114 .. เมื่อเรากลายเป็น ของมัน"
เมื่อเรากลายเป็น ของมัน"
เขียนโดย พระไพศาล วิสาโล จาก เว็บ visalo.org
เคยนำลงในนิตยสาร ซีเครท : Vol.2 No.50 26 July 2010
เคยสังเกตไหมว่า เวลาเพื่อนทำกระเป๋าเงินหาย เราสามารถสรรหาเหตุผลมาได้มากมายเพื่อช่วยให้เธอทำใจ (ยังดีที่ไม่เสียมากกว่านี้, ถือว่าใช้กรรมก็แล้วกัน, เงินทองเป็นของนอกกาย ฯลฯ) ในทำนองเดียวกัน เวลาเพื่อนอกหัก ถูกแฟนทิ้ง เราก็รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรเพื่อให้เธอปล่อยวาง
แต่เวลาเราประสบเหตุอย่างเดียวกัน กลับทำใจไม่ได้ เอาแต่เศร้าซึม จ่อมจมอยู่กับความสูญเสีย คำแนะนำดี ๆ ที่ให้กับเพื่อน กลับเอามาใช้กับตัวเองไม่ได้ บ่อยครั้งก็นึกไม่ออกด้วยซ้ำว่า ควรจะทำใจอย่างไร
ใช่หรือไม่ว่า สาเหตุที่เราสามารถแนะนำเพื่อนได้อย่างฉาดฉาน ก็เพราะเงินของเพื่อน ไม่ใช่เงินของฉัน แฟนของเพื่อน ไม่ใช่แฟนของฉัน เราจึงไม่รู้สึกทุกข์ร้อนเท่าใดนัก ปัญญาจึงทำงานได้เต็มที่ แต่เมื่อใดที่เหตุร้ายเกิดกับเงินของฉัน หรือกับแฟนของฉัน อารมณ์จะท่วมท้นใจจนนึกอะไรไม่ออก
ไม่มีอะไรที่จะทรงพลังเท่ากับคำว่า ของฉัน ไม่ว่าความวิบัติจะรุนแรงเพียงใดก็ตาม หากมันไม่เกี่ยวข้องกับ ของฉัน เราก็ไม่ค่อยรู้สึกรู้สาด้วย แต่ทันทีที่มีอะไรมากระทบกับ ของฉัน แม้เล็กน้อยเพียงใด มันกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ทันที
หลายคนดูข่าวแผ่นดินไหวในอิหร่าน ที่มีคนตายนับแสนคนด้วยความรู้สึกเฉย ๆ แต่จะขุ่นเคืองไปทั้งวัน เมื่อพบว่ารถของตนมีรอยขีดข่วนที่ตัวถัง
สาเหตุที่ผู้คนยอมเหนื่อยยาก ทำงานตัวเป็นเกลียว ก็เพื่อรักษาและเพิ่มพูน ของฉันให้มากที่สุด ความยึดอยากให้ทุกอย่างเป็น ของฉัน ทำงานอยู่ในส่วนลึกของจิตใจตลอดเวลา แม้เก้าอี้ในโรงหนังที่เพิ่งมานั่งได้ไม่กี่นาที เราก็เรียกว่า เก้าอี้ของฉันได้อย่างเต็มปากเต็มคำ
แต่เราเคยสังเกตไหมว่า ทันทีที่ยึดอะไรก็ตามว่าเป็น ของฉัน เรากลายเป็น ของมันไปทันที เราจะยอมทุกข์เพื่อมัน
ถ้าใครวิจารณ์เสื้อของฉัน ตำหนิรถของฉัน เราจะโกรธและจะแก้ต่างให้มัน บางครั้งถึงกับแก้แค้นแทนมันด้วยซ้ำ ถ้าเงินของฉันถูกขโมย เราจะทุกข์ข้ามวันข้ามคืนทีเดียว
คนจำนวนไม่น้อย ยอมตายเพื่อรักษาสร้อยเพชรไว้ไม่ให้ใครกระชากเอาไป บางคนยอมเสี่ยงชีวิตฝ่าเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้บ้าน เพราะกลัวอัญมณีจะถูกทำลายวายวอด ฉะนี้แล้วควรจะเรียกว่ามันเป็น ของฉัน หรือฉันต่างหากที่เป็น ของมัน
เป็นเพราะหลงคิดว่ามันเป็น ของฉัน ผู้คนทั้งโลกจึงกลายเป็น ของมันไปโดยไม่รู้ตัว มีชีวิตอยู่ก็เพื่อมัน ยอมทุกข์ก็เพื่อมัน ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่า มีเวลาอยู่ในโลกนี้จำกัด แต่ก็ใช้เวลาไปอย่างไม่เสียดายก็เพื่อมัน
ซ้ำร้ายกว่านั้นหลายคนยอมทำชั่ว อกตัญญูต่อผู้มีพระคุณก็เพื่อมัน
ยิ่งยึดมั่นว่าทรัพย์สมบัติเป็นของฉัน เรากลับกลายเป็นทาสของมัน จิตใจนี้อุทิศให้มันสถานเดียว
