Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
26 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 

Richie Jen : Recalls his bright career together



บทความนี้เป็นบทความใน Contemporary Song World (04 -2008 version) และโพสโดยสมาชิกที่จีน จาก richiefamily.net

เพราะฉะนั้น ตุ้งเลยหาที่มาของภาพไม่เจอ เลยเอาภาพจากที่นู่นนิด ที่นี่หน่อยมาประติดประต่อ วางๆ ไปหน่ะ

แปลเป็นภาษาอังกฤษโดย Joanna จาก One Richie Forum

Photobucket


ถ้าคุณเพิ่งรู้จักริชชี่วันนี้ บางทีคุณอาจจะเห็นว่าตัวเองได้พลาดช่วงสำคัญของเขาไป ถ้าคุณไม่รู้สึกถึงความภูมิใจของการที่มียอดขายอัลบั้มทะลุล้านรึอาจจะสองล้านแผ่นแล้วหล่ะก็ คุณก็จะไม่เข้าใจว่าศิลปินชาวไต้หวันคนนึงสามารถขึ้นแสดงที่ฮ่องกงโคลีเซียมหลายต่อหลายหนด้วยลำแข้งของตัวเองได้อย่างไร คุณจะไม่เข้าใจความยอดเยี่ยมของความรู้สึกที่ได้เป็นที่นิยมของ box office

ถ้าเราใช้การประสบความสำเร็จในรูปแบบนี้มาตัดสินว่าศิลปินยัง ‘ดัง’ อยู่หรือไม่ มันก็ดูจะโหดร้าย แต่ความหมายของคำว่า ดัง จริงๆ แล้วคืออะไร? มันหมายถึงการที่มีคนตามเค้าทุกวัน และมีปาปารัซซี่คอยตามทุกฝีก้าวหรือเปล่า? ‘ดัง’ เป็นรูปแบบหนึ่งของการคงอยู่อย่างต่อเนื่องอย่างมั่นคง เพื่อที่จะได้รับคำคำนี้ที่ฮ่องกง ศิลปินต้องสามารถที่จะรับงานโดยบริษัทภาพยนตร์ได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับพวกเขาที่ยินดีที่จะเสี่ยงในการเข้ามาในวงการนี้ ในฐานะที่เป็นนักร้องที่ผันตัวมาเล่นบนจอเงิน และเป็นคนไต้หวันที่เริ่มเข้ามาตีตลาดในฮ่องกงจากข้างนอก ริชชี่ประสบความสำเร็จในจุดนี้

แทนที่จะเอ่ยว่าเส้นทางของเขาค่อนข้างราบรื่นหลังจากประสบความสำเร็จจากเพลง Heart Too Soft มันง่ายกว่าที่จะพูดว่าเขาเดินอย่างมั่นคง เขามักจะก้าวไปทีละก้าวโดยไม่รีบเร่งมากเกินไป เนื่องจากบุคลิกความเป็นสุภาพบุรุษและความกล้าหาญ สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาสามารถก้าวมาเป็นบุคคลที่ขาดไม่ได้ในวงการบันเทิง ด้วยความช่วยเหลือของพวกเขา ริชชี่สามารถรักษาตำแหน่งไว้ได้อย่างเหนียวแน่น

นี่เป็นเหตุว่าทำไมถึงแม้เขาจะไม่มีพลังยิ่งใหญ่พอจะคุมวงการบันเทิง แต่ก็ยังรักษาชื่อเสียงไว้ได้เป็นอย่างดี แม้เขาไม่ได้แข่งกับคนอื่น แต่สถิติดีๆ ของเขาก็เป็นที่จดจำในวงการนี้



ขอบคุณหวังเฟย

แม้ว่าตอนที่ริชชี่ดังที่จีนหลังจากออกอัลบั้ม Heart Too soft แล้ว แต่ที่ไต้หวันเขาก็ยังเป็นแค่ตัวประกอบเล็กๆ จนกระทั่งหวังเฟยถูกสัมภาษณ์ระหว่างที่เธอโปรโมตอัลบั้มตัวเอง เธอถูกถามว่าเพลงไหนที่ดังที่สุดในปักกิ่ง เธอตอบง่ายๆ มา 3 พยางค์ว่า Heart too soft และแล้วผู้ฟังในที่สุดก็เชื่อว่าเวลาของริชชี่มาถึงแล้ว

