343 .. ฝนตก รถติด
ฝนตก รถติด
เขียนโดย Purple Jade จากคอลัมน์ สัพเพเหระธรรม ฉบับที่ 151 เว็บธรรมะใกล้ตัว dharma at hand
วันนี้ฝนตก.. หลายคนคงรถติดอยู่บนถนน บ้างก็อยากจะรีบกลับไปให้ถึงบ้านไปนอนดูทีวีอยู่บนโซฟา บ้างก็มีนัดรีบไปทานข้าวกับเพื่อนหรือหวานใจ ได้แต่ลุ้นทุกไฟแดงว่ามาถึงคันเราแล้วจะเขียวหรือแดงซะก่อนนะ ฝนตกรถติดตอนห้าโมงเย็นนี่ มันช่างน่าหงุดหงิดจนอยากจะตะโกนด่าฟ้าฝนที่ไม่รู้จักเวล่ำเวลาบ้างเลย
ความรีบร้อนบวกกับใจที่ร้อนรนจะไปให้ถึงจุดหมายปลายทางก็เหมือนกับไฟดีๆ นี่เอง มันแผดเผาทุกอย่างระหว่างทาง บางคนหงุดหงิดจนเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเพราะปาดซ้ายแซงขวา หรือแย่กว่านั้นคือมีปากเสียงด่าทอกัน ทะเลาะกับคู่กรณี และถึงขั้นลงไม้ลงมือจนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
บางคนทะเลาะกับแฟนเพราะไปถึงสถานที่นัดหมายช้ามาก บางคนทะเลาะกันตั้งแต่ระหว่างทางขับรถอยู่ คุยโทรศัพท์ไปเถียงกันไปว่า เมื่อไหร่เธอจะมาถึงซักที นี่ฉันรอมานานชาติเศษแล้วนะ
ชีวิตทุกวันนี้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ต้องการอะไรก็แค่ปลายนิ้วสัมผัส อยากจะหาข้อมูลอะไร คีย์เข้าไปในอินเตอร์เน็ตก็มีให้แทบจะทุกอย่าง ทำให้ห้องสมุดดูจะกลายเป็นสถานที่โบราณหรือถูกจัดเข้าหมวดหมู่พิพิธภัณฑ์ไปแล้ว แม้กระทั่งขี้เกียจไปเดินห้างช้อปปิ้ง เราก็เลือกดูเลือกสั่งสินค้าเอาง่ายๆ ผ่าน Facebook
แต่ว่าความสะดวกสบายเหล่านี้ บางครั้งก็กลายเป็นความมักง่ายไปได้เหมือนกัน พอจิตใจคนมักง่ายขึ้น เอาเร็วเอาง่ายเข้า เมื่อไม่ได้ตามที่เคยได้หรือคิดว่าควรจะได้ เรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ก็กลายเป็นเรื่องคอขาดบาดตายขึ้นหน้าหนึ่งกันให้เห็นอยู่บ่อยๆ
เรื่องฝนตกรถติดนี่ จะว่าไปก็เป็นเรื่องที่แสนจะคลาสสิคในกรุงเทพฯ เมืองแห่งความวุ่นวายหลากหลายไลฟ์สไตล์แห่งนี้ แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังรับมือกับมันได้ไม่สง่างามนัก การก่นด่ากันเพราะเอาความต้องการหรือความสะดวกสบายของตัวเองเป็นที่ตั้งนั้น ทำบ่อยๆ ทำทุกวัน ก็สร้างนิสัยเสียให้เพาะอยู่ในตัว-ในใจของเราได้แบบที่ใครต่อใครอาจจะนึกไม่ถึง
คำพูดระคายหูระคายใจ ความคิดที่ฟุ้งซ่านวกวนพวกนั้น ทำให้เรากลายเป็นคนจับจด คิดอะไรได้ไม่ชัดเจน ไม่ตรงเป้าหมาย คลุมเครือและเยิ่นเย้อ ยังไม่นับรวมแต่ละคำที่ออกจากปากและจากใจที่ขุ่นมัวนั้น ยิ่งมากก็ยิ่งทำให้จิตใจหยาบกระด้างขึ้นทุกวัน มองไม่เห็นอะไรอย่างอื่น ไม่เห็นคนอื่น เห็นแต่ตัวเองและโลกของตัวเอง
