Bloggang.com : กวางตุ้งหวาน : เยิ่นเสียนฉี

เยิ่นเสียนฉี - I'm not a good man

จริงๆ อันนี้มันก็หน้าเดียวหล่ะนะ แต่ก็อยากเอามารวมในหัวข้อนี้ ตอนนี้มีนิตยสารอีกหลายอันที่อยากลง แต่ต้องรอคนแปลก่อน เพราะมันไม่เหมือนข่าวที่ยังพอเดาเองได้ นิตยสารนี่เค้าเขียนยาวกว่าเยอะ

ภาพโดย 洛 จาก Tea's house

จากนิตยสาร Times weekly 1527th issue

แปลเป็นภาษาอังกฤษโดย Karine

ผมสงสัยจริงว่าทำไมสื่อต่างพากันรายงานว่าผมเป็น ผู้ชายแสนดี บางทีหนึ่งในเหตุผลเหล่านั้นคงจะเป็นเพราะการที่มีความสัมพันธ์อันยาวนานกับ Tina และยังมีหนังเรื่อง Honesty ทำให้ทุกคนประทับใจ

จริงๆ แล้วผมไม่ได้เป็นอย่างที่พวกคุณคิดกันหรอกนะ ผมโชคดีที่มีความรักที่ยืนยาวกับ Tina มา 17 ปีและมีลูกสาวที่น่ารัก – Rati วันที่ 4 พฤษภาปีนี้เธอก็ 2 ขวบแล้ว แต่ชื่อผมในใบเกิดของลูกก็ยังไม่มีอยู่ดี ทุกคนเริ่มถามว่าทำไมผมไม่แต่งงานให้เร็วที่สุดหล่ะ ถึงตรงนี้บอกได้แล้วหล่ะว่า ผมไม่ใช่หนุ่มแสนดีอะไรนั่นหรอก ให้แต่งงานผมยังไม่มีเวลาเลย

ผมอยู่ที่ฮ่องกงกับจีนมานานเพื่อทำงาน ถ้าผมไม่ได้กลับมาโปรโมตอัลบั้มใหม่หล่ะก็ ผมก็คงไม่ได้กลับบ้านมาสองเดือนแล้ว สถิติที่ผมทำไว้เมื่อปีที่แล้วที่ไม่ได้กลับบ้านคือ 9 เดือน ตอนที่เล่นหนังของตู้ฉีฟง แฟนผมต้องอุ้มลูกมาหาผมในโรงแรมหรือไม่ก็ใช้ 3G เพื่อแชทคุยกัน

แม้ว่าผมจะซื้อบ้านที่เซี่ยงไฮ้เพื่อที่พวกเค้าจะได้มาพักตอนที่มาที่นี่ แต่พวกเราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันบ่อยนัก เพราะผมต้องเดินทางรอบโลก ผมมักจะจำไม่ค่อยได้ว่ามันเป็นวันไหนแล้วเวลาตื่นขึ้นมา อีกทั้งไม่ค่อยแน่ใจด้วยว่าตัวเองพักอยู่ห้องไหน

แต่นี่มันเป็นทางเลือกของผม ผมเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบนี้ ผมเริ่มเข้าวงการตั้งแต่ปี 1990 แต่เริ่มมาดังเมื่อปี 1997 ผมสู้มากับทกอย่างผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายนั่น ผมยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องเติมเต็ม ถ้าพวกคุณถามผมว่าผมจะเลิกทำงานนี้เมื่อไหร่ ผมจะบอกว่า จนกว่าตลาดจะไม่ต้องการผมนั่นแหล่ะ แต่ผมจะทำงานหนักจนให้วันพวกนั้นมาไม่ถึง และผมก็เชื่อว่าผมสามารถเล่นบทที่แก่ขึ้นได้เมื่ออายุมากขึ้น

เป็นสมาชิกในครอบครัวผมมันไม่ง่ายเลย ดังนั้นโปรดอย่าเรียกผมว่า หนุ่มแสนดี อีกเลย ผมยังต้องพิสูจน์อีกไกลสำหรับสมญานามนี้ ผมขับรถเร็วและไม่ค่อยตามกฎเท่าไหร่ ถ้าคุณถามผมว่า ผมไม่ค่อยเชื่อฟังคนรักรึเปล่าหรือเคยออกไปหากิ๊กบ๊างมั๊ย? ผมตอบไม่ได้หรอก ข้ามไปหัวข้ออื่นดีกว่า

เฮ้อ...อ่านแล้วก็เหนื่อยใจแทนเฮียพึลึก บอกมาจะเป็นพันรอบแล้วม้าง ไม่เห็นจะมีใครฟัง เฮียก็เหมือนพยายามขุดเอาส่วนแย่ๆ ของตัวเองออกมาพูด เผื่อให้รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ดีอย่างที่ใครๆ คิด

แต่ของอย่างเงี้ย พูดไปก็สองไพเบี้ยนะตุ้งว่า ไม่ใช่ว่าพอมาบอกแล้วเค้าจะเลิกคิดอย่างงั้นซะหน่อย ที่เค้าพูดก็เพราะมันเป็นที่การกระทำนั่นแหล่ะ ก็แหม...เฮียไม่ค่อยมีข่าวด้านไม่ดีให้นักข่าวเขียนซักเท่าไหร่นี่น๊า

แต่พอมีคนพูดกดดันมากๆ เข้าก็เลยทำให้เฮียอาจจะเกร็งๆ อ่ะ ก็ไปสัมภาษณ์รึออกรายการทีไร พิธีกรเค้าต้องพูดทุกรอบเลยว่า ยินดีต้อนรับ 'หนุ่มแสนดี' ของวงการ รึไม่ก็ เพราะคุณเป็นหนุ่มแสนดี พอเจอเข้าเยอะๆ มันเลยกลุ้มได้นะเนี่ย

ปล. เท่าที่รู้เกี่ยวกะเรื่องแต่งงานของเฮียนะ คือเฮียเค้าไปจดทะเบียนกะ Tina ที่เมืองนอกมานานแล้วหล่ะ แต่คนไต้หวันเค้าถือว่า ถ้าไม่ได้จดที่ไต้หวัน และยังไม่ประกอบพิธีแต่งงานก็ถือว่าการแต่งงานนั้นยังไม่สมบูรณ์ อะไรทำนองเนี้ย