ริชชี่ดังมากๆ ในช่วงเวลานั้นโดยไม่มีเหตุผล หลายคนรอให้โชคจากเพลงฮิตเพลงนั้นของเขาหมดลง ความกดดันที่เขาต้องพิสูจน์ตัวเองว่าตัวเองไม่ได้พึ่งแต่โชคมันหนักหนาทีเดียว โชคดีที่เขาได้พบหยางเพ่ยเพ่ย ซึ่งช่วยเขาให้เข้ามาสู่จุดสูงครั้งแรกในวงการบันเทิง

ครั้งแรกของริชชี่ในการพยายามเป็นตัวเอกในหนังของหยางเพ่ยเพ่ยเรื่อง มังกรหยก นี่เป็นเรื่องมหัศจรรย์ ทั้งสไตล์ตัวละคร ทั้งรูปลักษณ์ และทักษะการแสดงของเขาไม่ได้เป็นที่ยอมรับในคนดูหมู่มาก แต่เรตติ้งยังติดอันดับหนึ่งอย่างต่อเนื่อง เพลงธีมของเขาอย่างเพลง Sad Pacific ในซีรี่ย์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก นั่นทำให้ชื่อเสียงของริชชี่พุ่งขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง



ริชชี่ต้องขอบคุณหยางเพ่ยเพ่ยที่เชื่อมั่นในตัวเขา ไม่ว่าจะได้รับคอมเม้นท์แย่ๆ มากมายจากซีรี่ย์ แต่เธอก็ยังกล้าที่จะใช้เขาเล่นบทนำอีกครั้งในเรื่อง กระบี่เย้ยยุทธจักร นั่นต้องใช้ความกล้าอย่างมากทีเดียว สำหรับนักร้องแล้วสามารถที่จะดังได้ แต่ไม่ใช่เพลง มันก็เหมือนกันกับนักแสดงที่ดัง ไม่ใช่ทีวีซีรี่ย์ แต่คอมเม้นท์แย่ๆ ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้กระทบต่อชื่อเสียงของริชชี่ ที่จริงมันยิ่งทำให้เขาดังขึ้น ระหว่างการถ่ายทำเรื่อง กระบี่เย้ยยุทธจักร มันไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นทุกวัน มีแฟนๆ จำนวนมากขอลายเซ็นต์ระหว่างการถ่าย พวกเขาจะมาเคาะที่หน้าประตูห้องในโรงแรมของริชชี่ตั้งแต่ตี 5 ไม่ก็ 6 โมงเช้า และยังตามไปกระทั่งในห้องน้ำ นั่นทำให้ริชชี่ต้องขับรถออกไปไกลๆ เพียงเพื่อไปเข้าห้องน้ำ เห็นได้ชัดว่าชื่อเสียงของเค้าและความเป็นที่นิยมมันช่างมากมายและกระจายไปไกล




ริชชี่ไม่ได้แสดงละครหลายเรื่องนัก แต่ตัวละครทั้งสาม : เอี้ยก้วย เล่งฮู้ชง และชอลิ้วเฮียงต่างก็เป็นตัวละครในฝันของผู้ชายหลายคน แต่ใครก็ตามที่ได้เล่นบทเหล่านี้ มักจะได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นของจีน ของริชชี่เองยังพอได้รับความปราณีกว่า เมื่อมองไปที่ตัวละครที่เขาเล่น บุคลิกความเป็นสุภาพบุรุษของริชชี่จะทำให้คุณคิดว่านั่นเป็นเค้าไม่ใช่ตัวละครจากหนังสือ ไต้หวันเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นแหล่งปั้นศิลปิน ดังนั้น ละครของเขาน่าจะสร้างเพื่อความบันเทิงมากกว่าจะทำตามบทประพันธ์ ทุกวันนี้เมื่อผู้คนเริ่มจะลืมเลือน ริชชี่ยังคงมองมันแบบสบายๆ “ผมรู้ว่าตัวเองโดนด่าเละเทะเลยช่วงนั้น คนเล่นเน็ตหลายคนก็ว่าแบบไม่ไว้หน้าเลย แต่ผมก็ยังโอเคอยู่ เพียงแค่ยิ้มและปล่อยวาง”