คุณสมบัติแย่ๆ เหล่านี้ระยะยาวสามารถสร้างความเสียหายให้กับทั้งงานและสร้างความร้าวฉานให้กับครอบครัวเลยทีเดียว
จริงๆ แล้ว ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง วันฝนตกรถติด อาจจะเป็นวันที่มีความสุขของคนอีกมากมายก็ได้ หนุ่มสาวบางคู่ที่เพิ่งจะคบหาดูใจกัน ก็อาจจะขอบคุณฟ้าฝนที่ทำให้มีวันที่แสนจะโรแมนติคแบบนี้ เพราะเขาและเธอจะได้รถติดอยู่ด้วยกันนานๆ กว่าฝ่ายชายจะขับรถไปส่งฝ่ายหญิงถึงที่บ้านได้ ฝ่ายหญิงก็อาจจะต้องคอยถามไถ่ว่าเป็นยังไงบ้าง เหนื่อยมั้ย ปวดขารึยัง ขับรถแบบขยับได้ครั้งละ 10 เมตรแบบนี้ หิวข้าวรึเปล่า เราจะแวะซื้ออะไรทานกันก่อนดีมั้ย ความสัมพันธ์อันดีก็อาจจะก่อร่างสร้างตัวจากอะไรง่ายๆ แต่มีความหมาย เพราะมีความห่วงใยซ่อนอยู่ได้ในวันแบบนี้
ดังนั้นการที่เราจะกลับบ้านช้าไป 2-3 ชั่วโมง หรือไปไม่ทันนัดดูหนังกับแฟน แล้วทะเลาะกันก็ตาม ถ้ามองอย่างยุติธรรม มันก็เป็นแค่วันธรรมดาๆ วันหนึ่งบนโลกนี้ ที่แม้เราจะไม่ได้มีความสุขนัก แต่ก็ยังมีคนอื่นที่เค้ามีความสุขกับมันได้
ฟ้าฝนไม่ใช่ต้นเหตุของความบาดหมางหรือความหงุดหงิดใจอะไรของใครหรอก มีแต่เราที่ไปให้ค่ากับมันเอง
ถ้าเราดูแลจัดการจิตใจของเราได้ดี ก็มีสติควบคุมสถานการณ์ได้ ไม่ว่าจะวันฝนตกหรือวันฝนไม่ตก
ลองมองออกไปข้างนอกสิ บางทีอาจจะไม่ต้องไกลมาก เพื่อนเราเองอาจจะกำลังตกงาน เพิ่งเลิกกับแฟน หรืออาจจะทั้งเพิ่งตกงานและเพิ่งเลิกกับแฟนในเดือนเดียวกัน วันฝนตกพรำๆ ที่เรากำลังพร่ำด่าฟ้าฝนนั้น เพื่อนเราอาจจะกำลังสิ้นหวังท้อแท้มองไม่เห็นทาง .. ไหนๆ ก็รถติดแบบไม่ขยับขนาดนี้ โทรไปปลอบใจเพื่อนน่าจะดีกว่า ไม่ต้องด่าใคร แถมยังได้ช่วยให้คนอื่นมีกำลังใจมองเห็นทางที่จะก้าวเดินต่อไปในวันพรุ่งนี้อีกด้วย
มองโลกตามความเป็นจริง มองชีวิตแบบไม่ลำเอียง แล้วจะพบว่าแม้ในยามร้าย เราก็มีใจที่ดีได้ ถ้าเรามีสติ...
ชีวิตที่ผ่านมา มันมีอย่างน้อยอีกมุมหนึ่งเสมอ ที่เมื่อค้นพบแล้วจะเข้าใจว่า ชีวิตน่ะยุติธรรมกับทุกคน.
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ท
ธรรมสวัสดี
ร่มไม้เย็น ค่ะ
Create Date : 07 มิถุนายน 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 7 มิถุนายน 2556 10:47:23 น. |
Counter : 3847 Pageviews. |
|
|
|