รวมข่าวคราวการออกอัลบั้มใหม่ของริชชี่ (รอบ 5)
ที่มา : news.xinmin.cn
15-05-2009
หน้าเหมือนจะเจ็บนะ
ตกลงมันสบายอ๊ะป่าวเนี่ย
ข่าวจากไทเปวันที่ 14 พฤษภา ริชชี่ออกโปรโมตอัลบั้มใหม่ หลังจากว่างเว้นมาสองปี ริชชี่เพิ่งบินมาจากเซี่ยงไฮ้ ทางทีมงานเลยจัดเตรียมรายการลดความเครียดให้ เป็นการนวดฝ่าเท้า
ภาพเพิ่มเติมจาก Tom.com
ที่มา : The Sun
ที่มา : news.chinatimes.com
ปีนึงกลับบ้าน 42 วัน ริชชี่ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนแย่ทีเดียว
แปลโดยใช้โปรแกรม แถมยาวขนาดนี้ ก็ตัดไปหลายช่วง แปลแค่บางจัดนะ อ่านตรงไหนงงๆ ก็ข้ามไปเน้อ 
ริชชี่ช่วงที่ต้องอัดอัลบั้ม คำนวนแล้วปีนึงได้กลับบ้าน 42 วันเอง (อันนี้ไม่แน่ใจว่าบ้านที่ไต้หวันรึบ้านที่ฮ่องกงนะ) ช่วงสิบกว่าปีมานี้ ริชชี่ก็ออกทัวร์ concert ไปตามเมืองต่างๆ มาตลอด มีช่วง 2 ปีหลังเพราะต้องถ่ายหนังเรื่อง sniper กับ assassin ครอบครัวเค้าทั้งภรรยาและลูกๆ ก็เลยย้ายมาอยู่ที่ฮ่องกงด้วยเลย
ตอนนี้ริชชี่ออกอัลบั้มใหม่ R.S.V.P ทั้งที่จีน ฮ่องกงและไต้หวัน เลยต้องวิ่งรอกกว่า 30 เมืองในช่วง 2 เดือน จากเดือนพฤษภาที่ดาเลี่ยน ฮาร์บิน ปักกิ่ง กลับไปไต้หวันอาทิตย์นึงแล้วก็บินกลับไปจีนอีก จะได้พักเมื่อไหร่ ริชชี่ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน : "ผู้ช่วยต้องเอาตารางบินมาให้ผมดูทุกวัน ไม่งั้นผมก็จำไม่ได้"
บางครั้งวันนึงต้องบินไปสองที่ สามเมือง พวกทิวทัศน์เป็นยังไง ผมเองก็จำไม่ค่อยได้ ที่จำได้มีแต่ห้องในโรงแรม เค้าว่าที่จีนมีหลายที่ที่เป็น แบล๊คลิส เพราะถ้าออกไปก็จะวุ่นวาย คุมสถานการณ์ไม่ได้ จะออกไปซื้อของว่างกินหรือซื้อของฝากยิ่งไม่ได้ใหญ่ ที่ทำได้คือให่สัมภาษณ์สื่อทางโทรศัพท์เพื่อความปลอดภัย
งานที่ออกกลางแจ้งของริชชี่มีแค่งานร้องเพลงโปรโมต แต่แค่นั้นก็ต้องใช้การ์ดกว่า 30 คน และมีทีมงานด้วย เวลาแจกลายเซ็นต์ก็ต้องเซ็นที่โรงแรมก่อน ทำเอาตอนนอนยังเก็บไปฝันร้าย จนไม่อยากเห็นลายเซ็นต์แล้ว
แต่กว่าจะเป็นแบบนี้ ก่อนหน้านี้ริชชี่เองก็เคยลิ้มรสความเจ็บปวดมาก่อน ปี 1998 เฉินตู concert เค้าต้องเปลี่ยนเสื้อผ้ากลางทุ่งเลยทีเดียว หันไปทางไหนก็มีแต่วัว ก่อนหน้า concert จะเริ่มตั๋วขายไม่หมด มีคนต่อราคาเหลือ 5 หยวน ทีมงานมาถามว่าเค้าจะลดราคาตั๋วมั๊ย เค้าตะโกนด้วยความโกรธว่า ผมยอมเผาตั๋วที่ขายไม่หมด ดีกว่าขายในราคาแบบนั้น พูดถึงเรื่องนี้แล้ว จนถึงตอนนี้เค้าก็ยังเรียกมันว่า เป็น concert ด้วยเลือดและเนื้อจริงๆ