ขอบคุณพวกเขา (เขา)

คำว่า พวกเขา นี่หมายถึงผู้กำกับและบอสของวงการซึ่งชักนำริชชี่เข้ามาในฮ่องกง พวกเค้าตั้งใจจะนำทางให้ริชชี่ แม้ว่าริชชี่จะยังเติบโตไม่พอไม่ว่าในฐานะผู้ชายหรือฝีมือการแสดงในขณะนั้น และแม้ว่าเค้าจะไม่ได้โด่งดังมากเท่าตอนแรกๆ แล้ว พวกเค้าก็ยังเก็บที่ไว้ให้ริชชี่ในส่วนของหนัง มิเช่นนั้นริชชี่อาจจะมีชะตาเหมือนนักร้องคนอื่นๆ ที่ส่วนมากจะกลิ้งลงเขาไปหลังจากช่วงแรกและหายไปในที่สุด

แฟนๆ มักจะพูดกันว่าความถ่อมตัวเป็นจุดอ่อนใหญ่ของริชชี่ เขาอาจจะมีความมั่นใจในตัวเองไม่พอจากเหตุนั้น ผู้กับกำนั้นสำคัญมากๆ ต่อเขา เพราะนอกจากจะให้โอกาสเขามากมายแล้ว พวกเขายังให้ความกล้ากับริชชี่ด้วย บางครั้งเพียงคำพูดไม่กี่คำ ก็เป็นประโยชน์ต่อริชชี่มาก



คนแรกที่เข้ามาคือผู้กำกับหม่าจู่เฉิง เขาเป็นคนแรกที่เลือกริชชี่มาแสดงนำในขณะที่ริชชี่ยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้ชมที่ฮ่องกง Fly Me to polaris ช่วยเปิดตลาดในฮ่องกงให้ริชชี่ เขายังเป็นคนที่ริชชี่ทำงานด้วยเยอะที่สุด เราสามารถบอกได้ว่าเขามีความเชื่อมั่นในตัวริชชี่ หลังจากเรื่อง Fly Me To Polaris เขาได้เชิญริชชี่มาแสดงนำในเรื่อง Summer Holiday นักแสดงนำหญิงคือเจิ้งซิ่วเหวิน (Sammi) ซึ่งเป็นหนึ่งในศิลปินหญิงแนวหน้าในช่วงนั้น คู่แสดงของเธอเป็นดาราระดับท๊อปสตาร์อย่าง หลิวเต๋อหัว ดังนั้นริชชี่เลยกังวลว่าหน้าใหม่อย่างเค้าอาจจะเล่นไม่เข้าขาและกระทบการแสดงของแซมมี่ คนที่ทำให้เค้าคลายกังวลเรื่องนั้นคือผู้กำกับหม่า เขาบอกริชชี่ว่า คุณไม่จำเป็นต้องคิดมากเลย เพราะตัวละครมันก็สมมุติมาจากตัวคุณนั่นแหล่ะ

ผู้กำกับอีกคนที่ให้ความกล้ากับริชชี่มากที่สุดคือตู้ฉีฟง หลังจากเล่นหนังรักโรแมนติกมามาก รวมทั้งหนังหนังแอ๊กชั่นที่เล่นไป 2 เรื่องก็ไปไม่รุ่งเท่าไหร่อย่าง Life Express และ Sliver Hawk บริษัทหนัง Goldenharvest ได้ประกาศว่าพวกเขาต้องการจะให้ริชชี่เป็นผู้สืบทอดของเฉินหลง ริชชี่รู้สึกว่ามันเป็นการยกยอกันเกินไปแต่ยังคงแสดงความถ่อมตัวอย่างสุภาพว่า: “พวกเค้าตั้งเป้าผมไว้สูงมาก ผมมีความสุขมาก แต่เฉินหลงเป็นไอด้อลของผมและเป็นพี่ใหญ่ เขาคือสิ่งมหัศจรรย์ ความสำเร็จของเขามันฉุดไม่อยู่ เขาเป็นที่หนึ่งต่อจาก บรู๊ซ ลี ถ้าผมถูกเรียกว่าเป็นผู้สืบทอดของเขา นั่นเป็นเกียรติของผม ความกดดันนั่นจะทำให้ผมยิ่งขยันมากขึ้น”