เศรษฐินีเงินกู้คนหนึ่ง เป็นโรคอัลไซเมอร์ในวัยชรา จำลูกหลานไม่ได้แล้ว แต่สิ่งเดียวที่จำได้แม่นก็คือ สมุดจดบันทึกทรัพย์สิน ทุกวันจะหยิบสมุดเล่มนี้มาพลิกดูไม่รู้เบื่อ แม้ลูกหลานจะชวนสวดมนต์หรือฟังเทปธรรมะ ผู้เฒ่าก็ไม่สนใจ จิตใจนั้นรับรู้ปักตรึงอยู่กับเงินทองเท่านั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เมื่อสิ้นลม ผู้เฒ่าจะนึกถึงอะไร และจะไปสุคติได้หรือไม่
ไม่ว่าจะมีเงินทองมากมายเพียงใด เมื่อตายไปก็ไม่มีใครเอาไปได้แม้แต่อย่างเดียว นั่นเป็นข่าวร้ายสำหรับผู้ทุ่มเทชีวิตทั้งชีวิตเพื่อทรัพย์สมบัติ
แต่ที่ร้ายกว่านั้นก็คือ หากหวงแหนติดยึดมันแม้กระทั่งในยามสิ้นลม มันก็สามารถฉุดลงอบายได้
ถ้าไม่อยากเป็น ของมัน ก็ควรถอนความสำคัญมั่นหมายว่า มันเป็น ของฉัน การให้ทานเป็นวิธีการเบื้องต้น ในการฝึกจิตให้ถอนความสำคัญมั่นหมายดังกล่าว ถ้าให้ทานอย่างถูกวิธี ไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์แก่ผู้รับเท่านั้น หากยังเป็นประโยชน์แก่ผู้ให้
ประโยชน์ประการหลัง มิได้หมายถึงความมั่งมีศรีสุขในอนาคตเท่านั้น ที่สำคัญกว่านั้นก็คือช่วยลดความยึดติดในทรัพย์ ของฉัน แต่อานิสงส์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อ เราให้โดยไม่ได้หวังอะไรกลับคืนมา หากให้เพื่อมุ่งประโยชน์แก่ผู้รับเป็นสำคัญ ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นพระหรือไม่ก็ตาม และเมื่อให้ไปแล้วก็ให้ไปเลย โดยไม่คิดว่าของนั้นยังเป็นของฉันอยู่ ( หรือเฝ้ามองว่าทำไมหลวงพ่อยังไม่ฉันอาหาร ของฉัน)
การให้ทานและเอื้อเฟื้อเจือจาน เป็นการสร้างภูมิต้านทานให้แก่จิตใจ ทำให้ไม่ทุกข์เมื่อประสบความสูญเสีย ในทางตรงข้ามคนที่ตระหนี่ แม้จะมีความสุขจากเงินทองที่พอกพูน แต่หารู้ไม่ว่า จิตใจนั้นพร้อมที่จะถูกกระทบกระแทกในยามเสียทรัพย์ แม้จะเป็นเรื่องที่จำเป็นก็ตาม
ชาวอินเดียผู้หนึ่งเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียวมาก วันหนึ่งได้รับโทรศัพท์จากภรรยาว่าเธอปวดท้องและปวดศีรษะมากจนต้องเข้าโรงพยาบาล หมอจึงสั่งตรวจเลือดและทำอุลตร้าซาวด์ เพราะเกรงว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ พอรู้เช่นนี้เขาจึงสั่งให้ภรรยารีบหนีออกจากโรงพยาบาลโดยไม่ต้องจ่ายอะไรทั้งสิ้น แล้วเขาก็โทรศัพท์ไปด่าหมอว่า เห็นแก่เงิน สั่งตรวจเลือดและทำอุลตร้าซาวด์โดยไม่จำเป็น หมอพยายามอธิบายอย่างไร เขาไม่ยอมเข้าใจ
ต่อมาเขามีเหตุต้องเข้าโรงพยาบาลเดียวกันนั้น เพื่อผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี เขาต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลหลายวันเนื่องจากมีการติดเชื้อ ค่าใช้จ่ายจึงเป็นจำนวนมาก วันสุดท้ายที่เขาอยู่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินได้มาเก็บเงินจากคนไข้ถึงในห้อง ทันที่เขาเห็นตัวเลขค่าใช้จ่าย ก็เกิดอาการช็อคและสิ้นลมคาเตียง
เงินนั้นมีไว้ใช้ แต่เมื่อใดที่เผลอใจกลายเป็นของมันไป มันก็สามารถทำร้ายจนถึงแก่ชีวิตได้
ธรรมสวัสดี
ร่มไม้เย็น ค่ะ
Create Date : 02 พฤศจิกายน 2553 |
|
80 comments |
Last Update : 29 มีนาคม 2558 16:30:37 น. |
Counter : 5137 Pageviews. |
|
|
|
ของมันทานมากไม่ดี เดี๋ยวจะสมบูรณ์เกินไปครับ
ขอให้คุณป้ากุ๊ก ระวังสุขภาพด้วยครับ
อากาศเปลี่ยนแล้ว