดว่า การทำไอเอฟ
คือการกินอาหารตามช่วงเวลา ซึ่งบางคนอาจสงสัยว่า.. อ่าว
แล้วมันต่างจากการอดอาหารยังไง ไอ้ตอนที่เราไม่กิน
มันก็ไม่ใช่ว่าเราอดหรือไง..

Thank you For the Picture : https://fitkabdao.com/intermittent-fasting/

งั้นนนน...ก็คงต้องพูดถึงเรื่องนี้ก่อน..
เกี่ยวกับสารอาหารที่ร่างกายเอาไปใช้พลังงาน
คือเราถูกสอนให้จำมาว่า..ต้องกินข้าวเยอะๆ กินข้าวแล้วจะมีแรง
ทำนั่นทำนี่ไรแบบนั้นใช่ปะ.. ซึ่งมันก็จริงแหละ เพราะยังไงซะ
แป้ง พอถูกย่อยแล้ว มันจะแตกออกมาเป็นน้ำตาลโมเลกุลคู่
จากนั้นก็ถูกย่อยกลายเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว 2 โมเลกุล
ส่งไปให้ร่างกายใช้งาน..อย่างไรก็ตามไอ้การดับเบิลของมันนี่แหละ
ที่บางทีทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลมากจนเกินไป..และถ้าบางที
เรากินข้าวแล้วไม่จบจร้าา แดรกขนมต่อ..ไปอีก ตามด้วย
ชาเขียวสักแก้วไปอิ๊กกก.. นอกจากที่เราจะได้น้ำตาล
จากข้าวแล้ว เลยได้น้ำตาลทับถมจากขนมและน้ำพวกนี้
ทำให้มีน้ำตาลระเบิดระเบ้อออ..อยู่ในกระแสเลือดของเรา..

แน่นอนว่า...
นี่แหละคือปัญหา...

เพราะเวลาเราไปตรววจเลือดดูกลูโคสทีไร
เราก็จะโดนหมอด่าตลอดใช่ไปถ้าค่าน้ำตาลเกิน 100
มันก็คือนี่แหละ.. ลองเอาค่านี้ มาคำนวนหาปริมาณน้ำตาลดู
จะเห็นว่า..ถ้าในคนคนหนึ่งมีเลือดอยู่ประมาณคร่าวๆ คือ 5 ลิตร
จะมีน้ำตาลได้แค่ 1 ช้อนโต๊ะเท่านั้น..ซึ่งน้อยมาก ถึงมากที่สุด..
แล้วไอ้ที่เราฟาดๆ ลงท้องกันเข้าไปนั่นล่ะ..จะทำยังไง..

Thank you For the Picture : คุณหมอธนศักดิ์ ยิ้มเกิด

คำตอบ ก็ไม่ทำไง.. กินเข้าไป ก็ใช้พลังงานเยอะๆ ซะ
ร่างกายมันก็จะจัดการตามประบวนการของมันเอง
ไม่เกิดปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น เพราะร่างกายมันเก่งจะตาย
มันจัดการได้อยู่แล้ว .. ใช่ปะๆ ... 55+

อย่างไรก็ตาม.. เราต้องยอมรับว่า.. มันไม่ใช่ทุกคน
ที่จะใช้พลังงาน ได้เทียบเท่ากับที่กินเข้าไปทั้งหมด..
ไอ้ตรงนี้ล่ะ.. ที่เป็นเรื่องที่ทำให้คิดหนัก.. ใช้ไม่หมด
มีน้ำตาลค้างอยู่ในกระแสเลือดมหาศาลทำยังไง..

ร่างกายอันแสนฉลาดของเรา..แก้ปัญหาเรื่องน้ำตาลเกิน
โดยการหลั่งสารออกมาตัวหนึ่งนั่นก็คือ อินซูลิน..
สารตัวนี้มีความสำคัญมาก เพราะนางจะเป็นตัวควบคุมและ
แจกจ่ายน้ำตาลไปยังเซลล์ต่างๆ รวมถึงส่งไปยังสมอง
เพื่อให้ร่างกายนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและ
ถ้าน้ำตาลเหลือใช้.. อีเจ้าอินซูลินนี่แหละ มันก็จะเป็นตัว
สั่งให้ร่างกายเปลี่ยนจากน้ำตาลที่ว่าเนี่ยะ..ไปเป็นไขมัน
เก็บไว้ใต้ผิวหนังของเราๆ แทน เพื่อนำไว้ใช้ยามฉุกเฉินต่อไป..

