ฝึกงาน!!!!! - The Sublet
จะขอใช้เวลาในวันที่ไม่ได้ทำงาน (และำไม่ได้ทำอะไร -*-) บันทึกอะไรนิดหน่อยค่ะนั่นก็คือ ความปวดหัว@#$@%#@$#@!!!!!!!!!!!!!! จากการ sublet อพาร์ตเมนท์ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่เรียบร้อย หรือเรียบร้อยแล้ววะ ไม่รู้เหมือนกัน เฮ้อออออออ......เรื่องมันเริ่มมาจากว่า อพาร์ตเมนท์ที่เราอยู่ในปัจจุบัน มันเป็นของมหาลัยค่ะ ซึ่งมันก็จะตามมาด้วยกฏ กติกา มารยาท มากมาย (คล้ายจะเป็นลม) เช่น ถ้าจะ sublet ให้คนอื่นมาเช่าต่อ ต้องบอกให้มหาลัยรู้คนที่มาเช่าต้องเป็นนักเรียน graduate เท่านั้น (ป.โทขึ้นไป)หรือไม่ก็ต้องเป็นคนที่เกี่ยวข้องกะมหาลัย (เช่น มาทำรีเสิช มาเรียนซัมเมอร์ ฯลฯ)แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องอายุเกิน 22 ปีจริงๆ คนที่ให้เช่าแบบแอบๆ ก็มีเยอะแยะนะคะ แต่เราก็อยากจะทำให้มันถูกๆ อ่ะนะ รู้สึกว่าลักลอบทำอะไรทีไร โดนจับได้ทุกที พอประกาศโฆษณาในเน็ตลงไป...ความวุ่นวายก็ตามมา....เริ่มจากคนแรกที่ติดต่อมา อยากเช่าทั้งช่วงที่เราไม่อยู่ เค้าขอนัดดูอพาร์ทเมนต์ ด้วยความที่ตอนนั้นมันโสโครกมาก เราก็เลยนัดเค้า 2-3 วันถัดไป ขอเรียกคนนี้ว่า Ms. ฮอลลี่ โฮ (อุตส่าห์เขียนชื่อเป็นภาษาไทย เพราะกลัวเค้ามาอ่านเจอ 55555555)วันนัด เรามานั่งรอ...รอ...รอ ปรากฏว่าเค้าไม่มา ส่งอีเมลล์ไปได้ความว่า หาที่อยู่ได้แล้ว ตึ่งโป๊ะ!!! (แล้วไม่แจ้งอิชั้นเลยนะเมริงงงงงงง )หลังจากนั้นเราก็เริ่มตระหนักค่ะ ว่าระหว่างที่เรามองหาผู้เช่าหลายๆคน คนที่จะเช่า เค้าก็หาอพาร์ตเมนท์หลายๆ อันเหมือนกัน เราก็เลยตัดสินใจจะ proactive ด้วยการคุยกะคนหลายๆ คนพร้อมกัน ซึ่งขอบอกเหอะ ปวดหัวมากกกกกกกกกกกกกกก คือคุยกะแต่ละคนก็เรื่องเยอะอยู่แล้ว แต่มันดันมาเรื่องเยอะพร้อมกันนี่ซิ เริ่มจากคนแรก ผู้จะเช่าคนที่ 1ฮอลลี่ ฮี!!! (โปรดสังเกตความสัมพันธ์กะคนแรก)ตอนเห็นชื่อครั้งแรก แอบตกใจนิดนุง นี่ใครเ่ล่นตลกอะไรกะชีิวิตกรู 5555555ปรากฏว่าคนนี้ดีมากค่ะ ติดต่อเร็ว นัดมาดูอพาร์ตเมนท์ก็มาตรงเวลา (สุดท้ายแล้ว เค้าเป็นคนเดียวที่มาดูจริงๆ) เป็นนักเรียน grad ซึ่งก็แปลว่าเค้าจะเซ็นสัญญากะทางมหาลัยได้ ทุกอย่างเพอร์เฟคมากกกก ยกเว้นที่ว่า เค้าจะเช่าแค่ 2 เดือนนั่นแปลว่าเราต้องจ่ายเงินเต็มๆ ไปเดือนนึง ผู้จะเช่าคนที่ 2เป็นพ่อของเด็กที่จะมาทำรีเสิช เค้ามาจากไต้หวัน คุยตอบเมลล์ดีมากกก เค้าคิดว่าเค้าจะขอเช่าแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางมหาลัยได้ (ไม่รู้ทำไมคิดอย่างนั้น -*-) คุยไปคุยมา เราเลยส่งอีเมลล์ไปถามมหาลัย ว่าคุณพ่อเช่าได้มั๊ย ระหว่างที่รอคำตอบมีเพื่อนมาชวนให้ฉุกคิด ว่านี่พ่อจะมาอยู่คนเดียว หรือจะให้ลูกมาอยู่ด้วย เราถามเค้าไป เค้าบอกเค้าตั้งใจจะอยู่กะลูกแต่ถ้าเราไม่อยากให้อยู่ เค้าจะเอาลูกไปฝากบ้านเพื่อน (อ้าว แล้วไมลุงไม่ไปอยู่บ้านเพื่อน....