เหมือนกับโชคชะตาถูกกำหนดไว้แล้ว เขาได้พบกับผู้กำกับตู้ฉีฟง ริชชี่ได้ดูหนังของผู้กำกับตู้จำนวนมาก แค่บรรยากาศของหนังก็ทำให้รู้สึกได้อย่างแรงกล้า ผู้กำกับตู้มีชื่อเสียงในความเข้มงวดระหว่างการถ่าย และนั่นเป็นครั้งแรกที่ริชชี่ได้เล่นบทคนร้าย เขายอมรับข้อเสนอโดยไม่มีการลังเล เพราะผู้กำกับตู้ได้ให้ความไว้วางใจเค้า เขาจะไม่ใส่ใจเรื่องอื่นนักเวลาที่ถ่ายทำหนังกับผู้กำกับตู้ ยกตัวอย่าง เมื่อผู้กำกับขอให้เขาล้ม เขาจะล้มโดยไม่สนใจเลยว่าจะเจ็บหรือไม่ เพราะเขาคิดว่ามันคุ้มที่จะทำ

ด้วยจิตใจที่ทุ่มเท เขาจึงได้รับกลับมาเป็นสองเท่า ไม่ว่าเขาจะเล่นบทคนดีหรือคนร้าย ผู้กำกับตู้ได้ช่วยให้เขาได้เข้าถึงความฝันในการเล่นหนังแอ๊คชั่นอย่าง Breaking News ไปจนถึงเรื่อง Sniper และหนังเรื่องใหม่ Assassin ริชชี่ไม่ต้องอดทนที่ต้องถูกตีตราเป็น หนุ่มแสนดี อีกต่อไป ในที่สุดเขาก็สร้างภาพลักษณ์ของชายผู้ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด ทางเดินก้าวนี้ถูกเตรียมไว้พร้อมแล้ว และการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็เยี่ยมมากจริงๆ

ขอบคุณพวกเขา (เธอ)

ถ้าเราจะหาผู้หญิงที่สามารถทำให้ริชชี่ประทับใจได้นอกจากภรรยาของเค้า Tina อีกคนก็คงเป็นซิลเวีย ชาง โชคชะตาทำให้เขาได้อยู่ด้วยกัน หนังสองเรื่องแรกที่เขาเล่นที่ฮ่องกง เบ่งหัวใจฟัดให้ใหญ่ กับ Fly me to polaris จัดการโดยผู้ช่วยของซิลเวีย ผู้ช่วยของเธอเคยทำงานเป็นโปรดิวเซอร์ของ Goldenharvest มาก่อน เขาเป็นเพื่อนสนิทของริชชี่ หลังจากนั้นริชชี่และซิลเวียได้เจอกันผ่านเพื่อนคนนี้

ริชชี่เอ่ยว่า พวกเราค่อยๆ พบว่าพวกเรามีความคิดที่เหมือนกันเกี่ยวกับหนัง จุดยืนของเธอมันน่าประทับใจจริงๆ เธอไม่ได้ทำหนังเพื่อ box office หรือเพื่อรายได้ ผมเรียนรู้ได้จากความจริงใจและความรีบเร่งในงานของเธอ ดังนั้นริชชี่จึงเซ็นต์สัญญาเรื่องหนังให้เธอจัดการ และยังเป็นการเริ่มต้นการเดินทางในเส้นทางภาพยนตร์

ริชชี่นั้นโชคดี ไม่เกี่ยวกับการได้รับประกันจาก box office นักแสดงหญิงที่เล่นคู่กับเขาทุกคนล้วนน่าดึงดูดในวงการภาพยนตร์ ส่วนใหญ่นักแสดงนำหญิงในฮ่องกงได้ร่วมงานกับเขามาแล้ว และพวกเธอส่วนมากก็ร่วมงานกันมากกว่า 1 ครั้ง นี่ค่อนข้างสำคัญกับอาชีพนักแสดงของริชชี่ กับความคิดที่ว่านักแสดงหญิงสามารถช่วยคู่ของเธอยกระดับทักษะการแสดง