จากที่ต้องอัดอัลบั้มไม่ค่อยได้กลับบ้าน เพื่อนถามเค้าว่า ลูกสาวโตรึยัง? เค้าได้แต่ใช้มือกะความกว้างตามยาวโดยประมาณ เพราะว่ากว่าจะกลับบ้านแต่ละทีก็ดึกมากแล้ว ลูกสาวก็เข้านอนไปแล้วเรียบร้อย เห็นแค่ตอนนอนบนเตียงแค่นั้นเอง ก็เลยกะความสูงไม่ถูก (เอ่อ....น่าสงสารใครดีหล่ะเนี่ย นู๋ราติ หรือเฮียดี  ) ความสัมพันธ์พ่อลูกมันช่างห่างไกล ดังนั้นไม่ว่าเมื่อไรก็ตามที่มีคนชมเค้าว่าเป็น หนุ่มแสนดี เค้าจะรีบตอบว่า ไม่นะ ผมแย่มากต่างหาก
ไม่ว่าจะยากลำบากขนาดไหน แต่ริชชี่ก็พยายามก้าวไปสู่จุดหมายที่สูงขึ้นและสุงขึ้น ซึ่งเค้าบอกว่าจะไม่พลาดตกลงมาง่ายๆ เพราะมีภรรยา Tina คอยสนับสนุนอยู่
พูดถึงเรื่องสมาชิกในครอบครัว ผมให้พวกเค้ามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี แต่ก็ไม่มีเวลาให้พวกเค้ามากนัก เมื่อช่วงตุลาปีที่แล้ว เค้าต้องไปถ่ายทำสารคดีที่ไอ๊ซแลนด์ว่าครึ่งเดือน เดือนกรกฎาก็ต้องไปขี่มอเตอร์ไซด์ทัวร์ไปตามเส้นทางสายไหม เค้าว่านี่ไม่ได้ทำเพื่อเงิน แต่เป็นการบรรลุจุดหมายอีกอย่างของตัวเอง
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ที่บ้าน แต่ริชชี่ก็ทำตัวสบายๆ เป็นกันเอง ใครๆ ที่ได้ร่วมงานกับเค้า ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เค้าเป็นคนดีมากๆ ฟ่านปิงปิงยังเคยว่า เสี่ยวฉีเป็นผู้ชายที่ดีมากๆ เสียดายที่ไม่เป็นชั้น (เอ่อ...นู๋ฟ่าน เฮียเค้าแก่นี่แล้วนา จะดีเหรอ  )
มีช่วงหลังเอียพูดถึงทีน่า เล่าว่า ช่วงตอนที่ทีน่ายังไปทำงานที่อเมริกา ตอนที่เค้าไปส่งที่สนามบินก็แอบร้องไห้ด้วย แต่พยายามไม่ให้ใครเห็น (อารมณ์สาวน้อยอ่ะ  )
วันที่ให้สัมภาษณ์ ริชชี่เพิ่งบินมาจากที่ปักกิ่งกำลังหิวโซ ก็คว้าขาไก่ที่เตรียมไว้ให้ไปกิน แต่กินแค่ขาไก่เท่านั้น จากเวลาห้าทุ่มถึงตีหนึ่ง เค้าขอโทษออกมาว่า น่าอายจัง แต่ผมกำลังลดน้ำหนักอยู่ เลยกินเยอะไม่ได้ ทำให้ของเหลือเยอะเลย
ที่มา : images.yule.tom.com
วันที่ 20 พฤษภา ริชชี่ไปร่วมงานของ หมิงเดลลี่ (น่าจะเป็นพวกหนังสือพิมพ์ไม่ก็นิตยสารหน่ะ)
เพลงลงโดย Shirley โหลดได้ที่ //www.badongo.com/cn/file/14955535
|
| Create Date : 24 พฤษภาคม 2552 |
| Last Update : 24 พฤษภาคม 2552 15:24:25 น. |
|
12 comments
|
| Counter : 1093 Pageviews. |
 |
|
) ความสัมพันธ์พ่อลูกมันช่างห่างไกล ดังนั้นไม่ว่าเมื่อไรก็ตามที่มีคนชมเค้าว่าเป็น หนุ่มแสนดี เค้าจะรีบตอบว่า ไม่นะ ผมแย่มากต่างหาก 
) 
) 
)
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
เขานวดเจ็บกว่าบ้านเราอีกค่ะ
เน้นกดจุดรักษาโรคจริงๆ
ไม่ใช่นวดเอาสบาย อย่างรายๆ ที่ในบ้านเรา
ที่เมืองไทยมีอยู่แถวกล้วยน้ำไทค่ะ
อาจารย์เป็นแพทย์แผนโบราณจีนเลยล่ะ
ตอนไปเมืองจีนเขาก็พาไปนวด
แบบเอาพวกเราเนี่ยแหละ ไปเป็นเหยื่อให้นักเรียนของเขานวด อิอิ