แล้วพอถึงเวลาจริงๆ ใครจะเอาลูกไปฝากบ้านเพื่อน ฯลฯ) สุดท้ายมหาลัยตอบกลับมาว่า ไม่ได้!!!! จบข่าวผู้จะเช่าคนที่ 3คนนี้เป็นนักเรียนจากที่อื่น จะมาฝึกงานที่อื่น (ซึ่งก็แปลว่าจะต้องผิดกฏแน่ๆ)ทุกอย่างโอเคมากค่ะ เค้าตกลงจะจ่ายเงินค่าเช่าทั้งหมดทีเดียว พร้อมมัดจำ ฯลฯแต่ปรากฏว่าพอเรามานั่งคิดๆ ด้วยความที่เค้าเป็นคนอื่น เค้าจะซื้อ parking permit ไม่ได้ เราต้องจัดการซื้อให้ (ซึ่งเรามีอยู่แล้วอันนึง จะซื้ออีกไม่ได้ เราต้องไปขอช่วยเพื่อนที่ไม่มีรถซื้อให้) internet เค้าจะใ้ช้งานไ่ม่ได้ นอกจากจะมีนักเรียนลงทะเบียนให้, ห้องซักผ้าจะใช้งานไม่ได้ถ้าไ่ม่มีบัตรนักเรียนเราว่ารายละเอียดมันเยอะ และยุ่งยากเกินไปอ่ะค่ะ โดยเฉพาะเราจะไม่อยู่จัดการด้วยตัวเองด้วย ก็เลยตอบปฏิเสธไปดีกว่า (หลังจากคุยกันไป 2-3 วันนะเนี่ยยย เอริ๊กกกกกกกกก)ผู้จะเช่าคนที่ 4นักเรียนที่นี่, อเมริกัน, จะเช่าเต็ม 3 เดือน, รับผิดชอบ ขยัน สู้งานหนัก บลา บลา บลา (อันนี้เค้าเขียนมาในอีแมว 555555) แต่ปัญหาคือ เค้าสมัครงานที่ชิคาโกอยู่ด้วย กำลังรอผล แล้วจะติดต่อมา asap คือตอนนั้นเราตัดสินใจไม่รออ่ะค่ะ คือเราก็ไม่ได้ปฏิเสธเค้า แต่เราก็หาคนอื่นต่อ ซึ่งน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูก เพราะจนป่านนี้แล้ว มันยังไม่ติดต่อกลับมาเลย ตกลงได้งานแล้วใช่ม๊ายยยย.....ผู้จะเช่าคนที่ 5น้องเกาหลี เด็กนักเรียน undergrad แต่เค้ารู้จักคนที่จะเซ็นสัญญาให้เค้าได้ ไปแอบ stalk facebook มาแระ หน้าตาน่ารักประมาณนางเอกหนังเกาหลีเลยทีเดียวน้องเค้านัดเราเที่ยงวันจันทร์ บอกว่าสอบเสร็จแล้วจะมาเลย เราก็อุตส่าห์หยุดงานมารอรอ...รอ... คนนี้เลวร้ายมากค่ะ เพราะสรุปก็ไม่มา เราส่งอีเมลล์ไปหาตั้งแต่เที่ยงวันจันทร์ ก็หายเงียบไป อิชั้นลงความเห็นว่า อาจจะตายในห้องสอบ...นอกจากนี้ ก็ยังมีีคนอื่นติดต่อมาอีกนะคะ แต่เราก็ไม่ไหวแล้วอ่ะค่ะ ใช้เวลาติดต่อ พบปะ คัดกรอง และรอเ้ก้อ มามากเกินไปแล้วแล้วถ้าเราไม่รีบตัดสินใจ คนเช่าเค้าก็จะมูพออนเหมือนกัน สุดท้ายแล้วอาจจะไม่ได้ใครเลย เราก็เลยติดต่อน้องฮอลลี่ไปค่ะ (ฮอลลี่คนที 2 อ่ะนะ) คือหลังจากหามาอาทิตย์กว่า เราเชื่อว่าคนนี้ดีที่สุดแล้วอ่ะค่ะ ติดต่อไปทุกครั้ง ตอบกลับตลอด นัดมาเจอกันก็มาตรงเวลา เราว่าอันนี้สำคัญนะ เราอยากจะพบปะ+ติดต่อธุรกิจกับคนที่มีความรับผิดชอบมากกว่าอ่ะ ได้เงินน้อยกว่า แต่น่าจะสบายใจได้มากกว่า ตอนนี้เราก็เลยเซ็นสัญญากะน้องฮอลลี่ไปค่ะ...แล้วก็มาถึงตอนจบแบบหักมุม...หลังจากเซ็นสัญญา รับเงินมัดจำไปเรียบร้อย เราเอาสัญญาไปยื่นกะมหาลัย...ปรากฏว่าน้องฮอลลี่เช่าไม่ได้ เพราะถึงจะเป็นนักเรียน แต่เค้ามีสัญญาเช่ากะอพาร์ตเมนท์อีกอันอยู่ (ห้องเรา เค้าจะเช่าให้แม่ที่มาเยี่ยม และไม่ได้บอกเราก่อน )กรูไม่ไหวแล้ว ณ จุดๆ นี้ เยอะมากจริงๆ 555555555สถานการณ์ตอนนี้คือ เราขอให้เค้าไปหาคนรู้จักมาเซ็นสัญญาแทน ซึ่งเค้าก็รับปากจะไปหามาค่ะโปรดติดตามตอนต่อไปรรรร.....ปล. น้องเกาหลียังไม่ตาย เพราะสุดท้ายแล้วก็ติดต่อมาคืนวันอังคาร ชริส์
เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆๆๆเน่อ