เฮ้อออออออออออออออออออออออ...
เหนื่อยจัง..... ทำไม เขียนอะไรที่มีสาระเนี่ยะ
มันเหนื่อยจังซี้.........ฟร๊ะ 55555+

เอาเป็นว่า..

ที่คนส่วนมากเข้าใจผิดไปก็คือ..
คนเราอ้วนเพราะการกินไขมัน.. จริงๆ มันบ่ใช่ทั้งหมดเด้ออออ
เราไม่จำเป็นต้องกลัวการกินไขมันมากขนาดนั้น...เพราะ
ไอ้ที่ร้ายและกินกันเข้าไปไม่รู้ตัวน่ะ อันตรายกว่า.. นั่นก็คือน้ำตาล
น้ำตาลมีมากๆๆๆๆ ไม่ได้ถูกใช้ออก ก็จะถูกเก็บไปเป็นไขมัน
สะสมที่หน้าท้องบ้าง ที่อื่นๆบ้าง และทำให้อ้วนเด้อ!!

นี่คือ...ให้คนที่ไม่เคยผอม
เขียนความรู้เรื่องการลดความอ้วน
มันก็ดูย้อนแย้งหน่อยๆ ยังไงก็ไม่รู้เนอะ...55+

แต่ที่เกริ่นมาทั้งหมดเนี่ยะ... เพื่อจะโยงมาถึง..
ไอ้ สิ่งที่คิด.. นี่แหละ คือ คิดว่าจะวางแผนจำศิลยังไง
( เย้.......... เข้าเรื่องตามหัวข้อร๊าววววววว 55+)

1. ก็ คือ.. เลิกกินน้ำตาล
ในระยะแรกจะเลิกกินไปทั้งหมดเลย
ซึ่งการกินแบบคีโตฯ ตอบโจทย์เรื่องนี้..
ก็เลยต้องกลับเข้าเผ่าอีกครั้งหนึ่ง

แต่คีโตฯ ในหลักการเดียวกันนั้นมีหลายแบบ..
เอากราฟมานั่งดู ดูไปดูมาเลยว่าจะกินแบบ..
Relaxed Carnivore ดีกว่า..
กินไปสักอาทิตย์ก่อน ว่าโอเคไหม..
แต่ก็คงทำอาหารคีโตฯ ให้แม่กิน แล้ว..
ของเราก็เอาแบบง่ายๆ คือคีโตฯ เขี่ยแล้วกัน
เน้นเนื้อๆ เขี่ยผักออก แล้วคอยดูว่าร่ายกายมัน
ปรับสภาพกลับไปเป็นโหมดเดิมเหมือนแต่ก่อนได้ไหม..

ซึ่ง..

ถ้ามันปรับได้เองจริงๆ ก็เริ่มทำ IF23/1 เลย
แต่ถ้ามันยังปรับไม่ได้ อาจจะต้องไป
กิน CD เข้มข้นสักสองอาทิตย์..

แล้วก็อาจจะมีคำถาม.. ถามกลับมาว่า..

อ่าวววววว แล้วเลิกกินน้ำตาล
ไม่ตายหรอออออ?

อยากบอกว่า.. คำถามนี้ เป็นคำถามที่ดี
ในขณะคนส่วนใหญ่ถูกสอนให้กินแต่แป้ง ใช้แป้งเป็นพลังงาน
จนเราลืมไปแล้วว่า.. จริงๆ แล้ว นอกจากน้ำตาลแล้ว
ไขมันเป็นสารอาหารอีกชนิดหนึ่งที่ร่างกาย
สามารถนำไปใช้เป็นพลังงานได้..

แต่จะทำยังไงร่างกายถึง
จะนำไขมันไปใช้เป็นพลังงานได้?

ต้องออกกำลังกายหนักขนาดไหนกันหรอ..
ร่างกายถึงจะเผาไขมัน... โน่ววววววววววววว
ในความเป็นจริงแล้วจะบอกให้ว่า.. ร่างกายจะไม่นำไขมันไปใช้เลย
ถ้ายังมีน้ำตาลในกระแสเลือดอยู่.. คือไม่ว่าจะออกกำลังมากขนาดไหน
แต่ถ้าเลือดมีน้ำตาลอยู่ไขมันของคุณจะไม่ถูกใช้ ยูวโน๊วววว...