ริชชี่กล่าวว่า ผมสามารถยิ้มได้ในฝัน การถ่ายหนังเป็นเรื่องยากก็จริง แต่มีสาวสวยอยู่ข้างๆ มันรู้สึกเยี่ยมมาก นี่เป็นมุขของริชชี่แต่เรายังรู้สึกได้ถึงความสุขของเค้า เพราะการได้ทั้งคู่แสดงที่ดีและได้พบผู้กำกับที่ยอดเยี่ยมต่างก็สำคัญพอๆ กัน สำหรับการแสดงมันไม่ใช่เรื่องของคนเพียงคนเดียว

ริชชี่แทบจะไม่มีเรื่องอื้อฉาวเลย แม้ว่าจะร่วมงานกับนักแสดงหญิงชื่อดังมาหลายคน เรื่องอื้อฉาวนิดๆ หน่อยๆ ก็มีตามที่วงการนี้ควรจะเป็น เป็นเหตุผลว่าทำไมนักแสดงหญิงต่างพากันชื่นชมเขา และพวกเธอยังสามารถจดจำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของเค้าได้ เมื่อร่วมงานกับหยางเชี่ยนหัว พวกเขาได้ถ่ายรูปร่วมกันในที่ทำงานโดยแทบไม่ได้พูดกันเลย นั่นแสดงว่าเขาไม่ค่อยสนิทกันมาก ที่จริงนั่นเป็นวิธีที่ริชชี่แสดงความใส่ใจ เขาไม่ชอบที่จะทำให้เกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นกับนักแสดงหญิงที่แสดงคู่กัน เพราะเขารู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมต่อฝ่ายหญิง ดังนั้นจึงเลือกที่จะพูดน้อยกับพวกเธอเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกขยายความโดยสื่อ

แซมมี่เชิญริชชี่มาเป็นแขกรับเชิญใน concert ของเธอ เธอยังตั้งฉายาเขาว่า ทักได้ทุกเวลา นั่นเพราะระหว่างการถ่ายทำเรื่อง Summer Holiday พวกเขาต้องเดินทางออกจากเกาะทางเรือ ทุกคนมีกระเป๋าหลายใบ ริชชี่มักจะช่วยเธอยกกระเป๋า แซมมี่ว่า “ฉันลืมไม่ลงเลยหล่ะว่าเค้าช่วยถือกระเป๋าโดยใส่แค่กางเกงว่ายน้ำตัวเดียว ฉันไม่เคยเห็นดาราที่ทำตัวเป็นกันเองอย่างเค้ามาก่อน เค้าเป็นสุภาพบุรุษตัวจริง”

ยังมีเฉินฮุ่ยหลิน หยางจื่อฉุง (มิเชล โหย่ว) ซูฉี และจางป๋อจือ และอีกหลายคน ริชชี่เป็นคนที่ทำงานกับนักแสดงหญิงแล้วไม่ค่อยมีข่าวฉาว นั่นน่าจะเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเธอถึงรู้สึกโล่งใจและปลอดภัยที่จะเล่นหนังกับเขา

เปรียบเทียบกับผู้หญิง ศิลปินชายจะเฉยๆ กับเรื่องอายุมากกว่า อาจจะเป็นเพราะพวกเค้าสามารถทำงานจากรุ่นหนึ่งไปยังนักแสดงหญิงอีกรุ่นหนึ่งได้ตลอด นั่นอาจเป็นเพราะว่าเขายังมีผมที่ดกดำ ไม่มีไขมันหน้าท้อง และยังเรียกเขาได้ว่า ‘เสี่ยวฉี’ แม้ว่าเขาจะอายุเลย 40 แล้วก็ตาม เขาเป็นหนึ่งในคนที่ไม่กลัวเรื่องอายุที่มากขึ้น สื่อได้สัมภาษณ์เขาอยู่ครั้งนึงในงานตัดริบบิ้นที่ประตูตะวันตกที่ไทเปว่า เขารู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับกลุ่มวัยรุ่นแถวๆ นั่นแล้วรึยัง เขาตอบว่า “ทำไมหล่ะ ผมยังสามารถเป็นหนึ่งในวัยรุ่นกลุ่มนั้นได้ ผมเคยอยู่รวมกลุ่มแถวๆ นี้มาก่อนนะ” ผู้ชายที่สามารถคงความหนุ่มไว้ได้จะต้องมีความคิดเช่นนี้แหล่ะ!






รูปเฮียตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
ลองไล่ดูแล้ว มีความรู้สึกว่า หน้าเฮียเด็กลงเรื่อยๆ อ่ะ ชักน่ากลัว





เนื้อเพลงคลิกตรงนี้



I am a little bird - Richie Jen
















 

Create Date : 26 มิถุนายน 2551
16 comments
Last Update : 3 ตุลาคม 2551 14:43:42 น.
Counter : 2418 Pageviews.

 

หาได้ยากนะครับดาราชายมีเรื่องอื้อฉาวเล็กๆ น้อยๆ

 

โดย: Johann sebastian Bach 26 มิถุนายน 2551 8:13:55 น.  

 

เห็นด้วยและปลื้มเรื่องที่เฮียไม่ค่อยมีข่าวฉาวๆ บางทีน่าเบื่อนะ ดาราที่ฝีมือไม่ได้เรื่อง แต่เน้นสร้างชื่อให้ติดหูติดตาคนด้วยภาพพจน์พ่อพวงมาลัย จีบคนนั้นไป ควงคนนั้นมาอะ 55 ถ้าเราจะเป็นแฟนคลับ เราก็อยากเป็นแฟนดาราแบบเฮียอะ

 

โดย: แพนด้ามหาภัย 26 มิถุนายน 2551 9:58:55 น.  

 

พี่ว่าเฮียเค้าเป็นคนหนึ่งที่เรียกว่าหลายๆ คน
ชอบเค้าเพราะ "เฮียเป็นเฮีย"อย่างนี้ล่ะ
เพราะว่าเฮียเค้ามีพรสวรรค์ เรื่องเสียๆ ก็น้อย
อีกอย่างเค้ารักครอบครัว ทำงานดี เก่ง และถ่อมตัว
พี่ว่าเป็นเรื่องดีเลย เพราะว่าเดี๋ยวนี้เห็นกันมากเลยว่า
"ความเก่ง" บางครั้งมันก็ทำให้เราประมาท
และก็เหลิง
เพราะเก่งอย่างเดียว แต่ว่าโชว์พาวมาก ก็น่าหมั่นไส้
เหมือนดาราไทยบางคนน๊า .. (เอ คนไหน อย่าบอกเลยเพราะหลายคนมาก)..
อย่างเฮียถือว่าน่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี
ของคนในวงการเอเซียเลยอ่ะจ้ะ ...

 

โดย: JewNid 26 มิถุนายน 2551 11:40:52 น.  

 

หน้าเด็กลงเรื่อยๆจริงๆด้วยอ่ะพี่ตุ้งฯ (อีโมเหงื่อตก)

แต่ว่า อ่านแล้วก็น่าปลื้มใจกับประวัติของเฮียนะคะ

อย่างนี้สิ ที่เคาเรียกกันว่า "หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน" (อีโมฉีกยิ้ม)


(ปล ช่วงนี้อยู่ในโหมดบอลยูโร งดอัพบล้อกชั่วคราว ฮี่ๆ)

 

โดย: หนูแมวจร IP: 222.123.137.20 26 มิถุนายน 2551 12:33:04 น.  

 

ขอบคุณครับน้องตุ้ง

พี่ก๋าตื่นเต้นมากๆเลยครับ
ถึงวันนี้ยังตื่นเต้นไม่หายเลยครับ 55555

ตามมาอ่านตอนต่อไปด้วยนะครับ
มีหลายตอนเลยครับ 55555


 

โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) 26 มิถุนายน 2551 14:44:23 น.  

 

เข้ามาดูหนทางชีวิตของเฮีย
จะเห็นได้ว่ากว่าจะมาถึงทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ยอมรับว่า ครั้งแรกที่เห็นหน้าเฮียก็ไม่ได้ประทับใจอะไรเท่าไหร่ แต่ยิ่งรู้จักเฮีย เห็นการวางตัว การทำงาน นับถือเฮียจริงๆ

เป็นกำลังใจให้เฮียนะ

 

โดย: minnie_RR IP: 125.26.87.140 26 มิถุนายน 2551 16:43:44 น.  

