เนื่องจากเมื่อวานนี้ ได้ซื้อเอ็นแก้วเนื้อและเนื้อน่องมาทำแกงกะหรี่แบบจีน อร่อยจนหมดหม้อไปแล้ว วันนี้เลยทำแกงฮังเลค่ะ เราหมักหมูและเครื่องแกงทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อวาน เพื่อให้เข้าเนื้อ คุณน้องสาวชอบทานแบบเนื้อล้วนค่ะ ไม่ชอบที่มีมันเท่าไหร่ แต่จะไม่ใส่มันเลย ก็ดูจะไม่เหมือนแกงฮังเลนัก ก็เลยขอใส่ประกอบลงไปด้วยละกัน
จริงๆแล้ว เราอยากทำแกงฮังเลมานานแล้วหล่ะ ก็ลอง serch ในเน็ตดูหลายสูตรมากเลย แต่โดยนิสัยชอบแต่ดูว่าส่วนใหญ่เค้าทำกันยังไงและใส่อะไรลงไปบ้างเท่านั้นเอง ส่วนปริมาณการใส่แต่ละอย่างนั้น มักจะตามใจตัวเองเสียมากกว่า และไม่ได้ชั่งตวงวัดให้เป็นกิจลักษณะอย่างคนอื่นเค้า เน้นว่าทำๆชิมๆไปเรื่อย จนกว่าจะได้รสที่ถูกใจเราเท่านั้นเป็นพอ เพราะฉะนั้นต้องบอกก่อนนะคะว่า สูตรที่ได้จากในนี้เป็นการกะเอาเองของเราทั้งสิ้นค่ะ ถ้าใครจะลองทำตามดูก็อย่าเพิ่งใส่ตามสูตรแป๊ะๆนะคะ ค่อยๆทะยอยใส่ทีละนิด แล้วชิมรสให้ได้ตามใจชอบดีกว่าค่ะ
วัตถุดิบ
เนื้อหมูส่วนสะโพกหั่นชิ้นใหญ่ 800 กรัม
หมูสามชั้นหั่นชิ้นใหญ่ 700 กรัม
น้ำพริกแกงเผ็ด 150 กรัม
ผงเครื่องเทศฮังเล 3 ซอง
เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
ขิงซอย 30 กรัม
กระเทียมไทยกลีบเล็ก 50 กรัม
น้ำตาลปี๊บ 3-4 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป 2 ถ้วย
น้ำมะขามเปียก 1/2 ถ้วย
วิธีทำ
1. นำน้ำพริกแกงเผ็ด ผงเครื่องเทศฮังเล เกลือป่น ซีอิ้วขาว น้ำปลา ขิงซอย(แบ่งมาใช้ก่อนครึ่งส่วน) มาคลุกเคล้าให้เข้ากันกับหมูในชาม ถ้าแห้งไปเราใส่น้ำมันมะกอกลงไปนิดหน่อยค่ะ แรปปิดปากชาม หมักทิ้งไว้ข้ามคืน
2. นำกระทะขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำมันเล็กน้อย พอร้อนนำหมูที่หมักไว้ลงผัดให้พอสุกค่ะ
3. ย้ายหมูลงใส่หม้ออีกใบ เติมน้ำซุปพอท่วมหมู ตั้งด้วยไฟกลางค่อนไปทางแรงนิดนึง
4. ตั้งหม้อไว้ให้เดือด ปิดฝา หมั่นคนเป็นระยะ ประมาณ 45 นาที พอให้เนื้อหมูเริ่มเปื่อย ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขาม ชิมรสปรุงตามชอบ แต่ให้กลางๆไว้ก่อน เพราะเราต้องตั้งไฟจนน้ำเริ่มงวดลง รสชาดจะเข้มขึ้น ถึงตอนนั้นจะเพิ่มรสไหนค่อยใส่อีกทีค่ะ
5. ใส่กระเทียมไทยกลีบเล็กลงไป และตามด้วยขิงซอยที่เหลือ ตั้งไฟต่อจนกระเทียมนิ่ม แต่อย่าให้เละนะคะ
6. พอน้ำงวดลงแล้ว ชิมรสอีกที และปรุงให้ได้รสที่ชอบค่ะ
อีกสักมุมค่ะ
ขอให้อร่อยกับอาหารมื้อนี้นะคะ
Create Date : 20 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 20 ตุลาคม 2552 14:33:14 น. |
|
5 comments
|
Counter : 1328 Pageviews. |
|