พูดให้ลึกลงไปกว่านั้นก็คือ...
อินซูลิน..จะสั่งให้ประตูเซลล์ไม่ต้องเปิดรับกรดไขมันอิสระเลย
ถ้ายังมีน้ำตาลอยู่ในกระแสเลือด เพราะมันจะถูกสอนว่า..
ถ้ามีน้ำตาลแดรก คือ ชีวิตเมริงมีอาหารอุดมสมบูรณ์.. ไม่ได้อดอยาก
ไม่ได้ขาดอาหาร ก็ใช้น้ำตาลไปเซ่ จะใช้ไขมันไปทำเบื๊อกอะไร..

และนี่แหละ..ที่เราจึงต้องหยุดกินน้ำตาล 100%
เพียงเพื่อต้องการหลอกระบบร่างกายว่านี่เมริงอยู่ในสภาวะ
ข้าวยากหมากแพงแล้วนะ ขาดแคลนอาหารแบบสุดๆ
เพราะงั้น... จงเอาไขมันที่เก็บสะสมไว้อย่างมหาศาลมาใช้ซะ!!

สรุป การกินแบบคีโตเจนิคก็จะเป็นประมาณนี้ ..
ไม่ว่าจะเป็นคีโตรูปแบบไหน.. ก็เหมือนกัน
คือเน้นให้ร่างกายเอาไขมันมาใช้
เป็นพลังงานแทนน้ำตาล..นั่นเอง..จบปิ๊ง!!

เอิ๊กกกกกกกก... เขียนสาระไม่กี่บรรทัด
ต้องใช้พลังงานมากจริงขอบอก ตามนี้นะ..

Note สรุป สิ่งที่คิดไว้ คือ ..

1. กลับเข้าเผ่าคีโตฯ โดยเริ่มกินจาก Relaxed Carnivore
ถ้ามันโอเค ปรับให้ร่างกายสามารถกลับมาใช้ไขมันได้เหมือนเดิม
ก็ค่อยมูฟไปกินคีโตฯ (กินผักมากๆๆๆๆ ได้) ถ้าปรับไม่ได้ก็
ต้องเปลี่ยนไปกิน CD สัก 2 Week

2. ทำ IF ไปด้วย นั่นคือกำหนดการกินอาหารเป็นช่วงเวลา
เริ่มแรก 16/8 ( กินเช้า + กลางวัน งดเย็น ) ก่อน
พอมันโอเคแล้ว ค่อยเปลี่ยนไป 23/1 (กินกลางวันอย่างเดียว)

3. ออกกำลังกาย เริ่มจากพาแม่เต้นแอโรบิคก่อนวันละ 30 นาที
พออยู่ตัวแล้ว เราค่อยเพิ่มเล่น Elip เข้ามาละกัน
เวท ยังไม่พูดถึงนะ เอาระบบร่างกายให้มันเปลี่ยนไปแบบเดิมได้ก่อน
แล้วค่อยมาคิดเรื่องสร้างกล้ามเนื้ออีกทีหนึ่ง..

***หมายเหตุ.. ที่บอกเรื่องว่าอย่ากลัวการกินไขมัน
คือไม่ใช่ว่าให้ไปซดน้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าวเป็นลิตรๆ นะ
ไม่ว่าเรื่องอะไร เราก็ควรจะอยู่ในหลักการเดินสายกลาง
การกินก็เหมือนกัน.. มีกูรูทางด้านลดน้ำหนักท่านหนึ่ง
เป็นคุณหมอเพจ Diet Doctor คุณหมอจะพูดเสมอว่า..
จริงๆแล้ว มันจะดีมาก ถ้าเราสามารถทำให้ร่างกาย
มีความยืดหยุ่นของระบบเผาผลาญ นั่นก็คือ..
เวลาเรากินน้ำตาลเข้าไป ร่างกายก็เผาน้ำตาลได้
หรือในเวลาที่เราไม่มีน้ำตาล มันก็สามารถสลับสวิตกลับมา
เอาไขมันในร่างกายไปใช้ได้..แบบอัตโนมัติ

จะว่าไปแล้วไอ้.. Metabolic flexibility นี่แหละ
เป็นเป้าหมายสูงสุดที่หนอนอยากได้.. แต่ก็ทำไม่ได้สักที
เพราะอารมณ์อีนี่ไม่คงที่..การกินคีโตฯ หรือ CD จึงเป็นอีกทางเลือก
ที่น่าสนใจทางเลือกหนึ่ง สำหรับคนที่มีปัญหาการดื้ออินซูลินแบบหนอน
จะหยิบเอามาใช้ปรับสภาพร่างกายตัวเองใหม่...เพื่อไปให้ถึงยัง
เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่.. ตามด้านบนนั้นเด้อออออ...