 

วันนี้ได้รู้จักริชชี่อย่างละเอียดจริงๆ ต้องปรบมือให้ตุ้งแล้วละค่ะ
ประวัติความเป็นมาบวกกับการวางตัวที่ดี เฮียถึงได้ยืนยาวก้าวไกลได้ขนาดนี้เนอะ


วันที่ไปขอวีซ่าจีน ยังไปนั่งจิบกาแฟใต้ตึกที่ตุ้งทำงานเลย....เสียดายเนอะ ไม่ได้เจอกันอีกที
พี่ไม่ได้ขอวีซ่าเข้าประเทศต่างๆมานานหลายปีแล้วค่ะ ยกเว้นจีนนี่แหละ ไม่ว่าชาติไหน
หน้าใด ก็ต้องขอวีซ่าเข้า แถมตอนนี้ยังเรื่องมาก วุ่นวายซ๊า แต่เห็นว่าหลังโอลิมปิค
ทุกอย่างก็จะกลับมาง่ายดายสะดวกโยธินเหมือนเดิมค่ะ

 

โดย: ปลาทอง9 26 มิถุนายน 2551 17:59:23 น.  

 

แวะมาส่งอาเฮียและคุณตุ้งเข้านอนค่ะคืนนี้

ฝันดีนะจ้าคุณตุ้ง

 

โดย: fonrin 27 มิถุนายน 2551 0:40:15 น.  

 

อ่านเเล้วรู้สึกว่า ริชชี่เป็นคนดีจริงๆ

 

โดย: เตมิ IP: 58.8.181.6 27 มิถุนายน 2551 22:18:59 น.  

 

โห...รู้ละเอียดรู้จริงอ่ะ...สุดยอดจริงๆ
แฟนๆที่รักเฮียเนี่ย...รักจริงๆเลยนะ...พี่ประทับใจมากๆเลยอ่ะ
ตุ้งสบายดีนะจ๊ะ...คิดถึ๊ง คิดถึง
กลางเดือนหน้าป้าตุ้งมากินข้าวแกงกะน้องใจไม๊จ๊ะ...มานะ...มานะ

 

โดย: จันทร์สวย 28 มิถุนายน 2551 20:41:54 น.  

 

รูปเฮียสมัยอดีตรูปที่สามเหมือนเจย์โชว์เลยง่ะ

 

โดย: LEE (lyfah ) 29 มิถุนายน 2551 6:06:23 น.  

 

ม่าม๊าแวะมาเยี่ยมค่ะ

ม่าม๊าคิดถึงนะ แต่ไม่ค่อยได้

แวมาเยี่ยมค่ะ

หนูมีความสุขนะ

 

โดย: mamamodern 29 มิถุนายน 2551 10:56:43 น.  

 

แวะมาเยี่ยมเยียนครับ ไม่อัพบล็อคหรือ

 

โดย: Johann sebastian Bach 29 มิถุนายน 2551 14:48:07 น.  

 

hao ting :)

 

โดย: i52dawn IP: 115.74.159.214 8 มกราคม 2552 20:09:26 น.  

 

)--*

 

โดย: lnwฯตัวน้อย IP: 112.142.125.169 3 กรกฎาคม 2552 21:55:33 น.  

 

ชอบมาก ม๊าก เพลงเพราะด้วย อยากดูหนังเรื่องใหม่ของริชชี่ จังเลย

 

โดย: ฝาแฝด IP: 119.31.126.141 3 ธันวาคม 2552 21:25:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กวางตุ้งหวาน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]













ริชชี่ออกงาน BMW
ริชชี่บนเส้นทางสายไหม
ริชชี่โปรโมตหนังเรื่อง《龙凤店》
MV เพลง 《龙凤店》
Happy Birthday to Richie Jen
อัลบั้มใหม่ : Music Traveller
ข่าวคราวหนังเรื่องใหม่
ข่าวคราวเดือนมกรา
ประมวลข่าวช่วงปลายปี (2)
ประมวลข่าวช่วงปลายปี















Friends' blogs
[Add กวางตุ้งหวาน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.