เอิม แต่เหมือนจะยังไม่ได้เม้าว่า..การดื้ออินซูลินคืออะไร
แล้วก็เหมือนยังไม่ได้บอกด้วยว่าการกินแบบคีโตเจนิค กินยังไง
ฮ่วยยย เหนื่อยแล้ว ไว้จะเอามาเล่าให้ฟังอีกทีแล้วกันนะครัช.. เหอๆ

อย่างไรก็ตามแค่อยากจะบอกว่า.. เป้าหมายในครั้งนี้
ไม่ได้อยู่ที่การลดน้ำหนัก แต่อยู่ที่การบังคับ
ให้ร่างกายเอาไขมันที่สะสมไว้มาใช้เยอะๆๆๆๆๆๆๆ
สุดๆ ไปเล้ยยยยยยยย ตามนี้นะ.. ท่องไว้ล่ะนังหนอน

**** เฮ๊ยยย.. จากต้นบล็อก..
เหมือนจะลืมบอกว่า ทำไมการทำ IF
ในช่วงที่เราไม่กิน ถึงไม่เรียกว่าการอดอาหาร
มาตอบเอาตอนนี้ ก็แล้วกันนะ ..

ที่มันไม่เรียกว่าการอดอาหารก็เพราะว่า
ไอ้ช่วงที่เราไม่กินเนี่ยะ.. มันเป็นช่วงที่ร่างกายของเรา
ไม่มีน้ำตาลในกระแสเลือดทีนี้.. พอไม่มีน้ำตาลในกระแสเลือดใช่ปะ
มันก็ถูกบีบบังคับ ให้เปลี่ยนโหมดมาใช้ไขมันเป็นพลังงานแทน
ดังนั้น เราจึงไม่ไม่ถือว่าขาดพลังงานไง.. เพราะไม่กินเราก็ไม่หิวววว
เราจึงเห็นๆ กันว่าทำไมพวกที่ทำ ไอเอฟ 23/1 คือ
กินแค่ 1 ชั่วโมง แล้วที่เหลือแดรกแต่น้ำเปล่า 23 ชั่วโมง
แต่ก็อยู่ได้.. บางคนคึกอีกต่างหาก นั่นเป็นเพราะ
ร่างกายเรามันมีอาหารแล้วไง มันฟาดดด
ไขมันเป็นพลังงานอยู่.. ตามนี้นะ.. 55+

ไปละ.. งิ๊ๆ

[ D I E T D I A R Y ]
by . . nonnoigiwgiw

Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2563

Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2563 15:45:52 น.

8 comments

Counter : 1452 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณSai Eeuu, คุณเริงฤดีนะ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณhaiku, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณnewyorknurse

ผมนี่ก็อ่านจนจบได้ 555555

อาจจะเพราะ ผช ไม่ได้ชอบกินของหวานเท่าไหร่ แต่ผมก็กินกาแฟ โกโก้ โอวันติน บ่อยนะ
แต่แน่นอน ไม่เค้ก ไม่เบเกอร์รี่ ยกเว้นพาบอสไปคาเฟ่ แล้วต้องเก็บมรดก....
ค่าน้ำตาลผมเลยอยู่ที่ 70-75 เองครับ อาจจะเพราะใช้พลังงานเยอะด้วย

มีช่วงนึงบ้าออกกำลังกายมาก แล้วมากิน low crab แรก ๆ ระบบขับถ่ายแย่มาก แต่พอตั้งหลักได้แล้วก็โอเค
ตอนนั้นไม่ได้ดีแค่เรื่องการสร้างกล้ามเนื้อนะ ดีตรงเลิกติดคาเฟอีนไปด้วย
เพราะกินกาแฟดำแล้วใจสั่น เลยไม่กินซะเลย

ตอนนั้นกินแต่ข้าวไรส์เบอร์รี่ ที่น้อยมาก เน้นโปรตีน ไม่รู้ทำได้ไง 55555
ไม่เบียร์ด้วย....กินเหล้าโซดา แทน เผลอๆมีวอคก้าด้วย ไหนๆ ก็จะกินแล้ว เหอะๆ

โดย: จันทราน็อคเทิร์น